1 / 66

การรับรอง

การรับรอง. หมายถึง การที่ผู้จ่ายยอมรับปฏิบัติตามคำสั่งของผู้สั่งจ่ายซึ่งจะมีผลทำให้ผู้จ่ายมีฐานะเป็นผู้รับรองตั๋วแลกเงิน เหตุ ที่มีการยื่นตั๋วให้รับรอง เพื่อนับวันถึงกำหนดใช้เงิน กรณีที่เป็นตั๋วซึ่งมีวันถึงกำหนดใช้เงิน ภายหลังเมื่อสิ้นเวลานับแต่ได้เห็น ตามม.913 (4)

conway
Download Presentation

การรับรอง

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การรับรอง • หมายถึง การที่ผู้จ่ายยอมรับปฏิบัติตามคำสั่งของผู้สั่งจ่ายซึ่งจะมีผลทำให้ผู้จ่ายมีฐานะเป็นผู้รับรองตั๋วแลกเงิน • เหตุที่มีการยื่นตั๋วให้รับรอง • เพื่อนับวันถึงกำหนดใช้เงิน กรณีที่เป็นตั๋วซึ่งมีวันถึงกำหนดใช้เงิน ภายหลังเมื่อสิ้นเวลานับแต่ได้เห็น ตามม.913 (4) • เพื่อเป็นการเตือนให้ผู้จ่ายทราบและรู้ตัวล่วงหน้าถึงคำสั่งของผู้สั่งจ่าย

  2. ผู้ที่มีสิทธินำตั๋วยื่นให้รับรองผู้ที่มีสิทธินำตั๋วยื่นให้รับรอง • ก. ผู้ทรง • ข. ผู้ที่ได้ตั๋วนั้นไว้ในครอบครอง มาตรา ๙๒๗ “อันตั๋วแลกเงินนั้นจะนำไปยื่นแก่ผู้จ่าย ณ ที่อยู่ของผู้จ่าย เพื่อให้รับรองเมื่อไร ๆ ก็ได้ จนกว่าจะถึงเวลากำหนดใช้เงินและผู้ทรงจะเป็นผู้ยื่นหรือเพียงแต่ผู้ที่ได้ตั๋วนั้นไว้ในครอบครองจะเป็นผู้นำไปยื่นก็ได้” • การรับรองแบ่งออกเป็น 3 ประเภท(แบ่งตามการรับรอง) คือ • ก. ตั๋วประเภทที่ห้ามยื่นให้รับรอง และ • ข. ตั๋วประเภทที่ยื่นเพื่อให้รับรองหรือไม่ก็ได้ • ค. ตั๋วประเภทที่ต้องนำไปยื่นให้รับรอง

  3. ตั๋วแลกเงินที่ห้ามมิให้ยื่นเพื่อให้รับรองมี 2 ชนิดด้วยกันคือ • 1. ตั๋วแลกเงินที่สั่งให้ใช้เงินเมื่อได้เห็น เพราะเหตุว่าเมื่อนำไปยื่นต้องจ่ายเงินเลย ตามมาตรา 927 ว.3 • 2. ตั๋วแลกเงินที่ผู้สั่งจ่ายลงข้อความห้ามยื่นเพื่อรับรองตามมาตรา 927 ว. 3 และ 4

  4. ตั๋วแลกเงินที่นำไปยื่นเพื่อให้รับรองหรือไม่ก็ได้ มีอยู่ 3 ชนิด • 1. ตั๋วแลกเงินที่สั่งให้ใช้เงินในวันใดวันหนึ่งที่กำหนดไว้ตามมาตรา 913 (1) • 2. ตั๋วแลกเงินที่สั่งให้ใช้เงินเมื่อสิ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้นับแต่วันที่ลงในตั๋วตามมาตรา 913(2) และ • 3. ตั๋วแลกเงินที่สั่งให้ใช้เงินเมื่อทวงถามตามมาตรา 913(3

  5. ตั๋วแลกเงินที่ต้องนำไปยื่นให้รับรอง มีอยู่ 3 ชนิดด้วยกันคือ ก. ตั๋วแลกเงินที่สั่งให้ใช้เงินเมื่อสิ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ นับแต่ได้เห็น (ม. 928) ข. ตั๋วแลกเงินที่ผู้สั่งจ่ายกำหนดให้ยื่นเพื่อรับรองตาม มาตรา 927 ว.2 ค. ตั๋วแลกเงินที่ผู้สลักหลังกำหนดให้ยื่นเพื่อรับรอง เว้นแต่เป็นตั๋วที่ผู้สั่งจ่ายห้ามการรับรองไว้ก่อนแล้ว ตามที่บัญญัติ ไว้ในมาตรา 927 ว.5

