1 / 62

การพัฒนาตัวชี้วัดและสมรรถนะ เพื่อการประเมินประสิทธิภาพองค์กรและบุคลากรมหาวิทยาลัย

การพัฒนาตัวชี้วัดและสมรรถนะ เพื่อการประเมินประสิทธิภาพองค์กรและบุคลากรมหาวิทยาลัย. สถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ และ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วันที่ 2 9 เมษายน 255 2. ชนิดา อาคมวัฒนะ ที่ปรึกษาอาวุโส ด้านการพัฒนาข้าราชการและพัฒนาระบบราชการ

Download Presentation

การพัฒนาตัวชี้วัดและสมรรถนะ เพื่อการประเมินประสิทธิภาพองค์กรและบุคลากรมหาวิทยาลัย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การพัฒนาตัวชี้วัดและสมรรถนะเพื่อการประเมินประสิทธิภาพองค์กรและบุคลากรมหาวิทยาลัยการพัฒนาตัวชี้วัดและสมรรถนะเพื่อการประเมินประสิทธิภาพองค์กรและบุคลากรมหาวิทยาลัย สถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ และ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วันที่ 29 เมษายน 2552 ชนิดา อาคมวัฒนะ ที่ปรึกษาอาวุโส ด้านการพัฒนาข้าราชการและพัฒนาระบบราชการ สถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ สำนักงาน ก.พ.

  2. ประเด็นชวนท่านคุยวันนี้ประเด็นชวนท่านคุยวันนี้ ภาคเช้า • การประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 • การบริหารผลการปฏิบัติงาน ภาคบ่าย • การบริหารผลการปฏิบัติงาน กับ การประเมินบุคคล • การพัฒนาสมรรถนะเพื่อการประเมินประสิทธิภาพองค์กรและบุคลากรมหาวิทยาลัย

  3. การประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552

  4. หลักการและที่มา • พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 • พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 • คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2546 เห็นชอบหลักการและรายละเอียดของแนวทางและวิธีการในการสร้างแรงจูงใจเพื่อเสริมสร้างการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอซึ่งให้ทุกส่วนราชการต้องพัฒนาการปฏิบัติราชการและทำข้อตกลงผลงานกับผู้บังคับบัญชา และคณะกรรมการเจรจาข้อตกลงและประเมินผล โดยจะได้รับสิ่งจูงใจตามระดับของผลงานตามที่ตกลงไว้ • ถ้อยแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2551 ว่าด้วย “นโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี” • สำนักงาน ก.พ.ร. จัดให้มีการจัดทำคำรับรองและติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการของสถาบันอุดมศึกษาขึ้น ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เพื่อกำหนดกรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการ วิเคราะห์และจัดให้มีการเจรจาความเหมาะสมของตัวชี้วัด เป้าหมาย และเกณฑ์การให้คะแนนตัวชี้วัดในคำรับรองการปฏิบัติราชการ ให้มีความสอดคล้องกับแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ (ทั้งงบประมาณแผ่นดินและงบประมาณรายได้) ของสถาบันอุดมศึกษา รวมทั้งติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ

  5. วัตถุประสงค์ • เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษามีการปฏิบัติราชการที่สอดคล้องกับหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี • เพื่อนำผลการประเมินการปฏิบัติราชการมาจัดสรรสิ่งจูงใจแก่สถาบันอุดมศึกษาได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม

  6. กรอบการประกันคุณภาพอุดมศึกษาไทยกรอบการประกันคุณภาพอุดมศึกษาไทย รัฐบาล (ครม.) • กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ และมาตรฐานชาติ • ติดตามการปฏิบัติ • จัดสรรงบประมาณ • สำนักงาน ก.พ.ร. • จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ • นัดหมายประเมินผลด้านประสิทธิผล ด้านคุณภาพ ด้านประสิทธิภาพ และ ด้านการพัฒนาสถาบัน • เสนอผลการประเมิน และสิ่งจูงใจต่อ ครม. ศธ. สกศ. สกอ. สมศ. ต้นสังกัด สถานศึกษา : รับผิดชอบจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ โดยจัดให้มีการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งองการปฏิบัติงานตามปกติ

