1 / 36

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการประกันสังคม โดย สำนักงานประกันสังคม จังหวัดปทุมธานี

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการประกันสังคม โดย สำนักงานประกันสังคม จังหวัดปทุมธานี. สำนักงานประกันสังคมเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านการสร้างหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน. ภารกิจที่สำคัญ. บริหารจัดการ 2 กองทุน 1 . กองทุนประกันสังคม ตาม พรบ.ประกันสังคม พศ.2533

bonita
Download Presentation

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการประกันสังคม โดย สำนักงานประกันสังคม จังหวัดปทุมธานี

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ข้อควรรู้เกี่ยวกับการประกันสังคมข้อควรรู้เกี่ยวกับการประกันสังคม โดย สำนักงานประกันสังคม จังหวัดปทุมธานี

  2. สำนักงานประกันสังคมเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านการสร้างหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน

  3. ภารกิจที่สำคัญ • บริหารจัดการ 2 กองทุน 1. กองทุนประกันสังคม ตาม พรบ.ประกันสังคม พศ.2533 2. กองทุนเงินทดแทน ตาม พรบ.กองทุนเงินทดแทน พศ.2537

  4. หน้าที่หลักของ สปส. • ขึ้นทะเบียนนายจ้าง / ลูกจ้าง • จัดเก็บเงินสมทบ นายจ้าง / ลูกจ้าง • ให้สิทธิประโยชน์ ลูกจ้าง / ผู้ประกันตน

  5. หลักการประกันสังคม 1. เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข 2. เฉพาะกลุ่มที่เป็นสมาชิก

  6. ความหมายและประเภทของผู้ประกันตนความหมายและประเภทของผู้ประกันตน • ผู้ประกันตน คือ ลูกจ้างที่เข้าทำงานอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และไม่เกิน 60 ปี อยู่ในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคม โดยบังคับ ผู้ประกันตน ม.33 โดยสมัครใจ ผู้ประกันตน ม.39 ผู้ประกันตน ม.40

  7. การขึ้นทะเบียนและการจัดเก็บเงินสมทบการขึ้นทะเบียนและการจัดเก็บเงินสมทบ • นายจ้างทุกประเภทกิจการที่มีลูกจ้าง 1 คนขึ้นไปต้องขึ้นทะเบียนนายจ้างและลูกจ้างภายใน 30 วัน • ทุกครั้งที่มีการจ่ายค่าจ้างให้นายจ้างหักค่าจ้างของผุ้ประกันตนนำส่งสำนักงานประกันสังคมพร้อมกับส่วนของนายจ้างภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

  8. การขึ้นทะเบียนและการจัดเก็บเงินสมทบการขึ้นทะเบียนและการจัดเก็บเงินสมทบ • เมื่อนายจ้างได้หักค่าจ้างผู้ประกันตนแล้ว ถือว่า ผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบแล้วตั้งแต่วันที่นายจ้างหักค่าจ้าง • อัตราเงินสมทบร้อยละ 5 • อัตราค่าจ้างต่ำสุดที่คำนวนส่งเงินสมทบ 1,650 บาท • อัตราค่าจ้างสูงสุดที่คำนวนส่งเงินสมทบ 15,000 บาท

  9. อัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม(ผปต.ม.33) หน่วย %

  10. อัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม(ผปต.ม.39) (ฐานค่าจ้าง4,800 บาท) หน่วย %

  11. สิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม 7 กรณี • เงื่อนไขการได้สิทธิ กรณีเจ็บป่วย- ทุพพลภาพ จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 3 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนป่วย -ทุพพลภาพ กรณีคลอดบุตร จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 7 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนคลอด

  12. สิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม 7 กรณี • เงื่อนไขการได้สิทธิ กรณีตาย จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 1 เดือนภายใน 6 เดือนก่อนตาย กรณีสงเคราะห์บุตร จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือนภายใน 36 เดือนก่อนมีสิทธิ

  13. สิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม 7 กรณี • เงื่อนไขการได้สิทธิ กรณีว่างงาน จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน กรณีชราภาพ (เป็นลักษณะเงินออม) เริ่มตั้งแต่เงินสมทบเดือน ธ.ค. 2541

  14. 1. กรณีเจ็บป่วย • เจ็บป่วยปกติ • ผปต.เข้ารพ. ตามบัตร, ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย • ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้าง เฉลี่ยครั้งละไม่เกิน 90 วัน • ปีละไม่เกิน 180 วัน • เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังจ่าย 365 วัน

