120 likes | 521 Views
สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารไทย. จัดทำโดย นางสาวอา ภัส รา สระทองอ่อน 54070331 สาขาการจัดการสุขภาพชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์. อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้อย่างไร ?.
E N D
สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารไทยสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารไทย จัดทำโดย นางสาวอาภัสรา สระทองอ่อน 54070331 สาขาการจัดการสุขภาพชุมชน คณะสาธารณสุขศาสตร์
อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้อย่างไร?อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้อย่างไร? • นอกจากเกิดจากกระบวนการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายแล้ว ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อทั้งจากแบคทีเรียและไวรัส การอักเสบชนิดไม่ทราบสาเหตุ เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์, จากรังสี, สิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ เช่น ควันเสียและเขม่าจากเครื่องยนต์, ควันบุหรี่, ยาฆ่าแมลง, การออกกำลังกายอย่างหักโหม
⇒ แหล่งที่มาของอนุมูลอิสระสามารถแบ่งได้อย่างง่ายๆ 1. อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเองภายในร่างกาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการ เผาผลาญของร่างกาย การออกกำลังกายอย่างหักโหม ความเครียด
⇒ แหล่งที่มาของอนุมูลอิสระสามารถแบ่งได้อย่างง่ายๆ • 2. อนุมูลอิสระจากภายนอกร่างกายเช่น (1) การติด เชื้อทั้งแบคทีเรียและไวรัส(2) การอักเสบชนิดไม่ทราบสาเหตุของกลุ่มโรคภูมิต้านทานตัวเอง (autoimmune diseases) เช่น โรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์ โรคเอสแอลอี รังสีอัลตราไวโอเลต จากแสงแดดกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระบริเวณผิวหนัง
อนุมูลอิสระทำให้เกิดอะไรกับร่างกายบ้าง?อนุมูลอิสระทำให้เกิดอะไรกับร่างกายบ้าง? • เมื่ออนุมูลอิสระทำปฏิกิริยากับรหัสพันธุรกรรมดีเอ็นเอในนิวเคลียสของเซลล์ อาจทำให้เซลล์กลายพันธ์และกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ถ้าเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด จะกระตุ้นให้เกิดไขมันสะสมในหลอดเลือด นำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดในสมองแตกหรือตีบได้ นอกจากนี้ อนุมูลอิสระยังมีส่วนทำให้เกิดต้อกระจก ภูมิต้านทานต่ำ โรคข้ออักเสบและแก่ก่อนวัย
สารต้านอนุมูลอิสระคืออะไรสารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร • สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) คือ สารประกอบที่สามารถป้องกันหรือชะลอกระบวนการเกิดออกซิเดชั่น กระบวนการออกซิเดชั่นมีได้หลายรูปแบบ เช่น กระบวนการออกซิเดชั่นที่ทำให้เหล็กกลายเป็นสนิม ทำให้แอปเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือทำให้น้ำมันพืชเหม็นหืน หรือกระบวนการออกซิเดชั่นที่เกิดในร่างกาย เช่น การย่อยสลายโปรตีนและไขมันจากอาหารที่กินเข้าไป มลพิษทางอากาศ การหายใจ ควันบุหรี่ รังสียูวี ล้วยทำให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นในร่างกายของเราซึ่งสร้างความเสียหายต่อร่างกายได้ ในความเป็นจริงไม่มีสารประกอบสารใดสารหนึ่งสามารถป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นได้ทั้งหมด แต่ละกลไกอาจต้องใช้สารต้านอนุมูลอิสระที่แตกต่างกันในการหยุดกระบวนการออกซิเดชั่น
บทบาทของสารต้านอนุมูลอิสระบทบาทของสารต้านอนุมูลอิสระ • สารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอาหาร รวมทั้งช่วยชะลอกระบวนการบางขั้นตอนที่ทำให้เกิดความแก่ โดยปกติร่างกายสามารถกำจัดอนุมูลอิสระก่อนที่มันจะทำอันตราย แต่ถ้ามีการสร้างอนุมูลอิสระเร็ว หรือมากเกินกว่าร่างกายจะกำจัดทันอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น จะสร้างความเสียหายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ? ต้านอนุมูลอิสระเป็นสารอาหารจากธรรมชาติพบในผลไม้และผักบาง พวกเขาได้รับการพิสูจน์เพื่อปกป้องเซลล์มนุษย์จากความเสียหายและให้ oxidative : • แรงต้านทานภูมิคุ้มกันเพื่อ flusไวรัสและติดเชื้อ • ลดลงอย่างมากของการเกิดมะเร็งทั้งหมด • การป้องกันต้อหินและ macular เสื่อม • ลดความเสี่ยงของคอเลสเตอรอลออกซิเดชันและโรคหัวใจ • Anti - aging ของเซลล์และร่างกายโดยรวม
แหล่งอาหารที่สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระแหล่งอาหารที่สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี - ฝรั่ง ส้ม มะขามป้อม มะละกอสุก พริกชี้ฟ้าเขียว บร็อกโคลี ผักคะน้า ยอดสะเดา ใบปอ ผักหวาน ผักกาดเขียว
วิตามินอี - น้ำมันจากจมูกข้าวสาลี น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย เมล็ดทานตะวัน เมล็ดอัลมอนด์ จมูกข้าวสาลี ซีลีเนียม - อาหารทะเล ปลาทูน่า เนื้อสัตว์และตับ บะหมี่ ไก่ ปลา ขนมปังโฮลวีต
วิตามินเอ - ตับหมู ตับไก่ ไข่โดยเฉพาะไข่แดง* น้ำนม พืชผักที่มีสีเขียวเข้ม ผลไม้ที่มีมสีเหลืองส้ม เช่น ผักตำลึง ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง ฟักทอง มะม่วงสุก มะละกอสุก มะเขือเทศ แคโรทีนอยด์ (บีตาแคโรทีนลูทีนและไลโคฟีน) - ผักที่มีสีเขียวเข้ม ผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น ผักตำลึง ผักกว้างตุ้ง ผักบุ้ง ฟักทอง มะม่วงสุก มะละกอสุก มะเขือเทศ