1 / 35

การปรับตัวของธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

การปรับตัวของธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน. โดยธนิต โสรัตน์ ประธานกรรมการ V-SERVE GROUP รองเลขาธิการ สายงานเศรษฐกิจ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย. 17-2008. เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญอะไรอยู่.

chas
Download Presentation

การปรับตัวของธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การปรับตัวของธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันการปรับตัวของธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยธนิต โสรัตน์ ประธานกรรมการ V-SERVE GROUP รองเลขาธิการ สายงานเศรษฐกิจ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 17-2008

  2. เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญอะไรอยู่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญอะไรอยู่ • การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จากปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในสหรัฐ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงการส่งออกของไทยในปีนี้ชะลอตัวลง ทั้งผลกระทบทางตรงต่อการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ และผลกระทบทางอ้อม โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัว 3.5-4.0% • ผลปัจจัยราคาน้ำมันที่ชะลอตัวในอัตราที่สูง “Triple Digit” ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็เพิ่มขึ้นสูงตามราคาน้ำมันและการก่อนค่าของเงินดอลล่าร์ • อัตราเงินเฟ้อ ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 4.3% ในเดือนมกราคม และ 5.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ • ปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง และความสามารถของรัฐบาลในการแก้ปัญหา

  3. ขีดความสามารถที่ลดลงจากปัจจัยภายนอกGlobal Push Effect • เศรษฐกิจโลกถดถอยโดยเฉพาะจากประเทศคู่ค้าสำคัญ • ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น • การถูกประเทศอุตสาหกรรมเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีน , เวียดนาม / อินเดีย ซึ่งผลิตสินค้าระดับเดียวกับไทยเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ • การเปิดการค้าเสรีทั้งจาก WTO และ FTA ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ซึ่งไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าและผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ซึ่งมีความพร้อมกว่า ทั้งด้านราคา , เทคโนโลยีและทุน • การกีดกันจากประเทศคู่ค้าในรูปแบบต่างๆ เช่น AD ,NTB , สิ่งแวดล้อม TANIT SORAT

  4. ผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจไทยผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจไทย • หากเศรษฐกิจโลกขยายตัวลดลง 1% จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้น้อยลงประมาณ 0.6-1% โดยมีผลกระทบผ่านทางการส่งออกและต่อเนื่องไปยังการลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายครัวเรือน • ผลกระทบต่อผู้ส่งออก จะเป็นทั้งปริมาณการส่งออกที่จะขยายตัวน้อยลง และมีการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นในภาวะที่ความต้องการในตลาดโลกชะลอตัว รายได้ของผู้ส่งออกในรูปเงินบาทยังจะได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งขึ้นอีกด้วย • ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆที่เพิ่มขึ้น ได้สร้างแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อมากขึ้น จึงกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของการใช้จ่ายครัวเรือน และส่งผลกระทบการลงทุนและต่อเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้ง คุณภาพชีวิตของประชาชน

  5. ผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจไทยผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจไทย • รายได้สุทธิของประชาชนลดลง กลุ่มครัวเรือนที่มีหนี้สินอยู่แล้ว โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2551 จะอยู่ในช่วง 3.5-4.5% ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อรายได้เกษตรกร • ภาระต่อผู้บริโภคจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มภาระต้นทุนการผลิตต่อเกษตรกรเอง ราคาสินค้าเกษตร ทองคำ และราคาน้ำมันขายปลีก • ด้านอุปสงค์ภายนอกประเทศสุทธิมีแนวโน้มชะลอลง โดยการส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 6.9% ต่อปี เพราะเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยที่ประเมินเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 4.4% ต่อปี

  6. สินค้าส่งออกตลาดสหรัฐลด 1.2%

  7. ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อประชาชนผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อประชาชน รายจ่ายของประชาชนในกลุ่มที่มีรายได้ครัวเรือนต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท เพิ่มขึ้น 440-580 บาทต่อเดือน คิดเป็น 4.0-4.5% ของรายได้ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้เดือนละ 15,000-30,000 บาท รายจ่ายเพิ่มขึ้น 800-820 บาทต่อเดือน คิดเป็น 3.1-4.2% ของรายได้