  15. 1. กรณีเจ็บป่วย • เจ็บป่วยฉุกเฉิน • ผู้ป่วยนอก ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง ผู้ป่วยใน ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง • จ่ายค่ารักษาไปก่อน นำใบเสร็จและใบรับรองแพทย์ มาเบิกคืนที่ สปส. • ต้องรีบแจ้ง รพ. ที่ระบุในบัตรทันที สปส.รับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลภายใน 72 ชม.แรก

  16. 1. กรณีเจ็บป่วย • เจ็บป่วยจากการประสบอันตราย • จ่ายค่ารักษาไปก่อน นำใบเสร็จและใบรับรองแพทย์ มาเบิกคืนที่ สปส. • ต้องรีบแจ้ง รพ. ที่ระบุในบัตรทันที สปส.รับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลภายใน 72 ชม.แรก • ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

  17. 1. กรณีเจ็บป่วย • เจ็บป่วยฉุกเฉิน / ประสบอันตราย เข้ารักษา รพ.รัฐ • สปส.รับผิดชอบค่ารักษาเท่าที่จ่ายจริงทั้งหมด ผู้ป่วยนอก • สปส.รับผิดชอบเท่าที่จ่ายจริงภายใน 72 ชม. • ค่าห้อง ค่าอาหาร ไม่เกิน 700 บาท / วัน ผู้ป่วยใน เข้ารักษา รพ.เอกชน • ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน สปส.รับผิดชอบค่ารักษาตามประกาศฯ

  18. กรณีทันตกรรม • จ่ายค่า ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน เท่าที่จ่ายจริง ครั้งละไม่เกิน 250 บาท ปีละไม่เกิน 500 บาท • จ่ายค่าฟันเทียมชนิดถอดได้ฐานอครีลิค เท่าที่จ่ายจริง 1 - 5 ซี่ ชิ้นละไม่เกิน 1,200 บาท เกินกว่า 5 ซี่ ชิ้นละไม่เกิน 1,400 บาท

  19. กรณีทันตกรรม • ภายในระยะเวลา 5 ปี เบิกได้ไม่เกิน 1,400 บาท • ไปทำฟันที่สถานพยาบาลใดก็ได้นำใบเสร็จและใบรับรองแพทย์มาเบิกที่ สปส.

  20. สปส.เหมาจ่าย 12,000บาท ต่อการคลอด 1 ครั้ง • ไปคลอดที่ไหนก็ได้ • เฉพาะ ผปต.หญิง ได้รับเงินสงเคระห์ 50% ของค่าจ้าง 90 วัน • ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับคนละ 2 ครั้ง • ผู้ประกันตนชายที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสใช้หนังสือรับรองกรณีอยู่กินฉันสามี ภรรยาโดยเปิดเผยและไม่มีภรรยาตามกฏหมาย 2. กรณีคลอดบุตร

  21. 3. กรณีทุพพลภาพ • ค่ารักษาพยาบาลไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท • อวัยวะเทียม / อุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค • ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ 40,000 บาท / ราย • เงินทดแทน 50% ของค่าจ้างตลอดชีวิต • ตายได้รับค่าทำศพและเงินสงเคราะห์

  22. 4. กรณีตาย • ค่าทำศพ 30,000 บาท • เงินสงเคราะห์แก่ทายาท ดังนี้ • จ่ายเงินสมทบ 3ปี ไม่ถึง 10ปี =ค่าจ้าง 1เดือนครึ่ง • จ่ายเงินสมทบ 10ปีขึ้นไป = ค่าจ้าง 5 เดือน

  23. 5. กรณีสงเคราะห์บุตร • เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือมาตรา 39 • เงินสงเคราะห์บุตร 350 บาท / เดือน • บุตรแรกเกิด - 6 ปี • คราวละไม่เกิน 2 คน • เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย • ผปต. ตายหรือทุพพลภาพให้ผู้อุปการบุตรรับเงินต่อจนบุตรอายุ 6 ปี

  24. 6. กรณีชราภาพ บำเหน็จชราภาพ • อายุ 55 ปี และสิ้นสภาพผู้ประกันตน • จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน • ได้รับเงินคราวเดียว สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ • จ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน ได้รับบำเหน็จ • เท่ากับจำนวนเงินสมทบของผู้ประกันตน

  25. 6. กรณีชราภาพ สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ • จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ได้รับบำเหน็จ • เท่ากับจำนวนเงินสมทบส่วนของผู้ประกันตนและนายจ้าง พร้อมผลประโยชน์ตอบแทน

