SQL ( Structured Query Language )

1. SQL(Structured Query Language) Part 2

2. Multi-Table Queries (JOIN) • INNER JOIN • OUTER JOIN • LEFT OUTER JOIN • RIGHT OUTER JION • FULL OUTER JION

3. INNER JOIN เป็นการ join ข้อมูลจาก 2 ตารางขึ้นไปโดยระบุคอลัมน์ที่มี ข้อมูลตรงกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะแสดงเฉพาะแถวที่มีข้อมูลตรงกัน สำหรับ INNER JOIN นี้หรืออาจเรียกย่อๆ ว่า JOIN ก็ได้

4. OUTER JOIN เป็นการ join ข้อมูลจาก 2 ตารางขึ้นไป ขณะที่ INNER JOIN ให้ผลเฉพาะแถวที่มีข้อมูลตรงกันในคอลัมน์ที่ระบุแต่ OUTER JOIN จะนำข้อมูลในตารางทั้งสองออกมาแสดงโดยไม่สนใจว่าจะ มีข้อมูลที่ตรงกันหรือไม่ตรงกัน ซึ่งถ้าหากแถวใดมีข้อมูลที่ไม่ตรง กัน ก็จะแสดงข้อมูลในคอลัมน์นั้นเป็น NULL ไป

5. LEFT OUTER JOIN ( *=) เป็นการ join ข้อมูลจาก 2 ตารางขึ้นไป โดยจะถือเอาตาราง ทางซ้ายของคำว่า LEFT OUTER JOIN เป็นหลัก โดยข้อมูลทุกๆ แถวจากตารางด้านซ้ายจะถูกนำแสดง ไม่ว่าจะมีข้อมูลตรงกันกับ ตารางด้านขวาหรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่มีข้อมูลในตารางด้านขวาที่ ตรงกันก็จะแสดงค่าเป็น NULL

6. RIGHT OUTER JOIN ( =*) เป็นการ join ข้อมูลจาก 2 ตารางขึ้นไป โดยจะถือเอาตาราง ทางขวาของคำว่า RIGHT OUTER JOIN เป็นหลัก โดยข้อมูล ทุกๆแถวจากตารางด้านขวาจะถูกนำแสดง ไม่ว่าจะมีข้อมูลตรงกัน กับตารางด้านซ้ายหรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่มีข้อมูลในตารางด้านซ้าย ที่ตรงกันก็จะแสดงค่าเป็น NULL

7. FULL OUTER JOIN เป็นการ join ข้อมูลจาก 2 ตารางขึ้นไป โดยแสดงข้อมูลทุกแถว จากตารางที่นำมา join โดยจะบรรจุค่า null ลงไปเมื่อไม่สามารถ จับคู่ระหว่างแอตตริบิวต์ได้

8. การใช้งานJOIN SELECT{ column_name } [,...n] FROM { table_name } [, ...n] [ [ INNER ] | { LEFT | RIGHT | FULL} [ OUTER ] ] JOIN { table_name } ON { search_conditions}

9. แบบที่ 1 : ANSI SQL-92 Syntax SELECT b.*, p.* FROM Branch1 AS b INNER JOIN PropertyForRent1 AS p ON b.bCity = p.pCity; แบบที่ 2 : Transact - SQL SELECT b.*, p.* FROM Branch1 AS b, PropertyForRent1 AS p WHERE b.bCity = p.pCity; Example: INNER JOIN

10. Example: INNER JOIN

11. Example: INNER JOIN

12. แบบที่ 1 : ANSI SQL-92 Syntax SELECT b.*, p.* FROM Branch1 AS b LEFT JOIN PropertyForRent1 AS p ON b.bCity = p.pCity; แบบที่ 2 : Transact - SQL SELECT b.*, p.* FROM Branch1 AS b, PropertyForRent1 AS p WHERE b.bCity *= p.pCity; Example: LEFT OUTER JOIN

13. Example: LEFT OUTER JOIN

14. แบบที่ 1 : ANSI SQL-92 Syntax SELECT b.*, p.* FROM Branch1 AS b RIGHT JOIN PropertyForRent1 AS p ON b.bCity = p.pCity; แบบที่ 2 : Transact - SQL SELECT b.*, p.* FROM Branch1 AS b, PropertyForRent1 AS p WHERE b.bCity =* p.pCity; Example: RIGHT OUTER JOIN

15. Example: RIGHT OUTER JOIN

16. Example: FULL OUTER JOIN SELECT b.*, p.* FROM Branch1 AS b FULL JOIN PropertyForRent1 AS p ON b.bCity = p.pCity; • (SELECT b.*, p.* • FROM Branch1 AS b LEFT JOIN PropertyForRent1 AS p • ON b.bCity = p.pCity) • UNION • (SELECT b.*, p.* • FROM Branch1 AS b RIGHT JOIN PropertyForRent1 AS p • ON b.bCity = p.pCity);

17. Example: FULL OUTER JOIN

18. Example: Three Table JOIN ในแต่ละสาขา ให้แสดงรหัสและชื่อพนักงานที่ดูแลบ้านเช่า พร้อมทั้งที่ตั้ง จังหวัดของแต่ละสาขา และรายละเอียดบ้านเช่าที่ถูกดูแลโดยพนักงาน แบบที่ 1 : ANSI SQL-92 Syntax SELECT b.branchNo, b.city, e.empNo, e.empName, p.propertyNo, p.street FROM Branch AS b JOIN Employee AS e ON b.branchNo = e.branchNo JOIN Property_For_Rent AS p ON e.empNo = p.empNo;

19. Example: Three Table JOIN แบบที่ 2 : Transact - SQL • SELECT b.branchNo, b.city, e.empNo, e.empName, p.propertyNo, p.street • FROM Branch AS b, Employee AS e, • Property_For_Rent AS p • WHERE b.branchNo = e.branchNo • AND e.empNo = p.empNo

20. Example: Three Table JOIN