1 / 70

หน่วยที่ 2

หน่วยที่ 2. อนุพันธ์และการประยุกต์. ผู้เขียน อ.ภิรมย์ คงเลิศ. เรื่องที่ 2.1.2. สูตรเบื้องต้น. สำหรับการหาอนุพันธ์. กำหนดให้ f ( x ) = c เมื่อ c เป็นค่าคงตัว แล้ว. = 0. สูตร 1. ตัวอย่าง. f(x) = 9. จงหาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน. = 0. จากสูตร 1 จะได้ว่า. วิธีทำ.

Download Presentation

หน่วยที่ 2

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. หน่วยที่ 2 อนุพันธ์และการประยุกต์ • ผู้เขียน อ.ภิรมย์ คงเลิศ

  2. เรื่องที่ 2.1.2 สูตรเบื้องต้น สำหรับการหาอนุพันธ์

  3. กำหนดให้f(x) = c เมื่อ cเป็นค่าคงตัว แล้ว = 0 สูตร 1 ตัวอย่าง f(x) = 9 จงหาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน

  4. = 0 จากสูตร 1 จะได้ว่า วิธีทำ เนื่องจาก 9 เป็นค่าคงตัว ดังนั้น

  5. เป็นจำนวนจริงใด ๆ = nxn-1 สูตร 2 กำหนดให้ f(x) = xnเมื่อn แล้ว ตัวอย่าง f(x) = x3 จงหาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน

  6. = 3x3-1 = 3x2 วิธีทำ จากf(x) = x3 เมื่อเทียบกับสูตร2 แล้วจะได้n = 3 ดังนั้น

  7. กำหนดให้f(x) = cg (x)เมื่อcเป็นค่าคงตัว แล้ว = สูตร 3 ตัวอย่าง จงหาอนุพันธ์ของฟังก์ชันf(x) = 10x3

  8. = = วิธีทำ = = จากสูตร 3 จะได้ว่า

  9. กำหนดให้f(x) = u(x) + v(x)เมื่อ uและ v เป็นฟังก์ชันของxที่สามารถหาอนุพันธ์ได้ แล้ว = + สูตร 4 สูตรอนุพันธ์ผลรวม

  10. กำหนดให้f(x) = u(x) - v(x)เมื่อ uและ v เป็นฟังก์ชันของxที่หาอนุพันธ์ได้ แล้ว = - สูตร 5 สูตรอนุพันธ์ผลต่าง

  11. วิธีทำ ตัวอย่าง จงหาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน f(x) = 4x5 + 3x4 – 8x2 + 3

  12. = + - + = + - + = + - + = + - จากf(x) = 4x5 + 3x4 – 8x2 + 3 ดังนั้น

  13. = + สูตร 6 สูตรอนุพันธ์ผลคูณ กำหนดให้f(x) = u(x)v(x)เมื่อ uและ v เป็นฟังก์ชันของxที่หาอนุพันธ์ได้ แล้ว

  14. f(x) = (2x3 + 1) (x2 + 4) จงหาอนุพันธ์ของ วิธีทำ = + ตัวอย่าง จากสูตร 6 โดยกำหนดให้u(x) = 2x3+ 1 และv(x) = x2+ 4 จาก

  15. = + = + = + = + = + =

  16. กำหนดให้ f(x) = = สูตร 7 สูตรอนุพันธ์ผลหาร เมื่อ u และ v เป็นฟังก์ชันของ x ที่สามารถหา อนุพันธ์ได้ และ v(x)  0 แล้ว

  17. จงหาอนุพันธ์ของ f(x) = วิธีทำ = ตัวอย่าง จากสูตร 7 โดยกำหนดให้ u(x) = 3 – 2x และ v(x) = 3 + 2x จาก

  18. = = =

  19. = = =

  20. เรื่องที่ 2.1.3 กฎลูกโซ่

  21. = ถ้ากำหนดให้ y = f(u) โดยที่ u = g(x) แล้ว

  22. พิจาณาการหาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน y = จาก y = และ u=g(x)= กำหนดให้ y=f(u)= จากกฏลูกโซ่ = ; u = = = =

  23. = = สูตร 7 กำหนดให้ f(x) = (u(x))n เมื่อ n เป็นค่าคงตัว แล้ว

  24. เรื่องที่ 2.1.4 อนุพันธ์ของฟังก์ชันอดิศัย

  25. ( logb u) = สูตรที่8 1) อนุพันธ์ของฟังก์ชันลอการิทึม ถ้ากำหนดให้ u = f(x) เป็นฟังก์ชันที่สามารถ หาอนุพันธ์ได้ และ b > 0 (ln u) = สูตรที่9 .

