610 likes | 798 Views
มนุษย์กับการจัดสภาพแวดล้อม. รหัสวิชา 3000-1308. จำนวน 2 หน่วยกิต 2 คาบ / สัปดาห์ ขาดเรียนได้ไม่เกิน 5 คาบ. จุดประสงค์รายวิชา.
E N D
มนุษย์กับการจัดสภาพแวดล้อมมนุษย์กับการจัดสภาพแวดล้อม รหัสวิชา 3000-1308
จำนวน 2 หน่วยกิต 2 คาบ / สัปดาห์ ขาดเรียนได้ไม่เกิน 5 คาบ
จุดประสงค์รายวิชา เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ และการนำมาใช้ที่มีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
คำอธิบายรายวิชา ศึกษาความหมายของมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนา ความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ น้ำ อากาศ ดิน ป่าไม้ สัตว์ป่า เชื้อเพลิง ระบบนิเวศ มลพิษสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การจัดกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา
เกณฑ์การประเมินผล คะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งดังนี้ สอบย่อย 30 คะแนน งาน 20 คะแนน พฤติกรรม 10 คะแนน สอบกลางภาค 20 คะแนน สอบปลายภาค 20 คะแนน
COURSE OUTLINE สัปดาห์ที่ 1 แนะนำบทเรียน บทที่ 1 มนุษย์กับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สัปดาห์ที่ 2 เชื้อชาติของมนุษย์ - ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม
สัปดาห์ที่ 3 คุณสมบัติของสิ่งแวดล้อม สัปดาห์ที่ 4 สอบเก็บคะแนนบทที่ 1 สัปดาห์ที่ 5 บทที่ 2 ระบบนิเวศ - ความหมายของระบบนิเวศ - ปัจจัย โครงสร้าง ประเภทของ ระบบนิเวศ สัปดาห์ที่ 6 ความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่างๆ ในระบบนิเวศ - การถ่ายทอดพลังงาน
สัปดาห์ที่ 7 ห่วงโซ่อาหาร สัปดาห์ที่ 8 สอบเก็บคะแนนบทที่ 2 สัปดาห์ที่ 9 สอบกลางภาค สัปดาห์ที่ 10 บทที่ 3 ทรัพยากรดิน - ความหมายของดิน - องค์ประกอบของดิน - แร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการเจริญ เติบโตของพืช
สัปดาห์ที่ 11 อินทรียวัตถุ - แหล่งที่มาของอินทรียวัตถุ - ประโยชน์ของฮิวมัส - น้ำ อากาศ สัปดาห์ที่ 12 ประเภทของดิน - เนื้อดิน โครงสร้างของดิน - สาเหตุที่ทำให้ทรัพยากรดิน เกิดการเปลี่ยนแปลง
สัปดาห์ที่ 13 ลักษณะของดินในแต่ละภาคของ ประเทศไทย - ปัญหาของดินในประเทศไทย สัปดาห์ที่ 14 การอนุรักษ์ดิน สัปดาห์ที่ 15 สอบเก็บคะแนนบทที่ 3 สัปดาห์ที่ 16 ทรัพยากรสัตว์ป่า - ความหมายของสัตว์ป่า - ประเภทของสัตว์ป่า
สัปดาห์ที่ 17 ประโยชน์และความสำคัญของ สัตว์ป่า - สาเหตุที่ทำให้สัตว์ป่าสูญพันธ์ สัปดาห์ที่ 18 สอบปลายภาค
ดำเนินการสอนโดย อ.ฐิดารัตน์ อินปอง ภาควิชาการตลาดและการจัดการ โทรศัพท์ 083-9893206 Email Thidarat_it@hotmail.com
บทที่ 1 มนุษย์กับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มนุษย์กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความสัมพันธ์กันกันอย่างมาก เพราะมนุษย์ต้องพึ่งพาอาศัยประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมในการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะปัจจัย 4 ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ เช่น พืช สัตว์ น้ำ อากาศ รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์
