1 / 35

การจัดการความรู้ของผู้ดูแล ในการฝึกการสื่อสารด้วยภาพแก่เด็ก ออทิสติก

โครงร่างการทำวิจัยเพื่อการค้นคว้าแบบอิสระ. การจัดการความรู้ของผู้ดูแล ในการฝึกการสื่อสารด้วยภาพแก่เด็ก ออทิสติก Knowledge management for caregiver to train Picture Exchange Communication System for autistic child’s. นางสาวประภัสสร คำเมือง. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา.

bobby
Download Presentation

การจัดการความรู้ของผู้ดูแล ในการฝึกการสื่อสารด้วยภาพแก่เด็ก ออทิสติก

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. โครงร่างการทำวิจัยเพื่อการค้นคว้าแบบอิสระโครงร่างการทำวิจัยเพื่อการค้นคว้าแบบอิสระ การจัดการความรู้ของผู้ดูแล ในการฝึกการสื่อสารด้วยภาพแก่เด็กออทิสติก Knowledge management for caregiver to train Picture Exchange Communication System for autistic child’s นางสาวประภัสสร คำเมือง

  2. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ภาวะออทิสซึม (Autism) เป็นโรคหรือกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นในเนื่องจากสมองผิดปกติ(อุมาพร ตรังคสมบัติ:2545 ,3) ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุในการเกิด ดังนั้นวิธีการช่วยเหลือเด็กออทิสติกจึงมีหลายวิธีการ ซึ่งส่วนใหญ่จะรักษาตามอาการ จึงเป็นอุปสรรคในการดูแลเด็กออทิสติก ไม่ว่าจะเป็น ผู้ดูแลการขาดความรู้และทักษะเพราะต้องฝึกทุกอย่าง ทุกเรื่อง ให้เหมาะกับความแตกต่างของแต่งแต่ละคน ความต้องการของผู้ดูแลคือ ต้องการความรู้เรื่องโรค การดูแล และ การฝึกพัฒนาการเด็ก ตลอดจนการประคับประคองจิตใจของผู้ดูแล เพื่อส่งเสริมให้ผู้ดูแลสามารถดูแลตนเอง และดูแลเด็กออทิสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ภัทราภรณ์ ทุ่งปันคำ และคนึงนิจ ไชยลังการณ์:2548)

  3. สอดคล้องกับปัญหาอุปสรรคในองค์กรที่น่าสนใจคือถึงแม้ว่าหลายๆครอบครัวได้พาเด็กออทิสติกเข้ารับการรักษาและได้รับคำแนะนำจากนักวิชาชีพต่างๆแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่มีความรู้ที่ชัดแจ้ง ไม่เข้าใจและไม่สามารถที่จะฝึกเด็กออทิสติกได้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ

  4. เด็กออทิสติกที่เข้ามารับบริการที่หอผู้ป่วยจิตเวชส่วนใหญ่มาขอรับบริการการกระตุ้นพัฒนาการด้านการสื่อสาร อาการของเด็กมีตั้งแต่พูดได้บ้างจนกระทั้งพูดไม่ได้เลย จึงมีเทคนิคการฝึกเด็กด้วยภาพเพื่อการสื่อสารเข้ามาเป็นการสื่อสารเสริมหรือทางเลือกอื่น(AAC: Augmentative Alternative communication) แต่เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการสามารถให้การบริการได้แบบบางช่วงเวลา ผู้ดูแล/ผู้ปกครอง “ครอบครัวเป็นตัวหาร” หมายถึง ครอบครัวมีบทบาทสำคัญที่สุดในการดูแล(ทวีศักดิ์ :ระบบออนไลน์)

  5. แต่ปัญหาที่พบคือผู้ปกครอง/ผู้ดูแล ไม่ได้ไปต่อยอดการเรียนรู้ให้เนื่องจากหลายสาเหตุ คือ ความไม่รู้วิธีการฝึกที่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถนำความรู้ที่มีมาบูรณาการฝึกเด็กออทิสติกได้เองในสถานการณ์จริง ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการด้านการสื่อสารด้วยภาพไม่เป็นไปตามหลักการของ PECSที่วางไว้อย่างสมบูรณ์ คือ ไม่สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงด้วยตัวเอง