  8. สภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วง 2 เดือนแรก มค. กพ. • การบริโภคภาคประชาชน 8.5% 6.0% • ดรรชนีภาคอุตสาหกรรม 13.9% 14.7% • การผลิตภายในประเทศ 7.2% 17.3% • การผลิตเพื่อการส่งออก 26.5% 20.4% • ดรรชนีลงทุนภาคเอกชน 4.7% 5.6% • การขยายตัวส่งออก 33% 16% • ดรรชนีเชื่อมั่นธุรกิจ 45.6% 44.8% • ดรรชนีเชื่อมั่นอนาคต 51.8 51.6

  9. ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ภาคเกษตร • ผลผลิตพืชหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตปาล์มน้ำมันและยางพารา ด้านประมงทะเล อยู่ในภาวะซบเซา เนื่องจากต้นทุนการทำประมงอยู่ในระดับสูงตามราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น มูลค่าสัตว์น้ำที่นำขึ้นท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลาในภาคใต้ ลดลงร้อยละ 7.9 และ 15.2 • การเพาะเลี้ยงกุ้ง มีปริมาณผลผลิตลดลง เนื่องจากเกษตรกรลดปริมาณการเลี้ยง จากปัจจัยด้านราคาที่ไม่จูงใจ

  10. ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ภาคอุตสาหกรรม • ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 6.2 • อุตสาหกรรมยางพารามีผลผลิตลดลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นและการแข็งค่าของเงินบาท ปริมาณ ส่งออกยางผ่านด่านศุลกากรในภาคลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.3 • อุตสาหกรรมสัตว์น้ำแปรรูปและแช่แข็ง และอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 25.2 และ 11.3 ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศที่ชะลอตัว • ผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบมีจำนวน 86,681.3 เมตริกตันเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันก่อนร้อยละ 14.6 ตามปริมาณวัตถุดิบที่เข้าโรงงานเพิ่มขึ้น

  11. ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ภาคท่องเที่ยว • ภาวะท่องเที่ยวขยายตัว โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.0 ร้อยละ 69.9 สูงกว่าร้อยละ 59.8 และ 68.8 ในเดือนก่อนและเดือนเดียวกันปีก่อน

  12. ภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ภาคประชาชน • เศรษฐกิจภาคใต้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ทั้งทางด้านอุปทานและอุปสงค์ • ด้านอุปทาน ผลผลิตพืชผลเพิ่มขึ้น และการท่องเที่ยวขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ขณะที่การประมงและอุตสาหกรรมลดลงต่อเนื่อง • ด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนชะลอลงและการลงทุนลดลงต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกและการเบิกจ่ายงบประมาณเร่งตัวขึ้นมาก ส่วนอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.9 ทางด้านสินเชื่อและเงินฝากขยายตัว

  13. นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ • ยกเว้นภาษีบุคคล รายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท ไม่ต้องเสีย • นโยบายกองทุนหมู่บ้าน 1,600 พันล้านบาท • นโยบาย SML 18,687 ล้านบาท (78,358 หมู่บ้าน) • พักชำระหนี้ โครงการ 1 336,633 ราย ชดเชยดอกเบี้ย 4,050 ล้านบาท โครงการ 2 1,705,763 ราย ชดเชยดอกเบี้ย 7,650 ล้านบาท • ชำระคืนเงินกู้ ปี 2553 8,100 ล้านบาท • กองทุนใหม่ธนาคารออมสิน 5,000 ล้านบาท • โครงการปล่อยกู้ ธอส. 10,000 ล้านบาท • โครงการปล่อยสินเชื่อ ธกส. / ออมสิน / ธอส. 5.3 แสนล้านบาท

  14. นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ • ลดหย่อนภาษีรายได้ วิสาหกิจชุมชน 1.2 ล้านแรก = 0% นิติบุคคล 150,000 บาทแรก = 0% ภาษีตลาด MAI 30% = 25% • โครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้ามวลชน 6 เส้นทาง = 2.6 แสนล้าน โครงสร้างพื้นฐาน = 5.1 แสนล้าน • งบประมาณติดลบ ปี 2551 = -1.8% ปี 2552 = -2.5%