แต่ในปัจจุบัน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เสื่อมโทรมลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกระทำของมนุษย์ เช่นการตัดไม้ทำลายป่า การผลิตสารเคมี การใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย การขาดจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้แก่ ปัญหาน้ำท่วม น้ำเสีย อากาศเป็นพิษ ภัยแล้ง ไฟป่าซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดการสูญเสียต่อระบบนิเวศ
มนุษย์ ( Human ) หมายถึง สัตว์ที่รู้จักใช้เหตุผล มีจิตใจสูง มีความฉลาดกว่าสัตว์อื่น ๆ เพราะมนุษย์มีสมองใหญ่กว่าสัตว์อื่น ๆ มนุษย์จัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่โดดเด่นจากทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ คือ มนุษย์มีการสั่งสมความรู้ ประสบการณ์ วัฒนธรรมประเพณี และถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากชนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง และมีการพัฒนาการดำเนินชีวิตให้แตกต่างไปจากสัตว์โลกชนิดอื่น ๆ
วิวัฒนาการของมนุษย์ มนุษย์เกิดขึ้นในโลกนับล้านปี อาศัยอยู่ในป่า ในถ้ำ อาหารของมนุษย์ในสมัยก่อน ได้แก่ พืชป่า สัตว์ป่า ต่อมาได้มีการประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต และได้มีการพัฒนาจากการหาพืชป่า มาเป็นการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ และผลิตอาหารขึ้นมาเอง และสืบทอดไปสู่ชนรุ่นหลัง
จากการศึกษาค้นคว้าวิวัฒนาการของมนุษย์ตามทฤษฎีของชาร์ล ดาร์วิน นักปราชญ์ชาวอังกฤษ (2352-2425) เชื่อว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากสัตว์ชั้นต่ำ จากสัตว์เซลล์เดียวมาเป็นสัตว์หลายเซลล์ โดยวิวัฒนาการมาจากสัตว์น้ำมาเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ จากสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังมาเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ปีก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นลิง มนุษย์วานร ( ซิมแพนซี อุรังอุตัง กอริลล่า ) และเป็นมนุษย์
วิวัฒนาการของมนุษย์แบ่งออกเป็น 5 ยุค คือ 1. ยุคหินเก่า มีอายุประมาณ 650,000 ปี เป็นยุคของ มนุษย์วานร มนุษย์ชวา มนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์โค มันยองอาศัยอยู่ในถ้ำ มนุษย์ยุคนี้รู้จักใช้เครื่องมือ ต่างๆ ที่ทำจากหิน เช่น หินเหล็กไฟ นำหินมาทำ ปลายหอก ทำเครื่องมือหินขูดหนังสัตว์ นำขน สัตว์มาใช้ทำเครื่องนุ่งห่ม
2. ยุคหินกลาง อายุประมาณ 10,000 ปี มนุษย์ ยุคนี้ดำรงชีวิตโดยการเก็บหาของป่า ได้แก่ พืชป่า สัตว์ป่า เป็นอาหาร และเริ่มมีการ เพาะปลูกข้าว รู้จักดัดแปลงอาหาร เช่น นำเมล็ดพืชมาบด หรือต้มให้เปื่อยก่อนนำมาบริโภค
3. ยุคหินใหม่ อายุประมาณ 6,000 ปี มนุษย์ยุคนี้ เปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตจากการล่าสัตว์มาทำการ เพาะปลูก และนำสัตว์มาเลี้ยงมีการเก็บอาหาร ไว้กินนอกฤดูกาล เป็นยุคเริ่มต้นของวัฒนธรรม ขั้นอารยธรรมของชุมชนหมู่บ้าน และเมือง ตามที่ราบลุ่มแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ เช่น แม่น้ำไนล์ แม่น้ำไทกริส-ยูเฟติส แม่น้ำฮวงโห