  7. หลักการของกรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ของสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 1. หลักการประเมินเพื่อเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพสู่สากลของสถาบันอุดมศึกษา 2. หลักเอกภาพของการประเมินภายนอกสถาบันอุดมศึกษา 3. หลักการประเมินตามเอกลักษณ์และจุดเน้นของสถาบันอุดมศึกษา 4. หลักความต่อเนื่องของการประเมินเพื่อให้สถาบันพัฒนาคุณภาพสู่งานประจำและความยั่งยืน

  8. มิติที่ 1 ด้านประสิทธิผล มิติที่ 2 ด้านคุณภาพ มิติที่ ๑ ๒ ด้านคุณภาพการให้บริการ ตามยุทธศาสตร์ กรอบการประเมิน กรอบการประเมินการปฏิบัติราชการของสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 ครม . . และแผนยุทธศาสตร์ ส่วนราชการ ๔ ๓ มิติที่ มิติที่ 3 ด้านประสิทธิภาพ ของการปฏิบัติราชการ มิติที่ 4 ด้านการพัฒนาสถาบัน ด้านการพัฒนาองค์กร ด้านประสิทธิภาพ ของการปฏิบัติราชการ กรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ของสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552

  9. เปรียบเทียบประเด็นการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ของสถาบันอุดมศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 - 2552

  10. ตัวชี้วัด ตามคู่มือการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ของสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552

  11. ระดับความสำเร็จของร้อยละเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในการบรรลุเป้าหมาย ตามแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง 2. ระดับความสำเร็จของร้อยละเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในการบรรลุเป้าหมาย ตามแผนปฏิบัติราชการของ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา • สถาบันไม่ต้องจัดทำรายงานตัวชี้วัดนี้ • ในรายงานให้ระบุคะแนนเป็น 1 มาก่อน • ตัวชี้วัดนี้จะได้คะแนนเท่ากับกระทรวงที่สังกัด มิติที่ 1 3.ระดับความสำเร็จของร้อยละเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในการบรรลุเป้าหมาย ที่สะท้อนเอกลักษณ์ จุดเน้น รวมทั้ง วัตถุประสงค์เฉพาะ ตามพระราชบัญญัติของสถาบันอุดมศึกษา สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กา ปฏิรูปอุดมศึกษาและการพัฒนา ประเทศ บ่งชี้คุณภาพการศึกษา 4. ระดับความสำเร็จของร้อยละเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ในการบรรลุมาตรฐานคุณภาพ สมศ. ของสถาบันอุดมศึกษา 5. ระดับความสำเร็จในการพัฒนาสถาบันสู่ระดับสากล

  12. หลักการของตัวชี้วัด จำแนกได้ตามกลุ่มของสถาบันอุดมศึกษา • สถาบันอุดมศึกษากลุ่มที่ 1 เป็นตัวชี้วัดเกี่ยวกับการผลิตบัณฑิต ระดับบัณฑิตศึกษา ความเป็นนานาชาติ หรือการวิจัย ประกอบด้วย ตัวชี้วัดที่กำหนดให้ 2 ตัวชี้วัด และตัวชี้วัดอิสระที่สะท้อนเอกลักษณ์ ของมหาวิทยาลัย 2 ตัวชี้วัด ให้มีการเจรจาตัวชี้วัดสำคัญจำนวน 4 ตัวชี้วัด ในประเด็น ความเหมาะสมของตัวชี้วัด โดยกระจายค่าน้ำหนักเท่ากัน คือ 2.5

  13. สถาบันอุดมศึกษากลุ่มที่ 1 ตัวชี้วัดที่กำหนดให้ สำหรับสถาบันอุดมศึกษากลุ่มที่ 1 จำนวน 2 ตัวชี้วัดได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 3.1ร้อยละของบทความวิจัยที่ได้รับการอ้างอิง (Citation) ใน refereed journal หรือในฐานข้อมูลระดับชาติหรือระดับ นานาชาติ ต่ออาจารย์ประจำและนักวิจัยประจำ น้ำหนัก : ร้อยละ 2.5 ตัวชี้วัดที่ 3.2 จำนวนผลงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่ได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรน้ำหนัก : ร้อยละ 2.5

