1 / 151

กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ที่ เกี่ยวกับข้าราชการครู

กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ที่ เกี่ยวกับข้าราชการครู. ธีรศักดิ์ อุบล รัตน์ นิติกรสำนักงาน ก.ค.ศ. นบ. นม. นิติศาสตร์ธรรมศาสตร์. บทนำ. สาระสำคัญ กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง บัญญัติขึ้นโดยมีเจตนารมณ์

carsyn
Download Presentation

กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ที่ เกี่ยวกับข้าราชการครู

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองที่เกี่ยวกับข้าราชการครู ธีรศักดิ์ อุบลรัตน์ นิติกรสำนักงาน ก.ค.ศ. นบ. นม. นิติศาสตร์ธรรมศาสตร์

  2. บทนำ สาระสำคัญ กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง บัญญัติขึ้นโดยมีเจตนารมณ์ “เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การดำเนินงาน ทางปกครองในปัจจุบันยังไม่มีหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่เหมาะสม จึงสมควรกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนต่างๆ สำหรับการดำเนินงานทางปกครอง ขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย มีประสิทธิภาพในการใช้บังคับกฎหมายให้สามารถรักษาประโยชน์สาธารณะได้ และอำนวยความเป็นธรรมแก่ประชาชน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ ในวงราชการจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้”

  3. บทนำ รักษาประโยชน์สาธารณะ สาระสำคัญ อำนวยความเป็นธรรม แก่ประชาชน การดำเนินงาน ทางปกครอง มีประสิทธิภาพ ป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ

  4. บทนำ ความหมาย กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองเป็นกฎหมายหลัก ที่กำหนดขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานขององค์กรเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทั้งนี้เพื่อให้การใช้บังคับกฎหมายปกครองเฉพาะเรื่องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีระบบระเบียบ นอกจากนี้กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองยังได้ประกันสิทธิและกำหนดหน้าที่ของเอกชนในกระบวนวิธีพิจารณาเรื่องทางปกครองไว้อย่างชัดเจนและ เปิดโอกาสให้เอกชนมีบทบาทในกระบวนวิธีพิจารณาเรื่องทางปกครองอีกด้วย ** **วรเจตน์ ภาคีรัฐ กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองสำหรับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า, 2554. หน้า3ค้นคว้าจาก http://www.kpi.ac.th/kpith/index.php?option=com_content&task=view&id=1074&Itemid=249

  5. บทนำ ความหมาย กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองจึงเป็นกฎหมายหลัก ที่กำหนดขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานขององค์กรเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง คุ้มครอง ควบคุม ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา อ.ก.ค.ศ. เขตฯ ก.ค.ศ. ประชาชน (ประโยชน์สาธารณะ) นักเรียน ผู้ปกครอง ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา

  6. บทนำ ที่ น.ว. 89/2497 กรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร 1 เมษายน 2497 เรื่อง ข้าราชการอ้างว่าไม่รู้กฎหมายและระเบียบแบบแผนในหน้าที่ เรียน (เวียนกระทรวงทบวงกรม) ด้วยในคราวประชุม ครม. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2497 ได้พิจารณาเห็นว่าข้าราชการแต่ละคน ย่อมมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่ของตน หากได้ปฏิบัติงานในหน้าที่ก็ดี หรือละเว้นมิได้ปฏิบัติก็ดี เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการแล้ว จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายหรือระเบียบแบบแผนข้อบังคับของทางราชการมิได้ จึงได้ลงมติว่า ข้าราชการผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายหรือระเบียบแบบแผนข้อบังคับตนจะต้องปฏิบัติและอยู่ในหน้าที่ของตนมิได้ การที่ข้าราชการปฏิบัติงาน ไม่ชอบด้วยกฎหมายระเบียบแบบแผนก็ดี หรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนกำหนดก็ดีให้ถือว่าเป็นการผิดวินัย หรือหย่อนสมรรถภาพ แล้วแต่กรณี และให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษตามควรแก่กรณีต่อไป จึงขอยืนยันมา ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง (ลงนาม) ชำนาญอักษร (หลวงชำนาญอักษร) เลขาธิการคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร

  7. บทนำ ขอบเขต กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองได้กำหนดขอบเขตการบังคับใช้ไว้ใน มาตรา 3(เนื้อหา) มาตรา4(ข้อยกเว้น )และมาตรา5 คำสั่งปกครอง(รูปแบบ ) มาตรา 3วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามกฎหมายต่างๆ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายใดกำหนดวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองเรื่องใดไว้โดยเฉพาะและมีหลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรมหรือมีมาตรฐานในการปฏิบัติราชการไม่ต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนด ในพระราชบัญญัตินี้ ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับขั้นตอนและระยะเวลาอุทธรณ์หรือโต้แย้งที่กำหนดในกฎหมาย

  8. กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง หลักเกณฑ์ที่ประกัน ความเป็นธรรม มาตรฐาน การปฏิบัติราชการ พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547

  9. บทนำ **วรเจตน์ ภาคีรัฐ กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองสำหรับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น.กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า, 2554. หน้า7 ค้นคว้าจากhttp://www.kpi.ac.th/kpith/index.php?option=com_content&task=view&id=1074&Itemid=249

  10. บทนำ “หลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรม”

  11. บทนำ “หลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรม” คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.307/2553 ในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ให้ใช้ระบบเปิดในการพิจารณาตามหนังสือ สำนักงาน ก.พ. ที่ นร.0708.1/ว 16ลงวันที่ 7สิงหาคม 2540 สาระสำคัญ สรุปได้ว่า ผบ.ซึ่งเป็นผู้ประเมินต้องแจ้งการประเมินและ ผลการประเมิน ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบเป็นรายบุคคลทุกครั้ง ที่มีการประเมิน เพื่อให้มีการแก้ไขปรับปรุงการปฏิบัติงาน และเป็นการ เปิดโอกาสให้ได้ชี้แจงให้ความเห็นหรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการประเมินผล ก่อนมีคำสั่งเลื่อนขั้น

  12. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.307/2553 (ต่อ) ข้อเท็จจริงว่า มีข้อโต้แย้งกันอยู่เทศบาลตำบลเมืองพาน ทำการประเมินโดยมีอคติต่อผู้ฟ้องคดีและใช้อำนาจโดยไม่นำพาต่อระเบียบกฎหมาย ที่ผู้ถูกฟ้องคดีจะต้องถือปฏิบัติ เป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกฟ้องคดีอ้างว่า ได้เชิญผู้ฟ้องคดีไปพบเป็นการส่วนตัว ที่ห้องทำงานเพื่อที่จะให้คำแนะนำสอบถามความในใจและแจ้งให้ทราบว่าพฤติการณ์ของ ผู้ฟ้องคดีที่มีปัญหากับผู้ถูกฟ้องคดีมาโดยตลอดและไม่สนองนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนจะมีผลกระทบถึงการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนแล้ว แต่ผู้ฟ้องคดีไม่ยอมไปพบนั้น “หลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรม”

  13. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.307/2553 (ต่อ) ข้อเท็จจริงว่า มีข้อโต้แย้งกันอยู่เทศบาลตำบลเมืองพาน ทำการประเมินโดยมีอคติต่อผู้ฟ้องคดีและใช้อำนาจโดยไม่นำพาต่อระเบียบกฎหมายที่ ผู้ถูกฟ้องคดีจะต้องถือปฏิบัติ เป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกฟ้องคดีอ้างว่า ได้เชิญผู้ฟ้องคดีไปพบเป็นการส่วนตัว ที่ห้องทำงานเพื่อที่จะให้คำแนะนำสอบถามความในใจและแจ้งให้ทราบว่าพฤติการณ์ของ ผู้ฟ้องคดีที่มีปัญหากับผู้ถูกฟ้องคดีมาโดยตลอดและไม่สนองนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนจะมีผลกระทบถึงการพิจารณาเลื่อน ขั้นเงินเดือนแล้ว แต่ผู้ฟ้องคดีไม่ยอมไปพบนั้น

  14. บทนำ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.307/2553 (ต่อ) โดยเฉพาะผู้ที่ไม่อยู่ในข่ายได้รับการเสนอเพื่อพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนให้มีสิทธิพบผู้บังคับบัญชาได้ทันทีที่รับทราบผลการพิจารณาดังกล่าว หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. ดังกล่าวทำให้มีความเป็นธรรม โปร่งใส สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ อีกทั้ง ยังให้โอกาสผู้ใต้บังคับบัญชาได้มีโอกาสทราบผลการประเมินเพื่อการโต้แย้งหรือปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น ถือได้ว่าเป็นรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้สาหรับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน

  15. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.307/2553 (ต่อ) แต่อย่างไรก็ดี ไม่ปรากฏว่ามีขั้นตอนที่แสดงว่าเปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องคดี ซึ่งไม่อยู่ในข่ายได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนได้ชี้แจง ให้ความเห็นหรือขอคำปรึกษา โดยผู้ถูกฟ้องคดีได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนที่จะมีคำสั่งให้งดเลื่อนขั้นเงินเดือนของผู้ฟ้องคดี การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้เปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องคดีได้ชี้แจง ให้ความเห็นก่อนที่จะมีคำสั่งให้งดเลื่อนขั้นเงินเดือนตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่จะต้องถือปฏิบัติ เพื่อให้ได้มีข้อมูลจากการฟังความทุกฝ่ายอย่างครบถ้วนและเป็นธรรมมาพิจารณากลั่นกรองการใช้ดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดี ให้เกิดมาตรฐานและความเป็นธรรม ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินที่ ก.พ. กำหนด จึงถือได้ว่ามิได้ดำเนินการตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการ อันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้ “หลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรม”

  16. บทนำ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 30/2550 ผู้ฟ้องคดีเป็นข้าราชการ สังกัดสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดขณะที่ดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินรักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการเงินบัญชีและจัดเก็บผลประโยชน์ เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 3 (ลูกน้อง)ได้ไปเก็บเงินค่าเช่าที่ดินและค่าภาษีบำรุงท้องที่ แล้วไม่ออกใบเสร็จรับเงินและไม่นำเงินส่งสำนักงาน กลับนำเงินดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด มิได้กล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้กระทำละเมิดแต่อย่างใด รวมทั้งการที่ผู้ฟ้องคดีให้การ “มาตรฐานในการปฏิบัติราชการ”

  17. บทนำ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 30/2550 (ต่อ) คำสั่งที่แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด มิได้กล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้กระทำละเมิดแต่อย่างใด รวมทั้งการที่ผู้ฟ้องคดี ให้การก็เป็นการให้การในฐานะพยาน มิใช่ในฐานะผู้กระทำละเมิด เพราะการพิจารณาของคณะกรรมการดังกล่าวเป็นการนำไปสู่การออกคำสั่งทางปกครองที่อาจกระทบถึงสิทธิของคู่กรณี คณะกรรมการต้องให้ผู้ฟ้องคดีมีโอกาสที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งและเสนอแสดงพยานหลักฐานของตน จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 27 และมาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 การดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย “มาตรฐานในการปฏิบัติราชการ”

  18. บทนำ มาตรา 3“มาตรฐานในการปฏิบัติราชการ” หมายถึง คุณภาพและประสิทธิภาพในการดำเนินงานภาครัฐเช่น การให้เหตุผลในคำสั่งทางปกครอง ที่จะทำให้การปฏิบัติราชการทางปกครอง มีมาตรฐานสูงขึ้นดังนั้น ในกรณีที่กฎหมายเฉพาะกำหนดให้คำสั่งทางปกครองที่เป็นหนังสือบางประเภทที่ต้องให้เหตุผลประกอบการออกคำสั่งฯ แต่พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฯ กำหนดให้คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือและการยืนยันคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย และกำหนดว่าเนื้อหาของเหตุผลต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง** ขอบเขต กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง **วรเจตน์ ภาคีรัฐ กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองสำหรับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า, 2554. หน้า8 ค้นคว้าจาก http://www.kpi.ac.th/kpith/index.php?option=com_content&task=view&id=1074&Itemid=249