  15. ผลต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผลต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล • มาตรการภาษีมีผลดีต่อจีดีพี 0.2% ขณะที่การเมืองหากเกิดการยุบพรรค จะเป็นฝันร้ายกับระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่ง สศค. จะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยอีกครั้งใน 3 เดือนข้างหน้า • บริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น โดยขยายตัวที่ 4.0% ต่อปี เพราะรายได้ที่แท้จริงของภาคประชาชนมีแนวโน้มสูงขึ้น จากรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก • การเพิ่มขึ้นของเงินเดือนข้าราชการและค่าจ้างขั้นต่ำ ขณะที่มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน • การลงทุนภาคเอกชนคาดจะเร่งตัวขึ้น จากฐานที่ต่ำมากมาขยายตัวที่ 9.7% ต่อปี โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้กำลังการผลิตในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงจนใกล้เต็มกำลังการผลิต และการส่งเสริมการลงทุน จะจูงใจให้ภาคเอกชนเร่งการลงทุนในปีนี้

  16. ผลต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผลต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล • การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล ภายใต้กรอบนโยบายการคลังที่ขาดดุลที่ 1.8% ของจีดีพีในปีงบประมาณ 2551 และที่ 2.5% ของจีดีพีในปีงบประมาณ 2552 รวมทั้งการเร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ จะช่วยเพิ่มอุปสงค์การใช้จ่ายภายในประเทศ และช่วยจูงใจให้การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย • มาตรการประชานิยม ควรมีมาตรการสร้างโอกาสและรายได้อย่างยั่งยืน ได้แก่ การสร้างโอกาสและอาชีพของประชาชนระดับรากหญ้าเพิ่มเพิ่มรายได้การสร้างโอกาสและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการเร่งรัดการใช้งบประมาณรัฐบาลเป็นตัวนำ • การลดรายจ่ายควรเป็นมาตรการระยะสั้น ต้องไม่บิดเบือนระบบตลาด ไม่ก่อหนี้ภาครัฐ และเลือกใช้มาตรการที่มีผลต่อผู้เดือดร้อนน หรือกลุ่มสินค้าที่ขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม

  17. ทิศทางของเศรษฐกิจไทยจากนี้ไปทิศทางของเศรษฐกิจไทยจากนี้ไป • การส่งออกจะได้รับผลกระทบ จากการส่งออกทางตรงไปสหรัฐฯและส่งออกทางอ้อมผ่านตลาดใหม่ โดยเฉพาะจีน , อินเดีย และอาเซียน การส่งออก อาจขยายตัว 9.5-12.5% • กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมโดยรวมอาจลดลงใน Q3ตามการชะลอตัวของการส่งออก • เศรษฐกิจภายในประเทศมีปัจจัยเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้น 4.5-5.0% ทำให้การบริโภคตัวชะลอตัว

  18. ทิศทางของเศรษฐกิจไทยจากนี้ไปทิศทางของเศรษฐกิจไทยจากนี้ไป 4. ราคาน้ำมันจะยังคงมีแนวโน้มทรงตัวในอัตราที่สูงขึ้น จากปัจจัย • ปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐปรับลดลง 24.24% • ค่าเงินดอลล่าร์มีแนวโน้มอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 13 ปี • จีนและเกาหลีใต้ มีการนำเข้าน้ำมันสูงขึ้น เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน • ราคาน้ำมันดิบ เฉลี่ย 95-105 USD / บาเรล • ราคาน้ำมันเบนซิน เฉลี่ย 108 USD / บาเรล • ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ย 125 USD / บาเรล

  19. ผลกระทบจากราคาน้ำมัน 1% ต่อเศรษฐกิจไทย • เงินเฟ้อ +0.028% • ขนส่งขยายตัว -0.107% • เศรษฐกิจขยายตัว -0.020% • การบริโภค -0.035% • การลงทุน -0.029% • การส่งออก -0.069% • ภาคเกษตร -0.056% • ภาคอุตสาหกรรม -0.065%

