60 likes | 77 Views
N. S. P. เกาะติดข่าวการช่วยเหลือจากภาครัฐ. เหตุเกิดที่ SHIPPING MARK. การเลือกบรรจุภัณฑ์ : ขั้นตอนง่ายๆที่ทุกคนมองข้าม. MD Says.
E N D
N S P เกาะติดข่าวการช่วยเหลือจากภาครัฐ เหตุเกิดที่ SHIPPING MARK การเลือกบรรจุภัณฑ์: ขั้นตอนง่ายๆที่ทุกคนมองข้าม MD Says
ผลจากเศรษฐกิจที่ตกทั่วโลกและสถานการณ์การเมืองที่ไม่มีความเสถียรเป็นเวลานานของประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดตัวลง หรือทางออกอีกทางคือการปรับลดส่งผลให้มีอัตราว่างงานเพิ่มมากขึ้น อัตราการว่างงานที่เพิ่มมากขึ้นนี้ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาอาชญากรรมที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการบางส่วนที่ไม่ปรับลดพนักงานและไม่มีนโยบายปลดพนักงานเช่นกัน ซึ่งต่างก็พยายามใช้นโยบายลดต้นทุนการผลิตหรือลดรายจ่ายในด้านต่างๆกันออกไป ทั้งนี้ทางภาครัฐเองก็ไม่ได้นิ่งดูดาย และได้มีนโยบายออกมา 2 นโยบายที่ช่วยทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้าง แต่ยังไม่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งถ้าหากว่านโยบายทั้ง 2 นี้ผ่านก็น่าจะช่วยเหลือบรรดาผู้ประกอบการได้ไม่น้อย นโยบายทั้ง 2 นั้นคือ นโยบายที่ 1 เงินช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ไม่ปลดพนักงานออกช่วงนี้ มีข้อมูลว่าจะนำเข้าในที่ประชุม ในวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2552 นี้ และผลสรุปต่างๆ น่าจะรู้ผลประมาณปลายเดือนมีนาคม 2552 นี้ นโยบายที่ 2 โรงงานที่จัดทำสถานรับเลี้ยงดูบุตรของลูกจ้างในสถานประกอบการ เพื่ออำนวยความสะดวกและความสบายใจ ให้กับลูกจ้างว่าลูกหลานของตนเองอยู่ในที่ๆปลอดภัย และสามารถเขาไปดูแลได้ในเวลาพัก ซึ่งทางนายจ้างทำเช่นนี้แล้วก็สามารถนำไปหักภาษีได้ ทั้ง 2 นโยบาย ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต่างก็ได้รับผลประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งน่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ลดคนตกงานลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย หากภาครัฐให้การช่วยเหลือได้จริงและต่อเนื่อง ทางทีมงานข่าว SNP News จะทำการติดตามความคืบหน้าของนโยบายทั้ง 2 นี้ต่อไปเพื่อแจ้งให้กับท่านผู้ประกอบการทราบเป็นระยะๆ หากท่านมีข้อสงสัยและต้องการสอบถามเพิ่มเติมประการใด สามารถติดต่อได้ที่คุณสธร เกิดบุญมาก โทร. 02 333-1199 ต่อ 105 หรือส่งอีเมลล์มาได้ที่ qmr@snp.co.thตลอดเวลาทำการ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
การนำเข้าหรือส่งออกสินค้าทุกครั้ง สิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่ผู้ประกอบการทุกคนไม่ควรจะมองข้ามคือ Shipping Mark ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องมีการตรวจสอบทุกครั้งก่อนที่จะทำการส่งออกหรือนำเข้าสินค้าใดๆก็ตาม หากเกิดการผิดพลาดขึ้นมาแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่จุดเล็กๆก็ตาม แต่อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาภายหลังได้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์ที่เป็นกรณีศึกษาเกิดขึ้น สืบเนื่องมาจากว่าสายเรือได้ พิมพ์ตัวอักษรแรกของชื่อบริษัทผิด