  14. ตัวชี้วัดอิสระที่สะท้อนเอกลักษณ์ ของมหาวิทยาลัย 2 ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดที่ 3.3 ระดับความสำเร็จในการประกันคุณภาพการศึกษาของผู้นำนักศึกษาน้ำหนัก : ร้อยละ 2.5 ตัวชี้วัดที่ 3.4 ระดับความสำเร็จของการพัฒนาการจัดการการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาสู่ความเป็นนานาชาติน้ำหนัก : ร้อยละ 2.5

  15. 4.1 มาตรฐาน ด้านบัณฑิต ตัวชี้วัดที่ 4 ระดับความสำเร็จของร้อยละเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ในการบรรลุมาตรฐานคุณภาพ สมศ. ของสถาบันอุดมศึกษาน้ำหนัก : ร้อยละ 20 4.2 มาตรฐาน ด้านงานวิจัยและ งานสร้างสรรค์ 4.3 มาตรฐานด้านบริการวิชาการ 4.4 มาตรฐานด้าน การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม

  16. ตัวชี้วัดที่ 4.1 มาตรฐานด้านคุณภาพบัณฑิตตัวชี้วัดที่ 4.1.1 ร้อยละของบัณฑิตระดับปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายในระยะเวลา 1 ปีน้ำหนัก : ร้อยละ 3 ไม่รวมผู้ศึกษาต่อและผู้ที่มีงานทำอยู่แล้ว

  17. ตัวชี้วัดที่ 4.1.2 ร้อยละของบัณฑิตระดับปริญญาตรีที่ได้งานทำตรงสาขาที่สำเร็จการศึกษาน้ำหนัก : ร้อยละ 2 ไม่รวมผู้ที่มีงานทำอยู่แล้วและผู้ศึกษาต่อ

  18. ตัวชี้วัดที่ 4.1.3 ร้อยละเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของบัณฑิตระดับปริญญาตรีที่ผ่าน การสอบใบประกอบวิชาชีพ ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ต่อจำนวน ผู้เข้าสอบทั้งหมดน้ำหนัก: ร้อยละ 3 4 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ 1.วิศวกรรมศาสตร์ 2. เภสัชศาสตร์ 3. แพทยศาสตร์ 4. พยาบาลศาสตร์ ข้อพึงระวัง • ให้เปรียบเทียบจำนวนของผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรี (ทุกหลักสูตร) ให้เปรียบเทียบจำนวนบัณฑิตที่ผ่านการสอบ ใบประกอบวิชาชีพ กับบัณฑิตที่สอบใบประกอบวิชาชีพ ในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมา (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2552) โดยให้นำเสนอในรูปร้อยละ

  19. ข้อพึงระวัง • แจงนับเฉพาะบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาที่เข้าสอบใบประกอบวิชาชีพ ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2552) ใน 4 สาขาวิชาโดยมีรายละเอียดดังนี้

  20. ตัวชี้วัดที่ 4.1.4 ร้อยละของบทความวิทยานิพนธ์ปริญญาโทหรือเอก ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ทั้งในระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ต่อจำนวนวิทยานิพนธ์ปริญญาโท หรือเอก น้ำหนัก : ร้อยละ 2 • ทั้งนี้ไม่นับภาคนิพนธ์ หรือสารนิพนธ์ • โดยไม่นับซ้ำแม้ว่าบทความนั้นจะมีการตีพิมพ์เผยแพร่หลายครั้ง/ หลายฉบับ หรือผู้สำเร็จการศึกษานั้นมีผลงานตีพิมพ์หลายชิ้น