  6. กำหนดเวลายื่นเพื่อให้รับรอง • หลัก ผู้ทรง หรือผู้ซึ่งมีตั๋วในความครอบครองจะยื่นตั๋วให้ผู้จ่ายรับรองเมื่อใดก็ได้ จนกว่าจะถึงกำหนดเวลาใช้เงิน เว้นแต่ จะเป็นตั๋วแลกเงินที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ มาตรา ๙๒๗ “อันตั๋วแลกเงินนั้นจะนำไปยื่นแก่ผู้จ่าย ณ ที่อยู่ของผู้จ่าย เพื่อให้รับรองเมื่อไร ๆ ก็ได้ จนกว่าจะถึงเวลากำหนดใช้เงินและผู้ทรงจะเป็นผู้ยื่นหรือเพียงแต่ผู้ที่ได้ตั๋วนั้นไว้ในครอบครองจะเป็นผู้นำไปยื่นก็ได้”

  7. ก. ตั๋วที่ผู้สั่งจ่ายกำหนดจำกัดเวลาให้ยื่น ก็ต้องยื่นตามกำหนดนั้น ตามมาตรา 927 วรรคสอง ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ ฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)ในวันที่ 1 กันยาน ให้ยื่นให้รับรองภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ออกตั๋ว ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย

  8. ข. ตั๋วที่ผู้สั่งจ่ายห้ามยื่นก่อนถึงกำหนด ผู้ทรงต้องปฏิบัติ ตามนั้นเช่นกัน เพราะว่าเป็นเรื่องที่ผู้สั่งจ่ายกำหนดไว้ ซึ่งเป็นไปตาม ม. 927 วรรค 4 ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ ในในวันที่ 1 กันยายน 2549 จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ให้ยื่นให้รับรองเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือนนับแต่วันที่ออกตั๋ว ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย

  9. ค. ตั๋วที่ผู้สลักหลังกำหนดให้ยื่นเพื่อให้รับรองและกำหนดเวลา ให้ยื่นไว้ด้วยก็ต้องปฏิบัติตามนั้นเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 927 วรรค 5 โอนให้ ง. และให้ยื่นให้รับรองภายใน 1 เดือน ค. 15 ก.ค. 49

  10. ง. ตั๋วชนิดที่สั่งให้ใช้เงินเมื่อสิ้นระยะเวลาอย่างใดอย่างหนึ่งนับ แต่ได้เห็นต้องนำตั๋วไปยื่นให้รับรองภายใน 6 เดือนแต่วันที่ลงในตั๋ว หรือตามแต่ผู้สั่งจ่ายจะได้กำหนดไว้ ตามมาตรา 928 ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ เมื่อสิ้นเวลา 1 เดือนนับแต่เห็นตั๋วฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย

  11. ยื่นตั๋วให้รับรอง ออกตั๋ว 6 เดือน ยื่นตั๋วให้ใช้เงิน 1 เดือน

  12. ผลของการไม่นำตั๋วไปยื่นเพื่อให้รับรองผลของการไม่นำตั๋วไปยื่นเพื่อให้รับรอง • การไม่นำตั๋วไปยื่นให้รับรองมีผลเฉพาะตั๋วประเภทที่ต้องนำไปยื่นให้รับรองเท่านั้น โดยจะมีผลทำให้ผู้ทรงสิ้นสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย และคู่สัญญาอื่นๆผู้ต้องรับผิดตามตั๋วแลกเงินนั้น ตาม ป.พ.พ.ม. 973 (2) ม. 973 วรรค 2 ม. 973 วรรค 3 และวรรค 4 • ก. หากเป็นตั๋วที่ต้องยื่นให้รับรองโดยลักษณะของตั๋ว จะมีผลทำให้ผู้ทรงสิ้นสิทธิไล่เบี้ยต่อผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย และคู่สัญญาอื่นที่ต้องรับผิดตามตั๋วยกเว้นแต่ผู้รับรอง มาตรา 973(1) และมาตรา 973 วรรค 2 • ได้แก่ ตั๋วที่มีวันถึงกำหนดใช้เงิน ตาม ม.913(4),928

