1 / 10

ตลาดผูกขาด ( MONOPOLY )

ตลาดผูกขาด ( MONOPOLY ). ผู้ ผูกขาดหมายถึง ( Monopolist ) ผู้ผลิตเพียงรายเดียวในตลาดสินค้าชนิดหนึ่งที่ไม่มีสินค้าชนิดอื่นทดแทนได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวจึงสามารถควบคุมราคา และปริมาณได้มากกว่าผู้ผลิตที่อยู่ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์. ลักษณะของตลาด ผูกขาด.

dominy
Download Presentation

ตลาดผูกขาด ( MONOPOLY )

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ตลาดผูกขาด ( MONOPOLY )

  2. ผู้ผูกขาดหมายถึง ( Monopolist ) ผู้ผลิตเพียงรายเดียวในตลาดสินค้าชนิดหนึ่งที่ไม่มีสินค้าชนิดอื่นทดแทนได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวจึงสามารถควบคุมราคา และปริมาณได้มากกว่าผู้ผลิตที่อยู่ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์

  3. ลักษณะของตลาดผูกขาด • มีผู้ขายหรือผู้ผลิตเพียงรายเดียว • ไม่มีสินค้าอื่นที่จะมาทดแทนสินค้าสินค้าที่ผูกขาดได้อย่างใกล้ชิด • การเข้าสู่ตลาดของผู้ผลิตรายใหม่ถูกปิดกั้นหรือเข้ามาด้วยความยากลำบาก • ผู้ผลิตแสวงหากำไรสูงสุด ผู้บริโภคแสวงหาความพอใจสูงสุด

  4. สาเหตุของการเกิดตลาดผูกขาดสาเหตุของการเกิดตลาดผูกขาด • ผู้ผลิตเป็นเจ้าของหรือควบคุมวัตถุดิบในการผลิตสินค้าแต่เพียงผู้เดียว • ธุรกิจเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือได้รับสัมปทานในการผลิตและจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว • มี Economy of scale

  5. ดุลยภาพระยะสั้นในตลาดผูกขาดดุลยภาพระยะสั้นในตลาดผูกขาด ผู้ผูกขาดจะต้องเลือกการผลิต ณ ระดับปริมาณและราคาที่ก่อให้เกิดกำไรสูงสุดถ้าการผลิตนั้นจะได้ภาวะดุลยภาพ ลักษณะเส้นอุปสงค์ • มีความยืดหยุ่นน้อย( Inelastic demand ) P = AR • อุปสงค์ของหน่วยผลิต เป็นเส้นเดียวกับอุปสงค์ตลาด เนื่องจากผู้ผลิตมีเพียงรายเดียว • ถ้าลดราคา ผู้ผลิตจะขายได้มากขึ้น

  6. เส้นรายรับเพิ่ม ( Marginal Revenue ) • เส้นรายรับเฉลี่ย ( Average Revenue ) • เส้นราคา ( Price line ) ( P ) = D = AR • MR สองเท่าของ AR

  7. MR =MC หรือผลิตที่ รายรับเพิ่ม = ต้นทุนเพิ่ม หรือ P เท่ากับหรือสูงกว่าต้นทุนผันแปรเฉลี่ย ได้กำไร P น้อยกว่า AC ขาดทุน • ขาดทุน ผลิตต่อ ถ้า P มากกว่า AVC ขาดทุนจะไม่ปิดกิจการ • ขาดทุน เลิกกิจการ ถ้า P น้อยกว่า AVC

  8. เส้นอุปทานในระยะสั้น • ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ จะอยู่เหนือเส้น MC เพราะว่า P = MC • ในตลาดผูกขาด เส้นอุปทานไม่สามารถหาได้ เพราะว่า ราคา มากกว่า รายรับเพิ่ม และรายรับเพิ่มเท่ากับ • ต้นทุนเพิ่ม และไม่ทราบว่าราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลง จะขายได้มากหรือน้อย จึงไม่สามารถอธิบาย • ความสัมพันธ์ระหว่าง P และ Q

  9. การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกัน ( Price Discrimination ) ผู้ผูกขาดอาจมีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ซื้อและตั้งราคาขายให้แตกต่างกันเพราะว่าตัวเองเป็นผู้ผูกขาด มี 2 แบบ คือ • สินค้าชนิดเดียวกันหรือเหมือนกันจะถูกตั้งราคาขายให้แตกต่างกัน เมื่อขายให้ผู้ซื้อที่มีความแตกต่างกัน • ตั้งราคาที่ทำให้สัดส่วนของราคาต่อต้นทุนเพิ่มต่างกันในระหว่างผู้ซื้อแต่ละราย P1 / MC1 ไม่เท่ากับ P2 / MC2

  10. การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกันการตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกัน • จุดประสงค์ของผู้ผลิตก็เพื่อให้ได้รับรายได้มากที่สุด • การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกันลำดับที่ 1 ( First degree price discrimination ) ขายสินค้าให้ลูกค้าแต่ละคนราคาแตกต่างกัน แม้ว่าราคาสินค้าชนิดเดียวกัน ผู้ขายจะคิดราคาขายสินค้ากับผู้บริโภคแต่ละคนเท่ากับราคาสูงสุดที่ผู้บริโภคยินดีจ่าย เช่นการตั้งราคาของหมอ • การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกันลำดับที่ 2 การตั้งราคาเป็นช่วง ๆ คล้ายขั้นบันไดเช่นร้านขายเสื้อผ้ามีนโยบายขายเต็มราคาในชิ้นแรก และชิ้นต่อไปลด 50 % • การตั้งราคาสินค้าให้แตกต่างกันลำดับที่ 3ตั้งราคาขายที่แตกต่างกันกับกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างกัน เช่นเก็บค่าชมพิพิธภัณฑ์ คนไทยและต่างชาติคนละราคา

More Related