1 / 9

พระวจนะ : พื้นฐานของการฟื้นฟู

พระวจนะ : พื้นฐานของการฟื้นฟู. บทเรียนที่ 3 วันที่ 20 กรกฎาคม 2013. ฤทธิ์อำนาจแห่งพระคัมภีร์. พระคำ ของพระเจ้าเต็มล้นด้วยพลังอำนาจ. พลังอำนาจแห่งการทรงสร้าง พลังอำนาจแห่งการฟื้นฟู พลังอำนาจที่จะนำให้เราหันกลับมาสู่พระคริสต์ พลังอำนาจที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลง.

casta
Download Presentation

พระวจนะ : พื้นฐานของการฟื้นฟู

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. พระวจนะ: พื้นฐานของการฟื้นฟู บทเรียนที่ 3 วันที่ 20 กรกฎาคม 2013

  2. ฤทธิ์อำนาจแห่งพระคัมภีร์ฤทธิ์อำนาจแห่งพระคัมภีร์ พระคำของพระเจ้าเต็มล้นด้วยพลังอำนาจ พลังอำนาจแห่งการทรงสร้าง พลังอำนาจแห่งการฟื้นฟู พลังอำนาจที่จะนำให้เราหันกลับมาสู่พระคริสต์ พลังอำนาจที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลง “บัดนี้ข้าพเจ้าได้ฝากท่านไว้กับพระเจ้าและกับคำแห่งพระคุณของพระองค์ ซึ่งสามารถก่อสร้างท่านขึ้นได้ และให้ท่านมีมรดกด้วยกันกับบรรดาธรรมิกชน” (กิจการ 20:32)

  3. พระวจนะพระวิญญาณ และความเชื่อ เมื่อเราได้อธิษฐานอย่างจริงจังที่จะศึกษาพระวจนะของพระองค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงประทานฤทธิ์อำนาจของพระองค์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา แต่ขณะเดียวกันผู้เชื่อก็จะต้องพร้อมที่จะยอมรับสิ่งที่เป็นจริงในพระวจนะของพระเจ้าด้วยเช่นกัน “เพราะว่าแท้จริงเราได้รับข่าวอันประเสริฐเช่นเดียวกับพวกเขา แต่ข่าวที่ได้ยินนั้นไม่เป็นประโยชน์แก่เขาเหล่านั้น เพราะพวกเขาไม่เชื่อ” (ฮิบรู 4:2) ความเชื่อที่แท้จริงจะต้องตั้งไว้ที่พระประสงค์ของพระเจ้า ไม่ใช่เป็นไปตามความเชื่อของตัวเราเอง ความเชื่อคือความไว้วางใจในพระเจ้า เชื่อในพระสัญญาของพระองค์ และกระทำตามพระคำของพระองค์ ความเชื่อของเราเติบโตขึ้นได้ด้วยการที่เราฟังพระคำของพระเจ้า และปฏิบัติตาม (โรม.10:17; ยากอบ.2:17, 18). เปิดจิตใจของเราเพื่อรับคำสอนของพระเจ้า ความเชื่อจะถูกสร้างขึ้น และให้เรากระทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงตรัส และถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับอุปนิสัยของเรา หรือความต้องการของเรา ให้เราเตรียมตัวของเราเพื่อที่จะรับฤทธิ์อำนาจแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะมาจากพระวิญญาณของพระเจ้า

  4. พลังอำนาจแห่งการทรงสร้างพลังอำนาจแห่งการทรงสร้าง พระวจนะของพระเจ้าที่ถูกบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ เป็นพลังอำนาจเดียวกันกับพระคำที่พระเจ้าได้ทรงสร้างโลกนี้ ศึกษาจากพระธรรม ฮิบรู4:12. พระวจนะของพระเจ้าสามารถในการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติทางความคิดทั้งหมดของเรา ที่คอยควบคุมรูปแบบชีวิตและพฤติกรรมของมนุษย์ของเราได้

  5. “พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์จะเรียกร้องให้โลกนี้อยู่ในพระวจนะของพระเจ้า พระวจนะเป็นพลังอำนาจ; มันเปลี่ยนแปลงชีวิต ทุกคำคือพระเป็นสัญญา; ซึ่งจะได้รับโดยการยอมรับเข้าไปในจิตวิญญาณ และสิ่งนี้จะนำมาซึ่งชีวิตนิรันดร์ ซึ่งจะเปลี่ยนธรรมชาติของความบาป และจะสร้างจิตวิญญาณขึ้นมาในพระฉายาของพระเจ้าอีกครั้ง” E.G.W. (Education, cp. 13, pg. 126)