  13. มาตรา ๙๑๓ “อันวันถึงกำหนดของตั๋วแลกเงินนั้น ท่านว่าย่อมเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ (๔) เมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้นับแต่ได้เห็น” มาตรา ๙๒๘ “ผู้ทรงตั๋วแลกเงินอันสั่งให้ใช้เงินเมื่อสิ้นระยะเวลากำหนดอย่างใดอย่างหนึ่งนับแต่ได้เห็นนั้น ต้องนำตั๋วเงินยื่นเพื่อให้รับรองภายในหกเดือนนับแต่วันที่ลงในตั๋วเงินหรือภายในเวลาช้าเร็วกว่านั้นตามแต่ผู้สั่งจ่ายจะได้ระบุไว้” มาตรา ๙๗๓ “เมื่อกำหนดเวลาจำกัดซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้ได้ล่วงพ้นไปแล้ว คือ (๑) กำหนดเวลาสำหรับยื่นตั๋วแลกเงินชนิดให้ใช้เงินเมื่อได้เห็น หรือในระยะเวลาอย่างใดอย่างหนึ่งภายหลังได้เห็น.........”

  14. ข. หากเป็นตั๋วที่ผู้สั่งจ่ายลงข้อกำหนดให้ยื่นให้รับรอง ผู้ทรงจะเสียสิทธิไล่เบี้ยแก่ผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่าย มาตรา 973 วรรค 3 มาตรา ๙๒๗ “ในตั๋วแลกเงินนั้น ผู้สั่งจ่ายจะลงข้อกำหนดไว้ว่าให้นำยื่นเพื่อรับรองโดยกำหนดเวลาจำกัดไว้ให้ยื่น หรือไม่กำหนดเวลาก็ได้” มาตรา ๙๗๓ ว.๓ “อนึ่ง ถ้าไม่ยื่นตั๋วแลกเงินเพื่อให้เขารับรองภายในเวลาจำกัดดั่งผู้สั่งจ่ายได้กำหนดไว้ ท่านว่าผู้ทรงย่อมเสียสิทธิที่จะไล่เบี้ยทั้งเพื่อการที่เขาไม่ใช้เงินและเพื่อการที่เขาไม่รับรองเว้นแต่จะปรากฏจากข้อกำหนดว่า ผู้สั่งจ่ายหมายเพียงแต่จะปลดตนเองให้พ้นจากประกันการรับรอง”

  15. มาตรา ๙๗๓ ว.๓ “อนึ่ง ถ้าไม่ยื่นตั๋วแลกเงินเพื่อให้เขารับรองภายในเวลาจำกัดดั่งผู้สั่งจ่ายได้กำหนดไว้ ท่านว่าผู้ทรงย่อมเสียสิทธิที่จะไล่เบี้ยทั้งเพื่อการที่เขาไม่ใช้เงินและเพื่อการที่เขาไม่รับรองเว้นแต่จะปรากฏจากข้อกำหนดว่า ผู้สั่งจ่ายหมายเพียงแต่จะปลดตนเองให้พ้นจากประกันการรับรอง” • ข้อความที่ว่า “เว้นแต่จะปรากฏจากข้อกำหนดว่า ผู้สั่งจ่ายหมายเพียงแต่จะปลดตนเองให้พ้นจากประกันการรับรอง” • หมายถึง ข้อความของผู้สั่งจ่ายแนะนำว่าควรจะนำไปยื่นให้รับรองเมื่อใด แต่ไม่ถึงกับกำหนดโดยเด็ดขาดว่าผู้ทรงต้องนำไปยื่นให้รับรอง

  16. ค. หากเป็นตั๋วที่ผู้สลักหลังกำหนดเวลาให้ยื่นให้รับรอง ผู้ทรงจะเสียสิทธิไล่เบี้ยเฉพาะผู้สลักหลังคนนั้นเท่านั้น ส่วนผู้สั่งจ่าย หรือผู้สลักหลังคนอื่นๆผู้ทรงไม่เสียสิทธิไล่เบี้ย มาตรา 973 วรรค 4 มาตรา ๙๒๗ ว.ท้าย “ผู้สลักหลังทุกคนจะลงข้อกำหนดไว้ว่า ให้นำตั๋วเงินยื่นเพื่อรับรอง โดยกำหนดเวลาจำกัดไว้ให้ยื่น หรือไม่กำหนดเวลาก็ได้ เว้นแต่ผู้สั่งจ่ายจะได้ห้ามการรับรอง” มาตรา ๙๗๓ ว.ท้าย “ถ้าข้อกำหนดจำกัดเวลายื่นตั๋วแลกเงินนั้นมีอยู่ที่คำสลักหลัง ท่านว่าเฉพาะแต่ผู้สลักหลังเท่านั้นจะอาจเอาประโยชน์ในข้อกำหนดนั้นได้”

  17. ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ เมื่อเห็นตั๋วฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย ควรนำยื่นให้รับรองภายใน 1 เดือน ลงชื่อ ก.

