360 likes | 688 Views
บทกวีสำหรับผู้นำ. วันพรุ่งนี้. เชื่อเอ๋ยเชื่อมั่น เธอจะสรรค์เธอจะสร้างทางเธอได้ ให้ความรักความศรัทธาพาเธอไป สู่บ้านแห่งดวงใจได้พิงพัก ให้เธอมีเสรีที่จะคิด หาถูกผิดค้นความหมายได้ประจักษ์ ให้เธอมีเสรีที่จะรัก เพื่อทอถักความฝันวันพรุ่งเอย. ชีวิตและเงื่อนไข.
E N D
วันพรุ่งนี้ เชื่อเอ๋ยเชื่อมั่น เธอจะสรรค์เธอจะสร้างทางเธอได้ ให้ความรักความศรัทธาพาเธอไป สู่บ้านแห่งดวงใจได้พิงพัก ให้เธอมีเสรีที่จะคิด หาถูกผิดค้นความหมายได้ประจักษ์ ให้เธอมีเสรีที่จะรักเพื่อทอถักความฝันวันพรุ่งเอย
ชีวิตและเงื่อนไข เราอยากงอกงาม สำเร็จสมความใฝ่ฝัน เติบกล้าท้าแสงตาวัน ยืนมั่นไม่พรั่นแรงลม และนี่คือเงื่อนไข ถ้าเราอยู่ในความเหมาะสม อยากเป็นต้นไม้ไม่ล้ม รากต้องจมหยั่งตรงลงลึกพอ
เพื่อนรัก เธอจะตักตวงสุขซึ่งทุกข์มหันต์ บนยอดภูที่พุ่งและสูงชัน หรือจะเดินดุ่มดั้นบนดินแดน ก้าวต่อไปเท่าที่เธอมีสิทธิ์ คิดต่อไปตราบชีวิตยังโลดแล่น ขอจำเพียงยังมากคนซึ่งข้นแค้น มิเคยแหงนเห็นดาวบนเขาเลย
๑. ผู้นำ ในการปกครองประเทศ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ถือประชาชนเป็นที่สุด ถือขุนนางเป็นที่สอง และถือตนเองเป็นที่สาม
๒. ชีวิตผู้นำ รักตนเองด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น รักผู้อื่นด้วยการฝึกตนเอง ข้อสำคัญของการแก้ไขผู้อื่น คือการแก้ไขตนเอง คือการหาความสุขให้ผู้อื่น
๓. นิสัยของผู้นำ กล้าหาญไยต้องหยาบคาย อ่อนโยนไยต้องอ่อนแอ ความอ่อนโยน คือความเข้มแข็งที่ยิ่งใหญ่ ความแข็งกระด้าง คือความอ่อนแอที่แท้จริง คนขลาดต่อสู้ด้วยการทำลายศัตรู ผู้กล้าต่อสู้ด้วยการสร้างมิตร
๔. ผู้นำคือผู้ให้ ห้าสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ หนึ่ง คือ การให้อภัย สองคือการให้โอกาส สามคือการให้คำชี้นำ สี่ คือให้การช่วยเหลือ ห้าคือให้เสรีภาพ
๕. ให้โอกาสของผู้นำ มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อความยิ่งใหญ่ มันยิ่งใหญ่อยู่แล้วที่ได้เกิดมา มนุษย์เพียงแต่ใช้โอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้ ให้เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ก็พอ
๖. ผู้นำกับความรัก อาวุธยิ่งดีศัตรูยิ่งกล้าแข็ง กฎระเบียบยิ่งมากยิ่งเปิดช่องโหว่ ยิ่งบังคับควบคุมยิ่งไร้ประสิทธิภาพ คำสั่งยิ่งมากยิ่งผิดพลาดอยู่เสมอ หนึ่งในศิลปะแห่งการปกครองชั้นสูง คือทำให้รักไม่ใช่ทำให้กลัว
๗. ที่สุดของผู้นำ ที่สุดของการสะสม ก็คือ การขาดแคลน ที่สุดของเกียรติยศก็คือ การไร้กัลยาณมิตร ที่สุดของความมั่นคงก็คือ การหวาดระแวง ที่สุดของรสชาติก็คือ ความจืดชืด มีแต่ที่สุดของการให้เท่านั้นที่ผู้ให้จะได้ประโยชน์สูงสุด
๘. ศิลปะของผู้นำ หยุดอยู่เป็นศิลปะของการเคลื่อนไหว สงบเงียบเป็นศิลปะของการเจรจา รอคอย เป็นศิลปะของการไขว่คว้า เฝ้าดู เป็นศิลปะของการเปลี่ยนแปลง ละวางเป็นศิลปะของการเรียนรู้
ทฤษฎีการพูดที่ใช้สำหรับพูดจูงใจหรือชักชวนทฤษฎีการพูดที่ใช้สำหรับพูดจูงใจหรือชักชวน
1.บันได 5 ขั้น ของ มอนโร (MONROE)
