1 / 102

โรคระบบทางเดินหายใจ

โรคระบบทางเดินหายใจ. น.ต.หญิง อรภัทรา คงประยูร กองเวชศาสตร์ฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า. องค์ประกอบของระบบหายใจ.

ella
Download Presentation

โรคระบบทางเดินหายใจ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. โรคระบบทางเดินหายใจ น.ต.หญิง อรภัทรา คงประยูร กองเวชศาสตร์ฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า

  2. องค์ประกอบของระบบหายใจองค์ประกอบของระบบหายใจ 1. จมูก (nose)เป็นอวัยวะที่เป็นทางผ่านของลมหายใจ ภายในรูจมูกบุไปด้วยเยื่อบุจมูก ซึ่งมีต่อมน้ำมันและขนจมูกขึ้นอยู่รอบ ๆ ผนังของรูจมูก ขนจมูกจะทำหน้าที่กรองฝุ่นละอองในอากาศไม่ให้เข้าสู่หลอดลมและปอด ถัดจากรูจมูกเข้าไปจะเป็นโพรงจมูก ที่มีเยื่อบุชุ่มค่อนข้างหนาบุอยู่ทั่วผนังของโพรงจมูก เยื่อบุชุ่มนี้ประกอบด้วยหลอดเลือดที่จะปรับอุณหภูมิของลมหายใจ โดยการแผ่รังสีความร้อน ต่อมเมือกที่ทำหน้าที่ขับน้ำเมือกออกมาทำให้ลมหายใจมีความชุ่มชื้น และช่วยจับฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่ผ่านขนจมูกเข้ามา และมีขนกวัดเล็ก ๆ ทำหน้าที่ปัดแผ่นน้ำเมือกที่สกปรกให้ไหลลงไปทางลำคอลงสู่กระเพาะอาหาร

  3. 2. คอหอย (pharynx)มีลักษณะคล้ายกรวย อาจเรียกว่า กรวยคอ เป็นบริเวณที่หลอดอาหารและหลอดลมแยกออกจากกัน โดยหลอดอาหารจะอยู่ด้านหลังของหลอดลม 3. กล่องเสียง (larynx) มีรูปร่างคล้ายกรวย อยู่ถัดเข้ามา จากโคลนลิ้นตรงเข้าสู่หลอดลมส่วนต้น ตรงทางเข้าสู่กล่องเสียงจะมีลิ้นปิดหลอดลม ที่ทำหน้าที่ปิดหลอดลมขณะที่เรากลืน อาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารผ่านลงสู่หลอดลม ภายในกล่อง เสียงจะมีสายเสียงที่ทำให้เกิดเสียงต่าง ๆ ได้

  4. 4. หลอดลม (trachea) ประกอบด้วย หลอดลมใหญ่ เป็นทางเดินหายใจที่อยู่ถัดเข้ามาจากกล่องเสียง เป็นกล้ามเนื้อเรียบที่มีกระดูกอ่อนรูปตัวยูฝังอยู่เป็นชั้น ๆ ทำให้คงรูปอยู่ได้ไม่หดแฟบ ผนังด้านในของหลอดลมจะมีเยื่อเมือกที่คอยกักฝุ่นละออง โดยมีขนอ่อนขนาดเล็กคอยโบกพัดฝุ่นละอองให้ขึ้นไปด้านบนให้ออกไปจากหลอดลม หลอดลมเล็ก เป็นหลอดลมที่แยกออกมาจากหลอดลมใหญ่ไปสู่ปอดทั้ง 2 ข้าง จากนั้นจะแบ่งแยกออกไปเป็นหลอดลมย่อยที่จะสิ้นสุดที่ถุงลมภายในปอด

  5. 5. ปอด (lungs) เป็นอวัยวะที่อยู่ในทรวงอกทั้งสองด้านโดยอยู่ถัดจากกระดูกซี่โครงเข้ามาด้านใน ปอดมีลักษณะคล้ายฟองน้ำและมีความยืดหยุ่นมาก ภายในปอดจะมี ถุงลมเล็ก ๆ (alveolus)จำนวนมาก และมีเส้นเลือดฝอยผ่านเข้าไปในถุงลมเหล่านี้เพื่อทำการแลกเปลี่ยนแก๊ส

