120 likes | 209 Views
ความเสมอภาคหญิงชาย : ความก้าวหน้าและความท้าทาย ใน การเติบโตทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง. วัตถุประสงค์. ชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าในเรื่องการลดช่องว่างในเรื่องความเสมอภาคหญิงชายในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ค้นหาแนวโน้มร่วมที่เกิดขึ้นในภูมิภาค
E N D
ความเสมอภาคหญิงชาย: ความก้าวหน้าและความท้าทาย ใน การเติบโตทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
วัตถุประสงค์ • ชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าในเรื่องการลดช่องว่างในเรื่องความเสมอภาคหญิงชายในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก • ค้นหาแนวโน้มร่วมที่เกิดขึ้นในภูมิภาค • ทำให้เกิดความสนใจในเรื่องความท้าทายในประเด็นเก่าและประเด็นใหม่ในเรื่องความเสมอภาคหญิงชาย. (รายงานนี้เลือกทำในประเด็นด้านเศรษฐกิจสุขภาพการศึกษาการมีส่วนร่วมทางการเมือง และ องค์กร)
การมีส่วนร่วมในด้านเศรษฐกิจการมีส่วนร่วมในด้านเศรษฐกิจ ความก้าวหน้า: • จำนวนผู้หญิงทำงานทั่วโลกเพิ่มขึ้น 22 % จาก 10 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างเอเชียตะวันออก • แรงงานส่วนใหญ่ของผู้หญิงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกยังคงอยู่ในภาคเกษตรกรรม • ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะย้ายจากภาคเกษตรกรรมไปยังภาคการผลิตในโรงงานและภาคบริการ • ผู้หญิงยังคงเป็นแรงงานย้ายถิ่นจากทั้งภายในและภายนอกประเทศยังเป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่เป็นทางการในขณะที่ผู้ชายอยู่ในภาคการผลิตเป็นแรงงานในระบบ
ความไม่มั่นคง และกลุ่มเสี่ยงใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงบทบาทและความสัมพันธ์ • ขาดแคลนเวลา: การทำงานนอกบ้านเพิ่มขึ้นและงานในบ้านไม่เปลี่ยนแปลง • ความไม่มั่นคงของแรงงานย้ายถิ่น: ความรุนแรงการถูกบีบบังคับการแยกตัวอย่างโดดเดี่ยวการถูกละเมิด และการถูกล่อลวง • ข้อจำกัดทางด้านมาตรฐานแรงงานและการต่อรอง • ข้อจำกัดทางด้านวัฒนธรรมและทัศนคติทั่วไปของสังคมเป็นเหตุให้บทบาทของผู้หญิงด้อยลง • ขาดความมั่นคงในเรื่องงานและรายได้ • การเปลี่ยนแปลงพลังความเคลื่อนไหวของกลุ่มสังคม
ด้านสุขภาพ:ความเท่าเทียมกันในด้านการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพด้านสุขภาพ:ความเท่าเทียมกันในด้านการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ • เด็กชายหญิงมีโอกาสเข้าถึงบริการด้านสุขภาพเท่าเทียมกันในเกือบทุกประเทศ • ตัวชี้วัดเกือบทั้งหมดก่อนปี พ.ศ. 2538 ได้รับการปรับปรุงอย่างน่าพอใจ แต่ ... • เด็กที่เกิดใหม่ในประเทศจีนและเกาหลีใต้เป็นเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง • ความต้องการของผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ในเรื่องการรับบริการด้านสุขภาพยังไม่เพียงพอกับความต้องการ • นโยบายของรัฐบาล หรือ ข้อจำกัดด้านศาสนาในบางประเทศได้จำกัดทางเลือกของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
อัตราการเสียชีวิตของมารดาได้รับการปรับปรุงเนื่องจาก:อัตราการเสียชีวิตของมารดาได้รับการปรับปรุงเนื่องจาก: ได้รับการปรับปรุงด้านโภชนาการ เพิ่มการเข้าถึงในด้านการขนส่งและน้ำสะอาด มีเจ้าหน้าที่ด้านอนามัยผดุงครรภ์เพิ่มมากขึ้น การลดลงของอัตราการเจริญพันธุ์ การวางแผนครอบครัวดีขึ้น อัตราการเสียชีวิตของมารดา (MMR)ในเอเชียตะวันออก (ต่อ 100,000 ครั้งการให้กำเนิดบุตร):
