1 / 16

จับตาดูหุ้น...ในเดือนแห่งความรัก

จับตาดูหุ้น...ในเดือนแห่งความรัก. ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล. SET 16/02/13. แนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นยังคงแกว่งตัวขึ้นต่อ. ปัจจัยภายนอก แนวโน้ม เศรษฐกิจโลก ยังมีสัญญาณฟื้น ตัวที่ดี สหรัฐแก้ปัญหา Fiscal cliff สำเร็จ , เฟด ออก QE3, QE4 และคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป

booker
Download Presentation

จับตาดูหุ้น...ในเดือนแห่งความรัก

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. จับตาดูหุ้น...ในเดือนแห่งความรักจับตาดูหุ้น...ในเดือนแห่งความรัก • ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล SET 16/02/13

  2. แนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นยังคงแกว่งตัวขึ้นต่อแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นยังคงแกว่งตัวขึ้นต่อ ปัจจัยภายนอก • แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ยังมีสัญญาณฟื้นตัวที่ดี • สหรัฐแก้ปัญหา Fiscal cliff สำเร็จ , เฟด ออก QE3, QE4 และคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป • ประเทศอื่นใช้นโยบายเรียนแบบ QE สหรัฐ โดยการเพิ่มปริมาณเงินในระบบ • นักลงทุนลดความกังวลในปัญหาวิกฤตในยุโรป • จีนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ • AEC

  3. แนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นยังคงแกว่งตัวขึ้นต่อแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นยังคงแกว่งตัวขึ้นต่อ ปัจจัยภายภายในประเทศ • การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านโครงการลงทุนต่างๆ รถไฟ ,รถไฟฟ้า, ระบบบริหารจัดการน้ำ • การปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ช่วยเพิ่มกำลังซื้อ • การลงทุน 3G • ภาวะเงินเฟ้อสูง หลังปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และราคา LPG • การเมืองในประเทศ

  4. แนวโน้มตลาดหุ้น

  5. แนวโน้มตลาดหุ้น ภาพรระยะยาวยังอยู่ในกรอบขาขึ้นอยู่ โดยมีแนวต้านใหญ่ที่ 1575 จุด

  6. แนวโน้มตลาดหุ้น ภาพรระยะสั้น มีแนวต้านใหญ่ที่ 1529 และ1549 จุดแนวรับ 1500 จุด

  7. กลุ่มหุ้นที่ยังมีแนวโน้มดีกลุ่มหุ้นที่ยังมีแนวโน้มดี • กลุ่มธนาคารพาณิชย์ • กลุ่มวัสดุก่อสร้าง • กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ • กลุ่มโรงพยาบาล • กลุ่มพลังงานและปิโตเคมี

  8. แนวโน้มตลาดหุ้นไทย: สัญญาณชี้ที่ต้องระวังตัว • ต่างชาติเริ่มขายหุ้นออกมาหนักๆติดต่อกันหลายวัน • มีสัญญาณว่าจะเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น เกิน 5 % • เกิดความวุ่นวายทางการเมือง

  9. Teerawut Top Pick • PTTGC, PTTEP, TUF ,SGP, KSL, EASON SET 21/12/12

  10. PTTGCP : 80 Btแนะนำ ซื้อลงทุน(Target price, 92 Bt) • คาดผลการดำเนินงานปี 13 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15%โดยมีปัจจัยหลักมาจจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะ สหรัฐ ถ้าสามารถแก้เรื่อง fiscal cliff ได้ จะช่วยดึงเศษบกิจโลกให้ฟื้นตัวได้เร็ว • มีแนวโน้มที่จะเข้าซื้อกิจการ Phenol และ HMC จาก PTT ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำไรให้ปีละไม่ต่ำกว่า 5% • คาดปี 12 กำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 28,000 ล้านบาท EPS 6.3บาท ส่วนปี 13 คาดว่าจะขึ้นมาที่ระดับ 30,000- 32,000 ล้านบาท EPS 7 -7.2 บาท • คาดจ่ายเงินปันผลได้ในระดับ 2.8 และ 3.2บาทในปี 12 และ 13 • ประเมินราคาเหมาะสมที่ 82 บาท

