1.72k likes | 2.71k Views
ดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตและการสืบพันธุ์ในโคนม. อ.น.สพ. วีระศักดิ์ ปัญญาพรวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สื่อการสอนประกอบด้วย. เอกสารประกอบการสอน ( Microsoft word) เรื่อง การทบทวนเอกสารค่าดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตและการสืบพันธุ์ในโคนม
E N D
ดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตและการสืบพันธุ์ในโคนมดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตและการสืบพันธุ์ในโคนม อ.น.สพ. วีระศักดิ์ ปัญญาพรวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Disease of ruminants / May 2004
สื่อการสอนประกอบด้วย • เอกสารประกอบการสอน (Microsoft word) เรื่อง การทบทวนเอกสารค่าดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตและการสืบพันธุ์ในโคนม • เอกสารประกอบการสอน (Microsoft word) เรื่อง ตัวอย่างการคำนวณค่าดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตและการสืบพันธุ์ในโคนม • สไลด์ประกอบการสอน (Microsoft power point) เรื่อง ดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตและการสืบพันธุ์ในโคนม Disease of ruminants / May 2004
ความสำคัญ • ใช้ประเมินสถานภาพฟาร์มในปัจจุบัน • ทำนายประสิทธิภาพการผลิตในอนาคต • ใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์ผลจากการจัดการที่ผ่านมา Disease of ruminants / May 2004
ข้อควรพิจารณา • ต้องทราบว่าค่าดัชนีนั้นมีความหมายอย่างไร • ทราบวิธีการคำนวณ และ กลุ่มประชากรโคที่ใช้ในการคำนวณ • ทราบถึงข้อดีและข้อจำกัดของค่าดัชนีนั้นๆ • ทราบว่าจะแปรผลร่วมกับค่าดัชนีใด • ทราบถึงการนำค่าดัชนีนั้นไปใช้ประโยชน์และการวางแผน • ทราบถึงวิธีการตรวจสอบค่าดัชนีนั้นๆ ว่ามีความแม่นยำหรือถูกต้องเพียงใด Disease of ruminants / May 2004
ค่าดัชนีเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อผลตอบแทนทางเศรษฐกิจค่าดัชนีเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ • เป้าหมายหลักของการเลี้ยงโคนม คือ การได้รับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ดี • รายได้หลักจากการเลี้ยงโคนม คือ ปริมาณน้ำนมที่ผลิตได้ต่อปี • ดังนั้นรายได้ต่อปีหลักจากการเลี้ยงโคนม จะมาจาก ปริมาณน้ำนมที่ผลิตได้ต่อตัวต่อปี x ราคาน้ำนม • ดังนั้นหากต้องการให้มีผลกำไรสูงๆ ต้องมี ปริมาณน้ำนมที่ผลิตได้ต่อปีปริมาณสูง Disease of ruminants / May 2004
ปริมาณน้ำนมต่อตัวต่อปีนั้น จะขึ้นอยู่กับ ปริมาณน้ำนมเฉลี่ยที่ได้ต่อวัน x จำนวนวันที่โคให้นม โดยสัมพันธ์กับ จำนวนโครีดนมในฝูง • ดังนั้น โคที่ให้นมต่อวันปริมาณสูงไม่ได้หมายความว่าจะให้นมทั้งปีปริมาณสูงไปด้วย ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาที่โคให้นมในปีนั้นๆ • เจ้าของฟาร์มมักจะนึกถึงว่า โคให้นมสูงสุดที่กี่กิโลกรัม แต่ไม่ได้นึกถึงว่า ในรอบหนึ่งปีโคตัวนั้นให้ปริมาณน้ำนมต่อปีเท่าใด Disease of ruminants / May 2004
ปริมาณน้ำนมเฉลี่ยต่อตัวต่อวันปริมาณน้ำนมเฉลี่ยต่อตัวต่อวัน • จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้ • พันธุกรรม • การจัดการด้านโภชนาการ • ระยะให้นม Disease of ruminants / May 2004