  26. f(x) = จาก f(x) = วิธีทำ กำหนดให้ u = จะได้ว่า f(x) = ตัวอย่าง จงหาอนุพันธ์ของ

  27. ดังนั้น = = จะได้ = = =

  28. (eu) = (eu) สูตรที่ 10 (a u) = a u ln a สูตรที่ 11 2) อนุพันธ์ของฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียล

  29. f(x) = จาก f(x) = วิธีทำ กำหนดให้ u = จะได้ว่า f(x) = ตัวอย่าง จงหาอนุพันธ์ของ

  30. ดังนั้น = = = จะได้ = = =

  31. สูตรที่ 12 สูตรที่ 13 สูตรที่ 14 3) อนุพันธ์ของฟังก์ชันตรีโกณมิติ

  32. จงหาอนุพันธ์ของ = วิธีทำ จาก = = = = ตัวอย่าง

  33. เรื่องที่ 2.1.5 อนุพันธ์อันดับสูง

  34. อนุพันธ์ของฟังก์ชัน f(x) ซึ่งเขียนแทนด้วย (f(x)) หรือ f´(x)ซึ่งเรียกว่า “อนุพันธ์อันดับ หนึ่งของฟังก์ชัน f(x)” และถ้า f´(x) เป็นฟังก์ชัน ที่สามารถหาอนุพันธ์ได้ เราจะเรียกอนุพันธ์ของฟังก์ชัน f´(x) ว่า “อนุพันธ์อันดับสองของฟังก์ชัน f(x)” ซึ่งเขียน แทนด้วย หรือ f ´´(x)

  35. หรือ f´´´(x) แทนด้วย และเรียกอนุพันธ์ของ f´´(x) ว่า “อนุพันธ์อันดับสามของฟังก์ชัน f(x)” ซึ่งเขียน โดยการหาอนุพันธ์เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็จะได้อนุพันธ์อันดับสูงของฟังก์ชัน f(x)

  36. dy อนุพันธ์อันดับหนึ่ง :y´, f´(x), dx d y d y 2 3 อนุพันธ์อันดับสอง :y´´, f´´(x), dx dx 2 3 อนุพันธ์อันดับสาม :y´´´, f´´´(x), สัญลักษณ์สำหรับอนุพันธ์อันดับสูงของ y = f(x)

  37. วิธีทำ ตัวอย่าง ถ้ากำหนดให้ f(x) = 2x3– 5x + 7 จงหา f(x) จาก f(x)= 2x3– 5x + 7 (2x3– 5x + 7) (f (x)) = f(x) =

  38. (6x2– 5) f(x) = (f´ (x)) = (6x2) + = (5) (5x) + (2x3) = (7) – = 6x2 – 5 + 0 = 6x2 – 5 = 12x

  39. เรื่องที่ 2.1.6 อนุพันธ์โดยปริยาย

  40. y = พิจารณา x2 + y2 = 25 y y 5 5 -5 x x -5 5 -5

  41. จาก = = - 0 = 0 = จัดให้อยู่ในรูปของฟังก์ชันโดยปริยาย จะได้x2 + y2-25 =0

  42. จงหา ของ จาก วิธีทำ = = = ตัวอย่าง

  43. = - 2x-4 =

  44. เรื่องที่ 2.2.1 ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด และความเว้าของฟังก์ชัน

  45. บทนิยาม 2.2.2 ฟังก์ชัน f(x) มีค่าต่ำสุดสัมพัทธ์ที่จุด c1 เมื่อ f(c1)f(x) สำหรับทุกค่าของ x บนช่วง (a, b) ฟังก์ชัน f(x) มีค่าสูงสุดสัมพัทธ์ที่จุด c2 เมื่อ f(c2)f(x) สำหรับทุกค่าของ x บนช่วง (a, b) และเรียกค่าสูงสุดสัมพัทธ์หรือค่าต่ำสุดสัมพัทธ์ ของฟังก์ชันว่า ค่าสุดขีดสัมพัทธ์

  46. ฟังก์ชัน f(x) มีค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ที่จุด c3 เมื่อ f(c3)f(x) สำหรับทุกค่าของ x บนโดเมน ฟังก์ชัน f(x) มีค่าสูงสุดสัมบูรณ์ที่จุด c4 เมื่อ f(c4)f(x) สำหรับทุกค่าของ x บนโดเมน และเรียกค่าสูงสุดสัมบูรณ์หรือค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ ของฟังก์ชันว่า ค่าสุดขีดสัมบูรณ์

  47. ค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดของฟังก์ชัน

  48. บทนิยาม 2.2.3 เราเรียก c ว่า ค่าวิกฤต(critical value)ของf ถ้าf ´(c) = 0หรือf´(c)หาค่าไม่ได้ และเรียก (c,f(c))ว่าจุดวิกฤตของf

  49. วิธีทำ (x) =2x-6 จะได้ (x)= 0 เพื่อหาค่าวิกฤต กำหนดให้ (x) = 2x-6 = 0 จะได้ว่า กำหนดให้ f(x) = x2-6x+10 ตัวอย่าง จงหาค่าวิกฤตของ f(x) จาก f(x) = x2- 6x + 10 x = 3 แสดงค่า x = 3 เป็นค่าวิกฤต

  50. สามารถวาดกราฟของ f(x) =x2-6x+10 ได้คร่าวๆ ดังนี้

More Related