  6. ดังที่แนวคิดของการจัดการความรู้ก็คือ การรวบรวม สร้าง จัดระเบียบ แลกเปลี่ยน และประยุกต์ใช้ความรู้ โดยพัฒนาระบบจาก ข้อมูล ไปสู่ สารสนเทศ เพื่อให้เกิด ความรู้ และ ปัญญา ในที่สุด(สื่อออนไลน์ :25พย. 2554) ผู้ศึกษาจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาประสิทธิภาพของผู้ดูแลให้สามารถฝึกพัฒนาการการสื่อสารด้วยภาพเด็กออทิสติกได้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพโดยทำการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ

  7. โดยได้แนวคิดสืบเนื่องมาจากงานวิจัยของ พฤกษ์ ไชยลังการณ์(2552)ที่ศึกษาแล้วพบว่า จากพฤติกรรมการแสวงหา และแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ปกครองเพียงด้านเดียวอาจไม่ได้ส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก แต่แนวโน้มการใช้ข้อมูลที่ได้มาร่วมกับโปรแกรมการพัฒนาเด็กมีผลต่อพัฒนาการเด็กในระดับหนึ่ง ผลการวิจัยพบว่าหากผู้ปกครองนำข้อมูลที่ได้รับมาปฏิบัติกับเด็กอย่างสม่ำเสมอนั้นเด็กจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ดังนั้นการจัดการความรู้ที่เป็นระบบแก่ผู้ดูแล พร้อมกับโปรแกรมการฝึกการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพนั้นจะสามารถทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านการสื่อสารที่นำไปใช้ในชีวิตได้จริง

  8. วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อเพิ่มความสามารถของผู้ดูแลในการฝึกการสื่อสารให้เด็กออทิสติกด้วยเทคนิคของ PECS เพื่อจัดเก็บองค์ความรู้ผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นระบบ

  9. กรอบแนวคิดและทฤษฏี 1. แนวคิดและทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับออทิสติก ความหมายของออทิสติก สาเหตุของโรค ลักษณะอาการ วิธีการสอน/ช่วยเหลือ 2. แนวคิดและทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาพเพื่อการสื่อสาร (PECS) ความหมาย ประโยชน์ของเพ็คส์ แนวการสอนด้วย PECS ขั้นตอนการฝึกด้วย PECS มี 6 ขั้นตอน

  10. 3. แนวคิดและทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ ความหมายของการจัดการความรู้ วงจรความรู้ (Knowledge Spiral หรือ SECI Model) กระบวนการจัดการความรู้ ประโยชน์ของการจัดการความรู้คือ

  11. ผลงานการทบทวนวรรณกรรมผลงานการทบทวนวรรณกรรม

  12. ความต้องการในการช่วยเหลือของผู้ที่ดูแลเด็กออทิสติกมีหลายด้านไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการบำบัดรักษา การดูแลประคับประคอง ดังเช่นงานวิจัยของภัทราภรณ์ ทุ่งปันคำ และคนึงนิจ ไชยลังการณ์ (2546) ที่ได้ศึกษาถึงอุปสรรค และ ความต้องการการช่วยเหลือในการดูแลเด็กออทิสติกโดยศึกษาในกลุ่มผู้ดูแลเด็กออทิสติกที่เป็น บิดา มารดา ญาติ หรือ พี่เลี้ยง พบว่าเจ้าหน้าที่ทางสุขภาพต้องให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะ ด้าน ความรู้เรื่องโรค การดูแล และ การฝึกพัฒนาการเด็ก ตลอดจนการประคับประคองจิตใจของผู้ดูแล เพื่อส่งเสริมให้ผู้ดูแลสามารถดูแลตนเอง และดูแลเด็กออทิสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุปสรรคในการดูแลเด็กออทิสติก นั้นเกี่ยวข้องกับภาวะโรคที่เด็กเป็นอยู่ การขาดความรู้และทักษะที่จำเป็นในการดูแล สถานบริการมีไม่ทั่วถึง ตลอดจนการขาดความเข้าใจ จากเจ้าหน้าที่ และ บุคคลในสังคม นอกจากนี้ผู้ดูแลยังแสดงความจำนงถึงความต้องการอยากให้มีสถานบริการที่ดูแลเด็กตลอดชีวิต การรักษาที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจน ความเข้าใจ และกำลังใจจากสังคม

  13. ดังนั้น ข้อมูล และความรู้ต่างๆที่จำเป็นต่อการบำบัดเด็กออทิสติกจึงมีมากมายหลากหลายรูปแบบแต่สิ่งหนึ่งคือการใช้รูปภาพเพื่อการสื่อสารหรือPECS :Picture Exchange Communication System นั้นเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยในการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารของเด็กออทิสติกได้เป็นอย่างดีดังเช่นงานวิจัยของหลายท่านที่ได้ศึกษา

