1 / 36

บทที่ 4 เทคโนโลยี ในระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร

บทที่ 4 เทคโนโลยี ในระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร. การออกแบบฐานข้อมูลในการวางแผนทรัพยากรองค์กร. จะต้อง พิจารณาว่า องค์กรมี รูปแบบธุรกรรม ซับซ้อนเพียงใด เนื่องจากการวางแผนทรัพยากรองค์กรแต่ละตัวจะมีความยืดหยุ่นต่างกัน

cole-frank
Download Presentation

บทที่ 4 เทคโนโลยี ในระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 4เทคโนโลยีในระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร

  2. การออกแบบฐานข้อมูลในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • จะต้องพิจารณาว่า องค์กรมีรูปแบบธุรกรรมซับซ้อนเพียงใด เนื่องจากการวางแผนทรัพยากรองค์กรแต่ละตัวจะมีความยืดหยุ่นต่างกัน • รูปแบบที่เรียบง่ายที่สุดนั้น เอกสารต่างๆ จะสัมพันธ์กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (one-to-one) เช่น การออกใบส่งของเต็มจำนวนตามใบสั่งซื้อที่ลูกค้าสั่งซื้อไว้แล้ว หรือการออกใบเสร็จรับชำระค่าสินค้าโดยต้องชำระเต็มจำนวน • ส่วนกรณีที่ลูกค้าทยอยจ่ายชำระก็จะเป็นรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งรูปแบบอาจจะ ซับซ้อนถึงระดับหลายต่อหลาย (many-to-many) (ภาพที่ 7.10)

  3. การออกแบบฐานข้อมูลในการวางแผนทรัพยากรองค์กร

  4. การออกแบบฐานข้อมูลในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • เนื่องจากรูปแบบการดำเนินธุรกรรมของคนไทยมักจะอิงอยู่บนวัฒนธรรมการค้าแบบเอเชีย (Asian style) ซึ่งผู้ขายมักจะยืดหยุ่นให้แก่ลูกค้าอย่างมาก โดยรับภาระความยุ่งยากเอาไว้เอง เนื่องจากให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูกค้ามากกว่าการทำงานให้มีขั้นมีตอนอย่างเป็นระบบหรือมีกรอบงาน (framework) จะเห็นได้จากสถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้ เช่น • การสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากและจ่ายเงินสดโดยขอราคาพิเศษกว่าราคาพิเศษที่เคยให้ • การยกเลิกใบสั่งซื้อกลางคัน ทั้งๆ ที่มีการทยอยส่งสินค้าไปแล้ว • การกำหนดเงื่อนไขการวางบิลก่อนที่จะชำระเงินที่หลากหลาย • การทยอยชำระหนี้ • การรับเช็คค้ำประกันหนี้ก่อนการส่งของ เพื่อป้องกันหนี้สูญ • การรวมบิลจ่ายชำระด้วยเช็คใบเดียว หากการวางแผนทรัพยากรองค์กรที่ใช้อยู่สามารถรองรับได้ ก็จะช่วยให้การบันทึกรายการเป็นไปอย่างสะดวก มิฉะนั้นก็ต้องหาทางประยุกต์ให้ทำงานเท่าที่จะทำได้

  5. การออกแบบฐานข้อมูลในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • นอกจากความซับซ้อนแล้ว การทำงานแบบลัดขั้นตอนก็เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น กระบวนการสั่งซื้อสินค้านั้น • บางครั้งก็เริ่มตั้งแต่ใบขอซื้อ (Purchase Requisition - PR) • บางครั้งก็เริ่มที่การออกใบสั่งซื้อเลย (Purchase Order - PO) • บางครั้งก็ไปซื้อเลย แล้วก็ได้เอกสารใบกำกับภาษี (invoice) มาเลย โดยไม่ผ่านขั้นตอนต่างๆ

  6. การออกแบบฐานข้อมูลในการวางแผนทรัพยากรองค์กร การวางแผนทรัพยากรองค์กรที่เป็นแบบยืดหยุ่น (Flexible ERP) จะสามารถรองรับทั้งการทำงานแบบตามกรอบระเบียบ และรองรับการแทรกรายการกลางคัน แต่ ยังคงความสามารถในการตรวจสอบรายการทุกรายการได้