  21. ตัวชี้วัดที่ 4.2มาตรฐานด้านงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ ไม่นับรวมอาจารย์ประจำและ/หรือนักวิจัยประจำที่ลาศึกษาต่อ ตัวชี้วัดที่ 4.2.1 ร้อยละของงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ ในระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ต่ออาจารย์ประจำและ/ หรือนักวิจัยประจำ น้ำหนัก : ร้อยละ 4

  22. ข้อพึงระวัง • วารสารวิชาการระดับชาติ ได้แก่ วารสารวิชาการอยู่ในฐานข้อมูลวารสารวิชาการที่เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ ทั้งนี้วารสารระดับชาติที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูลระดับชาติจะสามารถนำมานับรวมได้ก็ต่อเมื่อ • วารสารนั้น มีผู้ประเมินอิสระหรือพิชญพิจารณ์ (Peer Review) • คณะบรรณาธิการฉบับนั้นเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับวารสาร • กองบรรณาธิการจะต้องมาจากสถาบันอื่นๆ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 • วารสารวิชาการระดับนานาชาติ ได้แก่ วารสารวิชาการที่อยู่ในฐานข้อมูลวารสารวิชาการระดับสากลที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งนี้วารสารระดับนานาชาติที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูลสากลจะสามารถนำมานับรวมได้ก็ต่อเมื่อวารสารนั้น มีคณะบรรณาธิการเป็นชาวต่างประเทศอย่างน้อย 1 คน และมีบทความวิจัยจากต่างประเทศลงตีพิมพ์ อย่างน้อย 1 เรื่องหรือ 1 บทความ ในแต่ละฉบับ ที่ตีพิมพ์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 • การแจงนับงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ทั้งในระดับชาติหรือระดับนานาชาติในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 • จะไม่นับซ้ำแม้ว่าบทความนั้นจะมีการตีพิมพ์เผยแพร่หลายครั้ง / หลายฉบับก็ตาม

  23. ตัวชี้วัดที่ 4.2 มาตรฐานด้านงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ตัวชี้วัดที่4.2.2 ร้อยละของงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ที่นำมาใช้ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างชัดเจนต่ออาจารย์ประจำ และ/ หรือนักวิจัยประจำน้ำหนัก : ร้อยละ 3 เปรียบเทียบงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ที่นำมาใช้อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างชัดเจนต่อจำนวนอาจารย์ประจำและ/ หรือนักวิจัยประจำในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยให้นำเสนอในรูปร้อยละ หลักฐานแสดงว่าได้มีการนำผลงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์หรือข้อเสนอแนะที่ระบุไว้ในรายงานการวิจัยอย่างถูกต้อง และมีหลักฐานปรากฏชัดเจนถึงการนำไปใช้จนก่อให้เกิดประโยชน์ได้จริง

  24. ผลงานวิชาการ หมายถึง ผลงานทางวิชาการตามที่กำหนดในประกาศ ก.พ.อ. กรณีเฉพาะ 1) ตำรา 2) หนังสือ ตัวชี้วัดที่ 4.2มาตรฐานด้านงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ ตัวชี้วัดที่ 4.2.3 ร้อยละของผลงานวิชาการที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์และได้รับรอง คุณภาพจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ต่ออาจารย์ประจำ และ/หรือนักวิจัยประจำ น้ำหนัก : ร้อยละ 3 อย่าลืมหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของงานลิขสิทธิ์

  25. ไม่นับรวมการจัดอันดับของ webometrics.info เกณฑ์การให้คะแนน ตัวชี้วัดที่ 5 ระดับความสำเร็จในการพัฒนาสถาบันสู่ระดับสากล สำหรับสถาบันอุดมศึกษากลุ่มที่ 1 เน้นการผลิตบัณฑิตระดับบัณฑิตศึกษาและวิจัย น้ำหนัก : ร้อยละ 5

  26. ตัวชี้วัดที่ 6 ร้อยละของระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิต และความพึงพอใจของนิสิตนักศึกษา มิติที่ 2 ตัวชี้วัดที่ 7 ระดับความสำเร็จของการประกันคุณภาพที่ก่อให้เกิด การพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