  18. วิธีการรับรอง 1. ผู้จ่ายต้องลงลายมือชื่อในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงิน โดยจะระบุ ข้อความว่า “รับรองแล้ว” หรือข้อความอื่นใดอื่นใดอันมีความหมายว่า เป็นการรับรองก็ได้ หรือจะกระทำเพียงลงลายมือชื่อในด้านหน้าตั๋ว โดยไม่เขียนข้อความอื่นใดก็ได้ 2. ผู้จ่ายลงวันที่ ที่ทำการรับรอง ในกรณีที่ผู้จ่ายมิได้ลงวันที่ กฎหมายอนุญาตให้ผู้ทรงโดยสุจริตคนหนึ่งคนใดกรอกวันที่รับรองอัน แท้จริงลงไปได้ ตาม ป.พ.พ มาตรา 932

  19. ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ เมื่อเห็นตั๋วฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย รับรอง ลงชื่อ ข.

  20. ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ เมื่อเห็นตั๋วฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย ลงชื่อ ข.

  21. ระยะเวลาที่ผู้จ่ายจะรับรองระยะเวลาที่ผู้จ่ายจะรับรอง มาตรา ๙๒๙ “ภายในบังคับบทบัญญัติมาตรา ๙๒๗ ผู้ทรงตั๋วแลกเงินมีสิทธิที่จะยื่นตั๋วเงินแก่ผู้จ่ายได้ในทันใดเพื่อให้รับรอง ถ้าและเขาไม่รับรองภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงไซร้ ผู้ทรงก็มีสิทธิที่จะคัดค้าน” มาตรา ๙๓๐ “ในการยื่นตั๋วแลกเงินเพื่อให้เขารับรองนั้น ผู้ทรงไม่จำต้องปล่อยตั๋วนั้นให้ไว้ในมือผู้จ่าย อนึ่ง ผู้จ่ายจะเรียกให้ยื่นตั๋วแลกเงินแก่ตนอีกเป็นครั้งที่สองในวันรุ่งขึ้นแต่วันที่ยื่นครั้งแรกนั้นก็ได้ ท่านห้ามมิให้คู่กรณีที่มีส่วนได้เสียยกเอาการที่มิได้อนุวัตตามคำเรียกอันนี้ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ เว้นแต่การเรียกนั้นได้ระบุไว้ในคำคัดค้าน”

  22. คำอธิบาย • ผู้จ่ายจะต้องทำคำรับรองภายใน 24 ช.ม. นับแต่เวลายื่นตั๋วเงิน ม.929 ถ้าผู้จ่ายไม่รับรองภายใน 24 ช.ม. ผู้ทรงทำคำคัดค้านได้ โดยถือว่าผู้จ่ายไม่รับรองตั๋วเงินนั้น • ในกรณีที่ผู้จ่ายไม่พร้อมที่จะรับรองภายใน 24 ชม. ผู้จ่ายจะเรียกให้ผู้ทรงยื่นตั๋วในวันรุ่งขึ้นจากวันที่ยื่นครั่งแรกก็ได้ ม.930 ว.2 • แม้ผู้ทรงจะมิได้นำตั๋วไปยื่นเป็นครั้งที่ 2 ตามคำขอของผู้จ่าย ผู้มีส่วนได้เสียจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้ เว้นแต่ คำเรียกของผู้จ่ายจะปรากฏในคำคัดค้าน

  23. การเรียกให้ยื่นตั๋วเป็นครั้งที่ 2 จะมีได้ในกรณีที่ ผู้ทรงมิได้นำตั๋วไปยื่นอีกครั้งหนึ่งแต่กลับไปทำคำค้านเสียทีเดียว • เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำคำคัดค้านไปทำคำคัดค้านกับผู้จ่าย ผู้จ่ายก็เรียกให้ยื่นตั๋วเงินเป็นครั้งที่สอง(เป็นการเรียกผ่านผู้ทำคำคัดค้าน) ผู้คัดค้านก็จดบันทึกไว้ว่าผู้จ่ายเรียกให้ยื่นเป็นครั้งที่ 2