  19. บทนำ ขอบเขต กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองได้กำหนดขอบเขตการบังคับใช้ไว้ใน มาตรา4(รูปแบบ ) ข้อยกเว้น การบังคับใช้ มาตรา 4พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่ (1) รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี (2) องค์กรที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ (3) การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง (4) การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลและการดำเนินงานในกระบวนการพิจารณาคดี (5) การพิจารณาวินิจฉัยร้องทุกข์และการสั่งการ คณะกรรมการกฤษฎีกา (6) การดำเนินงานนโยบายการต่างประเทศ (7) การดำเนินงานเกี่ยวกับราชการทหารหรือเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักร (8) การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (9) การดำเนินกิจการขององค์การทางศาสนา

  20. หลักกฎหมายสำคัญ • กฎหมายปกครอง คือ กฎหมายมหาชนที่วางหลักเกี่ยวกับการจัดระเบียบ • การปกครองของรัฐการดำเนินการ และจัดกิจกรรมของรัฐ โดยทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดหน้าที่และสิทธิขั้นพื้นฐานในการคุ้มครองเสรีภาพของประชาชนและประกันความเป็นธรรมไว้ ดังปรากฏหลักสำคัญ ในการควบคุมความชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ • 1. หลักนิติรัฐ (The Rule of Law) • หลักความชอบด้วยกฎหมาย • (1) หลักการกระทำทางปกครองต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย • (2) หลักไม่มีกฎหมายไม่มีอำนาจ • 2. หลักความเสมอภาค หลักกฎหมายสำคัญของกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง

  21. หลักกฎหมายสำคัญ หลักกฎหมายสำคัญของกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง • หลักนิติรัฐ (The Rule of Law) • รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 รับรองหลักนิติรัฐทางรูปแบบตามหลักการแบ่งแยกอำนาจตามมาตรา 3 (หมวด 6 รัฐสภา หมวด 9 คณะรัฐมนตรี และหมวด 10 ศาล) • “มาตรา 3 อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ • การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กร ตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม”

  22. หลักกฎหมายสำคัญ หลักกฎหมายสำคัญของกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง • หลักนิติรัฐ (The Rule of Law) • หลักนิติธรรมนั้นย่อมมีเนื้อหาสาระที่สำคัญ คือ บุคคลทุกคนย่อมเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย บุคคลไม่ว่าจะในชนชั้นใดย่อมต้องตกอยู่ภายใต้กฎหมายปกติธรรมดาของแผ่นดิน (the ordinary law of the land) ซึ่งบรรดาศาลธรรมดาทั้งหลาย (ordinary courts) จะเป็นผู้รักษาไว้ซึ่งกฎหมายดังกล่าว

  23. หลักนิติรัฐ (The Rule of Law) • “หลักนิติธรรม ก็คือ หลักการพื้นฐานแห่งกฎหมายที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตยที่เทิดทูนศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์และยอมรับนับถือสิทธิแห่งมนุษยชนทุกแง่ทุกมุม รัฐต้องให้ความอารักขาคุ้มครองมนุษยชนให้พ้นจากลัทธิทรราชย์ หากมีข้อพิพาทใด ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าระหว่างรัฐกับเอกชนหรือระหว่างเอกชนกับเอกชน ศาลย่อมมีอำนาจอิสระในการตัดสินข้อพิพาทนั้นโดยเด็ดขาดและโดยยุติธรรม ตามกฎหมายของบ้านเมืองที่ถูกต้องและเป็นธรรม” ** **ศาสตราจารย์พิเศษ ธานินทร์กรัยวิเชียร. หลักนิติธรรม (THE RULE OF LAW) ยุติธรรมคู่ขนาน กรุงเทพฯ : ปีที่ 6 ฉบับที่ 1 เดือนกันยายน 2554 หน้า16 ค้นคว้าจากhttp://thaijustice.files.wordpress.com/2012/02/book-54-new-year6-no1.pdf

  24. ตัวอย่าง หลักไม่มีกฎหมายไม่มีอำนาจ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 371/2554 ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มีผลการเรียนมีสิทธิจะได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่ในการสอบ ในวิชาหนึ่ง ผู้ฟ้องคดี ได้ทุจริตในการสอบโดยนำกระดาษสรุปย่อนำเข้าห้องสอบ คณะกรรมการประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีมติให้ผู้ฟ้องคดีถูกปรับตกในวิชานี้และทำทัณฑ์บนเนื่องจากเห็นว่า นักศึกษาที่ผ่านการสอบมาหลายวิชาแล้วย่อมต้องทราบหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นอย่างดี แต่ยังจงใจกระทำผิด

