1 / 30

การสื่อสารและหลักปฏิบัติ

การสื่อสารและหลักปฏิบัติ. หัวข้อการบรรยาย. 1 วิธีการสื่อสารและหลักปฏิบัติ ระบบการสื่อสาร วิธีการติดต่อสื่อสารทางวิทยุคมนาคม การใช้และบำรุงรักษาเครื่องวิทยุคมนาคม 2 การใช้เครื่องวิทยุคมนาคมเพื่อการติดต่อสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ ข้อห้าม สำหรับการใช้เครื่องวิทยุคมนาคม

edda
Download Presentation

การสื่อสารและหลักปฏิบัติ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การสื่อสารและหลักปฏิบัติ

  2. หัวข้อการบรรยาย 1 วิธีการสื่อสารและหลักปฏิบัติ • ระบบการสื่อสาร • วิธีการติดต่อสื่อสารทางวิทยุคมนาคม • การใช้และบำรุงรักษาเครื่องวิทยุคมนาคม 2 การใช้เครื่องวิทยุคมนาคมเพื่อการติดต่อสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ • ข้อห้าม สำหรับการใช้เครื่องวิทยุคมนาคม • เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างเครื่องวิทยุคมนาคมในกิจการเคลื่อนที่ทางบกสำหรับหน่วยงานของรัฐ และเครื่องวิทยุคมนาคมในกิจการวิทยุสมัครเล่น

  3. ระบบการสื่อสาร • ผู้ส่งสาร • ผู้รับสาร • ข่าวสาร • ช่องทางการสื่อสาร

  4. ความสำคัญของการสื่อสารความสำคัญของการสื่อสาร • ถูกต้อง เชื่อถือได้ • ปลอดภัย • รวดเร็ว

  5. ส่วนต่าง ๆ ของระบบวิทยุสื่อสาร • เครื่องรับวิทยุ ( Receiver , Radio -receiver) Rx. ทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นวิทยุ (คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) ที่ได้รับเข้ามา แล้วเปลี่ยนเป็นคลื่นเสียง ออกทางลำโพง หรือ หูฟัง • เครื่องส่งวิทยุ ( Transmitter , Radio - transmitter) Tx. ทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียง (เสียงที่พูด ผ่านไมโครโฟน) แล้วเปลี่ยนเป็นคลื่นวิทยุ (คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า)

  6. เครื่อง รับ – ส่ง วิทยุ (Transceiver / Radio - transceiver) Tx/Rx ทำหน้าที่เป็นเครื่องรับวิทยุ และ เครื่องส่งวิทยุในตัวเดียวกัน

  7. ประเภทของเครื่องวิทยุ • ชนิดประจำที่ Base Station ติดตั้งสำหรับ ใช้ประจำที่ เช่น สำนักงาน กำลังส่งมากว่า 25 วัตต์ Mobile Station ติดตั้งสำหรับยานพาหนะกำลังส่งประมาณ 25 วัตต์ • ชนิดพกพา เคลื่อนที่ Handy Talky ใช้สำหรับ พกพา ติดตัว กำลังส่ง ประมาณ 5 วัตต์

  8. คุณสมบัติพิเศษ ของเครื่องรับ-ส่ง วิทยุ • ชนิดธรรมดา • ชนิดกันน้ำได้ (Waterproof) • ชนิดกันฝนได้(Rainproof) • ชนิดกันระเบิด (Extingcaly Safe) ชนิดมีระบบ DSC ในตัว ชนิด ติดตั้ง ระบบ GPS ในตัว

  9. ส่วนประกอบของเครื่องวิทยุส่วนประกอบของเครื่องวิทยุ • สายอากาศ (Antenna )(Aerial) กรณีในเครื่องส่ง ทำหน้าที่แพร่กระจายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ออกไปในอากาศ กรณีในเครื่องรับ ทำหน้าที่รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ชนิด บังคับทิศ ชนิด ไม่บังคับทิศ

  10. สายส่ง (Transmission Line) ทำหน้าที่นำสัญญาณไฟฟ้า ไปออกอากาศที่สายอากาศ และทำหน้าที่ รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จากสายอากาศ มายังเครื่องรับ ส่ง วิทยุ แบตเตอรี่ (Battery) ทำหน้าที่จ่ายพลังงานไฟ DCให้กับเครื่อง รับ - ส่ง วิทยุ แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply)แปลงไฟจาก AC เป็น DC ทำหน้าที่จ่ายพลังงานไฟ DC ให้กับ เครื่องรับ – ส่ง วิทยุ

  11. คลื่นวิทยุ ความถี่วิทยุ กำลังส่งวิทยุ คลื่นเสียง (Sound wave ) :คลื่นที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ (คนเราได้ยิน 20 – 20,000 Hz.) คลื่นวิทยุ ( Radio wave) : คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Elctro Magnetic )ที่เดินทางได้โดยมีอากาศ เป็นตัวนำ