  6. พลังอำนาจแห่งการฟื้นฟูพลังอำนาจแห่งการฟื้นฟู สดุดี119, กษํตริย์ดาวิดทูลถามพระเจ้าหลายครั้งเพื่อที่จะฟื้นฟูชีวิตของพระองค์ด้วยพระคำของพระเจ้า (ข้อ25, 107, 154). พระองค์ทูลถามพระเจ้าเพื่อขอให้การทรงช่วยในสถานการณ์ที่บีบคั้น, กดดัน และน่าวิตกกังวล ศึกษาถึงพระธรรมสดุดี และถามตัวท่านเองว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้พระคำของพระเจ้าฟื้นฟูชีวิตของเราได้? “นี่คือการปลอบโยนในความทุกข์ยากของข้าพระองค์ คือพระสัญญาของพระองค์ให้ชีวิตแก่ข้าพระองค์” (สดุดี119:50) • พระคำให้การปลอบโยน (ข้อ. 50) • พระคำให้ความหวัง (ข้อ. 74) • พระคำให้ การหนุนใจ (ข้อ. 116) • พระคำสอนความจริงแก่เรา (ข้อ. 130, 160) • พระคำให้ความเข้าใจ (ข้อ. 169) • พระคำช่วยปลดปล่อยชีวิต (ข้อ. 170)

  7. “พวกท่านค้นดูในพระคัมภีร์เพราะท่านคิดว่าในนั้นมีชีวิตนิรันดร์ และพระคัมภีร์นั้นเองเป็นพยานให้กับเรา” (ยอห์น5:39) พลังอำนาจที่นำเราให้กลับมาสู่พระคริสต์ เมื่อเราพบกับพระเยซูในพระคัมภีร์ ชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลง จิตใจของเราจะร้อนรนเหมือนกับสาวก 2 คนที่พบกับพระองค์บนทางที่จะไปเมืองเอมาอูส (ลูกา24:32). และนั่นคือการฟื้นฟู พระเยซูคือศูนย์กลางแห่งพระวจนะของพระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำเราให้มีประสบการณ์กับพระองค์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เมื่อเราได้ศึกษาพระคัมภีร์ พระคำของพระเจ้าเป็นพื้นฐาน และรากฐานของการฟื้นฟู เราจะมีประสบการณ์แห่งชีวิตเพิ่มขึ้นตามความเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า การสรรเสริญ และการนมัสการของเราจะเหมือนน้ำพุที่ไหลล้นออกมาอย่างเต็มเปี่ยมจากจิตใจของเราด้วยพระคำของพระองค์

  8. พลังอำนาจที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงพลังอำนาจที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลง

  9. ““จงค้นดูในพระคัมภีร์” นี่คือคำตักเตือนของพระเจ้า หลายคนได้หลงหายไปจากชีวิตนิรันดร์เพราะเขาเหล่านั้นละเลยหน้าที่อันสำคัญนี้ เมื่อเราค้นคว้าในพระวจนะของพระองค์ทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะอยู่เคียงข้างเราจะนำแสงสว่างฉายส่องลงมายังพระวจนะนั้น พระคัมภีร์ได้วิงวอนเราผู้ซึ่งมีสิทธิในการเลือกกระทำในสิ่งที่ถูกหรือผิด พระคัมภีร์ได้พูดกับเราและเตือนเรา ขอร้องเรา แนะนำเรา และให้กำลังใจเรา จิตใจของเราจะต้องเติบโตขึ้นในความจริงอันศักดิ์สิทธิ์ของพระวจนะของพระเจ้า หรือมิฉะนั้นก็จะอ่อนแอลง เราจะต้องนำความจริงนี้ออกไปสู่สาธารณชนแต่เพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอ เราจะต้องทำให้ชีวิตของเราเป็นแบบอย่างเพื่อที่ผู้คนทั่วไปจะได้เรียนรู้และมองเห็นถึงผลแห่งความเชื่อที่ปรากฏขึ้นในตัวของเรา ใช้พระวจนะของพระเจ้า และการอธิษฐานเพื่อที่พระเจ้าจะทรงฉายส่องเข้าไปในจิตใจของท่าน ซึ่งถ้าเราศึกษาพระวจนะของพระเจ้าและอธิษฐานอย่างจริงจังทุกวัน เราจะเห็นถึงความจริงที่งดงาม, แจ่มใส และแสงสว่างที่สดชื่นทุกวันเช่นกัน” E.G.W. (Counsels on Sabbath School Work, section 2, pg. 22)

More Related