  25. ตัวอย่าง หลักไม่มีกฎหมายไม่มีอำนาจ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 371/2554 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์) จึงมีคำสั่งลงโทษโดยปรับตกผู้ฟ้องคดีในวิชานี้และให้ภาคทัณฑ์ด้วย แต่ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากวิชาดังกล่าวกำหนดให้เป็นการสอบแบบเปิดตำรา อีกทั้งคำสั่งของข้อสอบไม่ชัดเจน กระดาษสรุปย่อที่นำเข้าห้องสอบก็เกี่ยวข้องกับตำราที่อนุญาตและผลของการลงโทษทำให้ ผู้ฟ้องคดี ขาดคุณสมบัติที่จะได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

  26. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 371/2554 การสอบในวิชานี้เป็นการสอบแบบเปิดตำราโดยมีเงื่อนไขกำหนดไว้เป็นการเฉพาะเจาะจงแล้ว ดังนั้น การจะตีความว่า เมื่อไม่ได้ห้ามไว้ก็สามารถกระทำได้ จึงขัดกับวัตถุประสงค์ของการสอบแบบเปิดตำรา โดยมีเงื่อนไข ประกอบกับหากผู้ฟ้องคดีเกิดความสงสัยหรือไม่เข้าใจว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นความผิดหรือไม่ก็ควรสอบถามกรรมการ คุมสอบ อีกทั้งผู้ฟ้องคดีเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ย่อมผ่านการสอบในกรณีแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ฟ้องคดีได้เคยกระทำการในลักษณะที่บ่งชี้ถึงความไม่เข้าใจคำสั่งของข้อสอบดัง เช่นการกระทำในการสอบในวิชานี้

  27. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 371/2554 คำสั่งลงโทษผู้ฟ้องคดีให้ถูกปรับตกในวิชาดังกล่าวและถูกภาคทัณฑ์ เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ? ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ในการสอบ กรณีที่คำสั่งอนุญาต ให้เปิดตำรามีทั้งกรณีที่นำเอกสารเข้าได้แบบอิสระและแบบมีเงื่อนไข โดยแบบมีเงื่อนไขคำสั่งข้อสอบได้มีการกำหนดเงื่อนไข ให้นักศึกษาสามารถนำเข้าได้เฉพาะตำราหรือเครื่องใช้อุปกรณ์เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้น การกระทำของผู้ฟ้องคดีจึงเป็นความผิด แม้ว่า จะมีสิทธิได้รับเกียรตินิยมและได้ตรวจข้อสอบและให้เกรดแก่ผู้ฟ้องคดีแล้วก็ตาม ก็ไม่ทำให้ ผู้ฟ้องคดีซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดจริงพ้นจากความผิดได้

  28. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 371/2554 ข้อพิจารณาต่อไปว่า การใช้ดุลยพินิจกำหนดโทษของผู้ถูกฟ้อง คดีทั้งสองเหมาะสมหรือไม่ ? ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีมติให้ผู้ฟ้องคดี ถูกปรับตกในวิชานี้และให้ทำทัณฑ์บน ซึ่งต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 แต่โทษเกี่ยวกับการกระทำผิดฐานทุจริตในการสอบตามระเบียบ ของสถาบันนั้น มิได้กำหนดโทษทัณฑ์บนไว้ มีเพียงโทษปรับตกในวิชาที่ทุจริตเท่านั้น ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองมีมติกำหนดโทษภาคทัณฑ์ด้วยจึงเป็นการกระทำ ที่ปราศจากอำนาจตามกฎหมาย ศาลปกครองสูงสุดจึงเพิกถอนมติในส่วนกำหนดโทษทัณฑ์บน แต่คงกำหนดโทษ ให้ผู้ฟ้องคดี เพียงปรับตกในรายวิชาที่ทุจริตเท่านั้น

