1 / 19

การเลือกซื้อแท็บแล็บ

การเลือกซื้อแท็บแล็บ.

Download Presentation

การเลือกซื้อแท็บแล็บ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การเลือกซื้อแท็บแล็บ

  2. 1. ระบบปฏิบัติการสิ่งแรกที่เราต้องรู้จักและทำความเข้าใจก็คือระบบปฏิบัติการ หลายคนอาจจะงงๆว่าระบบปฏิบัติการคืออะไร ? ระบบปฎิบัติการคือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ทแวร์ และเป็นโปรแกรมที่เป็นตัวกลางให้โปรแกรมอื่นๆที่อิงกับระบบปฎิบัติการนั้นสามารถทำงานกับฮาร์ทแวร์ได้ โดยระบบปฏิบัติการที่เราคุ้นเคยเช่น Windows ซึ่ง Windows XP, Windows Vista หรือ Windows 7 ต่างๆเหล่านี้ถือเป็นระบบปฏิบัติการตัวนึงและแท็บเล็ตก็จำเป็นที่ต้องมีระบบปฏิบัติการไว้สำหรับใช้งาน ซึ่ง มีระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้งานกันได้แก่

  3. iOSระบบปฏิบัติการจากค่าย Apple ซึ่งแท็บเล็ตที่ใช้อยู่ก็คือ iPadนั่นเอง และถ้าให้พูดถึงจุดเด่นของ iOSแล้วละก็คงจะเป็นที่ประสิทธิภาพในการทำงานกับฮาร์ดแวร์ และจัดการหน่วยความจำที่ดีถ้าเทียบกับแท็บเล็ทอื่นที่มีหน่วยความจำและหน่วยประมวลผลกลางเท่ากันแล้ว iOSยังมีการทำงานที่ดีกว่า ส่วนข้อด้อยเป็นระบบปฏิบัติการตัวเดียวที่ไม่รองรับ Flash (ไม่สามารถแสดงผลได้) และการเชื่อมต่อที่ต้องทำผ่านซอฟท์แวร์ iTuneเท่านั้น

  4. Androidระบบปฏิบัติการจากค่าย Google เดิมทีทาง Google ได้พัฒนาขึ้นมาใช้สำหรับมือถือสมาร์ทโฟนซึ่งก็มีบางค่ายได้นำไปปรับปรุงแล้วใส่ในแท็บเล็ต ตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy Tab รุ่นแรกโดยตัวระบบปฏิบัติการที่ใช้นั่นจะเป็น Android Froyoต่อมาทาง Google ถึงได้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นใหม่ให้รองรับแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดใหญ่กว่ามือถือสมาร์ทโฟนโดยตั้งชื่อมันว่า Honeycombซึ่งจะมีหลายเวอร์ชั่นด้วยกันดังนี้

  5. Windows ระบบปฏิบัติการจากค่าย Microsoft หลายคนอาจจะชินและคุ้นเคยกับการใช้งาน Windows เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยิ่งหน้าจอเป็นแบบสัมผัสอีกด้วยก็ช่วยให้แท็บเล็ตน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามตัว Windows 7 นั้นยังคงไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้สำหรับแท็บเล็ต บางส่วนจึงอาจจะเล็กเกินไปที่จะใช้นิ้วสัมผัสได้ นอกจากนี้ระยะเวลาการใช้งานก็ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ iOS, Android และ BlackBerry Tablet OS

  6. BlackBerry Tablet OSระบบปฏิบัติการจากค่าย RIM เจ้าของมือถือสมาร์ทโฟนBB นั่นเอง โดยระบบปฏิบัติการตัวนี้จะพัฒนามาสำหรับ PlayBookโดยเฉพาะ การทำงานโดยรวมก็ถือได้ว่าลื่นไหลไม่แพ้ iOSนอกจากนี้ยังออกแบบการใช้งานโดยวิธีการสัมผัสต่างๆช่วยให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น จุดเด่นอีกอย่างก็คือการทำงานของ Multitasking หรือเปิดแอพพลิเคชั่นหลายตัวพร้อมกันสามารถทำได้ดีกว่าระบบปฏิบัติการตัวอื่นๆ หรือเทียบเท่า Windows ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม PlayBookจำเป็นจะต้องมีมือถือ BB ถึงจะสามารถใช้งานส่วน เช็คอีเมลล์, รายชื่อ, ปฏิทิน, BBM ได้ และยังไม่รองรับภาษาไทยอีกด้วย

