1 / 22

บทสรุปกรณีการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติงาน ของศูนย์สุขภาพจิต

บทสรุปกรณีการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติงาน ของศูนย์สุขภาพจิต. เขตตรวจราชการ และศูนย์สุขภาพจิต. เขตตรวจราชการแบบเดิม หน้าที่ตรวจราชการในแต่ละจังหวัด ศูนย์สุขภาพจิต 14 แห่ง + ศูนย์ตรัง มีหน้าที่ปฏิบัติงานและดำเนินการ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง (หน่วยปฏิบัติ). กลุ่มจังหวัด และศูนย์สุขภาพจิต.

emery
Download Presentation

บทสรุปกรณีการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติงาน ของศูนย์สุขภาพจิต

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทสรุปกรณีการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติงานของศูนย์สุขภาพจิตบทสรุปกรณีการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติงานของศูนย์สุขภาพจิต

  2. เขตตรวจราชการและศูนย์สุขภาพจิตเขตตรวจราชการและศูนย์สุขภาพจิต • เขตตรวจราชการแบบเดิม หน้าที่ตรวจราชการในแต่ละจังหวัด • ศูนย์สุขภาพจิต 14 แห่ง + ศูนย์ตรัง มีหน้าที่ปฏิบัติงานและดำเนินการ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง (หน่วยปฏิบัติ)

  3. กลุ่มจังหวัดและศูนย์สุขภาพจิตกลุ่มจังหวัดและศูนย์สุขภาพจิต • กลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม - - แบ่งตามพื้นที่เศรษฐกิจ - หน้าที่ตรวจราชการในแต่ละกลุ่ม จังหวัด (ผู้ตรวจฯ + สธน = 18 คน ) • ศูนย์สุขภาพจิต 14 แห่ง + ศูนย์ตรัง มีหน้าที่ปฏิบัติงานและดำเนินการ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง (หน่วยปฏิบัติ)

  4. สรุปประเด็นต่างๆ ที่ใช้พิจารณา • หน้าที่ของการตรวจราชการในกลุ่มจังหวัดและการปฏิบัติงานของศูนย์สุขภาพจิตมีความแตกต่างกัน (หน่วยงานตรวจราชการและประสาน VS หน่วยงานดำเนินการปฏิบัติ) • การแบ่งพื้นที่ในการดำเนินงานภาคปฏิบัติต้องการความคล่องตัว ในการทำงาน (โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้) • อธิบดีมีนโยบาย – “..ต้องการให้บุคลากรทำงานอย่างมีความสุข..” • ศูนย์ ฯ 15 ต้องรับผิดชอบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ภาระมาก) • การแบ่งเขตแบบกลุ่มจังหวัดอาจจะเปลี่ยนแปลงในอนาคต (ถ้าต้องการให้ทุกกลุ่มจังหวัดมีศูนย์สุขภาพจิต – ต้องตั้งศูนย์ขึ้นใหม่ ต้องมีการจัดสรรทรัพยากร คน, เงิน, อุปกรณ์ และอาคารสถานที่)

  5. ข้อสรุป • ให้ศูนย์สุขภาพจิตรับผิดชอบ ตามพื้นที่เดิม • ในกรณีศูนย์สุขภาพจิต (เฉพาะแห่ง) ต้องการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความคล่องตัว จะมีการพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ตัวอย่างเช่น ศูนย์สุขภาพจิตที่ 8 และ 9 เป็นต้น