  7. 2. เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ใช้ในการวางแผนทรัพยากรองค์กร การเชื่อมโยงการวางแผนทรัพยากรองค์กรกับระบบอื่น ทำได้หลายวิธีดังต่อไปนี้ • เชื่อมโยงด้วยไฟล์ข้อความหรือเท็กซ์ไฟล์ (text file) คือการนำเข้า (import) และส่งออก (export) ข้อมูลด้วยการส่งไฟล์ในรูปแบบพื้นฐานซึ่งใช้กันมายาวนาน • เชื่อมโยงด้วยไฟล์ที่รับรู้ชนิดของข้อมูล (data type) เช่น เอ็กซ์เซล (xls) ดีบีเอฟ (dbf) เป็นต้น • เชื่อมโยงผ่านเอพีไอหรือส่วนต่อประสานการโปรแกรมแอพพลิเคชั่น (Application Programming Interface - API) ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ผู้พัฒนาการวางแผนทรัพยากรองค์กร เตรียมไว้ให้เรียกใช้

  8. 2. เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ใช้ในการวางแผนทรัพยากรองค์กร 4. เชื่อมโยงผ่านตารางที่แบ่งปันกันได้ (shared table) เป็นการเชื่อมโยงด้วยการตกลงที่จะใช้ ตารางในฐานข้อมูลบางตาราง และส่งข้อมูลที่ทันสมัยไปยังตารางนั้น ซึ่งกรณีนี้ ทั้งผู้ส่งและ ผู้รับจะต้องสามารถเขียนโปรแกรมที่ทำงานบนระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) ตัว เดียวกันได้ 5. เชื่อมโยงผ่านเว็บเซอร์วิส (web service) และ สามารถเชื่อมโยงผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกและปลอดภัยกว่า 6. เชื่อมโยงผ่านการบูรณาการแอพพลิเคชั่นขององค์กร (Enterprise Application Integration - EAI) ซึ่งเป็นเครื่องมือระดับสูง ใช้งานง่าย และไม่ต้องอาศัยโปรแกรมเมอร์ ในการดำเนินการ สามารถทำการเชื่อมโยงแบบสองทาง (two-way) แบบไร้รอยต่อ และ สามารถเชื่อมโยงระบบที่ซับซ้อนได้อย่างดีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

  9. 2. เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ใช้ในการวางแผนทรัพยากรองค์กร

  10. 2. เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ใช้ในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • ตัวอย่างรูปแบบการเชื่อมโยงแบบบูรณาการแอพพลิเคชั่นขององค์กรหรืออีเอไอ (Enterprise Application Integration - EAI) ของการวางแผนทรัพยากรองค์กรของซอฟต์แวร์โฟร์มาอี อาร์พี (Forma ERP) ซึ่งสามารถเชื่อมโยงระบบขนาดใหญ่ให้ถึงกันได้โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม

  11. 2. เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ใช้ในการวางแผนทรัพยากรองค์กร ตัวอย่าง รูปแบบการเชื่อมโยงแบบบูรณาการแอพพลิเคชั่นขององค์กรหรืออีเอไอ (Enterprise Application Integration - EAI) ของการวางแผนทรัพยากรองค์กรของซอฟต์แวร์โฟร์มาอี อาร์พี (Forma ERP) ซึ่งสามารถเชื่อมโยงระบบขนาดใหญ่ให้ถึงกันได้โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม

  12. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • การออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร สามารถทำได้หลายแบบ ได้แก่ • รายงานแบบ บิวต์อิน (built-in report) คือรายงานที่เขียนมาแล้วแบบตายตัว • ตัวสร้างรายงาน (report generator) คือรายงานที่ผู้ใช้สามารถสร้างขึ้นเองได้จากเครื่องมือที่การวางแผนทรัพยากรองค์กรให้มา • ธุรกิจอัจฉริยะหรือบีไอ (Business Intelligence - BI) ซึ่งช่วยให้สามารถออกรายงานที่ซับซ้อนได้ อย่างง่ายดาย และเป็นฐานให้กับการออกรายงานวิเคราะห์อื่นๆ รวมไปถึงการทำแดชบอร์ด (dash board) ด้วย