  7. 2. ขนาดหน้าจอ แท็บเล็ตในท้องตลาด ณ ตอนนี้มีหลายขนาดให้เลือกซื้อ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานหรือความชอบของแต่ละคน โดยผมจะขอแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ดังต่อไปนี้ คือ 7 นิ้ว - ขนาดไม่ใหญ่มากพกพาสะดวกเหมือนกับเราพกพ็อกเก็ตบุ๊คสักหนึ่งเล่ม 10 นิ้ว - จอใหญ่แสดงผลได้เยอะแต่ขนาดและน้ำหนักก็จะใหญ่และสูงตามไปด้วย

  8. 3. น้ำหนัก ถือเป็นปัจจัยหลักที่ต้องคำนึงถึงเนื่องจากโดยทั่วไปแล้วเรามักจะถือใช้งานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผมได้สัมผัสมาหลายตัวบอกได้เลยว่าตัวที่มีน้ำหนักประมาณ 700 กรัมจะถือได้ไม่นานเท่าไรนัก และยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงแล้วละก็คงจะถือไม่ไหวอย่างแน่นอนต้องอาศัยการวางบนโต๊ะสลับกับถือเป็นระยะๆแทน หรืออีกวิธีก็คือวางบนตักคงพอใช้งานได้นานขึ้นอีกนิด

  9. 4. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แท็บเล็ตส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นกว้างๆได้แก่ WiFiและ 3G + WiFiการเลือกซื้อเราต้องดูลักษณะการใช้งานของตัวเราเอง ถ้าเราใช้เฉพาะในบ้านหรือในอาคารเสียเป็นส่วนใหญ่รุ่น WiFiอย่างเดียวก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วเพราะราคาจะไม่สูงมากสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย WiFiภายในบ้านหรือตามสถานที่ต่างๆได้ หรืออีกกรณีถ้าใครมี MiFiอยู่แล้ว (อุปกรณ์สำหรับกระจายสัญญาณ WiFiโดยเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 3G ราคาตัวอุปกรณ์ตกประมาณ 3 - 4 พันบาท) ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่น 3G + WiFiก็ได้ซื้อรุ่น WiFiอย่างเดียวก็เพียงพอ แต่ถ้าใครไม่มี MiFiและไม่อยากจะซื้อรุ่น 3G + WiFiยังมีอีกตัวเลือกก็คือ AirCardเนื่องจากตัวอุปกรณ์มีราคาไม่สูงเพียง 1 - 2 พันบาท แต่ก็จะใช้ได้เพียงแท็บเล็ตที่รันระบบปฏิบัติการ Windows เท่านั้นระบบปฏิบัติการอื่นๆยังคงไม่รองรับ

  10. 4.ความจุ บางรุ่น คือไม่สามารถเพื่มความจุได้หรือ ไม่มีช่องเสียบ SD CARD หรือ Micro SD card ก็ต้องเลือกตามการใช้งานของเรา มีทั้งแบบ 16GB,32GB,64 GB ซึ่งราคาก็ต่างกัน ซึ่งสำหรับส่วนตัวเองขอแนะนำนะคะ 16 GB นี่คือต้องลงแอฟ ไม่เยอะ เกมส์ไม่เยอะ เพราะบางแอพหนักๆก็มีขนาด 1GB แล้ว ลัเราก็ต้องมานั่งลบแอพ ประมาณนี้ ถ้ามีงบ ก็ซื้อความจุสูงๆปเลยก็ได้ แต่คนเขียนขอแนะนำ เป็น 32GB กำลังดีค่ะ แต่ถ้าคนไหนชอบแบบเพิ่มความจำได้ก็คงต้องโบกมือลา IOS ไปเลยนะคะ

  11. 5.ช่องเสียบ ในตัวของค่าย IOS จะไม่มีให้นะคะเราต้องไปดูในส่วน ของ Android และ Window ค่ะ ส่วนใหญ่ก็มีตามนี้  USB / Mini USB / micro USB - สำหรับเสียบ Flash Drive, External Harddisk, เม้าส์, คีย์บอร์ด  HDMI / mini HDMI / micro HDMI - เอาไว้ต่อเอาภาพจากแท็บเล็ตออกจอทีวี  SD / SDHC / microSD - กล้องดิจิตอลหรือกล้องวีดีโอส่วนมากจะใช้การ์ด SDHC หรือ SD ซึ่งเราก็สามารถจะนำไปเสียบเข้ากับแท็บเล็ตที่มีช่องเหล่านี้เพื่อทำการโอนถ่ายข้อมูลได้ทันที หรือถ้าเครื่องไหนมีช่องเสียบ microSDก็สามารถใช้เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลต่างๆได้มากกว่าความจุที่มีอยู่ในเครื่อง