  24. ประเภทของการรับรอง • 1. รับรองตลอดไป หมายถึง ยอมตกลงโดยไม่แก้แย้งคำสั่งของผู้สั่งจ่ายอย่างหนึ่งอย่างใด • ถ้าผู้จ่ายยอมรับรองตลอดไป จะมีผลทำให้ตั๋วแลกเงินนั้น ไม่ขาดความเชื่อถือการรับรอง ผู้ทรงคงเหลือเพียงรอให้ตั๋วเงินนั้นถึงกำหนดการใช้เงินเพื่อยื่นให้ผู้รับรองใช้เงินอีกครั้ง มาตรา ๙๓๕ “อันการรับรองนั้นย่อมมีได้สองสถาน คือรับรองตลอดไป หรือรับรองเบี่ยงบ่าย การรับรองตลอดไป คือยอมตกลงโดยไม่แก้แย้งคำสั่งของผู้สั่งจ่ายแต่อย่างหนึ่งอย่างใดเลย”

  25. 2. รับรองเบี่ยงบ่าย หมาถึง การที่ผู้จ่ายยอมรับรองแต่ไม่เป็นไปตามคำสั่งของผู้สั่งจ่าย • กล่าวเป็นเนื้อความทำผลแห่งตั๋วเงินให้แผกไปจากที่เขียนสั่งไว้ โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังต่อไปนี้ • 2.1 การับรองเบี่ยงบ่ายมีเงื่อนไข หมายถึง การรับรองโดยมีเงื่อนไขในการรับรองอย่างหนึ่งอย่างใด • เช่น จะจ่ายก็ต่อเมื่อได้รับชำระหนี้จากผู้สั่งจ่ายแล้ว มาตรา ๙๓๕ “อันการรับรองนั้นย่อมมีได้สองสถาน คือรับรองตลอดไป หรือรับรองเบี่ยงบ่าย ..................................... ส่วนการรับรองเบี่ยงบ่ายนั้น กล่าวเป็นเนื้อความทำผลแห่งตั๋วเงินให้แผกไปจากที่เขียนสั่งไว้ กล่าวโดยเฉพาะก็คือว่า ถ้าคำรับรองมีเงื่อนไขก็ดี หรือรับรองแต่เพียงบางส่วนก็ดีท่านว่าเป็นรับรองเบี่ยงบ่าย”

  26. ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ เมื่อเห็นตั๋วฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย จ่ายเมื่อได้รับสินค้าจากผู้สั่งจ่ายแล้ว ลงชื่อ ข.

  27. ผลของการรับรองเบี่ยงบ่ายมีเงื่อนไขผลของการรับรองเบี่ยงบ่ายมีเงื่อนไข • กรณีที่ผู้จ่ายยอมรับรอง แต่เป็นการรับรองเบี่ยงบ่ายมีเงื่อนไขกฎหมายให้สิทธิแก่ ผู้ทรงที่จะบอกปัดการรับรองเช่นนั้นได้ และจะถือว่าตั๋วแลกเงินนั้นเป็นอันขาดความเชื่อถือการับรองก็ได้ ตาม ม. 936 ว.1และจะใช้สิทธิไล่เบี้ยก่อนตั๋วถึงกำหนดตาม ม.959 (ข) (1) ก็ได้ • แต่ถ้าผู้ทรงยอมรับเอาคำรับรองดังกล่าว โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้สั่งจ่าย หรือผู้สลักหลังคนใด จะมีผลให้ผู้ทรงสิ้นสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สั่งจ่าย หรือผู้สลักหลังคนที่มิได้ยินยอมให้ผู้ทรงยอมรับเอาคำรับรองเช่นนั้น ม.936 ว.2

  28. มาตรา ๙๓๖ “คำรับรองเบี่ยงบ่ายนั้น ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะบอกปัดเสียก็ได้ และถ้าไม่ได้คำรับรองอันไม่เบี่ยงบ่าย จะถือเอาว่าตั๋วเงินนั้นเป็นอันขาดความเชื่อถือรับรองก็ได้ ถ้าผู้ทรงรับเอาคำรับรองเบี่ยงบ่าย และผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังมิได้ให้อำนาจแก่ผู้ทรงโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้รับเอาคำรับรองเบี่ยงบ่ายเช่นนั้นก็ดี หรือไม่ยินยอมด้วยในภายหลังก็ดี ท่านว่าผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังนั้น ๆ ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดตามตั๋วเงินนั้นแต่บทบัญญัติทั้งนี้ท่านมิให้ใช้ไปถึงการรับรองแต่บางส่วนซึ่งได้บอกกล่าวก่อนแล้วโดยชอบ ถ้าผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังตั๋วเงินรับคำบอกกล่าวการรับรองเบี่ยงบ่ายแล้วไม่โต้แย้งไปยังผู้ทรงภายในเวลาอันสมควร ท่านให้ถือว่าผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังนั้นเป็นอันได้ยินยอมด้วยกับการนั้นแล้ว”