  6. ยุทธศาสตร์ของกรมสุขภาพจิตยุทธศาสตร์ของกรมสุขภาพจิต

  7. เพื่อความสุขที่ยั่งยืนเพื่อความสุขที่ยั่งยืน ประชาชนมีสุขภาพจิตที่ดี เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ที่ 1 เสริมสร้างศักยภาพของประชาชนในการดูแลสุขภาพจิต เข้าถึง บริการ สุขภาพจิต และให้โอกาสผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิต 1. ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติที่ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพจิตและผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิตได้รับการดูแลสุขภาพจิต รวมทั้งได้รับการยอมรับในการดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม - รณรงค์สร้างความตระหนักและความรู้แก่ประชาชน - ผลักดันให้สังคมยอมรับ / ให้โอกาสผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิต - สนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมและพัฒนาภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกระบบสาธารณสุขในการดำเนินงานสุขภาพจิต เป้าประสงค์ - พัฒนาเครือข่ายในระบบบริการสาธารณสุข - สร้างและพัฒนาเครือข่ายนอกระบบบริการสาธารณสุข 2. เครือข่ายมีการบูรณาการงานสุขภาพจิตเข้ากับงานของตนเอง และสามารถให้การดูแลสุขภาพจิตแก่ประชาชนได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาความเชี่ยวชาญสู่การเป็นศูนย์กลางทางวิชาการด้านสุขภาพจิต ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาคุณภาพมาตรฐานและความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านบริการจิตเวช เป้าประสงค์ • จัดตั้งคลังความรู้ทางวิชาการด้านสุขภาพจิต- พัฒนามาตรฐานและคุณภาพ งานวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้- ศึกษา วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้- พัฒนาการถ่ายทอดองค์ความรู้ฯ ในรูปแบบที่หลากหลาย- พัฒนาความร่วมมือทางวิชาการสุขภาพจิตในต่างประเทศ 3. กรมสุขภาพจิตเป็นศูนย์กลางการพัฒนาวิชาการด้านสุขภาพจิตทั้งในระดับประเทศและในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4. หน่วยบริการจิตเวชมีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ - พัฒนาคุณภาพมาตรฐานตามเกณฑ์ HA- พัฒนามาตรฐานในระดับตติยภูมิ- พัฒนาความเป็นเลิศเฉพาะทาง (Excellence Center) ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนาความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรและสมรรถนะบุคลากร - บังคับใช้กฎหมายสุขภาพจิต เพื่อขับเคลื่อนงานสุขภาพจิต- พัฒนาระบบสารสนเทศสุขภาพจิต- พัฒนากระบวนการบริหารจัดการและการสื่อสารนโยบายฯ- พัฒนาประสิทธิภาพขององค์กร- พัฒนาสมรรถนะของบุคลากร เป้าประสงค์ 5. การบริหารองค์กรและสมรรถนะบุคลากรมีประสิทธิภาพ แผนที่ยุทธศาสตร์กรมสุขภาพจิต

  8. เพื่อความสุขที่ยั่งยืนเพื่อความสุขที่ยั่งยืน ประชาชนมีสุขภาพจิตที่ดี เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ที่ 1 เสริมสร้างศักยภาพของประชาชนในการดูแลสุขภาพจิต เข้าถึงบริการ สุขภาพจิต และให้โอกาสผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิต 1. ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพจิตและผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิตได้รับการดูแลสุขภาพจิต รวมทั้งได้รับการยอมรับในการดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมและพัฒนาภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกระบบสาธารณสุขใน การดำเนินงานสุขภาพจิต 2. เครือข่ายมีการบูรณาการงานสุขภาพจิต เข้ากับงานของตนเอง และสามารถให้การดูแลสุขภาพจิตแก่ประชาชนได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาความเชี่ยวชาญสู่ การเป็นศูนย์กลางทาง วิชาการด้านสุขภาพจิต ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาคุณภาพ มาตรฐานและความ เป็นเลิศเฉพาะทางด้าน บริการจิตเวช 3. กรมสุขภาพจิตเป็นศูนย์กลางการพัฒนาวิชาการด้านสุขภาพจิต ทั้งในระดับประเทศและในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4. หน่วยบริการจิตเวชมีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนาความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหาร องค์กรและสมรรถนะบุคลากร 5. การบริหารองค์กรและสมรรถนะบุคลากรมีประสิทธิภาพ

  9. ยุทธศาสตร์กรมสุขภาพจิต ในช่วงแผนฯ 10 ยุทธศาสตร์ที่ 1 เสริมสร้างศักยภาพของประชาชนในการดูแล สุขภาพจิตเข้าถึงบริการสุขภาพจิต ยุทธศาสตร์ที่ 2ส่งเสริมและพัฒนาภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกระบบ สาธารณสุขในการดำเนินงานสุขภาพจิต ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาความเชี่ยวชาญสู่การเป็นศูนย์กลางทางวิชาการ ด้านสุขภาพจิต ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาคุณภาพมาตรฐานและความเป็นเลิศเฉพาะทาง ด้านบริการจิตเวช ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนาความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหาร องค์กรและสมรรถนะบุคลากร