  14. วิลาสินี แก้ววรา(2550) ได้ศึกษาเรื่องการใช้เพ็คส์เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษและความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของเด็กออทิสติกวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความรู้ด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษและความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษโดยใช้เพ็คส์(PECS: ) ซึ่งสอดแทรกการใช้การยุทธ์การสอนโดยเน้นการมองเห็น(Visual Strategies) และทำการประเมิน2 ช่วง คือประเมินก่อนการ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการส่งเสริมด้านคำศัพท์และความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษ แล้วประเมินผลหลังการสอน วิเคราะห์ผลโดยใช้ค่าร้อยละ ผลการวิจัยที่ได้คือ กรณีศึกษามีความรู้ด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น อยู่ในระดับดีมาก มีความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษแบบคำสูงขึ้น อยู่ในระดับดีมาก และมีความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษแบบประโยคสูงขึ้น อยู่ในระดับดีมากเช่นกัน

  15. ส่วน นุชนาถ แก้วมาตร(2547) ได้ศึกษา เรื่องการใช้ภาพเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการสื่อสารของเด็กออทิสติก โดยศึกษาแบบรายกรณี ซึ่งเป็นเด็กออทิสติกระดับปานกลาง อายุ 10 ปี มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อใช้สื่อภาพต่อความสามารถด้านการสื่อสารและเพื่อสร้างเครื่องมือพัฒนาความสามารถด้านการสื่อสารของเด็กออทิสติก นุชนาถ แก้วมาตรได้ทำการสร้างสื่อภาพเพื่อนำมาใช้พัฒนาและทำการประเมินเป็น 3 ช่วง คือ ประเมินผลก่อนการฝึกใช้สื่อภาพ จากนั้นเข้าสู่ขยวนการพัฒนาความสามารถด้านการสื่อสารเป็นเวลา 10 สัปดาห์แล้วประเมินผลหลังการฝึกใช้สื่อภาพภายหลังจากการฝึก 2 สัปดาห์ ผลการวิจัยพบว่า กรณีศึกษามีความสามารถด้านการสื่อสารดีขึ้นทุกด้าน ทั้งด้านการเข้าใจความหมายในการสื่อสาร การใช้คำพูดในการสื่อสาร และสามารถเป็นผู้ริเริ่มการสื่อสารได้ หลังจากการฝึก 2 สัปดาห์ยังพบว่ากรณีศึกษายังคงความสามารถนั้น

  16. และวันทนีย์ เรียงไรสวัสดิ์ (2552:ระบบออนไลน์) ได้ทำการศึกษาเรื่อง ผลการใช้ระบบการแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารในการพัฒนาทักษะการสื่อสารสำหรับนักเรียนออทิสติกระดับปฐมวัย โรงเรียนกาวิละอนุกูล จ.เชียงใหม่ ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะการสื่อสารของนักเรียน ผลการศึกษาที่ได้คือ นักเรียนคนที่ 1 สามารถฝึกจนถึงขั้นตอนที่ เปล่งเสียงพูดทุกครั้งที่ฝึกตั้งแต่ขั้นตอนที่ 4 นักเรียนคนที่2 สามารถฝึกได้ถึงขั้นที่ 2 คือการเพิ่มระยะห่างในการแลกเปลี่ยนภาพ มีคำพูดที่เกิดขึ้น ดังนั้นระบบระบบการแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารสามารถช่วยให้กรณีศึกษาทั้งสองสามารถมีทักษะในการสื่อสารเพิ่มขึ้นแต่ทั้งนี้เนื่องจากความสามารถเด็กที่แตกต่างกันจึงทำให้ผลการศึกษาแตกต่างกันนั่นเอง

  17. ทั้ง3 ท่านได้ศึกษากับกลุ่มตัวอย่างด้วยเทคนิคการสื่อสารด้วยภาพทั้งหมด 6 ขั้นตอน ทำให้เด็กมีความสามารถในการสื่อสารเป็นประโยคได้ด้วยตัวเอง และมีคำศัพท์เพิ่มมากขึ้นทุกรายตามความสามารถเด็กแต่ละคน

