1 / 14

Topic 10 ระดับรายได้ประชาชาติดุลยภาพ และการเปลี่ยนแปลง

Topic 10 ระดับรายได้ประชาชาติดุลยภาพ และการเปลี่ยนแปลง. รายได้ประชาชาติดุลยภาพ. รายได้ประชาชาติที่อยู่ในระดับเดียวกับความต้องการใช้จ่ายมวลรวม เป็นระดับรายได้ประชาชาติที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตราบเท่าที่องค์ประกอบของความต้องการใช้จ่ายมวลรวมยังคงสภาพเดิม (Aggregate Demand = Aggregate Suppy).

chaz
Download Presentation

Topic 10 ระดับรายได้ประชาชาติดุลยภาพ และการเปลี่ยนแปลง

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Topic 10 ระดับรายได้ประชาชาติดุลยภาพและการเปลี่ยนแปลง

  2. รายได้ประชาชาติดุลยภาพ รายได้ประชาชาติดุลยภาพ รายได้ประชาชาติที่อยู่ในระดับเดียวกับความต้องการใช้จ่ายมวลรวม เป็นระดับรายได้ประชาชาติที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตราบเท่าที่องค์ประกอบของความต้องการใช้จ่ายมวลรวมยังคงสภาพเดิม (Aggregate Demand = Aggregate Suppy) • การวิเคราะห์รายได้ดุลยภาพในแบบจำลองแบ่งได้ 2 แนวทาง คือ - แนวทางอุปสงค์รวมเท่ากับอุปทาน (AD = AS) - แนวทางส่วนรั่วไหลเท่ากับส่วนอัดฉีด (S+T+M = (I+G+X)

  3. แนวทางอุปสงค์รวมเท่ากับอุปทานแนวทางอุปสงค์รวมเท่ากับอุปทาน อุปสงค์รวมประกอบด้วย C +I +G+ (X-M) = AD (AggregateDemand)อุปทานรวมคือผลิตภัณฑ์ประชาชาติ = Y = AS (AggregateSupply)ข้อสมมุติGDP at mkp = NI ดังนั้น NI = Y รายได้ประชาชาติอยู่ในดุลยภาพเมื่อC + I + G + (X-M) = Y

  4. การวิเคราะห์จากกราฟ Y , AS AD AD < (Y , AS) AD= C + I +G + (X-M) E ADe AD > AS 0 Y Y1 Ye Y2

  5. Example (1) • Suppose C = 100 +0.8 Yd • I = 100 mil. bt • G = 200 mil. bt • X = 50 mil. bt • M = 30 mil.bt • T = 10 mil. Bt • จงหา ระดับรายได้ประชาชาติดุลยภาพ , graph

  6. แนวทางส่วนรั่วไหลเท่ากับส่วนอัดฉีดแนวทางส่วนรั่วไหลเท่ากับส่วนอัดฉีด - ส่วนรั่วไหล คือ ส่วนที่ทำให้รายได้ประชาชาติลดลง เมื่อตัว แปรดังกล่าวเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย S , T , M - ส่วนอัดฉีด คือ ส่วนที่ทำให้รายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้น เมื่อตัว แปรดังกล่าวเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย I , G , X รายได้ประชาชาติจะอยู่ในระดับดุลยภาพก็ต่อเมื่อ S + T +M = I + G + X สมมติให้ I : เป็นการลงทุนอิสระ

  7. การวิเคราะห์จากกราฟ S+T+M=I+G+X S+T+M E I+G+X Ye Y2 Y Y1 -Ca+Ma

  8. Example (2) • Suppose C = 100 +0.8 Yd • I = 100 mil. bt • G = 200 mil. bt • X = 50 mil. bt • M = 30 mil.bt • T = 10 mil. Bt • จงหา ระดับรายได้ประชาชาติดุลยภาพด้วยวิธี ส่วนรั่วไหลเท่ากับส่วนอัดฉีด , แสดง graph

  9. การเปลี่ยนแปลงระดับดุลยภาพและระดับว่าจ้างทำงานดุลยภาพการเปลี่ยนแปลงระดับดุลยภาพและระดับว่าจ้างทำงานดุลยภาพ • รายได้ประชาชาติดุลยภาพจะเปลี่ยนแปลง เมื่อตัวกำหนดรายได้เปลี่ยนแปลง • ตัวกำหนดรายได้ดุลยภาพ คือ อุปสงค์รวมและอุปทานรวม • เมื่อตัวกำหนดอุปสงค์รวมเปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนแปลงของปัจจัยที่มีผลต่อ C , I , G , (X-M) ตัวได้ตัวหนึ่งเปลี่ยนหรือทุกตัวพร้อมกัน จะทำให้รายได้ดุลยภาพเปลี่ยนแปลงไปด้วย หรือ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของส่วนรั่วไหลและส่วนอัดฉีด

  10. S+T+M Y AD2 I+G’+X AD1 I+G+X Y Y2 Y1 0 Y Y1 Y2 การวิเคราะห์จากกราฟ กำหนดรายจ่ายของการลงทุนเพิ่มขึ้น AD

  11. ทฤษฎีว่าด้วยตัวทวี (Multiplier) คือ ค่าที่เป็นตัวเลขที่แสดงว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแลงในรายจ่ายอิสระแล้ว ระดับรายได้ประชาชาติจะเปลี่ยนแปลงไปเท่าใดของรายจ่ายอิสระ เช่น Y = k I เมื่อ Y : การเปลี่ยนแปลงของรายได้ประชาชาติ I : การเปลี่ยนแปลงของรายจ่ายในการลงทุน k : ตัวทวี ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1 / (1 - MPC) = 1 / MPS Assumptions : 1. Close economy 2. All variables are autonomous except C

  12. Example (3) • From Exs 1 and 2 , C = 100 +0.8 Yd, I = 100 mil. Bt, G = 200 mil. Bt., X = 50 mil. Bt., M = 30 mil.bt., T = 10 mil. Bt • Suppose investment increase by 100 mil bt. (การลงทุนเพิ่มขึ้น 100 mil bt,I = 100 ) • จงหา k

  13. ช่วงห่างการเฟ้อ และช่วงห่างการฝืด • รายได้ประชาชาติดุลยภาพ (YE) ที่เกิดขึ้นในขณะใดขณะหนึ่ง อาจจะมีค่าไม่เท่ากับรายได้ประชาชาติ ณ ระดับที่มีการจ้างงานเต็มที่(Full Employment Income หรือ Potential Income; YF) เมื่อไม่เท่ากันส่วนต่างดังกล่าวเรียกว่า ช่วงห่างรายได้ (Income gap) ซึ่งมี 2 ชนิด คือ ช่วงห่างการเฟ้อ และช่วงห่างการฝืด (YE ≠ YF) • ช่วงห่างการเฟ้อ (Inflationary gap) : สภาวะที่ความต้องการใช้จ่ายมวลรวมที่เกิดขึ้นจริงมีค่ามากกว่าความต้องการใช้จ่ายมวลรวมที่มีการจ้างงานเต็มที่(YE >YF) • ช่วงห่างการฝืด (Deflationary gap) : สภาวะที่ความต้องการใช้จ่ายมวลรวมที่เกิดขึ้นจริงมีค่าต่ำกว่าความต้องการใช้จ่ายมวลรวมที่มีการจ้างงานเต็มที่(YE < YF)

  14. การพิจารณาช่วงห่างการเฟ้อและช่วงห่างการฝืดจากกราฟการพิจารณาช่วงห่างการเฟ้อและช่วงห่างการฝืดจากกราฟ AD ช่วงห่างการเฟ้อ AD2 E2 ADf Ef AD1 E1 ช่วงห่างการฝืด 0 Y1 Yf Y2

More Related