  11. PTTEP P : 160 Btแนะนำ ซื้อลงทุน(Target price, 190 Bt) • แนวโน้มราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ทั้งจากความต้องการใช้ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง และประเด็นความตรึงเครียดจากประเด็นอิหร่าน • แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 13 น่าจะเติบโตในระดับ 17% จากการรูบรู้รายได้จากแหล่งผลิตมอนทารา ในออสเตเลีย • มีโอกาสเข้าไปรับช่วงสัมปทานในแหล่งที่ต่างชาติถืออยู่ และจะหมดอายุ ซึ่งจะช่วยให้ผลกาดำเนินงานเติบโตสูงหากได้สัมปทานมา • มีโอกาสได้แหล่งสัมปทานฟื้นที่คาบเกี่ยวกับกัมพูชา • ประเมินราคาเหมาะสม 190 บาท คาดปันผลปี 12 – 13 ที่ 5.5 บาท และ 6.5 บาท

  12. TUF P : 65 Btแนะนำ ซื้อลงทุน(Target price, 75 Bt) • แนวโน้มธุรกิจยังขยายต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจเดิมและการเข้าซื้อธุรกิจใหม่ๆ • ปี 12 ผลการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ทำให้ยังผลิตได้ไม่เต็มที่ • ปี 13 – 14 จะเติบโตโดเด่นจากแผนการขยายโรงงานกุ้งและปลาแห่งใหม่ ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงาน ตเบโตในระดับสูง โดยจะใช้เงินลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท • ธุรกิจในสหรัฐน่าจะเริ่มกลับมามีกำไร หลังการแข่งขันจากผู้ผลิตรายอื่นๆ เริ่มลดความรุนแรงลง • คาดกำไรสุทธิในปี 12 ที่ระดับ 5,600 ล้านบาท และปี 13 ที่ 7,400 ล้านบาท • แนะนำให้ถือลงทุนยาว ประเมินราคาหมาะสมที่

  13. SGP P : 13.90Btแนะนำ ซื้อลงทุน(Target price, 15.40 Bt) • กำลังจะกลายเป็นหุ้นGrowth stock และมีการขยายธุรกิจรองรับ AEC • การขยายธุรกิจLPGไปในระดับภูมิภาคเอเชีย เป็นการปลดล๊อคข้อจำกัดการเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัท • การเข้าซื้อคลังเก็บLPG ในจีน 2 แห่ง เป็นจิกซอสำคัญในการขาย LPG ในภูมิภาคเอเชีย • ปริมาณการขายLPG เริ่มถึงจุดที่ได้ Economy of scaleซึ่งจะทำให้บริษัทมีMargin ดีขึ้น ล่าสุดการขายLPG ในต่างประเทศ เป็นสัดส่วน 50 : 50 ของการขายในประเทซ และคาดว่าในปี 13 จะมีสัดส่วนมากกว่าการขายในประเทศ • คาดผลการดำเนินงานปกติ ปี 12 -13 อยู่ที่ระดับ 1,400 ล้านบาท EPS 1.54บาท) และ 1,780 ล้านบาท EPS 1.84 บาท เติบโตในระดับ 42.5% และ 25.7% ตามลำดับ

  14. KSLP : 20 Btแนะนำ ซื้อลงทุน(Target price, 27 Bt) • แนวโน้มราคาอ้อยน่าจะดีขึ้นหลังจากที่ อินเดียและบราซิลมีการชะลอการเพราะปลูกลง หลังจากที่ราคาน้ำตาลปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา • คาดปริมาณอ้อยเข้าหีบในปีนี้ที่ 8.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 16.4% โดยจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตมาจากโรงงานที่บ่อพลอยและเลย • คาดปี 13 กำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 2,250 ล้านบาท ส่วนปี 14 คาดว่าจะขึ้นมาที่ระดับ 2,400 ล้านบาท • ธุรกิจเอทานอลจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีการยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 • แนะนำซื้อ ประเมินราคาเหมาะสมที่ 16 บาท

  15. EASON P : 3.80Bt แนะนำ ซื้อลงทุน (Target price, 4.30 Bt) • ผู้ผลิตสีสำหรับชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์และสีเคลือบบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ในประเทศ • EASON เป็น 1 ในไม่กี่บริษัทที่มีศักยภาพและมีโอกาสประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตในอนาคต • เริ่มบุกเข้าสู่ตลาดเวียดนามและอินโดนีเซียถือ 2 ตลาดใหญ่ที่มียอดจำหน่ายจักรยานยนต์มากกว่า ไทยถึง 2 เท่า และ 4 เท่าตามลำดับ • แนวโน้มผลการดำเนินปี 12-13 โต 86% และ 20% คาดกำไร 139 ล้านบาท (EPS 0.43 บาท) • คาดปันผลปี 12-13 ที่ 0.20 บาท และ 0.25 คิดเป็น Dividend Yield 5.2% • เป้าหมาย 4.30 บาท อิง PE13 ที่ 11 เท่า

More Related