2. หลักของไอด้า (AIDA) A ttention = เรียกร้องความสนใจ I nterest = เร้าให้เห็นประโยชน์อันพึงได้ D esire = จุดไฟปรารถนา a ction = พาให้ลงมือกระทำ
3. หลักของบอร์เด็น (BORDEN) ๑. จงจุดไฟให้ลุก ๒. ปลุกให้เห็นคล้อยตาม ๓. พยายามหาข้อสนับสนุน ๔. กระตุ้นหรือเรียกร้องให้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง
มนุษยสัมพันธ์มนุษยสัมพันธ์ คือการมีเสน่ห์ต่อบุคคลทั่วไปที่รู้จักหรือพบเห็น ๑.อยากมีคนรักมาก ๆ ต้องทำอย่างไร ๑.๑ต้องรู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ๑.๒ต้องรักกันสนใจกัน ๑.๓ต้องรู้จักให้เกียรติแก่กัน ๑.๔ต้องเคารพต่อหน้าที่ของตน และไม่ก้าวก่ายหน้าที่ผู้อื่น
๒.อยากมีเพื่อนมาก ๒.๑ต้องมีความเอื้อเฟ้อเผื่อแผ่เสียสละเมื่อถึงคราวต้องเสียสละ ๒.๒พูดจาน่าฟังน่าเชื่อถือ ๒.๓ชอบช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความจริงใจ ๒.๔วางตนเสมอต้นเสมอปลาย เคยอยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น
๓. อยากมีเพื่อนที่ดีนาน ๆ ๓.๑อย่าห่างเหินกันเกินไป ๓.๒อย่าใกล้ชิดเกินไปอาจทำให้รำคาญ ๓.๓อย่าขอความช่วยเหลือกันพร่ำเพรื่ออาจทำให้เบื่อหน่าย
๔. อยากมีเพื่อนแท้ ๔.๑ต้องรู้จักอุปการะกัน ๔.๒ต้องรู้จักสงเคราะห์กัน ๔.๓ต้องรู้จักกตัญญูกตเวทีต่อกัน ๔.๔ต้องรู้จักเคารพในสิทธิและเสรีภาพของกันและกัน
๕.คนที่ลืมกันไม่ลง (เพื่อนตาย) ๕.๑ซื่อตรงต่อกัน ๕.๒รู้คุณและตอบแทนคุณกัน ๕.๓จงรักภักดีต่อกัน
๖. ความสามัคคีเกิดจาก ๖.๑ความเอื้อเฟื้อต่อกัน ๖.๒พูดจาอ่อนหวานต่อกัน ๖.๓ช่วยเหลือกันยามยาก ๖.๔วางตนเสมอกัน ๖.๕ไม่ถือความขัดแย้งเป็นเรื่องสำคัญ ๖.๖ไม่เอาแพ้ชนะกัน ๖.๗ถือประโยชน์ส่วนรวม
๗. สิ่งที่ทำลายความสัมพันธ์ของมนุษย์ ๗.๑ ความอิจฉาริษยากัน ๗.๒การแก่งแย่งแข่งดีกัน ๗.๓ความไม่รู้จักอิ่มจักพอ ๗.๔ความเอารัดเอาเปรียบ ๗.๕ความหลอกลวงกัน ๗.๖การประหัตประหารกัน ๗.๗การลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง ๗.๘ความลืมตัว
เทคนิคการทำงานร่วมกับผู้อื่นเทคนิคการทำงานร่วมกับผู้อื่น
มนุษย์ต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคมมีแบบแผนชีวิตขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมตามสภาพสังคมของชนแต่ละหมู่เหล่ามนุษย์ต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคมมีแบบแผนชีวิตขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมตามสภาพสังคมของชนแต่ละหมู่เหล่า • สังคมมนุษย์จึงมีความเจริญก้าวหน้าและพัฒนายิ่งกว่าสัตว์ร่วมโลกทุกชนิดเพราะเกิดจากกระบวนการทำงานร่วมกันสร้างสรรค์สรรพความรู้ศิลปวิทยาการและเทคโนโลยีสะสมมาจนถึงปัจจุบันเช่นการประดิษฐ์อักษรไทยกำแพงเมืองจีนปิรามิดในอียิปต์นครธม นครวัดของเขมรฯลฯ • สิ่งเหล่านี้ย่อมยืนยันว่ามนุษย์ร่วมกันคิดร่วมกันทำการทำงานร่วมกันของมนุษย์มีพลังยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์เกินกว่าที่จะคาดคิดได้ยิ่งในยุคปัจจุบันระบบการศึกษาส่งเสริมให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มสร้างทีมงานเพื่อให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ในการทำงานของคนไทยในยุคใหม่ให้มากขึ้น