  29. หลักกฎหมายสำคัญ • หลักนิติรัฐ (The Rule of Law) • 1)กฎหมายจะต้องบังคับเป็นการทั่วไปกับบุคคลทุกคน ไม่เว้นแม้แต่องค์กรเจ้าหน้าที่ ของรัฐ • 2)กฎหมายจะต้องได้รับการประกาศใช้อย่างเปิดเผย • 3)กฎหมายจะต้องได้รับการตราขึ้นให้มีผลบังคับไปในอนาคต ไม่ใช่ตราขึ้นเพื่อใช้บังคับย้อนหลังไปในอดีต • 4)กฎหมายจะต้องได้รับการตราขึ้นโดยมีข้อความที่ชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดการบังคับใช้ที่ไม่เป็นธรรม

  30. หลักกฎหมายสำคัญ • หลักนิติรัฐ (The Rule of Law) • 5)กฎหมายจะต้องไม่มีข้อความที่ขัดแย้งกันเอง • 6)กฎหมายจะต้องไม่เรียกร้องให้บุคคลปฏิบัติในสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้ • 7)กฎหมายต้องมีความมั่นคงตามสมควร แต่ก็จะต้องเปิดโอกาสให้แก้ไขให้สอดคล้องกับสภาพของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้ • 8)กฎหมายที่ได้รับการประกาศใช้แล้วจะต้องได้รับการบังคับให้สอดคล้องต้องกัน กล่าวคือต้องบังคับการให้เป็นไปตามเนื้อหาของกฎหมายที่ได้ประกาศใช้แล้วนั้น **วรเจตน์ ภาคีรัฐ หลักนิติรัฐ. ค้นคว้าจาก http://www.enlightened-jurists.com/page/100/The-Rule-of-Law.html

  31. หลักกฎหมายสำคัญ • 1. หลักนิติรัฐ (The Rule of Law) • หลักความชอบด้วยกฎหมาย • (1) หลักการกระทำทางปกครองต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย • หลักการกระทำทางปกครองต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย หลักนี้ กำหนดให้ฝ่ายปกครอง ต้องผูกพันต่อกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่จริงในบ้านเมือง ฝ่ายปกครองจึงต้องใช้อำนาจกระทำการไม่ให้ ขัดต่อกฎหมายในลำดับชั้นต่างๆ • (2) หลักไม่มีกฎหมายไม่มีอำนาจ • หลักนี้ กำหนดว่าฝ่ายปกครองจะกระทำการใดๆ ที่มีผลกระทบกระเทือนต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้ก็ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อำนาจไว้ กฎหมาย ที่ให้อำนาจแก่ฝ่ายปกครองก็จะต้องเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษร ในระดับพระราชบัญญัติเท่านั้นฝ่ายปกครองจึงต้องใช้อำนาจกระทำการเท่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้

  32. หลักกฎหมายสำคัญ หลักความเสมอภาค

  33. หลักกฎหมายสำคัญ หลักความเสมอภาค มาตรา 30 บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกันชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมือง อันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้ มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม

  34. หลักกฎหมายสำคัญ หลักความเสมอภาค หลักความเสมอภาคเป็นหลักกฎหมายในระดับรัฐธรรมนูญที่เรียกร้องให้ฝ่ายปกครอง ต้องปฏิบัติต่อบุคคลที่มีสาระสำคัญเหมือนกันให้เหมือนกันและต้องปฏิบัติต่อบุคคลที่มีสาระสำคัญ แตกต่างกันให้แตกต่างกัน ตามลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล การที่ฝ่ายปกครองปฏิบัติต่อบุคคล ที่มีสาระสำคัญเหมือนกันให้แตกต่างกันก็ดี หรือการที่ฝ่ายปกครองปฏิบัติต่อบุคคลที่มีสาระสำคัญแตกต่างกันให้เหมือนกันก็ดี ย่อมขัดต่อหลักความเสมอภาค แม้ในกรณีที่กฎหมายให้อำนาจฝ่ายปกครองที่จะใช้ดุลพินิจ ได้ก็ตาม

  35. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 29 การดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีโดยยึดถือระบบคุณธรรม ความเสมอภาคระหว่างบุคคล และหลักการได้รับการปฏิบัติและการคุ้มครองสิทธิอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม เพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องอื่น ๆ จะกระทำมิได้

