1 / 24

เมื่อกินอาหารเป็นยา จะไม่ต้องกินยาเป็นอาหาร

เมื่อกินอาหารเป็นยา จะไม่ต้องกินยาเป็นอาหาร. ไขมันในเลือด สูง กินกระเทียมสดสักวันละ  ๑๐ กลีบ กับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว. ปวด หัว กินผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีด และกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้. เป็น หวัด ไอ จามบ่อย

caroun
Download Presentation

เมื่อกินอาหารเป็นยา จะไม่ต้องกินยาเป็นอาหาร

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. เมื่อกินอาหารเป็นยาจะไม่ต้องกินยาเป็นอาหารเมื่อกินอาหารเป็นยาจะไม่ต้องกินยาเป็นอาหาร

  2. ไขมันในเลือดสูง กินกระเทียมสดสักวันละ  ๑๐ กลีบ กับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว

  3. ปวดหัว กินผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีด และกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้

  4. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย หมั่นแปรงลิ้นและกิน กระเทียม  หอม พริกให้มากเข้าไว้ ลด-งด ชา กาแฟ

  5. ภูมิแพ้ กินฝรั่งวันละ ๕ ชิ้น กับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี) และออกกำลังกายประจำ

  6. แพ้ฝุ่น ละออง  ไรฝุ่น กินโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติ และนมเปรี้ยว ไม่หวานจัด

  7. หืด หอบ ไอ เรื้อรัง กินต้มยำไก่   กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง  ต้นหอม และเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน

  8. ไขข้ออักเสบ กินปลาเนื้อมันวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย, ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง

  9. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)

  10. ท้องอืด แก๊สมาก กินกล้วยหักมุกปิ้ง หรือขิงบ่อย ๆ

  11. ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะ และให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อ มาก เช้า เย็น

  12. โรคกระเพาะอาหาร กินกล้วยหักมุกปิ้ง หรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก

  13. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย กินอาหาร ทำด้วยขิง เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิง หรือเต้าฮวย

  14. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน กินปลาทูน่าให้มาก และกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น หรือกินถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือ

  15. หงุดหงิดง่าย กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอม และปลาทูน่า

  16. กระดูกพรุน กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมมาก) มะม่วงจิ้มกะปิ และ สับปะรด ซึ่งมีธาตุสมานกระดูกอยู่มาก (แมงกานีส)

  17. ความจำไม่ดี กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสี ช่วยสมองได้

  18. มะเร็งเต้านม กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด

  19. มะเร็งปอด ทางเดินหายใจ กินเสาวรส  ฝรั่ง  ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอด ได้ดี

  20. ท้องเสีย ลำไส้ แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑ -๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย

  21. เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ   กินปลาทะเล  น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ ตร้าเวอร์จิน  ผลอโวคาโด เพราะอาหารเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบ ดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย

  22. ความดันสูง งดบุหรี่และอาหารเค็ม กินข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีและผัก ขึ้นฉ่ายสด จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น

  23. เบาหวาน ให้ลดแป้งกับน้ำตาล กินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี  ผักโขมให้มาก   ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก

  24. อาหารอร่อยกว่ายา จะกินอาหารอร่อยให้เป็นยาหรือจะกินยาเมื่อสายเกินการ เลือกให้ดี

More Related