4. ยุคสำริดหรือบรอนซ์ อายุประมาณ 3,000 ปี เป็นยุคที่มนุษย์รู้จักนำแร่โลหะมาใช้ มีความสามารถในการหลอมดีบุกกับทองแดงทำให้โลหะผสม เรียกว่า ยุคสำริด หรือยุคบรอนซ์
5. ยุคเหล็ก อายุประมาณ 1,000ปี มนุษย์ยุคนี้ ได้นำแร่เหล็กมาแทนสำริดในการประดิษฐ์ เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ เนื่องจากเหล็กหาง่าย กว่าทองแดงและดีบุก มีการถลุงแร่เหล็กเพื่อให้ บริสุทธิ์สามารถนำไปประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้ตามต้องการ
ลำดับบรรพบุรุษของมนุษย์ลำดับบรรพบุรุษของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น 1. ชั้นลิงคน ออสตราโลฟิเตคัส ( Australopithecus ) เป็นลิงที่มีลักษณะคล้ายคน กินพืชเป็นอาหารหลัก มีความสูงประมาณ 120 เซนติเมตร หนักประมาณ 18-22 กิโลกรัม หัวกะโหลกบรรจุสมองขนาดประมาณ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตร การเดินลำตัวเริ่มตรง
ภาพของมนุษย์วานรออสตราโลพิธีคัสภาพของมนุษย์วานรออสตราโลพิธีคัส • เป็นสายพันธุ์บรรพบุรุษมนุษย์ ที่พัฒนาขึ้นจนลำตัวสามารถตั้งตรงได้ ขนตามลำตัวน้อยลง มีความคล้ายคลึงมนุษย์ในปัจจุบัน • สามารถผลิตเครื่องมือที่ทำจากหิน ในการล่าสัตว์ได้แล้วมีอายุอยู่ระหว่าง 5 ล้านถึง 2 ล้านปี
2. ชั้นมนุษย์วานร ( Ape Men ) มีลักษณะเป็นมนุษย์มากขึ้น สามารถพูดได้ มีมือแขน เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ เดินลำตัวค่อนข้างตรง ตามองตรงชัดเจน มีมันสมองที่ฉลาดมาก มีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำมาจากหิน มนุษย์วานรที่กล่าวถึงบ่อย ๆ ได้แก่ มนุษย์ชวา มนุษย์ปักกิ่ง
3. ชั้นมนุษย์ปัจจุบัน ( Homo Sapien ) ได้แก่มนุษ์นีอันเดอธัล และมนุษย์โครมันยอง ซึ่งเป็นมนุษย์ปัจจุบันอย่างแท้จริง มนุษย์โครมันยองออกจากถ้ำมาสร้างบ้านเรือน ทำการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ สารมารถประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ในการดำรงชีวิต มีความฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ คล้ายกับมนุษย์ในปัจจุบัน
มนุษย์นีแอนเดอธัส อาศัยอยู่ในยุโรปและ ตะวันออกกลาง เมื่อประมาณหนึ่งแสนปีถึงสามหมื่นห้าพันปีมาแล้ว ยืนตัวตรง อาศัยอยู่ตามถ้ำ ล่าสัตว์เป็นอาหาร เป็นช่วงเวลาที่เป็นยุคน้ำแข็งของโลก น้ำทะเลลดระดับต่ำลงมาก จึงมีถ้ำมากมาย ให้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
4. Homo sapiens หรือ มนุษย์โครมันยอง 1. มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับมนุษย์ปัจจุบัน 2. มีกะโหลกศีรษะโค้งมน มากขึ้น ขากรรไกรหดสั้นลงกว่ามนุษย์นีแอนด์เดอร์ทัลมาก และแก้มนูนเด่นชัดขึ้น
เชื้อชาติของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 3 พวก คือ 1. พวกผิวดำ ( Black Race ) พวกนี้อยู่ในเขตร้อน บริเวณทวีปเอเชีย และแอฟริกา มีผิวคล้ำ ผมหยิก ริมฝีปากหนา จมูกแบนใหญ่ รูจมูกกว้าง ผิวหนังจะมีรูขุมขนมาก ต่อมเหงื่อกว้าง ช่วยในการขับถ่ายและระบายความร้อนเนื่องจากอากาศร้อน มนุษย์พวกนี้เรียกว่า พวกนิโกร หรือนิกรอย์ ( Negroids )