จำนวนวันที่โคให้นม • จำนวนวันที่โคให้นม หมายถึง จำนวนวันที่ให้นมในช่วงเวลาที่เรากำหนด เช่น ในเดือนมกราคม โคหมายเลข 001 มีวันที่ให้นมจำนวน 20 วัน • ในรอบหนึ่งปีโคแต่ละตัวควรมีระยะวันให้นม 305 วัน Disease of ruminants / May 2004
ค่าดัชนีการสืบพันธุ์มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการผลิตอย่างไรค่าดัชนีการสืบพันธุ์มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการผลิตอย่างไร • จากการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพการผลิตจะมีค่าสูงสุดเมื่อ โคมีระยะห่างการคลอด 12 เดือน โดยมีช่วงเวลาที่ให้น้ำนม 305 วัน และมีระยะแห้งนม 60 วัน • ระยะห่างการคลอดที่สูงเกินไปจะแสดงถึงว่าโคนั้นอยู่ในช่วงท้ายการผลิตนานเกินไป หรือมีระยะหยุดรีดนมที่นานเกินปกติ Disease of ruminants / May 2004
Lactation Curve Reproduction Regulates life time spent in each phase Net Return $ 3/1 Area of Profit 2/1 Net Return CI 12.1 12.7 13.4 14.1 14.9 15.5 16.0 16.7 17.3 Day In Milk Disease of ruminants / May 2004
แบบมาตราฐาน • โคมีระยะคลอดถึงผสมติด 85 วันหลังคลอด • โคตั้งท้องนาน 280 วัน • ดังนั้นโคมีระยะห่างการคลอด 280+85 = 365 วัน • มีช่วงระยะรีดนม 305 วัน • และมีระยะหยุดแห้งนม 60 วัน Disease of ruminants / May 2004
280 D D 305 D 85 D 0 D 365 Disease of ruminants / May 2004
ผสมติดช้าแต่ยืดระยะรีดนมออกไปผสมติดช้าแต่ยืดระยะรีดนมออกไป • โคมีระยะคลอดถึงผสมติด 150 วัน • ดังนั้นมีระยะห่างการคลอด = 150+280= 430วัน • ช่วงแห้งนม = 60 วัน • ดังนั้น ช่วงระยะให้นม = 430-60= 370 วัน Disease of ruminants / May 2004
D 280 D 370 D 430 D 0 D 150 Disease of ruminants / May 2004
ผสมติดช้าแต่ให้นม 305 วัน • โคมีระยะคลอดถึงผสมติด 150 วัน • ดังนั้นมีระยะห่างการคลอด 150+280= 430วัน • ช่วงการให้น้ำนม = 305 วัน • ช่วงแห้งนม = 430-305 = 125วัน Disease of ruminants / May 2004
D 280 125 D D 305 D 430 D 0 D 150 Disease of ruminants / May 2004
ความแตกต่างทางเศรษฐกิจความแตกต่างทางเศรษฐกิจ • ระยะคลอดถึงผสมติดที่แตกต่างกัน 150-85 = 65 วัน • เมื่อเวลาผ่านไป 6 ปี จะมีความแตกต่างกัน = 65x6 = 390 วัน • ดังนั้นหมายความว่า โคจะให้นมได้น้อยกว่ากัน 1 lactation • ถ้าโคให้น้ำนม 5,000 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 50,000 บาท ถ้าเลี้ยงโคจำนวน 10 ตัว รายได้จะสูญเสียไป = 500,000 บาท • จะเห็นได้ว่า มาจากความแตกต่างเพียง 65 วัน ในแต่ละท้อง Disease of ruminants / May 2004
ผสมติดช้าแห้งนมไว • ผสมติดที่ 120 วันหลังคลอด • ระยะห่างการคลอด = 120+280 = 400 วัน • ช่วงการให้นม 200 วัน • ดังนั้นระยะแห้งนม = 200 วัน Disease of ruminants / May 2004
พื้นฐานทางสถิติ • ค่าเฉลี่ย • ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน • ค่าส่วนคลาดเคลื่อนมาตราฐาน • พิสัย • เปอร์เซ็นต์ไทล์ • ค่าทางระบาดวิทยา เช่น Odd ration , RR Disease of ruminants / May 2004
คำถาม ???? Disease of ruminants / May 2004
การคำนวณและการแปรผลค่าดัชนีวัดประสิทธิภาพการคำนวณและการแปรผลค่าดัชนีวัดประสิทธิภาพ การผลิตและการสืบพันธุ์โคนม Disease of ruminants / May 2004
ดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิต • ดัชนีวัดประสิทธิภาพการผลิตน้ำนม • ดัชนีวัดประสิทธิภาพการสืบพันธุ์ Disease of ruminants / May 2004
ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมดิบดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมดิบ Disease of ruminants / May 2004
เปอร์เซ็นต์วันรีดนมเฉลี่ย(Percents days in milk) Disease of ruminants / May 2004
มีความสัมพันธ์สูงมากกับปริมาณน้ำนมดิบเฉลี่ยของฝูงมีความสัมพันธ์สูงมากกับปริมาณน้ำนมดิบเฉลี่ยของฝูง • การคำนวณค่านี้ ต้องกำหนดช่วงระยะเวลา เช่น เดือนใดเดือนหนึ่ง หรือช่วง 3 เดือน • เป็นค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพการผลิตที่สำคัญ • ค่านี้จะหมายถึงว่า ในช่วงเวลาที่เรากำหนดโคให้ผลผลิตคิดเป็นร้อยละเท่าไร • ค่านี้ควรมีค่า 80-85 เปอร์เซ็นต์ Disease of ruminants / May 2004
ในการวิเคราะห์ต้อง พิจารณาร่วมกับ ค่าเฉลี่ยจำนวนวันให้นม และ ปริมาณน้ำนมเฉลี่ยของฝูง เนื่องจากอาจเกิดกรณี โครีดนมมาเป็น ระยะเวลานานแต่ให้น้ำนมปริมาณต่ำแต่จะแสดงผลว่ามีเปอร์เซ็นต์วันให้นมสูง • โปรแกรมที่ใช้ในประเทศไทยไม่ได้มีการใช้ค่าดัชนีนี้ • แต่เราสามารถนำค่า เปอร์เซ็นต์โคที่รีดนม มาวิเคราะห์ได้ Disease of ruminants / May 2004
PDIM = จำนวนวันที่โคให้นมในช่วงเวลาที่เรากำหนด จำนวนวันของโคทั้งหมดที่อยู่ในฝูง Disease of ruminants / May 2004
การคำนวณ percent day in milk Disease of ruminants / May 2004
จากตัวอย่าง โคหมายเลข 1 มีจำนวนวันที่รีดนมในระหว่างเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม 2544 จำนวน 29 วัน คือ ระหว่างวันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ค. 2544 ส่วนโคหมายเลข 2 และ หมายเลข 5 มีจำนวนวันรีดนมในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวน 60 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ส.ค. 2544 โคหมายเลข 3 ไม่มีจำนวนรีดนมในช่วงเวลาดังกล่าวเนื่องจากแห้งนมตั้งแต่เดือนเมษายน โคหมายเลข 6 มีจำนวนวันรีดนม 41 วัน และโคหมายเลข 7 มีจำนวนวันที่ให้นมเพียง 7 วัน คือ ระหว่างวันที่ 1-8 ก.ค. 2544 Disease of ruminants / May 2004
สรุปได้ว่าโคที่นำมาคิดคำนวณ คือ โคทั้งหมดจากตาราง ซึ่งมีค่าเท่ากับ • ((29+60+59+60+41+7) / (60*7)) *100 ค่าที่ได้ คือ 60.9 % Disease of ruminants / May 2004
การแปรผล โดยปกติในฝูงโคที่มีการคลอดอย่างสม่ำเสมอค่า PDIM นี้จะไม่ต่ำกว่า 80 % หากฟาร์มที่มีค่า PDIM ต่ำกว่า 80 % จะหมายถึงประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมดิบลดลงแต่อย่างไรก็ตามการพิจารณาค่านี้จำเป็นต้องพิจารณาค่า อัตราการให้นมเฉลี่ยต่อตัวต่อวันและค่าระยะวันให้นมเฉลี่ยร่วมด้วย Disease of ruminants / May 2004
เนื่องจากในบางฟาร์มอาจพบกรณีที่ในฟาร์มมีแม่โคที่ได้รีดนมนานเกินกว่า 305 วันจำนวนมากและแม่โคเหล่านั้นมีปริมาณน้ำนมที่ได้ต่อวันต่ำแต่กลับพบว่ามี PDIM ในเปอร์เซ็นต์ที่มีค่าสูง การพบว่า PDIM มีค่าสูงยังสามารถพบได้ในฟาร์มทีมีการคลอดของโคในช่วงเดือนนั้นปริมาณมาก Disease of ruminants / May 2004
จำนวนวันรีดนมเฉลี่ย(Days in milk) Disease of ruminants / May 2004
ประชากรโคที่นำมาคิด คือ โคที่รีดนม เท่านั้น • ต้องทราบค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน • หากสามารถแสดงการกระจายจะแสดงผลได้ชัดเจนมาก เช่น รายงาน Scatter Plot ของโปรแกรม Dairy CHAMP • ค่านี้ใช้แสดงถึงประสิทธิภาพการผลิตได้ชัดเจน และแสดงผลปัจจุบันแต่ไม่แสดงถึงประสิทธิภาพการสืบพันธุ์ในปัจจุบันได้เลย • ค่า DIM เป็นผลมาจากประสิทธิภาพการสืบพันธุ์เมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมาไม่ใช่จากปัจจุบัน Disease of ruminants / May 2004