  27. ตัวชี้วัดที่ 6.1 ร้อยละของระดับความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต น้ำหนัก : ร้อยละ 2.5 ตัวชี้วัดที่ 6 ร้อยละของระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตและ ความพึงพอใจของนิสิตนักศึกษา • ประเด็นการสำรวจความพึงพอใจ พิจารณาจากคุณสมบัติหลักของบัณฑิต • ที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 • ซึ่งประกอบด้วย 3 ประเด็น ดังนี้ • 1) ความพึงพอใจด้านความรู้ความสามารถทางวิชาการตามลักษณะงาน • ในสาขานั้นๆ • 2) ความพึงพอใจด้านความรู้ความสามารถพื้นฐานที่ส่งผลต่อการทำงาน • 3) ความพึงพอใจด้านคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพ น้ำหนัก : ร้อยละ 5

  28. ตัวชี้วัดที่ 6.2 ร้อยละของระดับความพึงพอใจต่อสถาบันอุดมศึกษา ของนิสิตนักศึกษา น้ำหนัก : ร้อยละ 2.5 • ประเด็นการสำรวจความพึงพอใจ ประกอบด้วย 2 ประเด็น ดังนี้ • 1) ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน • 2) ความพึงพอใจต่อการให้บริการของคณะ/สำนัก

  29. ตัวชี้วัดที่ 7.1 ระดับความสำเร็จของการประกันคุณภาพภายในที่ก่อให้เกิด การพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง น้ำหนัก : ร้อยละ 7 เกณฑ์การให้คะแนน ตัวชี้วัดที่ 7 ระดับความสำเร็จของการประกันคุณภาพที่ก่อให้เกิด การพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง น้ำหนัก : ร้อยละ 10

  30. โดยที่:

  31. โดยที่:

  32. ตัวชี้วัดที่ 7 ระดับความสำเร็จของการประกันคุณภาพที่ก่อให้เกิด การพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง น้ำหนัก : ร้อยละ 10 ตัวชี้วัดที่ 7.2 ระดับคุณภาพของสถาบันจากผลการประเมิน ของ สมศ. น้ำหนัก : ร้อยละ 3 เกณฑ์การให้คะแนน : • พิจารณาจากผลการประเมินคุณภาพของสถาบันอุดมศึกษาซึ่งผ่านการประเมินคุณภาพภายนอก รอบที่ 2 ของ สมศ. • หากสถาบันอุดมศึกษาใดยังไม่ได้รับการประเมินรอบที่ 2 จาก สมศ. ไม่ต้องประเมินตัวชี้วัดนี้ และให้นำน้ำหนักไปบวกเพิ่มในตัวชี้วัดที่ 7.1

  33. ตัวชี้วัดที่ 8 ระดับความสำเร็จของการดำเนินการตามมาตรการ ประหยัดพลังงานของสถาบันอุดมศึกษา ตัวชี้วัดที่ 9 ร้อยละของอัตราการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ รายจ่ายลงทุน มิติที่ 3 ตัวชี้วัดที่ 10 ระดับความสำเร็จของร้อยละเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ในการรักษามาตรฐานระยะเวลาการให้บริการ ตัวชี้วัดที่ 11 ระดับความสำเร็จของการจัดทำต้นทุนต่อหน่วยผลผลิต กลุ่มสาขาวิชา จำแนกดังนี้ 1. วิทยาศาสตร์สุขภาพ 2. วิทยาศาสตร์กายภาพ 3. วิศวกรรมศาสตร์ 4. สถาปัตยกรรมศาสตร์ 5. เกษตรศาสตร์ 6. บริหารธุรกิจ 7. ครุศาสตร์ 8. ศิลปกรรมศาสตร์ 9. สังคมศาสตร์