  26. 6. กรณีชราภาพ บำนาญชราภาพ • อายุ 55 ปี และสิ้นสภาพผู้ประกันตน • จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป • ได้รับเงินรายเดือนตลอดชีวิต สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ • จ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน ได้รับบำนาญ • ร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย

  27. 6. กรณีชราภาพ สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ • จ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือนขึ้นไป ปรับเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน

  28. 7. กรณีว่างงาน • สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ • กรณีลาออก ได้รับเงินทดแทนขาดรายได้ขณะว่างงาน = 30% ของค่าจ้างไม่เกิน 90 วัน • กรณีเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนขาดรายได้ขณะว่างงาน = 50% ของค่าจ้างไม่เกิน 180 วัน • บริการจัดหางาน • พัฒนาฝีมือแรงงาน

  29. 7. กรณีว่างงาน • เงื่อนไขการเกิดสิทธิ • จ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนการว่างงาน • ไม่ใช่ผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ • มีระยะเวลาว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป • ต้องขึ้นทะเบียนที่สำนักงานจัดหางาน( ภายใน 30 วันจะได้รับสิทธิครบถ้วน )

  30. 7. กรณีว่างงาน • เงื่อนไขการเกิดสิทธิ • มีความสามารถพร้อมที่จะทำงานที่เหมาะสมที่รัฐจัดให้ • ไม่ปฏิเสธการฝึกงาน • รายงานตัวที่สำนักจัดหางาน เดือนละครั้งตามนัด • ไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากกระทำผิดต่อนายจ้าง

  31. สิ่งที่ผู้ประกันตนควรทราบสิ่งที่ผู้ประกันตนควรทราบ • ผปต. ต้องยืนเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทนภายใน 1 ปี นับแต่วันเกิดสิทธิและรับเงินภายใน 2 ปี นับแต่วันที่รับแจ้งให้รับเงิน • เฉพาะกรณีว่างงานต้องขึ้นทะเบียนหางานที่สำนักงานจัดหางานภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ว่างงานจะได้รับสิทธิครบถ้วน

  32. สิ่งที่ผู้ประกันตนควรทราบสิ่งที่ผู้ประกันตนควรทราบ • สิทธิของผปต.ภายหลังออกจากงานจะได้รับสิทธิกรณี เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย ต่อไปอีก 6 เดือน • ผปต. จะไม่ได้รับสิทธิหากเป็นการจงใจก่อให้เกิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นก่อให้เกิดขึ้น • ผปต. ที่ออกจากงาน และได้ส่งเงินสมทบมาครบ 12 เดือนสามารถสมัครประกันตนเองได้โดยสมัครใจ (ผปต.มาตรา 39 ) ภายในระยะเวลา 6 เดือนนับแต่ออกงาน

  33. สิทธิประโยชน์ที่กำลังจะแก้ไขสิทธิประโยชน์ที่กำลังจะแก้ไข กองทุนประกันสังคม • คนทำงานบ้านให้ได้รับการคุ้มครอง • กรณีชราภาพขยายเวลายื่นขอรับสิทธิจาก 1 ปี เป็น 5 ปี • กรณีว่างงาน ผปต.ที่อายุ 55 ปีแล้วไม่ต้องส่งเงินสมทบ • ผปต. ม.39 ส่งเงินเพียงส่วนเดียว • เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีตาย จาก 30,000 บาทเป็น 40,000 บาท

  34. สิทธิประโยชน์ที่กำลังจะแก้ไขสิทธิประโยชน์ที่กำลังจะแก้ไข กองทุนประกันสังคม • เงินบำนาญชราภาพจาก 15% + 1% เป็น 20% + 1.5% • เพิ่มเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ทุพพลภาพจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท

  35. สิทธิประโยชน์ที่กำลังจะแก้ไขสิทธิประโยชน์ที่กำลังจะแก้ไข กองทุนเงินทดแทน • กรณีทุพพลภาพให้ได้รับเงินทดแทนจาก 15 ปี เป็นตลอดชีวิต • แก้ไขค่าทดแทนกรณีหยุดงาน 18(1) ให้ได้รับตั้งแต่วันแรกของการหยุดงาน • แก้ไข ค่าทำศพ 100เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 30,000 บาท ขยายเงินทดแทนกรณีตาย จาก 8 ปี เป็น 12 ปี

  36. ขอขอบคุณ จาก สปส. ปทุมธานี กลุ่มงานให้บริการ โทร 02-9596324

More Related