  12. 6. แอพพลิเคชั่น เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มมิติและประโยชน์ในการใช้งานของแท็บเล็ต ขอบอกตามประสบการณ์นะคะ iOSส่วนใหญ่จะ แอฟเสียตังค์ แต่แอพดีๆสเถียรเยอะ และ Android แอฟฟรีจะเยอะแต่ก็ต้องเลือกเพราะบางแอฟก็ไม่ได้เสถียรกับเครื่องประมาณนี้ค่ะ และลูกเล่นเพิ่ม อย่าง คีย์บอร์ด ปากกาสไตลัส กล้องสามมิติ แต่ละค่าย ก็จะมีลูกเล่นเพื่อความเด่นของตัวเอง 7.ราคา ดูตามกำลังและ สิ่งที่เราจะใช้งนให้ได้ประโยชน์สูงสุดไม่ใช่ซื้อมาแล้วแท็บเล็ตจะกลายเป็นเครื่องทับกระดาษ หรือเครื่องเล่นเกมส์เท่านั้น

  13. เปรียบเทียบ แท็บเล็ต ราคาประหยัด Acer Iconia B1 กับ Asus MeMO Pad รุ่นไหนคุ้มค่ากว่ากัน? หากมองตลาดของ แท็บเล็ต (Tablet) ราคาประหยัด หรือ แท็บเล็ต ในช่วงปี 2012 ที่ผ่านมา ก็จะพบว่าส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะเป็น แท็บเล็ต จากประเทศจีน หรือ แท็บเล็ต แบรนด์ไทยเสียส่วนใหญ่ ที่เข้ามาทำตลาดนี้อย่างจริงจัง ด้วยจุดแข็งสำคัญก็คือราคาถูก พร้อมความสามารถครบเครื่องนั่นเอง แต่ล่าสุดยังไม่ทันจะข้ามเดือนแรกของปี 2013 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับอินเตอร์อย่าง Acer (เอเซอร์) และ Asus (เอซุส) ก็ได้ฤกษ์ส่ง แท็บเล็ต ตัวเด็ดเข้ามารุกตลาด แท็บเล็ต ราคาประหยัดกันอย่างจริงจังบ้างแล้ว นั่นก็คือ Acer Iconia B1 และ Asus MeMO Pad

  14. จากตารางเปรียบเทียบด้านบนจะเห็นว่า ทั้ง Acer Iconia B1 และ Asus MeMO Pad ต่างก็มีข้อได้เปรียบ และข้อเสียเปรียบของ โดยขอสรุปเป็น 2 กรณีดังนี้ กรณีแรก หากมีงบประมาณไม่มากนัก แต่ต้องการความแรงของซีพียูระดับ Dual-Core และต้องการใช้งานจีพีเอส (GPS)การเลือกซื้อ Acer Iconia B1 ก็ดูจะเหมาะสมมากกว่า กรณีที่สอง หากสามารถเพิ่มงบประมาณได้นิดหน่อย (ประมาณ 1,000 บาท) โดยต้องการความลื่นไหลของการทำงานโดยรวมด้วยแรม (RAM) ขนาด 1 GB, มีการถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดีโออยู่เป็นประจำ รวมไปถึงต้องการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยครั้ง การเลือกซื้อ Asus MeMO Pad ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

  15. สรุปแล้ว สำหรับท่านผู้ซื้อท่านใดที่กำลังเกิดความลังเลในการเลือกซื้อระหว่าง Acer Iconia B1 กับ Asus MeMO Pad ก็แนะนำให้ท่านลองกลับไปพิจารณาความต้องการของตัวท่านเองก่อนเป็นอันดับแรก โดยอาจจะอาศัยข้อมูลข้างต้นในการพิจารณา หรือสุดท้ายหากยังไม่แน่ใจอีก ก็สามารถไปสัมผัส และทดลองใช้งานจริงที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อความมั่นใจได้เช่นกัน

  16. นางสาวอัจฉราวดี ทองดี ม. 6/2 เลขที่ 32

More Related