1 / 21

พระวาจา ทรง ชีวิต

พระวาจา ทรง ชีวิต. กรกฎาคม 2010. “ อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น ” ( มธ . 13,45-46 ).

dalmar
Download Presentation

พระวาจา ทรง ชีวิต

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. พระวาจาทรง ชีวิต กรกฎาคม 2010

  2. “อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13,45-46)

  3. ด้วยนิทานเปรียบเทียบเรื่องสั้นๆนี้ พระเยซูเจ้าทรงต้องการดึงความสนใจของผู้ฟัง เพราะทุกคนรู้ดีว่าไข่มุกมีค่าสูง ซึ่งเหมือนๆกับทอง มันเป็นสิ่งมีค่า ที่ใครๆก็อยากได้

  4. ในทำนองเดียวกัน ในพระคัมภีร์ก็มีกล่าวถึงปรีชาญาณ ซึ่งก็คือความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า ว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงสูด มีคุณค่ามากกว่าเพชรพลอยใดๆทั้งสิ้น

  5. แต่สิ่งที่นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ต้องการบอกเราก็คือ เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่พ่อค้าคนหนึ่งได้ไปพบไข่มุกราคาแพง อาจเป็นที่ตลาดนัด และด้วยสายตาอันคมกริบของเขา เขารู้ทันทีว่าไข่มุกเม็ดนั้นมีราคาสูงมาก และเขาจะทำกำไรได้อย่างมากทีเดียว

  6. ดังนั้น หลังจากคำนวณดูแล้ว เขาเห็นว่าจะคุ้มค่ามากทีเดียวถ้าเขาจะขาย ข้าวของทั้งหมดที่มี และนำเงินมาซื้อมุกเม็ดนั้น ใครบ้างหากอยู่ในสภาพเช่นเขาจะไม่ทำอย่างเดียวกัน

  7. นี่คือความหมายของนิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ การได้พบกับพระเยซูเจ้า การได้พบกับพระอาณาจักรพระเจ้าท่ามกลางเรา ก็คือการได้พบไข่มุก นี่เป็นโอกาสเดียวที่เราจะต้องรีบตะครุบ เราจะต้องออกแรง เราจะต้องลงทุนด้วยข้าวของที่เรามี

  8. “อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13,45-46)

  9. นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศิษย์ของพระเยซูเจ้าจะต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ พวกเขาได้ทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระเยซูเจ้าแล้ว ทุกสิ่งที่มีคุณค่าต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความรักความผูกพันในครอบครัว ความมั่นคงทางการเงิน อนาคต

  10. แต่พระเยซูเจ้าก็ทรงเสนอจะให้สิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ไม่ใช่ความเพ้อฝัน เพราะว่า “แต่ละอย่าง”ที่เราได้เสียสละ เราก็จะได้ “ทุกอย่าง” ซึ่งมีคุณค่ามากกว่ากันอย่างเทียบไม่ได้ ทุกครั้งที่พระเยซูเจ้าทรงขออะไรจากคุณ พระองค์ก็ทรงสัญญาจะให้สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่ามากนัก

  11. นิทานเรื่องนี้ พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เรามั่นใจว่า เราจะได้รับทรัพย์ที่จะทำให้เราร่ำรวยตลอดไป และถ้าคุณคิดว่า ไม่น่าจะถูกต้องเลยที่เราจะละทิ้งสิ่งที่เรามีอยู่ในมือแน่นอนแล้วเพื่อแลกกับของที่ไม่แน่นอน หรือเพื่อแลกกับคำมั่นสัญญา เราก็จงคิดถึงพ่อค้าคนนั้น เขารู้ดีว่าไข่มุกเม็ดนั้นมีค่าสูง และเขามั่นใจว่าเขาจะทำกำไรได้มากอย่างแน่นอน

  12. เช่นเดียวกัน คนที่ติดตามพระเยซูเจ้าก็รู้ดี เพราะว่าด้วยสายตาแห่งความเชื่อ เขารู้ดีว่าเขาจะได้กำไรอะไร เมื่อเขาจะร่วมเป็นทายาทกับพระเยซูเจ้าในพระอาณาจักร หากเขาจะละทิ้งทุกสิ่ง อย่างน้อยทางฝ่ายจิต เพื่อติดตามพระองค์

