80 likes | 239 Views
ศึกษาการใช้วิธีสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย. น าง สาวสมพิศ แซ่ เฮง โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย. ปัญหาการวิจัย.
E N D
ศึกษาการใช้วิธีสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย นางสาวสมพิศ แซ่เฮง โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย
ปัญหาการวิจัย วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 เป็นวิชาที่ต้องคำนวณ นักเรียนจะรู้สึกเบื่อหน่ายได้ง่ายง่ายผู้วิจัยได้สังเกตการเรียนการสอนพบว่าจากการที่ครูผู้สอนได้ถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนในชั้นหลังจากการสอนครูได้ประเมินผลโดยการมอบหมายให้ทำแบบฝึกหัด และแบบทดสอบ พบว่านักเรียนบางคนไม่สามารถทำแบบฝึกหัดและทำข้อสอบผ่านเกณฑ์ ที่กำหนดซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดจากการที่นักเรียนบางคนเรียนรู้ได้ช้าและมีความสามารถในการเรียนรู้ไม่เท่ากันจึงได้หาวิธีการที่จะจูงใจให้นักเรียนมีความสนใจและกระตุ้นให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นมากขึ้นกิจกรรมการเรียนการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนนั้นเป็นวิธีการที่ช่วยสนับสนุนวิธีการดังกล่าวได้ทางหนึ่งโดยให้เพื่อนได้มีบทบาทสำคัญในการเรียนเพื่อมีอิทธิพลในการสร้างความสนใจจูงใจและการยอมรับของเพื่อนด้วยกันการจัดการเรียนการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนจะใช้วิธีเฟ้นหาเพื่อนที่เก่งช่วยเพื่อนที่เรียนอ่อนทำให้มีผลการเรียนดีขึ้นโดยกำหนดให้มีนักเรียนที่เก่ง คอยช่วยเหลือแนะนำอธิบายหัวข้อต่างๆที่เพื่อนไม่เข้าใจคอยติดตามช่วยเหลือจนเข้าใจใน เรื่องนั้น ๆความสนิทสนมและใกล้ชิดของกลุ่มทำให้ผู้มีปัญหามีความรู้สึกเกิดการยอมรับอยากพัฒนาตนเองจนส่งผลให้เกิดการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดียิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์ของการวิจัยวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาการใช้วิธีสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย
กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย ห้องXO02 จำนวน 5 คน ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ โดยสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง
ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้นคือ วิธีสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ประยุกต์ 2
ตารางที่ 1 คะแนนดิบ คะแนนมาตรฐาน ของเรื่องการวัดค่ากลางของข้อมูล และค่ามาตรฐาน จากตารางที่ 1 พบว่าคะแนนดิบเรื่องการวัดค่ากลางของข้อมูลมีคะแนนอยู่ระหว่าง 0 ถึง 2 คะแนนแต่เมื่อแปลงเป็นคะแนนมาตรฐานมีคะแนนมาตรฐานอยู่ระหว่าง -1.97 ถึง -1.26 ส่วนเรื่องค่ามาตรฐานคะแนนดิบอยู่ระหว่าง 4 ถึง 7 คะแนนแต่เมื่อแปลงเป็นคะแนนมาตรฐานมีคะแนนมาตรฐานอยู่ระหว่าง -1.39 ถึง 0.51
ตารางที่ 2 เปรียบเทียบความแตกต่างคะแนนมาตรฐานเฉลี่ยเรื่องการวัดค่ากลางของข้อมูล และค่ามาตรฐาน จากตารางที่ 2 พบว่าคะแนนมาตรฐานเฉลี่ยเรื่องค่ามาตรฐานเท่ากับ -0.51 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.72 คะแนน ซึ่งสูงกว่าคะแนนมาตรฐานเฉลี่ยเรื่องการวัดค่ากลางของข้อมูลท่ากับ -1.54 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.29 คะแนน แต่ถ้าเปรียบเทียบความแตกต่าง คะแนนมาตรฐานเฉลี่ยเรื่องการวัดค่ากลางของข้อมูล และค่ามาตรฐานมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.04
สรุปผลการวิจัย คะแนนมาตรฐานเฉลี่ยเรื่องค่ามาตรฐานซึ่งใช้วิธีสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนมีคะแนนมาตรฐานสูงกว่าคะแนนมาตรฐานเฉลี่ยเรื่องการวัดค่ากลางของข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.04