ค่านี้โดยปกติควรมีค่า 150 วัน • ค่านี้จะลดลงได้เมือ มีโคที่เข้าคลอดจำนวนมาก หรือ มีการแห้งนมโค รวมถึงการแห้งนมโคที่มีระยะรีดมากกว่า 150 วัน • ค่านี้จะมีค่าเพิ่มขึ้น เมื่อมีโครีดนมในช่วงท้ายการรีดนมจำนวนมาก • ค่าเฉลี่ยจะทำให้การแปรผลคลาดเคลื่อนได้มาก ต้องทราบค่าการกระจายของข้อมูลด้วยโดยเฉพาะในฟาร์มโคนมขนาดเล็ก Disease of ruminants / May 2004
จำนวนวันให้นม = วันปัจจุบัน – วันคลอด จำนวนวันให้นมเฉลี่ยของฝูง = ผลรวมจำนวนวันรีดนมของโครีดนมในฝูง จำนวนโครีดนม Disease of ruminants / May 2004
วิธีการคำนวณ • กำหนดวันที่จะคำนวณ เช่น กำหนดวันที่ 1 ธันวาคม 2544 เป็นวันที่คิดคำนวณ • จำนวนโคที่คิดจะมาจาก โคที่รีดนม เท่านั้น • นำวันที่ 1 ธันวาคม 2544 ไปลบกับวันคลอดของโคที่รีดนม จากนั้นรวมผลรวมที่ได้ และหารด้วยจำนวนโคที่รีดนม Disease of ruminants / May 2004
โคที่นำมาคำนวณ คือ โคหมายเลข 2 3 4 6 และ 7 เนื่องจากโคเหล่านี้เป็นโคที่รีดนม โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขว่าตั้งท้องหรือไม่ • ดังนั้น ค่าระยะรีดนมเฉลี่ย คือ (199+289+27+105+36) / 5 Disease of ruminants / May 2004
การแปรผล • ค่าดัชนีนี้เป็นการวัดประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมดิบที่เป็นปัจจุบันมาก แต่เป็นค่าที่เกี่ยวเนื่องและแสดงถึงประสิทธิภาพการสืบพันธุ์เป็นอดีตมาก • ค่านี้มักจะถูกเข้าใจผิดว่า จะมีความเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการสืบพันธุ์มาก Disease of ruminants / May 2004
ระยะวันรีดนมเฉลี่ย จะมีความไว ต่อ การคลอดใหม่ของโค และการแห้งนมของโค • การแห้งนมโคที่ให้นมมาเป็นระยะเวลานาน ก็จะสามารถลดระยะวันรีดนมเฉลี่ยได้ • การที่โคคลอดใหม่นั้น เป็นผลมาจากการจัดการระบบสืบพันธุ์เมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา หรือ เป็นการแสดงผลของประสิทธิภาพการสืบพันธุ์เมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา ไม่ใช่ผลจากปัจจุบันแต่อย่างใด Disease of ruminants / May 2004
นอกจากนี้ การซื้อโคที่ใกล้คลอดเข้าฟาร์มจำนวนมาก เมื่อโคเหล่านั้นคลอด ค่าระยะรีดนมเฉลี่ย ก็จะมีค่าลดลง • โดยสรุป ค่าระยะวันรีดนมเฉลี่ยมีความสัมพันธ์กับปริมาณน้ำนม แต่ ค่าระยะวันรีดนมเฉลี่ย ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว Disease of ruminants / May 2004
อัตราการให้นมเฉลี่ยต่อตัวต่อวันอัตราการให้นมเฉลี่ยต่อตัวต่อวัน Disease of ruminants / May 2004
การคำนวณ ปริมาณน้ำนมที่ผลิตได้ต่อวัน / จำนวนโครีดนมในวันนั้น • ขึ้นอยู่กับ สายพันธุ์ การจัดการ ภาวะสุขภาพเต้านม แลคเตชัน ระยะวันรีดนม • การแปรผล ต้องให้ความระมัดระวัง เรื่อง จำนวนโคที่นำมาคำนวณ ระยะรีดนมเฉลี่ย Disease of ruminants / May 2004
สัดส่วนประชากรของฝูง Disease of ruminants / May 2004
แบ่งกลุ่มโคออกเป็น กลุ่มโคให้นมตั้งท้อง กลุ่มโคให้นมไม่ตั้งท้อง กลุ่มโคแห้งนมตั้งท้อง กลุ่มโคแห้งนมไม่ตั้งท้อง • โดยปกติมีสัดส่วน เรียงตามลำดับ ดังนี้ 42% 41% 17% และ 0% ตามลำดับ • เป็นค่าที่ใช้บอกภาพรวมของฝูงอย่างง่ายๆ และ รวดเร็ว Disease of ruminants / May 2004
จำนวนวันแห้งนม / ช่วงการให้นม Disease of ruminants / May 2004