  6. กลไกการหายใจ การหายใจถูกควบคุมโดยศูนย์การหายใจในสมองซึ่งเป็นไปโดยปกติ ขณะหายใจเข้าแผ่นกล้ามเนื้อระหว่างกระดูกซี่โครงจะหดตัวดึงกระดูกซี่โครงให้เลื่อนสูงขึ้นไปทางด้านบนและขยายออกทางด้านข้าง กะบังลมจะเลื่อนต่ำลงทำให้ปริมาตรของช่องอกมีมากขึ้น ความดันอากาศลดต่ำลงอากาศจึงถูกดูดสู่ปอด ขณะหายใจออกแผ่นกล้ามเนื้อระหว่างกระดูกซี่โครงจะคลายตัวขยายออกทำให้กระดูกซี่โครงเลื่อนต่ำลงมาสู่ขนาดปกติ กะบังลมจะเลื่อนสูงขึ้น ทำให้ปริมาตรของช่องอกลดน้อยลงความดันอากาศภายในช่องอกสูง อากาศภายในจึงถูกขับออกจากปอดสู่ภายนอก

  7. กระบวนการหายใจ เมื่อเราหายใจเข้า อากาศจากภายนอกร่างกายจะผ่านรูจมูกทั้งสองข้างเข้าไปตามช่องจมูกขนและเยื่อในช่องจมูกจะช่วยกรองฝุ่นละอองที่ปนมากับอากาศไว้ อากาศจะถูกปรับอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมกับร่างกาย แล้วจึงผ่านจากคอหอยเข้าสู่หลอดลม เยื่อเมือกและขนอ่อนที่หลอดลมกักเก็บและพัดโบกฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ปนมากับอากาศไม่ให้ผ่านเข้าสู่ปอด อากาศจะเข้าสู่ปอด และเข้าสู่ถุงลมเล็ก ๆ จำนวนมากที่มีหลอดเลือดฝอยอยู่ล้อมรอบ จากนั้นแก๊สออกซิเจนในอากาศจะแพร่ผ่านผนังถุงลมเข้าสู่ถุงลม เมื่อเราหายใจออก แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะถูกขับออกนอกร่างกาย

  8. แก๊สออกซิเจนที่แพร่ผ่านผนังถุงลมเข้าสู่หลอดเลือดฝอยจากการหายใจเข้า จะเข้าไปรวมตัวกับเฮโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้เลือดมีสีแดง แล้วไหลไปตามหลอดเลือดกลับเข้าสู่หัวใจ หัวใจจะสูบฉีดเลือดไปตามหลอดเลือดแดงไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แก๊สออกซิเจนจะไปทำปฏิกิริยาเผาผลาญสารอาหารนี้จะให้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่เซลล์ด้วย ดังนั้นขณะที่แก๊สออกซิเจนแพร่ผ่านจากเซลล์เม็ดเลือดแดงเข้าสู่เซลล์ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์เหล่านี้จึงแพร่เข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดงด้วย เพื่อจะเข้าสู่หลอดเลือดดำกลับเข้าสู่หัวใจ และเข้าไปสู่ปอดเพื่อทำการแลกเปลี่ยนแก๊สต่อไป

  9. อาการเหนื่อย-หายใจลำบากDyspneaอาการเหนื่อย-หายใจลำบากDyspnea

  10. ความหมาย • เป็นความรู้สึกที่ไม่สบายเกี่ยวกับการหายใจ ต้องเพิ่มแรงที่ใช้ในการหายใจ • ผู้ป่วยต้องปรับตัวโดยการหายใจเร็วขึ้นหรือแรงขึ้น • ส่วนใหญ่สัมพันธ์กับการออกแรง ยกเว้น – Pulmonary embolism : ลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดปอด – Spontaneous pneumothorax : – Anxiety : ภาวะวิตกกังวล

  11. ความหมาย – อาการ Orthopnea : ภาวะเหนื่อยเมื่อผู้ป่วยนอนราบ ซึ่งเกิดจากเลือด ในทรวงอกเพิ่มขึ้น ร่วมกับการดันขึ้นของกะบังลมในท่านอนหงาย ซึ่ง จะรบกวนการแลกเปลี่ยนแก๊สที่หลอดเลือกฝอยของหลอดลม พบใน ภาวะหัวใจซีกซ้ายวาย ผู้ป่วยหอบหืด COPD : chronic obstructive pulmonary disease ปอดอุดกั้นเรื้อรัง – อาการ Paroxysmal nocturnal dyspnea : ภาวะเหนื่อยที่เกิดขึ้น อย่างเฉียบพลันเวลากลางคืน จนผู้ป่วยต้องตื่นขึ้นมาหอบหรือไอ พบในผู้ป่วยหัวใจวายซีกซ้าย

  12. พยาธิสรีรวิทยา

  13. การวินิจฉัยแยกโรค

  14. การวินิจฉัยแยกโรค

  15. การประเมินผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยการประเมินผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อย

  16. การประเมินผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อยการประเมินผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อย

More Related