  36. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.158/2550 สำนักงาน ก.พ.มีมติ กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบคัดเลือกเข้ารับราชการในตำแหน่งนิติกรว่า จะต้อง ได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยมทางกฎหมาย ผู้ฟ้องคดีเป็นบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาทางด้านนิติศาสตร์ ได้ไปยื่นใบสมัครสอบคัดเลือกเข้ารับราชการในตำแหน่งนิติกร 3 ของกรมบัญชีกลางแต่เจ้าหน้าที่ไม่รับใบสมัคร โดยอ้างว่าผู้ฟ้อง คดีไม่ได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยมทางด้านกฎหมายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศ รับสมัครคัดเลือกตามมติของ ก.พ. ที่กำหนดหลักเกณฑ์กรณีที่มีเหตุพิเศษ ในการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม จึงฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อ เพิกถอนมติดังกล่าว

  37. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.158/2550 มติของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนที่กำหนดโดยไม่ได้คำนึงถึงตำแหน่ง ที่จะใช้ในการสรรหาบุคคลเข้ารับราชการ เพราะบางตำแหน่ง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกำหนด วุฒิเฉพาะปริญญาตรีเกียรตินิยม เนื่องจากบุคคลที่ไม่ได้รับเกียรตินิยมก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการได้เช่นเดียวกับผู้ที่ได้รับเกียรตินิยม ดังนั้น การกำหนดให้ผู้ได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยม โดยถือว่าเป็นวุฒิที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนกำหนดให้ใช้วิธีการคัดเลือกแทนการ สอบแข่งขัน จึงเป็นการให้สิทธิเหนือกว่าหรือดีกว่าผู้ที่ได้รับปริญญาตรีในสาขาเดียวกัน แต่ ไม่ได้รับเกียรตินิยมทั้งๆ ที่ได้รับวุฒิอย่างเดียวกันซึ่งมีศักดิ์และสิทธิที่สถาบันการศึกษารับรอง เช่นเดียวกัน มติดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติต่อบุคคลที่มีสถานะทางกฎหมายที่เหมือนกันให้ แตกต่างกัน ย่อมถือได้ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม

  38. ขอบเขต กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ขอบเขตการบังคับใช้ไว้ใน มาตรา5(รูปแบบ ) จะต้องมีผลบังคับใช้ในรูปแบบ “คำสั่งทางปกครอง” มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้ “คำสั่งทางปกครอง” หมายความว่า (1) การใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้น ระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว เช่น การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การวินิจฉัยอุทธรณ์ การรับรอง และการรับจดทะเบียน แต่ไม่หมายความรวมถึงการออกกฎ (2) การอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง “กฎ” หมายความว่า พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ หรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ

  39. การกระทำของฝ่ายปกครองการกระทำของฝ่ายปกครอง การกระทำทางปกครอง คำสั่งทางปกครอง การกระทำอื่น(ปฏิบัติการทางปกครอง) กฎ

  40. “กฎ” หมายความว่า พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ หรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ

  41. คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 272/2546 ข้อบังคับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่าด้วยแก้ไขเพิ่มเติมการกำหนดให้รถเดินทางเดียว ฯ พ.ศ. 2540 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ. จราจรทางบกฯ ประกอบกับคำสั่งกระทรวงมหาดไทย มีผลบังคับกับบุคคลเป็นการทั่วไป จึงเป็นกฎตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฯ และมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ และโดยที่ พ.ร.บ. ทั้งสองฉบับไม่ได้กำหนดขั้นตอนหรือวิธีการสำหรับแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหายจากกฎไว้ ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรือตกอยู่ในบังคับของกฎดังกล่าว จึงมีสิทธิฟ้องคดีได้โดยไม่ต้องอุทธรณ์ต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนนำคดีมาฟ้องต่อศาลตามมาตรา 42 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ

  42. คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 482/2550 ข้อเท็จจริงมีว่าได้มีการยุบรวมกรมโยธาธิการและกรมการผังเมืองเข้าด้วยกันและเปลี่ยนเรียกชื่อใหม่ว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง และผลจากการยุบกรมทั้งสองกรมรวมกันทำให้หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดบางส่วนไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๕ ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม ได้รับเงินประจำตำแหน่งเป็นการเฉพาะตัว โดยได้ออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษชั่วคราวของข้าราชการในช่วงการปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม ใหม่ พ.ศ. ๒๕๔๕