  12. ความถี่วิทยุ จำนวนคลื่นวิทยุในเวลา 1 วินาที • ความยาวคลื่นวิทยุ ระยะทางที่คลื่นวิทยุเคลื่อนที่ไปใน 1 รอบ • ความเร็วคลื่นวิทยุ ระยะทางที่คลื่นวิทยุเคลื่อนที่ไปใน 1 วินาที

  13. ประเภท ของการ รับ -ส่ง ความถี่ทางวิทยุ แบบ Simplex ใช้ความถี่เดียวกัน /รับและส่งพร้อมกันไม่ได้ แบบ Semi – Duplexใช้ 2 ความถี่ / รับ และส่ง คนละความถี่ แบบ Duplex (Full Duplex) ใช้ 2 ความถี่ / รับและส่งพร้อมกันได้

  14. Radio Spectrum

  15. ข้อควรสังเกตุ • ความถี่สูง ส่งได้ใกล้ ความถี่ต่ำ ส่งใด้ไกล • ความยาวคลื่นสั้น (น้อย) สายอากาศจะสั้น ความยาวคลื่นยาว (มาก) สายอากาศจะยาว • ความถี่สูง สายอากาศจะสั้น ความถี่ต่ำ สายอากาศจะยาว

  16. หลักการติดตั้งเครื่องวิทยุ ชนิดประจำที่ การวางแผนตั้งสถานี ต้องดูพื้นที่ เป้าหมายที่ต้องการจะติดต่อสื่อสาร ต้องมีการสำรวจ ก่อนการสร้างจริง มีปัจจัยที่ควรจะต้องคำนึงถึง • ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ภูมิทัศน์ • ความปลอดถัย ต่อคน และสถานที่ • สัญญาณรบกวนทางด้านไฟฟ้า • การเข้าถึงสถานี • ระยะห่างจากท่าอากาศยาน หรือสนามบิน ต้องขออนุญาติกรมขนส่ง ฯ • ความคุ้มค่าในด้านเศรษฐศาสตร์ • ความแข็งแรง • ใช้ร่วมกับของที่มีอยู่แล้วได้

  17. ใบอนุญาต 9 ประเภท ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก ค้า/ซ่อมตั้งสถานี พนักงาน รับข่าวต่างประเทศเพื่อการโฆษณา

  18. การตรวจซ่อมและบำรุงรักษาเบื้องต้น มี 2 ลักษณะ คือ ป้องกัน กับ แก้ไข ป้องกัน ได้แก่ ห้ามทำตกหล่น กระแทก โดนน้ำ ชื้น ขั่วต่อต้องแน่น สายอากาศ ต้อง matching /mismatch ตรวจ VSWRแรงดันไฟต้องตรงตามคู่มือ การติดต่อสั้น ๆ ปรับกำลังส่งให้เหมาะสม ปฏิบัติตามคู่มือ ห้ามใช้ตอนฝนฟ้าคะนอง ปรับแต่งสลิงรั้งสายเสาอากาศ ให้ตึงเสมอ ตรวจสาย transmission ในเรือหรือยานพาหนะ ที่มีเครื่องต้องติด EMI

  19. การแก้ไข • เครื่องไม่ทำงาน ขั่วต่อแบตเตอรี่ switch on /offฟิวซ์ • เครื่องทำงาน แต่รับไม่ได้ ส่งไม่ได้ รับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ส่งได้ใกล้ รับได้ใกล้

  20. การใช้เครื่องวิทยุสื่อสารนั้น ต้องคำนึงถึง 1 ความถี่ที่ต้องการใช้ ต้องได้รับอย่างถูกต้อง และมีสิทธิใช้ 2 ตัวเครื่อง ถูกต้องตามกฏหมาย 3 วิธีการปฏิบัติ ตาม กฏหมาย และระเบียบที่ กสทช.กำหนด

  21. วิธีการติดต่อสื่อสารทางวิทยุคมนาคมวิธีการติดต่อสื่อสารทางวิทยุคมนาคม ผู้ส่งข่าว ผู้รับข่าว เครื่องมือสื่อสารทางวิทยุคมนาคม ความเร็วในการ รับ – ส่ง ข่าว

  22. ระบบนามเรียกขาน และข่ายการสื่อสารcall sign / communication net

  23. นามเรียกขาน call sign ที่ใช้อ้างถึงตัวผู้พูดในการติดต่อสื่อสารทางวิทยุ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด 1 นามเรียกขานรวม ( Callecttive Call Sign) รหัสที่ใช้เพื่ออ้างถึงการเรียกรวม เป็นกลุ่ม เพื่อแสดงว่าเป็นการเรียกทุกสถานีในข่ายนั้น ๆ 2 นามเรียกขานเดี่ยว (Selective Call Sign) รหัสที่ใช้อ้างถึงตัวผู้พูดในการสื่อสารทางวิทยุเฉพาะตน (ทั้งตนเอง คู่สนทนา และ ผู้ที่อ้างถึง )

