230 likes | 930 Views
การเป็นสาวกผ่านคำอุปมา. บทที่ 2 วันที่ 11 มกราคม 2014. สำหรับบางท้องถิ่นอาจจะเป็นการยากที่จะอธิบายความหมายของคำว่า การทำให้เป็นผู้ชอบธรรม, การชำระให้บริสุทธิ์ เขาเหล่านั้นสามารถมองเห็นภาพและอธิบายความหมายได้ดีขึ้นผ่านทางคำอุปมา และเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวัน. คำอุปมาในพระคัมภีร์เดิม
E N D
การเป็นสาวกผ่านคำอุปมาการเป็นสาวกผ่านคำอุปมา บทที่2 วันที่ 11 มกราคม2014
สำหรับบางท้องถิ่นอาจจะเป็นการยากที่จะอธิบายความหมายของคำว่า การทำให้เป็นผู้ชอบธรรม, การชำระให้บริสุทธิ์ เขาเหล่านั้นสามารถมองเห็นภาพและอธิบายความหมายได้ดีขึ้นผ่านทางคำอุปมา และเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวัน คำอุปมาในพระคัมภีร์เดิม คำอุปมาถึงราคาที่ต้องจ่ายของการเป็นสาวก คำอุปมาประเภทสาวก คำอุปมาการตอบสนองของสาวก คำอุปมาในพระคัมภีร์ใหม่
คำอุปมาในพระคัมภีร์เดิมคำอุปมาในพระคัมภีร์เดิม ส่วนมากเราจะรู้จักเรื่องราวคำอุปมาจากพระเยซูคริสต์ แต่ทว่าในอดีตผู้เผยพระวจนะบางท่านได้ใช้คำอุปมาในการสอนความจริงของพระเจ้าเช่นกัน นาธันใช้คำอุปมาในการเปิดเผยถึงความบาปของดาวิด ซึ่งทำให้ท่านสามารถหลีกเลี่ยงความกริ้วของพระองค์ได้ ขอบคุณพระคุณสำหรับสิ่งนั้น(2 ซามูเอล12:1-7) โยธามใช้คำอุปมาเรื่องกษัตริย์แห่งต้นไม้ เพื่อแสดงให้ชาวอิสราเอลเห็นถึงสิ่งที่ชาวกิเดโอน ได้ดูหมิ่นเหยียดหยามชาวอิสราเอล
คำอุปมาในพระคัมภีร์เดิมคำอุปมาในพระคัมภีร์เดิม อิสยาห์ยกตัวอย่างของหน้าที่ต่างๆ ในการทำนานำมาสอน ท่านสอนสอนถึงช่วงเวลาต่างๆ ที่เหมาะสมในแต่ละหน้าที่ และในทุ่งนาของพระเจ้าก็เช่นเดียวกัน ซึ่งพระเจ้าจะทรงประทานความยุติธรรมในทุกๆ หน้าที่เมื่อพระองค์เสด็จมา (อิสยาห์28:23-29) เยเรมีย์ใช้ตัวอย่างของเหยือกบรรจุน้ำองุ่น ส่วนเอเศเคียลใช้ตัวอย่างของกิ่งองุ่นที่ตายแล้ว ตัวอย่างทั้งสองนั้นล้วนแล้วแต่บ่งชี้ถึงผลที่จะที่จะตามมาของการปฏิเสธไม่ยอมรับความรอดที่พระเจ้าทรงประทานให้(เยเรมีย์13:12-14; เอเศเคียล15:1-7)
ราคาที่ต้องจ่ายของการเป็นสาวกราคาที่ต้องจ่ายของการเป็นสาวก บ้านที่สร้างบนศิลา และบ้านที่สร้างบนทราย(มัทธิว 7:24-27) ผู้สร้างบ้านจะเลือกสร้างบ้านของเขาบนรากฐานชนิดใด?และอะไรคือผลตอบแทนที่เขาจะได้รับ? การสร้างตึก หรือ การเตรียมตัวเข้าสู่สงคราม(ลูกา 14:27-33) ท่านได้พิจารณาถึงราคาของการเป็นสาวกของพระเจ้าตามตัวอย่างทั้งสองแบบนี้แล้วหรือยัง?
“แต่ทุกๆ อาคารที่สร้างขึ้นบนรากฐานอื่น ที่มิใช่จากพระคำของพระเจ้าจะล้มเหลว เหมือนดังชาวยิวในยุคสมัยของพระเยซู พวกเขาสร้างความไว้วางใจอยู่บนความคิดของมนุษย์และตามความเห็นของพวกเขาเอง โดยรูปแบบ พิธีกรรม ที่มนุษย์ล้วนประดิษฐ์ขึ้นเองทั้งสิ้น หรือแม้กระทั่งการกระทำของพวกเขาที่พยายามแยกตัวออกเป็นอิสระจากพระคุณของพระเจ้า พวกเขาสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นบนพื้นทราย และเมื่อเวลาแห่งการทดลองมาถึงพวกเขาก็จะถูกกวาดไปจนหมดเหมือนผืนทรายเหล่านั้น และนี่บ้านที่พวกเขาเหล่านั้นได้สร้างขึ้นบนผืนทรายชายทะเล” E.G.W. (Thoughts from the Mount of Blessing, cp. 6, pg. 150)
สาวกประเภทต่างๆ คำอุปมาเรื่องผู้หว่าน(มัทธิว 13:1-23) ปัจจัยหลักที่แท้จริงก็คือ พระเยซูได้ทรงท้าทายให้ผู้ฟังได้ตัดสินใจที่จะยืนหยัดในการเป็นสาวกของพระองค์มากกว่าที่จะตอบสนองความต้องการทางกาย, พระองค์ทรงตรัสผ่านคำอุปมา และเชื้อเชิญให้เหล่าสาวกตัดสินใจเผชิญหน้ากับการท้าทายนี้ ให้มองดูจิตวิญญาณของตนเองเหมือนดูในกระจกเงาพวกเขาก็จะสามารถประเมินจิตวิญญาณของตนเองได้ว่าเป็นเช่นไร, พิจารณาถึงความสามารถของตนเอง ตระหนักถึงความวิตกกังวลที่มีต่อชีวิตในโลกนี้ และเลือกที่จะดำเนินชีวิตติดตามพระคริสต์อย่างแน่วแน่มั่นคง ข้าวละมาน ข้าวสาลี คำอุปมาเรื่องข้าวสาลี และข้าวละมาน(มัทธิว 13:24-30) พระเยซูทรงสอนว่ามิใช่ทุกคนจะเป็นสาวกของพระคริสต์อย่างแท้จริง พระองค์ทรงตรัสเตือนว่าอย่าตัดสินผู้ใดว่าคนนั้นเป็นข้าวสาลี คนนี้เป็นข้าวละมาน พระเจ้าเท่านั้นที่จะทรงเป็นผู้ตัดสินในสิ่งนั้น
การตอบสนองของเหล่าสาวกการตอบสนองของเหล่าสาวก คำอุปมาเรื่องบุตรสองคน(มัทธิว21:28-32) ลูกสองคนนี้ใครคือผู้ที่ตอบสนองการเรียกให้เป็นสาวกอย่างแท้จริงมากกว่ากัน? คำอุปมาเรื่องงานเลี้ยงใหญ่ (,ลูกา14:15-24) ใครคือผู้ที่ถูกเรียกแล้วแต่ไม่ยอมมา? ใครคือผู้ที่อยู่ตามท้องถนนแล้วได้รับการเรียกนั้น? ใครคือผู้ที่เราจะต้องออกไปประกาศเพื่อนำเขาให้เข้ามาในงานเลี้ยง?
การตอบสนองของสาวก คำอุปมาเรื่องเจ้าของสวนองุ่นกับผู้เช่าสวนที่ชั่วร้าย(ลูกา20:9-19) “คำอุปมาเรื่องเจ้าของสวนองุ่นมิได้หมายถึงชนชาติอิสราเอลเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับเราด้วย คริสตจักรในยุคนี้ได้รับการรับรองโดยพระเจ้าซึ่งเป็นสิทธิพิเศษและพระพรอันยิ่งใหญ่ และพระองค์ทรงยอมรับการตอบสนองของเรา” (EGW, Christ’s Object Lessons, p. 296) เหล่าผู้ซึ่งได้รับความรอด รู้จักพระองค์ และรู้ถึงพระคำของพระองค์ จะต้องตอบสนองการทรงเรียกอันสำคัญนี้ของพระองค์ต่อหน้าชาวโลกทั้งมวล เราได้รับพระพรอย่างมากมาย ดังนั้นพระองค์จึงทรงประสงค์การตอบสนองจากเราด้วย
คำอุปมาในพระคัมภีร์ใหม่คำอุปมาในพระคัมภีร์ใหม่ ในพระธรรมกิจการได้เปิดเผยให้เห็นถึงการใช้คำอุปมา การเปรียบเทียบ และสัญลักษณ์ ซี่งการสำแดงเช่นนั้นช่วยให้เราเข้าใจข้อความของข่าวประเสริฐนั้น เราได้ถูกเรียกร้องให้ใช้คำเปรียบเทียบเป็นแหล่งข้อมูลเมื่อจะเทศนา
ให้เรากระทำในสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำให้เรากระทำในสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำ “พระเยซูพยายามที่จะเข้าถึงจิตใจของทุกๆ คน โดยใช้เรื่องตัวอย่างที่หลากหลาย พระองค์ไม่เพียงนำเสนอความจริงในลักษณะที่แตกต่างออกไปเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงนำเสนอให้กับผู้คนที่แตกต่างกันได้ฟังอีกด้วย” E.G.W. (Christ’s Object Lessons, cp. 1, pg. 21)