มนุษย์เชื้อชาตินิกรอยด์ กระจัดกระจายอยู่ในอัฟริกา และมีชาติย่อยในปาปัวนิวกินี และเมลานิเซียน มีผิวสีดำหรือน้ำตาลเข้มผมดำหยิกขอด ริมฝีปากหนา รูปร่างสันทัด และสูงใหญ่ในบางกลุ่ม
2. พวกผิวเหลือง ( Yellow Race ) มีถิ่นฐานเดิมอยู่แถบที่ราบสูงมองโกเลียทางภาคตะวันออกของเอเชีย ซึ่งมีอากาศค่อนข้างหนาว และแห้งแล้ง มนุษย์ในกลุ่มนี้จะมีผิวขาวเหลืองถึงสีน้ำตาล เส้นผมเหยียดตรง หน้าแบน โหนกแก้มสูง หัวกะโหลกกลมกว้าง นัยน์ตาเรียบแคบ เปลือกตาอูม เบ้าตาลึก มนุษย์พวกนี้เรียกว่าพวกมองโกลอยด์ ( Mongoloids )
มนุษย์เชื้อชาติมองโกลอยด์ กระจัดกระจายอยู่ในเอเซีย มีชาติย่อยๆ เช่น เอสกิโม อินเดียนในอเมริกาเหนือ-กลาง มีผิวเหลือง รูปร่างสันทัด ผมสีดำ ตาสีน้ำตาล จมูกไม่โด่งนัก รูปหน้ากลม ริมฝีปากบาง
3. พวกผิวขาว ( White Race ) มีถิ่นฐานเดิมอยู่บริเวณทุ่งหญ้าทางตะวันตกของยูเรเซีย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิและความชื้นปานกลาง ได้รับแสงแดดน้อย มนุษย์ในกลุ่มนี้จะมีผิวสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงผิวขาวซีด เส้นผมหยักศกคล้ายกับพวกที่อาศัยอยู่ในเขตเทือกเขาคอเคซัส เรียกมนุษย์พวกนี้ว่า คอเคซอยด์ ( Caucasoids )
มนุษย์เชื้อชาติคอเคซอยด์ กระจายแพร่หลายในยุโรป อเมริกาเหนือ-ใต้ มีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว ขนตามลำตัวสีน้ำตาล ผมสีทอง ริมฝีปากบาง จมูกโด่ง นัยน์ตาสีน้ำเงิน หรือฟ้า มีเชื้อชาติย่อยเป็น พวกนอร์ดิก เซลติค อามาเนีย และออสเตรเลียน
ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ ( Natural Resources ) หมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตและสนองตอบความต้องการของมนุษย์ได้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
1. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่หมดสิ้น ( Non – Exhausting NaturalResources ) เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีมนุษย์ หรือกำเนิดมาพร้อมกับมนุษย์ เป็นทรัพยากรที่มีบทบาทต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1.1 ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น แสงอาทิตย์ พลังงานลม น้ำทะเล ทรัพยากรเหล่านี้จะมีการหมุนเวียนโดยไม่หมดสิ้น 1.2 ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่น ดิน น้ำ อากาศ ทรัพยากรเหล่านี้ เมื่อนำมาใช้ย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลง และเสื่อมสภาพได้
2. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป ( Exhausting Natural Resources ) เป็นทรัพยากรที่นำมาใช้แล้วสิ้นเปลือง และหมดไปในที่สุด และเมื่อใช้แล้วไม่สามารถสร้างทดแทนได้ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
2.1 ทรัพยากรธรรมชาติที่หมดสิ้นได้ ทรัพยากรประเภทนี้เมื่อใช้แล้วไม่สามารถสร้างทดแทนได้ บางชนิดต้องใช้เวลาสร้างเป็นเวลานับล้าน ๆ ปี ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ 2.2 ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้หมดสิ้น แต่สามารถนำมาดัดแปลง หรือประดิษฐ์เป็นของใช้ใหม่ได้ ได้แก่ โลหะต่าง ๆ เช่น เหล็ก ทองแดง สังกะสี อะลูมิเนียม
3. ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วสามารถสร้างทดแทนได้ ( Renew able Natural Resources ) เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถสร้างทดแทนได้ หรือรักษาให้คงที่ได้ เช่น ป่าไม้ สัตว์ ทุ่งหญ้า มนุษย์ ความอุดมสมบูรณ์ของดิน คุณภาพของน้ำ ทัศนียภาพที่สวยงาม ทรัพยากรเหล่านี้สามารถรักษาให้อยู่ในสภาพที่สมดุลได้ แต่อาจจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับชนิดของทรัพยากรธรรมชาติชนิดนั้น ๆ
สิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อม ( Environment ) หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและทั้งที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นได้ทั้งรูปธรรมและอรูปธรรม รวมทั้งสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งที่ไม่มีชีวิต อาจมีทั้งคุณและโทษต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมก็ได้
ประเภทของสิ่งแวดล้อม แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ( Natural Environment ) เป็นสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต เช่น พืช สัตว์ มนุษย์ แสงแดด น้ำ อากาศ แร่ธาตุ ฝน ความร้อน ฯลฯ
2. สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น ( Man – made Environment ) เป็นสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ 2.1 สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ( Physical Environment ) เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น สามารถมองเห็นได้ เช่น บ้าน ถนน รถ เครื่องบิน วัด ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
2.2 สิ่งแวดล้อมทางสังคม ( Social Environment ) เป็นสิ่งแวดล้อมที่เป็นนามธรรม ได้แก่ สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ เช่น วัฒนธรรม ประเพณี กฎหมาย ศาสนา ความเชื่อ อารมณ์ ฯลฯ
คุณสมบัติของสิ่งแวดล้อมคุณสมบัติของสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราจะมีลักษณะเฉพาะตัว 7 ประการ คือ 1. สิ่งแวดล้อมทุกชนิดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ต้นไม้ มนุษย์ บ้าน ฯลฯ 2. สิ่งแวดล้อมไม่อยู่โดดเดี่ยวในธรรมชาติ แต่จะมี สิ่งแวดล้อมอื่นอยู่ด้วยเสมอ เช่น ต้นไม้อยู่กับดิน น้ำกับปลา มนุษย์กับสังคม
3. สิ่งแวดล้อมประเภทหนึ่งต้องการสิ่งแวดล้อม อื่นอยู่เสมอ เช่น ป่าต้องการดินและน้ำ ปลา ต้องการน้ำ มนุษย์ต้องการที่อยู่อาศัย 4. สิ่งแวดล้อมจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือระบบ ที่เรียกว่าระบบนิเวศ 5. สิ่งแวดล้อมทั้งหลายมักมีความเกี่ยวข้องและ สัมพันธ์กันเป็นลูกโซ่ เช่น การทิ้งขยะมูลฝอย ลงในแม่น้ำลำคลองจะทำให้น้ำเสียและลำคลองตื้นเขินได้
6. สิ่งแวดล้อมแต่ละประเภทจะมีความเปราะบาง แข็งแกร่ง และทนทานแตกต่างกัน 7. สิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาที่ เปลี่ยนไป ซึ่งอาจจะเป็นการถาวร หรือชั่วคราว เช่น เมืองทุกเมืองจะค่อย ๆ เติบโต การทำลาย ป่าแล้วเผาจะค่อย ๆ มีพืชขึ้นมาทดแทน