ด้านสังคม: ความเท่าเทียมกันในเรื่องการศึกษา การศึกษาขั้นปฐมศึกษา: • ไม่มีช่องว่างในด้านนี้ในเกือบทุกประเทศตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2533 และ ในประเทศลาวและกัมพูชาระหว่างปี 2533-2543 การศึกษาขั้นเตรียมอุดมศึกษา: • ประเทศจีน อินโดนีเซีย และเวียดนามได้บรรลุความเท่าเทียมกัน • ประเทศกัมพูชาและลาวยังคงตามหลัง • ประเทศฟิลิปปินส์และมองโกเลียตรงกันข้ามกับประเทศอื่น การศึกษาขั้นอุดมศึกษา: • เด็กหญิงในประเทศมองโกเลียยังมีช่องว่างอยู่มาก • ประเทศจีนยังคงล้าหลังกว่าลาวและกัมพูชา
การเป็นตัวแทนในระดับผู้มีอำนาจในการตัดสินใจการเป็นตัวแทนในระดับผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ผู้หญิงที่ได้รับเลือกเป็นผู้แทนเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.6% ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 เป็นต้นมา จำนวนผู้หญิงในพรรครัฐบาลเพิ่มขึ้น ผู้หญิงยังคงไม่เพิ่มจำนวนในการเป็นตัวแทนประชาชนในประเทศทีมีการปกครองแบบประชาธิปไตยยกเว้นในประเทศติมอ เลส ระบอบประชาธิปไตยได้ให้โอกาสสำหรับผู้หญิงในองค์กรด้านประชาสังคมอย่างเห็นได้ชัด
การกระจายอำนาจและหน่วยงานราชการพลเรือนการกระจายอำนาจและหน่วยงานราชการพลเรือน แนวโน้มการมีสิทธิในการตัดสินใจของผู้หญิงได้กระจายไปสู่ระดับล่างแต่: • จำนวนผู้หญิงที่ได้รับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นลดลง ยกเว้น มองโกเลีย • ตำแหน่งทางราชการที่มาจากการแต่งตั้งโดยมากเป็นผู้ชาย และ: • ข้าราชการพลเรือนชายมีอำนาจมากกว่าโดยเฉพาะผู้ชาย
กลไกด้านกฎหมายและองค์กรกลไกด้านกฎหมายและองค์กร กรอบด้านกฎหมาย: • มีความก้าวหน้าในเรื่องการออกกฏหมายในเรื่องความเสมอภาคชายหญิงในประเด็นที่มีความละเอียดออ่น เช่น การถือครองที่ดิน แรงงาน ความรุนแรงต่อสตรี และการถูกล่อลวง แต่: • แต่การนำกฎหมายนี้ไปใช้จริงยังคงต้องใช้เวลาอีกยาวนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทห่างไกล องค์กร: • ผู้หญิงได้เข้าสู่ตำแหน่งที่สูง ได้แก่ รัฐมนตรี เช่น ในประเทศอินโดนีเซียและ กัมพูชาและมีการก่อตั้งหน่วยประสานงานระดับสูงระหว่างภาคต่าง ๆ • มีการกำหนดนโยบายความเสมอภาคและแผนปฏิบัติ แต่: • องค์กรยังอ่อนแอ, ขาดทรัพยากรและความสามารถ และยังต้องพยายามกำหนดบทบาทของตน
ข้อสรุป ยังคงมีชัยชนะที่รวดเร็วในการลดช่องว่างในเรื่องความเสมอภาคหญิงชาย: • ผู้หญิงในชนบท • ต้องมีการปรับปรุงการเข้าถึงบริการในบริเวณชนบทโดยเฉพาะผู้หญิง • ให้ความพยายามและรูปแบบการให้บริการที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นสำหรับผู้หญิงพื้นเมือง • การมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ • ให้การสนับสนุนนักธุรกิจสตรีและสตรีที่เป็นเจ้าของกิจการ • ให้การคุ้มครองแรงงานสตรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานอพยพ • ในด้านการตัดสินใจ • เพิ่มการสนับสนุนสำหรับผู้หญิงในกลุ่มภาคประชาสังคม • ทำงานโดยผ่านโครงการที่ผลักดันโดยชมชนเพิ่มให้ผู้หญิงในระดับหมู่บ้านมีสิทธิมีเสียงมากยิ่งขึ้น • ขยายบทบาทที่ชัดเจนในการสร้างความเข้มแข็งให้ผู้หญิงเป็นตัวแทนมากยิ่งขึ้น และขยายการกระทำที่สร้างความเข้มแข็งในการให้ผู้หญิงเป็นตัวแทนมากยื่งขึ้น • องค์กร • เพิ่มการเข้าถึงของผู้หญิงในระบบยุติธรรมผ่านความช่วยเหลือด้านกฎหมาย และ เพิ่มการตระหนักถึงในเรื่องนี้ • ต้องมีการวิเคราะห์ที่ดีขึ้นเพื่อการวางนโยบายโดยใช้หลักฐานข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงประกอบ เช่น นโยบายกำหนดราคา • ทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาเรื่องสิทธิของหญิงชาย และนำกลับมาคิดอีกครั้ง