  13. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • รายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร ปกตินั้นจะเป็นรายงานเชิงรายการธุรกรรม (transactional reporting)คือรายงานปกติเพื่อการเก็บเป็นประวัติรายวัน เพื่อการตรวจสอบ เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้ใช้ไปประมวลผลต่อด้วยโปรแกรมอื่นหรือทำด้วยมือต่อไป หรือรายงานสรุปตามแบบที่ทำไว้แล้ว ส่วนมากจะเป็นรายการย่อย หรืออาจเป็นรูปของตารางก็ได้ แต่มักจะไม่มีกราฟ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบรายงานได้เอง และไม่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ เพราะเป็นรายงานคงที่ (static report)

  14. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • รายงานธุรกิจอัจฉริยะจะมีความสามารถมากกว่า โดยเริ่มตั้งแต่รายงานวิเคราะห์ที่สวยงาม ทั้งแบบสอบถาม (query) และเฉพาะกิจ (ad hoc) ซึ่งประกอบด้วย ตารางข้อมูล ข้อความ หรือกราฟมีความสามารถในการโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ เช่น เปลี่ยนขอบเขตของข้อมูล เปลี่ยนกราฟ เปลี่ยนสี เปลี่ยน ข้อความต่างๆ ได้แบบทันที ไม่ต้องเรียกโปรแกรมเมอร์มาทำให้การวิเคราะห์ในขั้นนี้เป็นการวิเคราะห์ โดยการคำนวณด้วยข้อมูลปฏิบัติการเท่านั้น • ในขั้นที่สูงขึ้นมาจะเป็นการวิเคราะห์โดยการเปรียบเทียบกับมาตรฐานที่กำหนด ทั้งมาตรฐานภายในหรือมาตรฐานภายนอกองค์กร และนำผลการวิเคราะห์ไปสู่การบริหารจัดการโดยอิงตัวชี้วัด (Key Performace Management)

  15. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • ธุรกิจอัจฉริยะเป็นเครื่องมือที่มีราคาสูงถึงสูงมาก แต่ปัจจุบันกลายเป็นส่วนประกอบใหม่ของการวางแผนทรัพยากรองค์กร เนื่องจากถูกนำมาผนวกไว้ในการวางแผนทรัพยากรองค์กรเกือบทุกตัว ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกรายงานสำหรับผู้บริหารทุกระดับ นอกเหนือจากรายงานมาตรฐานเพื่อการควบคุมและตรวจสอบทั่วไป โดยผู้ใช้สามารถออกรายงานที่สวยงาม ประกอบด้วยตารางและกราฟได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องอาศัยโปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมให้ แต่ธุรกิจอัจฉริยะที่แถมมาใน การวางแผนทรัพยากรองค์กรก็จะเป็นธุรกิจอัจฉริยะขั้นพื้นฐาน และอาจต้องจ่ายเพิ่ม หากต้องการความสามารถระดับสูงของธุรกิจอัจฉริยะ

  16. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร

  17. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • วิธีการทำงานของธุรกิจอัจฉริยะคือ การทำการคัดแยก ถ่ายโอน และโหลด (Extract, Transform, Load - ETL) จากฐานข้อมูลของการวางแผนทรัพยากรองค์กรมาเก็บไว้ใน รูปแบบของคลังข้อมูลหรือดาต้าแวร์เฮ้าส์ (data warehouse) ก่อนที่จะนำเครื่องมือต่างๆ มาดึงไปทำรายงานต่อไป

  18. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร

  19. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ธุรกิจอัจฉริยะได้ 2 ลักษณะ คือ • 1) ธุรกิจอัจฉริยะแบบอิงข้อมูลในอดีต (Historical BI) ซึ่งเน้นการของรายงานจากปริมาณ ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยการทำอีทีแอลแบบตั้งเวลาการประมวลผลเป็นงวดหรือแบทช์ (batch) ในช่วงที่ เซิร์ฟเวอร์ของการวางแผนทรัพยากรองค์กรว่าง อาจจะเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์หรือทำงานในเวลา