  18. ในขณะที่ ทิพวรรณปิโยปกรณ์ (2549) ได้ศึกษาเรื่อง การใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารในการพัฒนาการสื่อสารของเด็กออทิสติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำ จังหวัดจันทบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทดลองใช้ระบบการแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (PECS) เพื่อพัฒนาการสื่อสารของเด็กออทิสติก โดยเฉพาะการบอกความต้องการและลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์อันเนื่องมาจากการสื่อสาร ทำการประเมิน 3 ช่วง คือก่อนการฝึก ระหว่างกระบวนการ และหลังการฝึก เป็นเวลา 27 วัน และการประเมินผลหลังการฝึกให้สื่อภาพ 60 วันผลการศึกษาพบว่ากรณีศึกษามีทักษะในการสื่อสารแสดงความต้องการโดยพูดขอขนม สิ่งของที่ต้องการจากผู้อื่นได้ ทำให้พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ลดลง

  19. และ จงจิต ไชยวงค์ (2550)ได้นำระบบการแลกเปลี่ยนรูปภาพเพื่อการสื่อสารมาใช้ศึกษากับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา โดยศึกษาเรื่อง การพัฒนาทักษะการสื่อสารของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาโดยระบบแลกเปลี่ยนรูปภาพเพื่อการสื่อสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชุดภาพในการพัฒนาทักษะการสื่อสารของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา และเพื่อศึกษาการพัฒนาทักษะการสื่อสารของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาระดับรุนแรง กรณีศึกษาเป็นเด็กนักเรียนชายอายุ9 ปีจำนวน 1คน ที่เข้ามารับการฟื้นฟูที่ศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา 8 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษามี ชุดภาพจำนวน 7ภาพ แบบแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินและบันทึกการฝึกใช้สื่อภาพขั้นตอนที่ 1-2 การสังเกตพฤติกรรมการฝึก บันทึกหลังการฝึก บันทึกภาพวีดิทัศน์ ใช้เวลาฝึก 28 วัน วันละ 30 ครั้ง นำข้อมูลมาวิเคราะห์หาค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ ผลการศึกษาพบว่า ได้ชุดภาพที่สร้างขึ้นจากการประเมินแรงเสริมของกรณีศึกษา และกรณีศึกษามีทักษะการสื่อสารโดยระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก

  20. ทั้ง 2 ท่านฝึกถึงขั้นที่ 1-3 เท่านั้นเด็กก็จะมีการสื่อสารเกิดขึ้นจริง แต่เป็นคำๆ ดังนั้นหากฝึกครบทุกกระบวนการก็จะทำให้เด็กสามารถสื่อสารได้กว้างมากขึ้น คำศัพท์ที่ได้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้มีช่องทางการสื่อสารและสามารถพูดสื่อสารได้ใกล้เคียงปกติที่สุด

  21. แต่ คนึงนิจ ไชยลังการณ์(2547)ได้ศึกษาเรื่อง การใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารต่อความสามารถทางภาษาบุคคลออทิสติกที่สามารถสื่อสารเป็นคำหรือวลี มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถทางภาษาของบุคคลออทิสติกที่สามารถสื่อสารได้เป็นคำหรือวลีก่อนและหลังการใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารโดยใช้กรณีศึกษาเป็นบุคคลออทิสติกอายุ 17 ปี ใช้เวลาฝึก 2 เดือน ผลการศึกษาพบว่ากรณีศึกษาสามารถเรียนรู้การใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถ โดยงานวิจัยครั้งนี้ไม่ได้เริ่มต้นฝึกในขั้นตอนที่ 1 ทำให้การริเริ่มหยิบแผ่นสร้างประโยคเองเป็นไปได้ช้า ต้องใช้การแนะมากกว่าขั้นตอนอื่น ดังนั้นการใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารต้องเริ่มต้นที่ขั้นตอนที่ 1 เพื่อให้สามารถริเริ่มสื่อสารได้เองก่อน จึงจะฝึกในขั้นตอนที่สูงขึ้นต่อไปได้ สรุปได้ว่า การฝึกตามกระบวนการของ PECS ที่ถูกต้องจะทำให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