  29. 2.2 การรับรองเพียงเบี่ยงบ่ายบางส่วน หมายถึง รับรองไม่เต็มจำนวนอันผู้สั่งจ่ายได้ระบุไว้ เช่น รับรอง 5,000 บาท ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ เมื่อเห็นตั๋วฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย รับรอง 5,000 บาท ลงชื่อ ข.

  30. ผลของการรับรองเบี่ยงบ่ายบางส่วนผลของการรับรองเบี่ยงบ่ายบางส่วน • กรณีที่ผู้จ่ายยอมรับรอง แต่เป็นการรับรองเบี่ยงบ่ายบางส่วนกฎหมายให้สิทธิแก่ ผู้ทรงที่จะบอกปัดการรับรองเช่นนั้นได้ และจะถือว่าตั๋วแลกเงินนั้นเป็นอันขาดความเชื่อถือการับรองก็ได้ ตาม ม. 936 ว.1 และจะใช้สิทธิไล่เบี้ยก่อนตั๋วถึงกำหนดตาม ม.959 (ข) (1) ก็ได้ • คำรับรองเบี่ยงบ่ายบางส่วน ผู้ทรงสามารถที่จะยอมรับเอาไว้ได้ โดยไม่ต้องขอความยินยอมของผู้สั่งจ่าย และผู้สลักหลังคงกระทำเพียงบอกกล่าวว่า ผู้จ่ายรับรองเบี่ยงบ่ายบางส่วนเท่านั้น (ม.936 ว.2 ช่วงท้าย) • กรณีที่ผู้ทรงรับเอาคำรับรองเบี่ยงบ่ายบางส่วน ผู้ทรงจะต้องทำคำคัดค้านในส่วนที่ผู้จ่ายไม่ยอมรับรองเพื่อใช้สิทธิไล่เบี้ยต่อไป ตาม ม.960 มิเช่นนั้นจะเสียสิทธิไล่เบี้ยในส่วนที่ผู้จ่ายไม่ยอมรับรองนั้น ตาม ม. 973 (2) และ ว.2

  31. มาตรา ๙๓๖ “คำรับรองเบี่ยงบ่ายนั้น ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะบอกปัดเสียก็ได้ และถ้าไม่ได้คำรับรองอันไม่เบี่ยงบ่าย จะถือเอาว่าตั๋วเงินนั้นเป็นอันขาดความเชื่อถือรับรองก็ได้ ถ้าผู้ทรงรับเอาคำรับรองเบี่ยงบ่าย และผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังมิได้ให้อำนาจแก่ผู้ทรงโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้รับเอาคำรับรองเบี่ยงบ่ายเช่นนั้นก็ดี หรือไม่ยินยอมด้วยในภายหลังก็ดี ท่านว่าผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังนั้น ๆ ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดตามตั๋วเงินนั้นแต่บทบัญญัติทั้งนี้ท่านมิให้ใช้ไปถึงการรับรองแต่บางส่วนซึ่งได้บอกกล่าวก่อนแล้วโดยชอบ ถ้าผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังตั๋วเงินรับคำบอกกล่าวการรับรองเบี่ยงบ่ายแล้วไม่โต้แย้งไปยังผู้ทรงภายในเวลาอันสมควร ท่านให้ถือว่าผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังนั้นเป็นอันได้ยินยอมด้วยกับการนั้นแล้ว”

  32. ทำคำคัดค้าน เกิดสิทธิไล่เบี้ย ไม่รับรอง ไม่ทำคำคัดค้าน สิ้นสิทธิไล่เบี้ย รับรอง ผู้จ่ายมีฐานะเป็น ผู้รับรอง

  33. รับรองเบี่ยงบ่าย มีเงื่อนไข บางส่วน -ผู้ทรงยอมรับเอาคำรับรองนั้น ได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม จาก ผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย -ผู้ทรงจะบอกปัด การับรอง และ ถือว่าตั๋วขาดความเชื่อถือการรับ รองก็ได้ -ผู้ทรงยอมรับเอาคำรับรอง นั้น ต้องได้รับความยินยอม จาก ผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย หรือ -ผู้ทรงจะบอกปัด การรับรอง และถือว่าตั๋วขาดความ เชื่อถือการรับรอง ก็ได้