  24. ในระดับสากล จะมีการระบุนามเรียกขาน ไม่ซ้ำกัน โดยจะใช้ตัวอักษรผสมตัวเลข เพื่อแสดงลักษณะเฉพาะของแต่ละสถานีโดยไม่ซ้ำกันเลยทั่วโลก ตัวอย่าง นามเรียกขาน HSHE HS หมายถึง ประเทศไทย HE หมายถึง เรือชลธารานุรักษ์ ในระดับใช้งานท้องถิ่น ส่วนใหญ่ ใช้ ชื่อหน่วยงาน ชื่อย่อ ตำบลที่ ลักณะภูมิศาสตร์ หรืออื่น ๆ ที่ตกลงใช้กันภายในหน่วยงานนั้น ๆ

  25. ข่ายการสื่อสาร (Communication Net) การติดต่อสื่อสารทางวิทยุเฉพาะกลุ่ม ในย่านความถี่เดียวกัน ที่มีจุดมุ่งหมาย ทิศทางเดียวกัน วัตถุประสงค์เดียวกัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท 1 ข่ายอิสระ(Free Net)ทุกสถานีในข่ายสามารถติดต่อกันได้โดยอิสระ 2 ข่ายควบคุม (Control Net)ทุกสถานีในข่าย (ลูกข่าย) จะติดต่อสื่อสารกันได้จะต้องขออนุญาตสถานี ควบคุมข่าย (สถานแม่ข่าย) (Master Control Station)ก่อน

  26. สถานีเรียก คือ สถานีที่ต้องการจะส่งข่าว • สถาที่ถูกเรียก คือ สถานีที่สถานีเรียกต้องการจะส่งข่าวให้ • การเรียก ก่อนเรียกต้องฟังว่าวงจรสื่อสารว่างอยู่ • การตอบการเรียก ตอบทันทีที่ได้ยินการเรียกและทราบได้ว่าเรียกสถานีเรา • การส่งข่าว ส่งทั้งฉบับ ส่งทีละประโยค

  27. ชั้นความลับของข่าว ธรรมดา ปกปิด ลับ ลับมาก ลับที่สุด ลำดับความเร่งด่วนของข่าว ธรรมดา ด่วนด่วนมาก ด่วนที่สุด ข้อควรสังเกตุ ข่าวแจ้งภัย ข่าวด่วน ข่าวเพื่อความปลอดภัย

  28. การใช้เครื่องวิทยุคมนาคมเพื่อการติดต่อสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ - เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างเครื่องวิทยุคมนาคมในกิจการเคลื่อนที่ทางบกสำหรับหน่วยงานของรัฐ และเครื่องวิทยุคมนาคมในกิจการวิทยุสมัครเล่น (เอกสาร ตามภาค ผนวก )

  29. การสื่อสารทางวิทยุเป็นการสื่อสารที่มีความปลอดภัยน้อยที่สุดการสื่อสารทางวิทยุเป็นการสื่อสารที่มีความปลอดภัยน้อยที่สุด ใช้วิทยุไม่ระวังความปลอดภัยก็ลดลง • ข้อควรปฏิบัติ - การส่งข่าว ต้องสั้น กะทัดรัด เท่าที่จะกระทำได้ - การยึดถือระเบียบปฏิบัติ การละเลย การพูดเล่น ย่อมก่อให้เกิดความสับสนได้ ในกรณีที่ไม่มีระเบียบ ใด ๆ ระบุไว้ ก็ให้ใช้สามัญสำนึกในการปฏิบัติ - การสนทนาเฉพาะเรื่องราชการ และจำเป็น - ปรับความถี่และทดลองเครื่องอย่างเหมาะสม - ฟัง ก่อน ส่ง - ชัดเจน ความเร็วเหมาะสม

  30. ข้อห้าม ห้ามฝ่าฝืนการใช้วิทยุ ห้ามพูดเล่น คำหยาบ ไม่สุภาพ เรื่องส่วนตัว ห้ามส่งข้อความผิดกฏหมาย ห้ามผิวปาก ร้องเพลง ห้ามส่งสัญญาณ ขอความช่วยเหลือ หากไม่เกิดเหตุฉุกเฉิน ห้ามโฆษณา สิ้นค้า ห้ามฝักใฝ่ทางการเมือง (ต้องเป็นกลางทางการเมือง) ฯลฯ

More Related