  20. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร • 2) ธุรกิจอัจฉริยะแบบอิงข้อมูลการปฏิบัติงาน (Operational BI ) จะคล้ายแบบแรก แต่จะผสมผสานการทำอีทีแอลแบบทีละน้อยกับการออกแบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรให้รองรับการเรียกใช้ข้อมูลจากธุรกิจอัจฉริยะโดยตรง เพื่อให้ข้อมูลที่ได้เป็นปัจจุบัน (updated) เข้าใกล้เรียลไทม์ แต่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์ของการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP server) • นอกจากนี้ ธุรกิจอัจฉริยะแบบอิงข้อมูลการปฏิบัติงาน ยังสามารถเชื่อมโยงกระบวนการวิเคราะห์แบบ อัตโนมัติกับระบบแจ้งเตือน (alert system) และแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์ (real time dash board) ได้ช่วยให้ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรกลายเป็นระบบที่ชาญฉลาดและช่วยให้การบริหารงาน ขององค์กรมีความสะดวกมากขึ้น สามารถเตือนสถานการณ์ที่ผู้ใช้ได้ตั้งค่าตรวจสอบเอาไว้ได้อย่าง อัตโนมัติ เช่น ยอดขายที่ต่ำกว่าเป้าหมาย ค่าใช้จ่ายผิดปกติ หรือตัวเลขอื่นๆ ที่ตามตัวชี้วัดที่ได้กำหนดไว้

  21. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร

  22. 4. คลาวด์คอมพิวติ้ง • รูปแบบการประมวลผลแบบคลาวด์หรือคลาวด์คอมพิวติ้ง (cloud computing) ได้ถูกนำมาใช้ ในโปรแกรมการวางแผนทรัพยากรองค์กรระดับโลก • ยกตัวอย่างการทำบัญชีออนไลน์ผ่าน คลาวด์คอมพิวติ้งซึ่งช่วยให้ระบบงานส่วนหน้าแบบเคลื่อนที่ (mobile) สามารถทำงานระบบใหญ่ๆ โดยใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กได้อย่างคล่องตัว และสามารถฝากการประมวลผลขนาดใหญ่ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของคลาวด์ (cloud server) ได้อย่างสะดวก พร้อมกับการเชื่อมต่อระหว่างสำนักงานใหญ่และ สำนักงานบัญชีซึ่งอยู่ที่แห่งไหนก็ได้ด้วยการเชื่อมต่อผ่านเอดีเอสแอล (ADSL) ราคาประหยัด หรือผ่านเครือข่ายสาธารณะอย่าง 3G ได้โดยทันที โดยสามารถเชื่อมต่อระบบที่หลากหลายที่สุดไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นแบบตั้งโต๊ะ (desktop application) เว็บแอพพลิเคชั่น (web application) และ ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม (legacy) ทุกประเภท นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อม ระบบกับผู้ให้บริการระดับโลกทุกรายที่เปิดช่องทางการประมวลผลร่วมกันได้ด้วย เช่น การเชื่อมระบบ สั่งซื้อหนังสือกับเว็บไซต์อะเมซอน (amazon) หรือเชื่อมกับระบบอีเมล เป็นต้น

  23. 4. คลาวด์คอมพิวติ้ง

  24. 5. การปรับข้อมูลให้ทันสมัยโดยอัตโนมัติ • หลักการออกแบบระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรจะเน้นการเชื่อมโยงของกระบวนการดำเนินธุรกิจตลอดทั่วทั้งองค์กร • ดังนั้นระบบงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กรจะมีลักษณะของการ ประมวลผลภายในที่เป็นอัตโนมัติ ผ่านการกำหนดค่า (configuration) ให้กับตัวแปร เพื่อความยืดหยุ่น สำหรับองค์กรที่หลากหลาย ดังนั้นการไหลของเอกสารและข้อมูลในการวางแผนทรัพยากรองค์กรจึงมีความหลากหลายและซับซ้อนมาก จนไม่อาจที่จะเขียนออกมาได้ทุกแบบ แต่กระแสการไหลหลักๆ ก็จะคล้ายกัน