  20. ปัจจัยแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยนมกราคม 2549 – มีนาคม 2551 ราคาน้ำมันขึ้น 2.5% ไทยได้รับผลกระทบ 17% การส่งออกขยายตัว 17% (USD) แต่เงินบาทขยาย 6.5% มค. ธค. มค. ธค. มค. มีค. แข็งค่า 10.65% แข็งค่า 5.71 % แข็งค่า 6.75%

  21. ทิศทางของเศรษฐกิจไทยจากนี้ไปทิศทางของเศรษฐกิจไทยจากนี้ไป 5. ปัจจัยตัวแปรทางเศรษฐกิจ • ปัญหาวิกฤติจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 เพื่อให้กลุ่ม 111 พ้นผิด • ปัจจัยการเมืองที่ส่งเค้าไม่นิ่ง โดยเฉพาะประเด็นการยุบพรรคส่งผลต่อความเชื่อมั่นการบริโภค และการลงทุน • สัดส่วนการลงทุนของไทยอ่อนแอ โดยมีสัดส่วนต่อ GDP ประมาณ 4-7% • สภาพคล่องที่ลดลงจากปริมาณเงินฝากต่อสินเชื่อ 92.8% จะทำให้ทิศทางดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น • การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่อัตรา 5-5.5% ขึ้นอยู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในที่งบประมาณติดลบปี 2551 = 1.8% และปี 2552 = 2.5%

  22. แนวทางในการรับมือเศรษฐกิจภายใต้เวทีการค้าตลาดโลกที่ผันผวนและชะลอตัวแนวทางในการรับมือเศรษฐกิจภายใต้เวทีการค้าตลาดโลกที่ผันผวนและชะลอตัว • กระจายตลาดสินค้าส่งออก เพื่อที่จะลดสัดส่วนรายได้ในรูปเงินสกุลดอลล่าร์ฯ และหันไปเพิ่มน้ำหนักรายได้ในรูปเงินตราสกุลอื่นๆ • การกระจายความเสี่ยง โดยการนำเข้าวัตถุดิบและการ Outsourcesเป็นการเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการภายในโซ่อุปทาน โดยลดการผลิตจากการพึ่งพา Local Content แต่เพียงอย่างเดียว • การซื้ออัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (Forward Exchange)เพื่อรอจังหวะช่วงเวลาที่เหมาะสมในการที่จะขายเงินดอลล่าร์ล่วงหน้า • หันมาใช้ระบบ Off-Set Balanceสำหรับค่าสินค้าส่งออก/วัตถุดิบนำเข้า • เจรจาการปรับราคาพร้อมกับการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้แตกต่างจากคู่แข่ง โดยการสร้างเอกลักษณ์และตราสินค้าเป็นของตนเอง เน้นการวิจัยและพัฒนา และการออกแบบสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันในตลาดล่าง

  23. Awarenessภายใต้การแข่งขันอย่างเสรีการปรับตัวของผู้ประกอบการมีความสำคัญต่อความอยู่รอดของธุรกิจAwarenessภายใต้การแข่งขันอย่างเสรีการปรับตัวของผู้ประกอบการมีความสำคัญต่อความอยู่รอดของธุรกิจ

  24. แนวคิดการปรับตัวของธุรกิจภายใต้การแข่งขันเสรีแนวคิดการปรับตัวของธุรกิจภายใต้การแข่งขันเสรี การตลาดสมัยใหม่ MARKETING NICHE ตำแหน่งธุรกิจที่ชัดเจน Global Market รูปแบบของบริการตามความต้องการของตลาด (Economies of Scope) Value Creation เครือข่ายและมูลค่าเพิ่มที่จะให้ลูกค้า (Network & Value Added Service) NEW BUSINESS CONCEPT การปรับเปลี่ยน กระบวนการคิดใหม่ ความแตกต่าง Global Competitiveness ต้นทุนที่แข่งขันได้ Innovation การพัฒนาระบบการจัดการที่ยั่งยืน การให้ความสำคัญต่อคน (Human Capital) Knowledge Base Sustainable Economy Team การจัดการความเสี่ยง การจัดการความสมดุล