  43. คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 482/2550 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2547 ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนรายเดือนอัตราเดือนละ 5,600บาท แต่คงได้รับเพียงเดือนละ 3,500 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนพิเศษฯในช่วงปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม ใหม่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2547 จึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นตามมาตรา 10แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542แต่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตามมาตรา 11วรรคหนึ่ง (2)

  44. มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้ “คำสั่งทางปกครอง” หมายความว่า (1) การใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้น ระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว เช่น การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การวินิจฉัยอุทธรณ์ การรับรอง และการรับจดทะเบียน แต่ไม่หมายความรวมถึงการออกกฎ ตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงสามารถ แยกสาระสำคัญของ คำสั่งทางปกครอง ได้ 5ประการ ดังนี้ (1) เป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่ (2) เป็นการใช้อำนาจรัฐ (3) เป็นการกำหนดสภาพทางกฎหมาย (4) เป็นการเกิดผลเฉพาะกรณี และ (5) มีผลภายนอกโดยตรง

  45. สาระสำคัญของคำสั่งทางปกครองสาระสำคัญของคำสั่งทางปกครอง ตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงสามารถ แยกสาระสำคัญของ คำสั่งทางปกครอง ได้ 5 ประการ ดังนี้ (1) เป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่ (2) เป็นการใช้อำนาจรัฐ (โดยกฎหมาย) (3) เป็นการกำหนดสภาพทางกฎหมาย (4) เป็นการเกิดผลเฉพาะกรณี และ (5) มีผลภายนอกโดยตรง

  46. (เจ้าหน้าที่) : ผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องทางปกครอง มาตรา 12คำสั่งทางปกครองจะต้องกระทำโดยเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนั้น มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้ “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางปกครองของรัฐ ในการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจหรือกิจการอื่นของรัฐหรือไม่ก็ตาม

  47. (เจ้าหน้าที่) : ผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องทางปกครอง เจ้าหน้าที่ (authority) หมายความถึง ผู้มีหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เป็นองค์ประกอบสำคัญอันหนึ่งในการออกคำสั่งทางปกครอง หากเจ้าหน้าที่กระทำไปโดยปราศจากอำนาจก็จะเกิดความบกพร่องในการออกคำสั่งทางปกครองทำให้คำสั่งทางปกครองมีผลเป็นโมฆะหรืออาจต้องมีการเพิกถอนได้

  48. (เจ้าหน้าที่) : ผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องทางปกครอง “มาตรา 19 ถ้าปรากฏภายหลังว่าเจ้าหน้าที่หรือกรรมการ ในคณะกรรมการที่มีอำนาจพิจารณาทางปกครองใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือการแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นเหตุให้ ผู้นั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งเช่นว่านี้ ไม่กระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่” กล่าวคือถ้าเจ้าหน้าที่หรือกรรมการในคณะกรรมการที่มีอำนาจพิจารณาทางปกครองใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือการแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่กระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้น ได้ปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่นั้น

  49. (เจ้าหน้าที่) : ผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องทางปกครอง • บุคคล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา • คณะบุคคล อ.ก.ค.ศ. เขตฯ ก.ค.ศ. ก.พ.ฐ. • นิติบุคคล ผู้อำนวยการสถานศึกษา (กรณีเป็นผู้แทนของโรงเรียน) เจ้าหน้าที่ผู้ดำรงตำแหน่ง - ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา • เจ้าหน้าที่ผู้รับมอบอำนาจ • พรบ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 • พรก. ว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ. 2550 • ผู้ปฏิบัติราชการแทน ผู้รักษาราชการแทน ผู้รักษาการในตำแหน่ง

  50. (เจ้าหน้าที่) : ผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องทางปกครอง • เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่มีอำนาจพิจารณาเรื่องทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับมอบอำนาจ ให้พิจารณาเรื่องทางปกครอง และในบางกรณีที่ได้มีการมอบหมาย ให้เอกชนใช้อำนาจทางปกครองแทนในบางเรื่อง ในกรณีเช่นนี้ย่อมถือว่าเอกชนเป็น “เจ้าหน้าที่” ด้วยเช่นกัน • ผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องทางปกครองจะต้องใช้อำนาจนั้น ในระหว่างระยะเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งและในขอบเขตที่ตนมีอำนาจอีกด้วย

More Related