  25. 5. การปรับข้อมูลให้ทันสมัยโดยอัตโนมัติ • การทำงานของการวางแผนทรัพยากรองค์กรจะเป็นไปในรูปแบบที่เชื่อมโยงกันทุกส่วน (integrated system) เพื่อให้ฐานข้อมูลของทุกฝ่ายมีการปรับปรุงให้ทันสมัยโดย อัตโนมัติ (updata automatic) และพร้อมที่จะถูกเรียกไปใช้ในการดำเนินธุรกรรมต่อได้ทันที • เช่น เมื่อทำการออกใบกำกับภาษี ระบบก็จะทำการลงบัญชีไปที่ระบบงานย่อยบัญชีแยกประเภท (General Ledger - GL) ทำการตั้งหนี้ลูกหนี้รายตัวที่ระบบงานย่อยบัญชีลูกหนี้ (Account Receivable - A/R) ทำการตัดสต๊อกสินค้าที่ระบบงานย่อยควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control - IC) รวมทั้งสามารถออกรายงานภาษีได้ทันทีโดยอัตโนมัติ การวางแผนทรัพยากรองค์กรบางตัวก็สามารถทำการเชื่อมโยงแบบออนไลน์เรียลไทม์ (online real time) บางตัวก็ต้องทำงานในลักษณะประมวลผล เป็นงวดๆ หรือแบบแบทช์ (batch processing)

  26. 5. การปรับข้อมูลให้ทันสมัยโดยอัตโนมัติ

  27. 6. การประมวลผลแบบลูกโซ่หลายชั้น • การลงบัญชีในระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรสามารถทำได้ทั้งแบบแมนนวล (manual) หรือแบบอัตโนมัติ (automatic) • กรณีที่ลงบัญชีแบบอัตโนมัติ จะต้องทำการกำหนดรูปแบบการบันทึก บัญชีให้เป็นไปตามนโยบายบัญชีของบริษัท จะต้องแยกตามความรับผิดชอบ (responsibility center) ซึ่งการวางแผนทรัพยากรองค์กร ะสามารถกำหนดรูปแบบการลงบัญชีได้หลายระดับ เช่น ระดับนโยบายกลาง ระดับเล่มเอกสาร ระดับกลุ่มลูกหนี้หรือกลุ่มสินค้า ไปถึงระดับรายตัวลูกหนี้หรือรายสินค้า ระบบจึงจะสามารถทำการลงบัญชีอัตโนมัติเป็นทอดๆ หรือลูกโซ่หลายชั้น (cascading) ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

  28. 3. เทคโนโลยีของการสืบค้นและออกรายงานในการวางแผนทรัพยากรองค์กร

  29. 7. การแก้ข้อผิดพลาดด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติ • การรองรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ถือเป็นรากฐานสำคัญของระบบการคำนวณต้นทุนสินค้าที่ ถูกต้องและแม่นยำ เนื่องจากในการคำนวณต้นทุนสินค้าจะต้องคำนวณย้อนกลับไปในอดีต ทั้งการคำนวณแบบเข้าก่อนออกก่อน (First-in-first-out - FIFO) หรือแบบค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ถ่วงน้ำหนัก (weighted-moving-average) • การคำนวณอาจจะเกิดการปัดเศษ หรือเกิดการคำนวณผิดพลาดจากระบบหรือจากความผิดพลาดของผู้ใช้ ซึ่งจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ต้นทุนผิดพลาดสะสมได้ ปรากฏการณ์นี้กลับมาขยายผลร้ายแรงกับการคำนวณต้นทุนเมื่อมีรายการจำนวนมาก หากผิดพลาด เพียงร้อยละ 0.1 ด้วยฐานการคำนวณที่ 1 ล้าน ก็คือการคำนวณต้นทุนผิดพลาดถึง 1,000 บาท ซึ่งจะ สร้างปัญหาให้ฝ่ายตรวจสอบอย่างมาก ในการไล่ตามหาที่มาของตัวเลขที่ผิดพลาดนี้ • ระบบคำนวณต้นทุนที่ดีจึงมีส่วนสำคัญต่อการวางระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรให้ทำการแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติ (automatic self-correction) ที่อาจเกิดขึ้นภายในระบบที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบง่าย และเบาแรงผู้ใช้งานอย่างมาก