  25. การปรับตัวของธุรกิจในระยะยาวการปรับตัวของธุรกิจในระยะยาว พัฒนาคุณภาพสินค้าให้แตกต่างจากคู่แข่งขัน โดยการสร้างเอกลักษณ์และตราสินค้าเป็นของตนเอง เน้นการวิจัยและพัฒนา และการออกแบบสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันในตลาดล่าง ซึ่งเป็นการผลิตโดยใช้แรงงานเป็นหลัก พิจารณาย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยังแหล่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า หรือถูกกระทบจากแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ได้น้อยกว่า เช่น การย้ายฐานการผลิตสินค้าประเภทที่ใช้แรงงานเป็นหลัก เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า ฯลฯ ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา พม่า และเวียดนาม ดังกรณีของญี่ปุ่นที่ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่เงินเยนได้แข็งค่าขึ้นมากหลังจากข้อตกลง Plaza Accord ในปี 1985 ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เพื่อเป็นการเพิ่ม Productivity และการนำระบบการจัดการโลจิสติกส์ที่เป็น Best Practice มาใช้ในการลดต้นทุนสินค้าคงคลังและการส่งมอบสินค้า และการเชื่อมโยงภายในอุตสาหกรรมให้เป็นระบบ Supply Chain เพื่อลดต้นทุนการผลิต

  26. การปรับตัวด้วยการพัฒนาโลจิสติกส์ในการลดต้นทุนการบูรณาการในโซ่อุปทานโลจิสติกส์การปรับตัวด้วยการพัฒนาโลจิสติกส์ในการลดต้นทุนการบูรณาการในโซ่อุปทานโลจิสติกส์ Make to Order Production JIT Best Practice JIT Best Practice Suppliers Customers Information Flow Buffer Stockless Buffer Stockless Goods & Material Flow Service Flow TANIT SORAT

  27. Balance costs between transport & inventory การจัดการความสมดุลของต้นทุนสินค้าคงคลังกับค่าขนส่ง Balancing Transport Cost Inventory Cost (41%) (47%)

  28. Back Haul Strategies การบริหารขนส่งเที่ยวเปล่า ขนส่งเที่ยวเต็ม Revenue ขนส่งเที่ยวเปล่า Cost ความสมดุล

  29. Back Hauledge การลดขนส่งเที่ยวเปล่าเพื่อการประหยัดต้นทุนขนส่ง Customers ลูกค้า ส่งสินค้าไป TMS Transportation Management System Shippers ผู้ผลิต Suppliers ซัพพลายเออร์ รับวัตถุดิบกลับ

  30. การสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้การสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ Southern Seaboard ขนอม สิชล ทับละมุ กระบี่ สงขลา แนว Landbridge กระบี่ – ขนอม ทับละมุ – สิชล สตูล - สงขลา สตูล แหลมฉบัง East-West Costal Land Bridge นครศรีธรรมราช - แหลมฉบัง - สตูล พัทลุง ธนิต โสรัตน์

  31. อนาคตอุตสาหกรรมส่งออกไทยในเวทีการค้าตลาดโลกอนาคตอุตสาหกรรมส่งออกไทยในเวทีการค้าตลาดโลก TANIT SORAT

  32. การจัดการอุตสาหกรรมภายใต้ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกการจัดการอุตสาหกรรมภายใต้ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก • NEW BUSINESS CONCEPT การตลาดสมัยใหม่ และตำแหน่งธุรกิจที่ชัดเจน • INNOVATION DESIRE ให้ความสำคัญด้านคุณภาพ รูปลักษณ์และความแตกต่าง • LOGISTICS IMPLEMENTATION ลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน การรับ-ส่ง และกระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิผล • SUSTAINABLE ECONOMY ให้เข้าใจระบบการจัดการแบบยั่งยืนอย่างแท้จริง

  33. ทางอยู่รอดของอุตสาหกรรมไทยในบริบทของโลกทางอยู่รอดของอุตสาหกรรมไทยในบริบทของโลก • World Class Competitiveness : ขีดความสามารถในการ แข่งขันระดับสากล • Global Tough : เกาะกระแสโลก • Self Dependent : การพึ่งพาตนเอง • Logistics Change Management : การปรับเปลี่ยนการจัดการ • Risk Management : การสร้างภูมิคุ้มกันความเสี่ยง

  34. จังหวัดนครศรีธรรมราช

  35. END

More Related