  10. เป้าประสงค์หลัก แผนยุทธศาสตร์กรมสุขภาพจิต ประชาชนมีสุขภาพจิตที่ดี.... มีความรู้ ความเข้าใจในความสำคัญของสุขภาพจิต มีทัศนคติที่ดีต่อผู้ที่อยู่กับปัญหาสุขภาพจิต สามารถดูแลและจัดการกับปัญหาสุขภาพจิต ทั้งของตนเอง ครอบครัว และผู้อื่นในชุมชนได้ อันจะนำไปสู่ การอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขที่ยั่งยืน

  11. เป้าหมายเมื่อสิ้นสุดการดำเนินงานตามเป้าหมายเมื่อสิ้นสุดการดำเนินงานตาม แผนยุทธศาสตร์กรมสุขภาพจิตช่วงแผนฯ 10 1. ประชาชนร้อยละ 70 มีสุขภาพจิตดี 2. ประชาชนร้อยละ 70 มีความสามารถในการจัดการกับ ความเครียดได้อย่างเหมาะสม 3. อัตราการฆ่าตัวตายลดลงเหลือไม่เกิน 6.5 ต่อแสนประชากร

  12. ภาวะวิกฤตด้านการเมืองในประเทศไทย ปี 2551 ปัจจัยในการพิจารณากรอบยุทธศาสตร์สุขภาพจิตคนไทยในช่วงภาวะวิกฤต

  13. ภาวะวิกฤตด้านการเมืองในประเทศไทย ปี 2551

  14. ปัจจัยในการพิจารณากรอบยุทธศาสตร์สุขภาพจิตคนไทยในช่วงภาวะวิกฤตปัจจัยในการพิจารณากรอบยุทธศาสตร์สุขภาพจิตคนไทยในช่วงภาวะวิกฤต

  15. ปัจจัยในการพิจารณากรอบยุทธศาสตร์สุขภาพจิตคนไทยในช่วงภาวะวิกฤตปัจจัยในการพิจารณากรอบยุทธศาสตร์สุขภาพจิตคนไทยในช่วงภาวะวิกฤต • ประเมินภาวะสุขภาพจิตและสถานการณ์ในแต่ละเดือน • การประเมินอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง • จังหวะเวลาการใช้เครื่องมือ / เทคโนโลยี • วัฒนธรรมของคนในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทย • เครือข่ายทั้งภาครัฐอื่นๆ และภาคเอกชน • ต้องสนธิกำลังหน่วยงานในกรมสุขภาพจิตทั้งหมด

  16. ต.ค.51 พ.ย.51 ธ.ค.51 ม.ค.52 ก.พ.52 มี.ค.52 • การแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ • จัดการภายใน.. สื่อสาร / ประชาสัมพันธ์ / สร้างความเข้าใจ ฯลฯ • วางกลยุทธ์ระยะสั้น(เฉพาะหน้า),ระยะยาวและภาวะฉุกเฉิน • องค์ความรู้ / เทคโนโลยีที่เหมาะสม ... มีอะไรบ้าง • จังหวะเวลาการใช้เทคโนโลยีสอดคล้องกับเหตุการณ์ในรอบเดือน... เช่น สัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ , วันเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวามหาราช, วันคริตมาส, วันปีใหม่, วันมาฆบูชา, ฯลฯ • องค์ความรู้ / เทคโนโลยีจากหน่วยงานอื่นๆ (นอกกรมสุขภาพจิต) เช่น กรมศาสนา เป็นต้น

  17. ต.ค.51 พ.ย.51 ธ.ค.51 ม.ค.52 ก.พ.52 มี.ค.52 ประเมินสถานการณ์ในแต่ละเดือน • ข่าวจากสื่อมวลชนต่างๆ / โพลจากหน่วยงานต่างๆ • ระดมสมอง... / ข้อมูลด้านต่างๆ

More Related