  13. พระเจ้าทรงเสนอโอกาสเช่นนี้ให้กับเราทั้งชายและหญิงพระเจ้าทรงเสนอโอกาสเช่นนี้ให้กับเราทั้งชายและหญิง

  14. “อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13,45-46)

  15. นี่เป็นการเชื้อเชิญให้เราสละทิ้งทุกสิ่งที่อาจแทนที่พระเจ้าในหัวใจของเรา เช่น อาชีพการงาน ครอบครัว การศึกษา บ้านหลังสวย การกีฬา หรือสิ่งบันเทิง

  16. พระองค์ทรงเชิญชวนเราให้ยึดพระเจ้าเป็นบุคคลแรกในหัวใจของเรา เพื่อว่าทุกสิ่งในชีวิตของเราจะมุ่งไปที่พระองค์ และจะกลับมาหาเราก็จากพระองค์

  17. หากเราทำได้อย่างนี้ หากเรา “แสวงหาพระอาณาจักร” ตามที่พระวรสารให้สัญญา เราก็จะได้รับสิ่งอื่นเป็นของแถมแน่นอน (ลูกา 12,31) หากเราทิ้งทุกสิ่งเพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้า เราก็จะได้รับร้อยเท่า ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง พ่อ แม่ (มัทธิว 19,29) และพระวรสารหมายความอย่างนั้นจริงๆ พระเยซูเจ้าทรงเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์ ซึ่งนอกจากพระองค์จะพูดเรื่องฝ่ายจิตแล้ว พระองค์ก็สัญญาว่าจะให้อาหาร ที่อยู่ เสื้อผ้า ครอบครัว และสิ่งอื่นๆกับเราด้วย

  18. บางทีเราอาจต้องรู้จักเป็น “ผู้ต่ำต้อย” ที่วางใจในพระญาณสอดส่องของพระบิดา พระองค์ทรงตอบแทนอย่างแน่นอนกับผู้ที่รู้จักให้แม้สิ่งเล็กน้อยที่มีด้วยความรัก

  19. ไม่กี่เดือนก่อน กลุ่มเยาวชนกลุ่มหนึ่งในประเทศคองโก ได้ริเริ่มทำบัตรอวยพรที่ทำมาจากเปลือกกล้วย และบัตรอวยพรที่พวกเขาทำ ได้ถูกส่งไปขายที่ประเทศเยอรมนี ตอนแรกพวกเขาต้องการเก็บรายได้ทั้งหมดไว้เอง เพราะบางคนในพวกเขายังยากจน ต้องช่วยเหลือครอบครัว แต่ต่อมาพวกเขาตกลงใจแบ่งผลกำไรครึ่งหนึ่งช่วยเหลือเยาวชนอื่นๆที่ตกงานสามสิบห้าคน

  20. เรื่องนี้เป็นที่กล่าวขานกันในระแวกบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ เจ้าของร้านค้าบางคนที่ต้องการคนงานได้ยินเรื่องนี้ จึงเสนอให้งานประจำกับเยาวชนสิบเอ็ดคนในกลุ่มนั้น เห็นไหมว่า พระเจ้าไม่เคยทรงยอมแพ้เราในเรื่องความใจกว้าง

  21. “อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13,45-46) “พระวาจาทรงชีวิต”ประจำเดือนจัดพิมพ์โดยคณะโฟโคลาเร เนื้อหา: เคียร่า ลูบิคตีพิมพ์เมื่อเดือนกรกฎาคม 1999 กราฟฟิกAnna Lolloร่วมกับคุณพ่อPlacido D’Omina (ซิซิลี อิตาลี)คำอธิบายพระวาจาทรงชีวิตนี้แปลเป็นภาษาต่างๆถึง 90 ภาษา และภาษาท้องถิ่นต่างๆด้วย พระวาจานี้ไปถึงผู้คนกว่าล้านคนทั่วโลก ผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ต ข้อมูลเพิ่มเติมwww.focolare.orgพาวเวอร์พอยทพระวาจาทรงชีวิตจัดทำหลายภาษาพบได้ที่ www.santuariosancalogero.org

More Related