  34. ไม่รับรอง ไม่เกิดสิทธิไล่เบี้ย -ตั๋วที่จะยื่นให้ รับรองหรือไม่ ก็ได้ รับรอง ผู้จ่ายมีฐานะเป็น ผู้รับรอง

  35. การสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้าการสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า

  36. ประเภทการสอดเข้าแก้หน้าประเภทการสอดเข้าแก้หน้า • การสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า (ม.951 วรรคแรก) • การสอดเข้าใช้เงินเพื่อแก้หน้า (ม.954 วรรคแรก)

  37. การสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้าการสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า • ช่วงเวลาการสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า • เกิดขึ้นก่อนตั๋วแลกเงินถึงกำหนดใช้เงิน ในกรณีที่ตั๋วฯนั้นขาดความเชื่อถือเพราะผู้จ่ายไม่ยอมรับรอง (ม.951 วรรคแรก) เพื่อให้ตั๋วแลกเงินฉบับนั้นกลับคืนดีใช้ได้ต่อไป มาตรา ๙๕๑ “การรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้า ย่อมมีได้ในบรรดากรณีซึ่งผู้ทรงมีสิทธิไล่เบี้ยได้ก่อนถึงกำหนดตามตั๋วเงินอันเป็นตั๋วสามารถจะรับรองได้”

  38. บุคคลผู้ที่จะสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้าบุคคลผู้ที่จะสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า • บุคคลที่ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังระบุชื่อไว้ตั้งแต่แรก เรียกว่า “ผู้จะรับรอง” ม.950 วรรคแรก • บุคคลภายนอก หรือคู่สัญญาอื่นผู้ต้องรับผิดตามตั๋วอยู่ก่อนแล้ว ที่สมัครใจเข้ามารับรอง “ผู้สอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า” ม.950 วรรคท้าย มาตรา ๙๕๐ “ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังจะระบุบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดไว้ก็ได้ว่าเป็นผู้จะรับรอง หรือใช้เงินยามประสงค์ ณ สถานที่ใช้เงิน ภายในเงื่อนบังคับดั่งจะกล่าวต่อไปข้างหน้า บุคคลผู้หนึ่งผู้ใดจะรับรองหรือใช้เงินตามตั๋วแลกเงินในฐานเป็นผู้สอดเข้าแก้หน้าบุคคลใดผู้ลงลายมือชื่อในตั๋วนั้นก็ได้ ผู้สอดเข้าแก้หน้านั้นจะเป็นบุคคลภายนอกก็ได้ แม้จะเป็นผู้จ่ายหรือบุคคลซึ่งต้องรับผิดโดยตั๋วเงินนั้นอยู่แล้วก็ได้ ห้ามแต่ผู้รับรองเท่านั้น ผู้สอดเข้าแก้หน้าจำต้องให้คำบอกกล่าวโดยไม่ชักช้า เพื่อให้คู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนเข้าแก้หน้านั้นทราบการที่ตนเข้าแก้หน้า”

  39. สิทธิของผู้ทรง • ผู้ทรงบอกปัดการสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้าได้ (ม.951วรรคสอง) เพราะถ้าผู้ทรงยอมรับการสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า จะมีผลทำให้ผู้ทรงสิ้นสิทธิไล่เบี้ยก่อนตั๋วฯถึงกำหนด (ม.951วรรคท้าย) • ตั๋วฯที่มีการสอดเข้ารับรองฯไปแล้ว ผู้ทรงมีสิทธิที่จะสลักหลังโอนหรือส่งมอบต่อไปอีกได้

  40. มาตรา ๙๕๑ “การรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้า ย่อมมีได้ในบรรดากรณีซึ่งผู้ทรงมีสิทธิไล่เบี้ยได้ก่อนถึงกำหนดตามตั๋วเงินอันเป็นตั๋วสามารถจะรับรองได้ การรับรองด้วยสอด เข้าแก้หน้านั้น ผู้ทรงจะบอกปัดเสียก็ได้ แม้ถึงว่าบุคคลผู้ซึ่งบ่งไว้ว่าจะเป็นผู้รับรอง หรือใช้เงินยามประสงค์นั้นจะเป็นผู้เสนอเข้ารับรองก็บอกปัดได้ ถ้าผู้ทรงยอมให้เข้ารับรองแล้ว ผู้ทรงย่อมเสียสิทธิไล่เบี้ยก่อนถึงกำหนดเอาแก่คู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดต่อตน”