การทำงานร่วมกับผู้อื่นจะประสบผลสำเร็จต้องประกอบด้วยการทำงานร่วมกับผู้อื่นจะประสบผลสำเร็จต้องประกอบด้วย ๑. สมาชิกทุกคนต้องเคารพตัวเองเชื่อมั่นในความเป็นมนุษย์ของตนเองและเคารพความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ๒. สมาชิกทุกคนต้องเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีค่า มีร่างกายเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามหาศาล ๓. ในสังคมต้องมีทั้งผู้นำผู้ตามงานจะสำเร็จสมบูรณ์ต้องมีผู้นำที่ดีและผู้ตามที่ดี สภาวะผู้นำและผู้ตามจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์แวดล้อม ๔. ทุกคนเป็นเจ้าของงานที่ทำเกิดอารมณ์และความรู้สึกร่วมกัน ไม่แตกแยกกันปลูกฝังให้สมาชิกผูกพันงานที่ทำ
๖. สมาชิกทุกคนต้องเปิดใจให้กว้างยอมรับข้อจำกัดของแต่ละคนไม่บังคับให้คิดเหมือนกันต้องทำเหมือนกันกล้ารับฟังคำวิจารณ์และความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน๖. สมาชิกทุกคนต้องเปิดใจให้กว้างยอมรับข้อจำกัดของแต่ละคนไม่บังคับให้คิดเหมือนกันต้องทำเหมือนกันกล้ารับฟังคำวิจารณ์และความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน ๗รับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายและกล้ารับผิดชอบในงานที่ได้กระทำพร้อมที่จะแก้ไขหรือพัฒนา ๘. มีคุณธรรมในการดำรงชีวิตเพื่อกำกับจิตใจของตนเองโดยเฉพาะคุณธรรมที่สอดคล้องกับวิถีประชาธิปไตย การทำงานร่วมกันต้องศึกษาเพื่อนร่วมงานค้นหาความเป็นจริงของเพื่อน-ร่วมงานเพราะความเป็นจริงของมนุษย์คือความเป็นจริงที่จริงที่สุดในโลกยิ่งกว่าความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ฯลฯ
พูดอย่างไรให้คนเชื่อถือพูดอย่างไรให้คนเชื่อถือ การพูดให้คนเชื่อถือนั้นเป็นของไม่ยาก พื้นฐานสำคัญไม่ได้อยู่ที่วิธีการพูดเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ตัวผู้พูดเป็นสำคัญคนที่พูดแล้วมีคนเชื่อถือต้องมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับมาตรฐานต่อไปนี้
๑. เป็นผู้มีความรู้ดี รู้ในทางอาชีพของตน รู้รอบตัว รู้จักวัฒนธรรมอันดีงามและสามารถถ่ายทอดได้ดี ๒. มีความกล้าหาญสามารถผจญกับอุปสรรคต่าง ๆ ได้ไม่กลัวการต้านทานไม่กลัวอันตรายมีความมั่นใจในสิ่งที่กระทำลงไป ๓. มีความคิดริเริ่มสามารถสร้างสรรค์งานที่รับผิดชอบให้ก้าวหน้าและมีผลงานโดยไม่ลังเลใจ ๔. ตัดสินใจได้ทันที ตัดสินใจและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ฉับไวและเหมาะสมกับเหตุการณ์ได้ทุกครั้ง ๕. มีความเป็นกันเองกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับทุกคนไม่ถือตัวว่ามีธุระหรือทำตัวมีฐานะมีอำนาจมียศศักดิ์เหนือคนอื่น
๖. มีความยุติธรรมยึดมั่นในความถูกต้องไม่แบ่งกลุ่มว่าพวกเขาพวกเราถือว่าเป็นพวกเดียวกันหมด ๗. ไว้วางใจได้เป็นผู้เก็บความลับได้ไม่พูดพล่อยทำงานตามที่ได้ตั้งใจเสมอ ๘. สง่าผ่าเผยวางตัวดีแต่ต้องเข้ากับสถานการณ์ และสังคมได้ทุกครั้ง ๙. อดทนและกระตือรือร้นไม่เห็นแก่ตัวแสดงการเป็นผู้ให้ตลอด ๑๐. บังคับตนเองได้ไม่หลงเพลิดเพลินในประสาทสัมผัสทั้ง๕คือรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสจนเสียงาน
ถ้าท่านปฏิบัติตัวได้ใกล้เคียงกับมาตรฐานที่กล่าวมาท่านจะเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือแม้ว่าท่านจะมีวิธีการพูดที่ไม่ดีท่านก็น่าเชื่อถือไปครึ่งหนึ่งแล้วแต่เพื่อให้บรรลุผลสุดยอดทางการพูดทุกครั้งท่านควรจะต้องถ้าท่านปฏิบัติตัวได้ใกล้เคียงกับมาตรฐานที่กล่าวมาท่านจะเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือแม้ว่าท่านจะมีวิธีการพูดที่ไม่ดีท่านก็น่าเชื่อถือไปครึ่งหนึ่งแล้วแต่เพื่อให้บรรลุผลสุดยอดทางการพูดทุกครั้งท่านควรจะต้อง ๑.แสดงให้เห็นถึงหลักฐานและเหตุผลอย่างหนักแน่นมีค่าแก่การยอมรับอย่างแท้จริงในเรื่องที่ท่านกำลังพูดถึงด้วยการอ้างทฤษฎีอ้างบุคคลอ้างสถาบันอ้างคนส่วนใหญ่ ๒.สร้างอารมณ์ให้ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วมให้ได้โดยการวิเคราะห์ผู้ฟังให้ละเอียดก่อนการพูดทุกครั้ง
๓. อย่าบอกให้ผู้ฟังทำตามท่านแต่ให้เหตุผลทั้งข้อดีและข้อเสียต้องการให้ ผู้ฟังตัดสินใจเลือกไปในทางใดก็เพื่อเพิ่มน้ำหนักทางนั้นและให้ผู้ฟังตัดสินใจเลือกเองผู้ฟังจะมีความภูมิใจที่ไม่ถูกชี้แนะ ๔. เร้าให้เกิดอารมณ์โดยใช้น้ำเสียงในการเสนอแนะขอร้องวิงวอนหรือเร้าใจโดยใช้คำที่มีความหมายลึกซึ้งกินใจมีจังหวะที่นิ่มนวลหรือแข็งกร้าวแล้วแต่อารมณ์ที่ผู้พูดต้องการให้ผู้ฟังเกิดจะไม่ใช้การข่มขู่บีบบังคับหรือใช้กำลังคุกคาม
ตัวอย่างการเน้นเสียงที่ทำให้เกิดพลังน่าเชื่อถือตัวอย่างการเน้นเสียงที่ทำให้เกิดพลังน่าเชื่อถือ • ข้าพเจ้าได้รับความสำเร็จในทุกประการที่ข้าพเจ้ารับทำเพราะข้าพเจ้ามีความตั้งใจแรงกล้า ต่อสิ่งนั้น ๆ ข้าพเจ้าไม่เคยลังเลซึ่งทำให้ข้าพเจ้าได้เปรียบกว่าบุคคลอื่น ๆ ทั้งสิ้น • ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติอยู่เพียงประการเดียวคือไม่ยอมหมดมานะ • จะทำจำนวนมากให้เป็นจำนวนน้อย เช่น แค่สามสิบล้านบาท (ทำเสียงเร็ว) • ทำจำนวนน้อยให้เป็นจำนวนมากเช่นตั้งสามหมื่นบาท (ทำเสียงย้ำ)
เมื่อท่านสามารถเปล่งเสียงได้อย่างวิเศษแล้วท่านจะต้องมีวิธีการและขั้นตอนให้ผู้ฟังเชื่อถือได้โดยใช้ทฤษฎีของ Alan H. Monroe นักพูดที่มีชื่อเสียงก้องโลก ขั้นตอนของท่านมีดังนี้ ขั้นที่๑ดึงความสนใจของผู้ฟังทันทีเมื่อเปิดฉากด้วยวิธีการต่าง ๆ โดยการขึ้นต้นด้วยบทกวีหรือวาทะหรือการพาดหัวข่าวให้ผู้ฟังตรึงอยู่กับที่อย่างน่ากินใจ ขั้นที่๒ทำให้ผู้ฟังเกิดความต้องการที่จะฟังโดยการผูกปมผูกเงื่อนงำให้น่าสนใจและน่าติดตาม
ขั้นที่๓ทำให้ผู้ฟังพอใจถูกใจเป็นพวกเดียวกันเป็นกลุ่มเดียวกัน มีอารมณ์ร่วมกันอย่างไม่รู้ตัว ขั้นที่๔ยกตัวอย่างประกอบข้อเท็จจริงให้เหตุผลอย่างชัดเจนโน้มน้าวให้ผู้ฟังเลือกที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองโดยไม่ชี้แนะ ขั้นที่๕เรียกร้องให้กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งโดยที่ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วมแล้ว
ถ้าท่านอยากให้คนเชื่อถือถ้าท่านอยากให้คนเชื่อถือ มีความสามารถในการพูด เริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้ พรสวรรค์ไม่มีจริง มีแต่พรแสวงเท่านั้น