  34. ตัวชี้วัดที่ 12 ระดับคุณภาพของการกำกับดูแลตามหน้าที่และบทบาทของ สภามหาวิทยาลัยและการถ่ายทอดเป้าหมายจากสภามหาวิทยาลัย สู่สถาบันอุดมศึกษา มีประเด็นตามข้อสังเกต ตัวชี้วัดที่ 13 ระดับความสำเร็จในการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามา มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและร่วมติดตาม ตรวจสอบผลการปฏิบัติราชการ มิติที่ 4 ตัวชี้วัดที่ 14 ระดับความสำเร็จของการพัฒนาระบบฐานข้อมูลอุดมศึกษา ด้านนักศึกษา บุคลากร หลักสูตรและการเงินอุดมศึกษา และ ระบบฐานข้อมูลภาวะการมีงานทำของบัณฑิต ระบบฐานข้อมูลผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ หรือแผนปฏิบัติราชการ ตัวชี้วัดที่ 15 ระดับความสำเร็จของแผนพัฒนาบุคลากรและการจัดการความรู้ เพื่อพัฒนาบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา ประเมินความสำเร็จ 7 ประเด็น

  35. ตัวชี้วัดที่ 16 ระดับความสำเร็จของการปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ คณาจารย์ของสถาบันอุดมศึกษา มิติที่ 4 ตัวชี้วัดที่ 17 ประสิทธิภาพของการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตัวชี้วัดที่ 18 ระดับความสำเร็จของการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการ ที่สร้างคุณค่า คู่มือการปฏิบัติงาน กำกับติดตาม และประเมินผลการปรับปรุงตามขั้นตอน

  36. ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญตามตัวชี้วัดที่ 12.1

  37. ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญตามตัวชี้วัดที่ 12.1

  38. ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญตามตัวชี้วัดที่ 12.2

  39. ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญตามตัวชี้วัดที่ 12.2

  40. การบริหารผลการปฏิบัติงานการบริหารผลการปฏิบัติงาน

  41. การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) • หมายถึง กระบวนการเพื่อผลักดันให้ผลการปฏิบัติงานขององค์กรสูงขึ้น ด้วยการเชื่อมโยงเป้าหมายผลการปฏิบัติการในระดับองค์กร ระดับหน่วยงาน จนถึงระดับบุคคลเข้าด้วยกัน และอาศัยการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาผู้ปฏิบัติงาน การติดตามผลการปฏิบัติงาน แลการประเมินผลการปฏิบัติงานที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ

  42. หลักการ

  43. หลักการ

  44. ขั้นตอนของการบริหารผลการปฏิบัติงานขั้นตอนของการบริหารผลการปฏิบัติงาน

  45. การถ่ายทอดเป้าหมายผลการปฏิบัติการ(PerformanceCascading)การถ่ายทอดเป้าหมายผลการปฏิบัติการ(PerformanceCascading)

  46. หลักการ

  47. องค์ประกอบสำคัญ ของเป้าหมายผลการปฏิบัติการ ภาพรวมการถ่ายทอดผลการปฏิบัติงานจากระดับองค์กร สู่ระดับบุคคล

  48. การวางแผนเพื่อกำหนดผลการปฏิบัติงานรายบุคคล(Performance planning)

  49. การวางแผนเพื่อกำหนดผลการปฏิบัติงานรายบุคคลการวางแผนเพื่อกำหนดผลการปฏิบัติงานรายบุคคล • การวางแผนเพื่อกำหนดการปฏิบัติงานรายบุคคล ทำให้เกิดความชัดเจนในเป้าหมายผลการปฏิบัติงาน โดยจะทำให้ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนมีความเข้าใจเป้าหมาย และแนวทางในการปฏิบัติงานที่ตรงกัน ในแต่ละปีงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน อีกทั้งยังรู้ว่าเป้าหมายผลการปฏิบัติงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องกับความสำเร็จขององค์กรอย่างไร • นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชายังเกิดความชัดเจนในสมรรถนะที่องค์กรกำหนดให้ จะช่วยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาแต่ละคน มีแนวทางในการแสดงพฤติกรรมในระหว่างการปฏิบัติงาน โดยอาศัยพฤติกรรมชี้วัดที่ระบุไว้ในระดับของสมรรถนะที่องค์กรคาดหวัง

  50. แนวความคิด

More Related