ที่ระบุลงใน SHIPPING MARK ทำให้เกิดความล่าช้าและจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขใหม่ โดยการทำ SHOULD BE ซึ่งคือทางบริษัทปลายทางที่เป็นผู้รับของต้องเป็นฝ่ายดำเนินเรื่องขอการแก้ไขให้ถูกต้อง และยิ่งไปกว่านั้นทางสายเรือต้นทางต้องเสียเงินค่าปรับอีก 1,000.00(หนึ่งพันบาทถ้วน) นอกจากนี้ยังเสียเวลาในการนำเข้าอีกด้วย ซึ่งผู้ประกอบการก็มีหลักฐานจากตัวแทนออกของว่ามีการแจ้งรับรองกับสายเรือแล้วว่าที่แจ้งนั้นไปถูกต้อง แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลใด จึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่อาจช่วยผู้ประกอบการที่ต้องการของเร่งด่วน จะได้มีแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดนี้ขึ้นกับตนเองในอนาคตได้ จากข่าวข้างต้นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด ถึงแม้ว่าจะมีการยืนยันว่าได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้องแล้วก็ตาม ดังนั้นหากผู้ประกอบการท่านใดไม่อยากให้เกิดความล่าช้าในการนำเข้าสินค้าจึงควรขอตรวจสอบเอกสารจากสายเรือต้นทางก่อนที่สินค้าจะถูกส่งออกเพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขทันทีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงจุดเล็กๆก็ตาม หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามที่ www.snp.co.thหรือโทรสอบถามได้ที่หมายเลข 02-333-1199 ต่อ 102 ติดต่อ คุณวิไลวรรณ พิพิธวณิชยการ ในเวลาทำการ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
สินค้าบางชนิดนั้น หากส่งออกไปโดยที่ไม่ได้บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสินค้าชนิดนั้นแล้ว ก็อาจส่งผลทำให้สินค้าเกิดความเสียหายก่อนที่จะไปถึงปลายทางก็เป็นได้ ผู้ประกอบการทั้งหลายย่อมรู้ข้อเท็จจริงข้อนี้เป็นอย่างดี แต่ก็มักมองข้ามความสำคัญบางส่วนของการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ดีเหล่านี้ไป เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ทำการตรวจปล่อยสินค้าของผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ประสงค์จะทำการส่งออกไปยังประเทศจีน โดยผู้ประกอบการดังกล่าวเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการบรรจุสินค้าเป็น ลังไม้ เพื่อป้องกันแมลงที่อาจเป็นอันตรายต่อสินค้าในระหว่างเดินทาง บริษัทฯจึงทำการ รมยา (Fumigate) ลังไม้ดังกล่าวให้กับผู้ประกอบการก่อนทำการส่งออก แต่แล้วเมื่อสินค้าถึงประเทศจีน กลับมี E-mail จาก Consignee ทีส่งรูปสินค้าที่มี เชื้อรา ขึ้นอยู่เต็มไปหมด มาให้กับผู้ประกอบการ พร้อมกับต่อว่าอย่างรุนแรง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ลังไม้ดังกล่าวมีเชื้อราขึ้นนั้น เกิดจากไม้ที่ถูกนำมาต่อเป็นลัง เป็นไม้ที่ยังไม่อยู่ในสภาพที่จะนำมาต่อเป็นลังได้ กล่าวคือ เป็นไม้ที่ยังสดและมีความชื้นอยู่มากจนเกินไป ทำให้เมื่อถูกบวกเข้าไปกับความชื้นที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางทางทะเลแล้ว ทำให้เชื้อราเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว การ Fumigate นั้นอาจจะสามารถป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นจากแมลงชนิดต่างๆได้ แต่ไม่สามารถป้องกันการเกิดเชื้อราได้ คุณภาพของไม้ที่ใช้ในการต่อลังนั้นต่างหากที่เป็นตัวแปรสำคัญของปัญหานี้ การมองข้ามคุณสมบัติของไม้ที่จะนำไปใช้นั้น อาจส่งผลกระทบในทางลบอย่างใหญ่หลวงจนเราคาดไม่ถึงเลยก็เป็นได้ ผู้ประกอบการท่านใดต้องการทำให้แน่ใจว่า Packaging ของท่านจะไม่กลับมาเป็นปัญหาต่อท่านในภายหลัง กรุณาติดต่อเข้ามาได้ที่หมายเลข 02-333-1199 ต่อ 501 คุณธวัชชัย ไทยประเสริฐ หรือ export@snp.co.th / www. snp.co.th S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
S N การพัฒนาโลจิสติกส์ไทย กว่า 10 ปีที่ผ่านมา นักวิเคราะห์จากหลายๆสถาบัน ทั้งใน เเละต่างประเทศต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศไทยนั้นมีอัตราที่สูงกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคเดียวกันซึ่งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตามต่างพยายามหาวิถีทางเเก้ไขปัญหาต้นทุนโลจิสติกส์นี้ อาทิเช่น การพัฒนาถนน หรือการขยายเส้นทางการเดินรถต่างๆ โดยที่สรุปไปเองว่า นั่นคือการพัฒนาโลจิสติกส์ไทยให้มีต้นทุนถูกลง เเต่ในมุมมองของผมเเล้วนั้น ผมเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปนั้น ด้านหนึ่งอาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เเต่ในอีกด้านหนึ่งอาจจะมองได้ว่า เป็นการตอบคำถามได้ไม่ตรงโจทย์ เเละไม่ตรงความต้องการที่แท้จริงของผู้ที่ทำงานด้านโลจิสติกส์ได้คาดหวังไว้ อีกทั้งรัฐบาลยังส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกลุ่ม องค์กร หรือสมาคมต่างๆขึ้นมา ซึ่งในสัปดาห์ก่อนผมได้กล่าวไปเเล้วว่า กรรมการจากสมาคมบางท่านก็สร้างผลประโยชน์ทับซ้อน โดยการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ P ต่อหน้า 2
หน้า 2 แท้ที่จริงเเล้ว หากรัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาโลจิสติกส์ของไทยนั้น รัฐบาลจะต้องรวบรวมบุคลากรที่เกี่ยวข้องในด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เเละสอบถามถึงความต้องการที่เเท้จริงของว่า จริงๆเเล้วผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์เหล่านั้น ต้องการให้รัฐบาลดำเนินนโยบายไปในเเนวทางใด เพื่อให้เกิดคุณภาพ เเละการลดต้นทุนของโลจิสติกส์ไทยที่ตรงเป้าหมาย ไม่เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดอย่างที่ผ่านมา เช่น การที่รัฐบาลจัดเก็บอัตราภาษี ณ. ที่จ่ายของงานด้านโลจิสติกส์ให้เเตกต่างกันระหว่าง1%เเละ 3% สุดท้ายก็กลายไปเป็นต้นทุนแฝงที่ถูกคิดรวมไปในค่าบริการไปโดยปริยาย เป็นเหตุให้ต้นทุนทางโลจิสติกส์ของไทยมีอัตราที่สูงกว่าปกติ นอกจากนั้น รัฐบาลยังต้องส่งเสริมให้คนทำโลจิสติกส์หลากหลายประเภทมาร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับบริษัทฯข้ามชาติ ที่ทุกวันนี้เข้ามาเจาะตลาดในประเทศไทย ชวนเชื่อด้วยการให้บริการที่ครบวงจร สะดวกสบาย เเละรวดเร็ว เพียงเพราะพวกเค้ามีเงินทุนที่หนากว่าเท่านั้นเอง ในขณะที่เเต่ละสมาคม เเต่ละองค์กรของไทยต่างกำลังปกป้องผลประโยชน์ของตนอยู่นั้น หารู้ไม่ว่าเรากำลังถูกบริษัทฯ โลจิสติกส์ข้ามชาติทั้งหลายหยิบชิ้นปลามันเอาไปกินกันอย่างเปรมปรีดิ์กันเลยทีเดียว สิทธิชัย ชวรางกูร กรรมการผู้จัดการ 11/03/2552 S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก