10 likes | 75 Views
ฟาร์ม จ. ดินชุดโคราช ปริมาณฝนเฉลี่ย 1,500 – 1,700 มม./ปี เป็นฟาร์มขนาดกลาง เกษตรกรมีฐานะปานกลาง นายคำไหล ลิวัน อายุ 53 ปี.
E N D
ฟาร์ม จ. ดินชุดโคราช ปริมาณฝนเฉลี่ย 1,500 – 1,700 มม./ปี เป็นฟาร์มขนาดกลาง เกษตรกรมีฐานะปานกลาง นายคำไหล ลิวัน อายุ 53 ปี สภาพทั่วไปของฟาร์ม:อยู่ บ้านเลขที่ 118 หมู่ 1 บ้านห้วยข่า ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัด อุบลราชธานี พื้นที่ติดกับส่วนต้นน้ำของแม่น้ำลำโดมน้อย ซึ่งพื้นที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ ลักษณะฟาร์ม:พื้นที่ทำการเกษตรมีทั้งหมดจำนวน 43 ไร่ ลักษณะพื้นที่ฟาร์มเป็นที่เนินดอนลาดเทลงสู่ลำน้ำ 3 ด้าน ดินมีลักษณะเป็นดินทรายตะกอน บริเวณที่ลุ่มอยู่ติดห้วยลำโดมน้อย เกษตรกรมีสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด 4 คน มีแรงงานในครอบครัว 2 คน เพื่อทำการกรีดยางและทำยางแผ่นตลอดจนดูแลรักษาสวนยางพารา กิจกรรมในฟาร์ม:เป็นลักษณะผสมผสานระหว่างข้าวกับยางพารา พื้นที่ปลูกยางมี 2 แปลง แปลงแรกพื้นที่ 8 ไร่ เปิดกรีดเมื่อปี พ.ศ. 2546 แปลงที่สองยังไม่ได้เปิดกรีดมีพื้นที่ 5 ไร่ แปลงที่สามใช้ทำนามีพื้นที่ 30 ไร่ จากข้อมูลในตารางดินในแปลงตัวอย่างพบว่ามีปริมาณอินทรียวัตถุ โพแทสเซียมและ ฟอสฟอรัส อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานของดินทั่วไป และ pH อยู่ในระดับกรดอ่อน จึงสรุปได้ว่าดินในแปลงตัวอย่างมี pH เหมาะสมในการปลูกยางพารา เพราะอยู่ในช่วง 4.0-5.5 ข้อเสนอแนะ:ควรมีการจัดการเรื่องธาตุอาหารในดินโดยการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตยางพารา การวิเคราะห์การเจริญเติบโตยางพาราแปลงตัวอย่าง จากการสุ่มตัวอย่างต้นยางพาราในแปลงตัวอย่าง เพื่อวัดการเจริญเติบโตพบว่าขนาดลำต้นมีเส้นรอบต้นเฉลี่ย 52.6เซนติเมตร ความสูงเฉลี่ย 13.52 เมตร ขนาดทรงพุ่มเฉลี่ย 4.96 เมตร และเปอร์เซ็นต์แสงส่องพื้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ตารางที่ 2 ต้นทุนการผลิตยางพาราตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงปัจจุบัน การปลูกยางพารา :เกษตรกรมีการปลูกยางพารา 2 แปลงพื้นที่แรก8 ไร่ ปลูกเมื่อปี พ.ศ. 2536 พันธุ์ RRIM600 แปลงที่สองพื้นที่ 5 ไร่ ปลูกปี พ.ศ. 2549 พันธุ์ RRIM600 วิเคราะห์การลงทุนและผลตอบแทนในการปลูกยางพารา (แปลงปลูกที่ 1) การปลูก :พื้นที่ปลูก 8 ไร่ ปลูกเมื่อเดือนกรกฎาคมปี พ.ศ. 2536 พันธุ์ RRIM600 ต้นพันธุ์เป็นต้นยางชำถุงขนาด 2 ฉัตร แหล่งต้นพันธุ์จากสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ระยะห่างในการปลูก 3.3 x 6 เมตร ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร โดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตรร็อคฟอสเฟตรองก้นหลุม การกำจัดวัชพืช :ในปีแรกถึงปีที่สองไม่มีการกำจัดวัชพืชขาดแรงจูงใจ เนื่องจากช่วงที่ปลูกราคายางต่ำ แต่ในปีที่สามถึงสี่มีการจ้างแรงงานถางหญ้าและไถพรวนกำจัดวัชพืชในปีที่ห้าถึงปีปัจจุบันใช้สารกำจัดวัชพืชประเภทดูดซึม โดยในแต่ละปีจะมีการกำจัดวัชพืชปีละ2 ครั้ง และในครั้งที่ 2 จะทำพร้อมกับการทำแนวกันไฟทุกปี การใส่ปุ๋ย :ใส่ปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง ทุกปีในช่วงต้นฝนและปลายฤดูฝน ในปีที่ 1-7 ใช้สูตร 18-4-5 ในปีที่ 7-14 ใช้สูตร 15-7-18 ขณะเดียวกันเกษตรกรมีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์มูลค้างคาวในปีที่เริ่มกรีดจนถึงปัจจุบันปีละ18 กระสอบ การกรีด :เกษตรกรกรีดและทำยางแผ่นเอง โดยจะทำการเปิดหน้ายางในเดือนเมษายนและกรีดเดือนพฤษภาคม – เดือนมกราคม ในการกรีดจะแบ่งขนาดลำต้นเพื่อกรีดยางเป็น ½ ของลำต้นในการกรีดยางปกติจะกรีด 2 วัน หยุด 1 วัน ยกเว้นในช่วงที่ฝนตกชุกและจากการสังเกตในแปลงพบว่าหน้ายางเสียหายมากเนื่องจากเกษตรกรกรีดหน้ายางลึก ผลผลิตฟาร์มตัวอย่าง เกษตรกรมีการขายผลผลิต 2 ครั้งต่อเดือน ที่สหกรณ์รับซื้อยางพาราอำเภอบุณฑริก และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอำเภอบุณฑริก เกษตรกรเริ่มเปิดหน้ายางและทำการกรีดราวๆ เดือนเมษายน ผลผลิตครั้งแรกแต่ละปีขายในรูปของขี้ยางพาราประมาณ 180-250 กิโลกรัมต่อเดือนไม่ได้ทำยางแผ่น ในเดือนที่สองจะขายผลผลิตในรูปของขี้ยางประมาณ 250-300 กิโลกรัม และทำเป็นยางแผ่นบ้างเล็กน้อยประมาณ 50 - 100 แผ่นต่อเดือน (1 แผ่น ประมาณ 1.3-1.5 กิโลกรัม) ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนจะได้ผลผลิตประมาณ 10 - 15 แผ่นต่อวัน โดยเฉลี่ยในฤดูหนาว (เดือนตุลาคม – เดือนมกราคม) ผลผลิตยางพารามีปริมาณมากที่สุดประมาณ 15-20 แผ่นต่อวัน เกษตรกรจะหยุดกรีดเมื่อยางเริ่มผลัดใบในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ ผลผลิตประมาณวันละ 17- 18 แผ่น และน้ำยางจะใสไม่ข้น ทั้งนี้ปริมาณผลผลิตก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและปริมาณฝนด้วยเช่นกัน สรุปและวิจารณ์ผล จากการศึกษาฟาร์มนี้ พบว่าเกษตรกรไม่มีการดูแลดูแลแปลงยางในช่วงแรกปลูก จึงทำให้ต้นยางเจริญเติบโตช้า เริ่มกรีดได้เมื่อยางอายุ 10 ปี เมื่อยางอายุ 14 ปี และได้ทำการเปิดกรีดมาแล้ว 4 ปี มีขนาดเส้นรอบลำต้นหลังกรีด เฉลี่ย 52.6 เซนติเมตร ส่วนผลการวิเคราะห์ค่าตอบแทนและต้นทุนการผลิตเชิงเศรษฐศาสตร์นั้น เนื่องจากต้องรอข้อมูลผลผลิตและจำนวนวันกรีดรายเดือนจากสหกรณ์รับซื้อยางพาราและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอำเภอ บุณฑริก ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อขอความอนุเคราะห์ข้อมูล โดยการสรุปวิเคราะห์ผลที่สมบูรณ์จะเสร็จสิ้นเมื่อสิ้นสุดโครงการวิจัยฯ สิ้นปี 2549 ตารางที่ 1 ผลวิเคราะห์เคมีดินในฟาร์มตัวอย่าง