  41. วิธีการสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้าวิธีการสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า • วิธีการสอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้าต้องเขียนระบุบนตั๋วว่าจะรับรองเพื่อผู้ใดและลงลายมือชื่อผู้สอดเข้ารับรองเพื่อแก้หน้า ม.952 มาตรา ๙๕๒ “อันการรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้านั้น ย่อมทำด้วยเขียนระบุความลงบนตั๋วแลกเงิน และลงลายมือชื่อของผู้สอดเข้าแก้หน้าเป็นสำคัญ อนึ่งต้องระบุลงไว้ว่าการรับรองนั้นทำให้เพื่อผู้ใด ถ้ามิได้ระบุไว้เช่นนั้นท่านให้ถือว่าทำให้เพื่อผู้สั่งจ่าย”

  42. การยื่นตั๋วให้รับรอง การยื่นตั๋วให้ใช้เงิน การรับรองเพื่อแก้หน้า รับรอง ไม่รับรอง ไล่เบี้ย รับ ไม่รับ

  43. ความรับผิดของผู้สอดเข้าแก้หน้าความรับผิดของผู้สอดเข้าแก้หน้า • ผู้สอดเข้าแก้หน้าต้องรับผิดต่อผู้ทรงตั๋วและรับผิดต่อผู้สลักหลังทั้งหลายภายหลังคู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนเข้าแก้หน้า ม.953 มาตรา ๙๕๓ “ผู้รับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้าย่อมต้องรับผิดต่อผู้ทรงตั๋วเงินนั้น และรับผิดต่อผู้สลักหลังทั้งหลายภายหลังคู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนเข้าแก้หน้าอย่าง เดียวกันกับที่คู่สัญญาฝ่ายนั้นต้องรับผิดอยู่เอง”

  44. การอาวัล • หมายถึง การค้ำประกันการใช้เงินในสัญญาตั๋วเงิน ซึ่งจะเป็นการค้ำประกันทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้ • ผู้ค้ำประกันอาวัลจะเป็นบุคคลใดก็ได้ บุคคลซึ่งเป็นคู่สัญญาในตั๋วเงินอยู่แล้วก็สามารถเข้าเป็นผู้อาวัลได้ มาตรา ๙๓๘ “ตั๋วแลกเงินจะมีผู้ค้ำประกันรับประกันการใช้เงินทั้งจำนวนหรือแต่บางส่วนก็ได้ ซึ่งท่านเรียกว่า “อาวัล” อันอาวัลนั้นบุคคลภายนอกคนใดคนหนึ่งจะเป็นผู้รับ หรือแม้คู่สัญญาแห่งตั๋วเงินนั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้รับก็ได้”

  45. ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ เมื่อเห็นตั๋วฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย

  46. ประเภทของการอาวัล มี 2 ประเภท • 1.การอาวัลโดยเจตนา ม.939 ทำได้ 2 วิธี • 1.1 การอาวัลแบบเต็มรูปแบบ มาตรา ๙๓๙ “อันการรับอาวัลย่อมทำให้กันด้วยเขียนลงในตั๋วเงินนั้นเอง หรือที่ใบประจำต่อ (เขียนลงด้านหน้าหรือด้านหลังก็ได้) ในการนี้พึงใช้ถ้อยคำสำนวนว่า “ใช้ได้เป็นอาวัล” หรือสำนวนอื่นใดทำนองเดียวกันนั้น และลงลายมือชื่อผู้รับอาวัล ....................... ในคำรับอาวัลต้องระบุว่ารับประกันผู้ใด หากมิได้ระบุ ท่านให้ถือว่ารับประกันผู้สั่งจ่าย”

  47. ตั๋วแลกเงิน วันที่ 1 กรกฎาคม 2549 ถึง ข. โปรดจ่ายเงิน ค. หรือผู้ถือ เมื่อเห็นตั๋วฉบับนี้จำนวน10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ลงชื่อ ก ผู้สั่งจ่าย คำประกันผู้สั่งจ่าย ลงชื่อ สมพงษ์

  48. โอนให้ ง. ค. 15 ก.ค. 49 อาวัล ค. ลงชื่อ สมพงษ์

  49. โอนให้ ง. ค. 15 ก.ค. 49 คำประกันผู้สั่งจ่าย ลงชื่อ สมพงษ์

More Related