  30. 7. การแก้ข้อผิดพลาดด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติ

  31. 8. การออกรายงานย้อนหลังและรายงานสมมติรายการ • การเก็บข้อมูลในอดีตเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของการวางแผนทรัพยากรองค์กร ในฐานะผู้จัดเก็บฐานข้อมูลกลาง และเป็นแหล่งวิเคราะห์ข้อมูลขององค์กรที่น่าเชื่อถือ ผู้บริหารต้องกำหนด นโยบายการจัดเก็บข้อมูลว่า จะจัดเก็บกี่ปี และจัดเก็บข้อมูลไหนบ้าง หรือจะจัดเก็บทั้งหมดและไม่จำกัดปี • ข้อมูลของระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร สามารถแบ่งออกเป็น 2 มิติใหญ่ๆ คือ • ข้อมูลทางบัญชี (accounting) • ข้อมูลด้านปฏิบัติการ (operation) • บางบริษัทกำหนดให้จัดเก็บข้อมูลด้านปฏิบัติการไว้ไม่จำกัด แต่จัดเก็บข้อมูลทางบัญชีเพียงแค่ 1-2 ปี การวางแผนทรัพยากรองค์กรบางตัวจะเก็บข้อมูลได้ไม่จำกัดทั้งข้อมูลด้านปฏิบัติการและข้อมูลทางบัญชี

  32. 8. การออกรายงานย้อนหลังและรายงานสมมติรายการ • การเก็บข้อมูลมากเพียงใดก็ตามจะไม่มีประโยชน์ หากไม่สามารถนำมาใช้ได้ ดังนั้นการนำมาออกรายงาน จึงต้องสามารถออกรายงานที่เรียกว่า รายงานย้อนหลัง (backdate report)ได้ คือการออกรายงานที่ย้อนหลังทั้งระบบ เสมือนย้อนเวลากลับไปสู่วันนั้นจริงๆ โดยจะต้องสามารถเห็นรายการในอดีตพร้อมด้วยค่าสถิติและสถานะของแต่ละหน่วย เช่น ยอดยกมาของสินค้า ณ วันนั้น ยอดคงค้างลูกหนี้ ยอดคงค้างเจ้าหนี้ ณ วันนั้น ยอดยกมาของแต่ละบัญชี เป็นต้น • ยังมีรายงานที่เกิดจากการสมมติรายการ (simulate) หรือประมาณการ (estimate) ซึ่งการวางแผนทรัพยากรองค์กรบางตัวสามารถออกรายงานลักษณะนี้ได้

  33. 8. การออกรายงานย้อนหลังและรายงานสมมติรายการ

  34. 9. การประมวลผลย้อนหลัง • ในการใช้งานระบบมักเกิดข้อผิดพลาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ในระบบได้ • ยกตัวอย่าง กรณีที่เกิดการบันทึกเอกสารซื้อขายผิดพลาดสลับวันกัน ซึ่งจะส่งผลกระทบยอดสินค้าคงเหลือผิดพลาด และทำให้ตัวเลขผิดพลาดเป็นลูกโซ่ไปยังการคำนวณต้นทุน และงบการเงินอื่นๆ ทั้งหมด การวางแผนทรัพยากรองค์กร จะมีกระบวนการในการปรับปรุงฐานข้อมูลย้อนหลัง (backdate processing) ทั้งแบบที่ทำโดยแมนนวลหรืออัตโนมัติได้ และสามารถทำงานขั้นตอนต่อไปอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ฐานข้อมูล กลางถูกต้องและเป็นที่น่าเชื่อถือขององค์กร • กรณีที่เริ่มใช้ระบบครั้งแรก ซึ่งยังไม่ได้มีการบันทึกยอดยกมาและยังไม่ได้ตัวเลขการตรวจนับจากฝ่ายคลังสินค้า แต่ระบบก็จะสามารถดำเนินธุรกรรมได้ โดยการบันทึกรายการที่พร้อมก่อนเข้าไปก่อน รายการที่มาทีหลังก็สามารถทยอยบันทึกตามไปภายหลังได้ เมื่อทำการบันทึกข้อมูลเข้าระบบได้มากที่สุดเท่าใด ข้อมูลก็จะปรับเข้าสู่ยอดที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติ ทั้งจำนวนและมูลค่าช่วยให้การเริ่มต้นระบบทำได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องปิดคลังสินค้าเพื่อนับ สต๊อกทุกตัวให้เสร็จภายในคืนวันสิ้นปี

  35. 9. การประมวลผลย้อนหลัง

  36. แบบฝึกหัด • ค้นคว้าข้อมูลและทำรายงานเรื่อง คลาวด์คอมพิวติ้ง

More Related