  22. การฝึกด้วยเทคนิคของระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารนั้นเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพเหมาะกับเด็กออทิสติกเห็นได้จากเด็กออทิสติกร้อยละ 50 ไม่มีภาษาพูดที่สื่อสารได้ (อุมาพร ตรังคสมบัติ.2545,138) แต่จุดเด่นของเด็กออทิสติกส่วนใหญ่มีวิธีการเรียนรู้จากการมองเห็น (Learning Through Seeing)โดยบุคคลออทิสติกจะสามารถจดจำ รูปภาพ รูปถ่าย สัญลักษณ์ ภาพวาด ป้ายโฆษณา ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี การใช้รูปภาพเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาความสามารถของบุคคลออทิสติกจึงต้องใช้การสื่อสารเสริมและทางเลือกอื่น(AAC)ทดแทนดังนั้น Picture Exchange Communication Systemเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ฝึกเด็กออทิสติกให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  23. งานวิจัยที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งยืนยันว่าการฝึกการใช้ภาพเพื่อการสื่อสารแก่เด็กออทิสติกเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและสามารถฝึกได้จริง ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามหลักการของเทคนิคการใช้ภาพเพื่อการสื่อสารหรือ PECS และจากงานวิจัยของพฤษภ์ ไชยลังการณ์(2552) ได้ศึกษาเรื่องการแสวงหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเด็กออทิสติกของผู้ปกครองเพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กออทิสติกนั้นพบว่าพฤติกรรมการแสวงหา และแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ปกครองเพียงด้านเดียวอาจไม่ได้ส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก เนื่องจากมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง แต่แนวโน้มการใช้ข้อมูลที่ได้มาร่วมกับโปรแกรมการพัฒนาเด็กมีผลต่อพัฒนาการเด็กในระดับหนึ่ง ผลการวิจัยพบว่าหากผู้ปกครองนำข้อมูลที่ได้รับมาปฏิบัติกับเด็กอย่างสม่ำเสมอนั้นเด็กจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

  24. ผู้ศึกษาจึงสนใจที่จะศึกษาในเรื่องการจัดการความรู้ของผู้ดูแลให้สามารถฝึกเด็กออทิสติกให้สื่อสารด้วยการใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารได้อย่างถูกต้องด้วยการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ เป็นการต่อยอดงานวิจัยของคุณนุชนาถ แก้วมาตรที่ได้เสนอแนะไว้ว่าควรที่จะขยายให้เด็กได้เรียนรู้ในสถานการณ์อื่นๆด้วย เช่น ที่บ้าน ที่โรงเรียน ดังนั้นในสถานการณ์อื่นๆจึงจำเป็นที่จะต้องมีผู้ดูแลที่จะสามารถมาต่อยอดความรู้ให้กับเด็กออทิสติกได้ เด็กออทิสติกจึงจะสามารถใช้ภาพเพื่อการสื่อสารได้จริงในชีวิตประจำวัน

  25. ขอบเขตและวิธีการวิจัยขอบเขตและวิธีการวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.ประชากร ได้แก่ผู้ดูแลที่พาเด็กออทิสติกเข้ามารับบริการ ณ หอผู้ป่วยจิตเวช ทั้งหมดจำนวน 11 คน 2.ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างเป็นกรณีศึกษา 1 คน ที่เลือกแบบเจาะจง

  26. ประเภทของข้อมูล ข้อมูลที่นำมาประกอบการศึกษาแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 1. ข้อมูลเชิงคุณภาพ เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ภาพเพื่อการสื่อสาร จากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการฝึกเด็กออทิสติกด้วยวิธีการใช้ภาพเพื่อการสื่อสาร และข้อมูลจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ถ่ายทอดและผู้ดูแลเด็กว่าได้เกิดองค์ความรู้ที่ชัดแจ้งแก่ผู้ดูแล ผู้ดูแลสามารถนำไปหมุนเกรียวความรู้ได้ 2. ข้อมูลเชิงปริมาณ เป็นแบบทดสอบก่อนและหลังการจัดการความรู้ สำหรับผู้ดูแล และแบบบันทึกพัฒนาการการสื่อสารด้วยภาพ

  27. เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในประเด็นดังนี้คือ วิธีการฝึกการใช้ภาพเพื่อการสื่อสาร ทั้ง 6 ขั้นตอน และปัจจัยความสำเร็จในการฝึกแต่ละขั้นตอน 2. แบบทดสอบ แบบทดสอบก่อนการแลกเปลี่ยนความรู้ และหลังการแลกเปลี่ยนความรู้สำหรับผู้ดูแลเด็กออทิสติก ที่ผู้วิจัยเป็นผู้สร้างขึ้นโดยดัดแปลงจากแบบประเมินระบบการแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารของ Bondy&Frost(2001) 3. การใช้ที่ปรึกษา/หรือพี่เลี้ยง(Mentoring System) เข้ามาช่วยในการแลกเปลี่ยนความรู้ การบันทึกเหตุการณ์แบบพรรณนา ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อเป็นข้อมูลที่แสดงถึงความเข้าใจของผู้ดูแล และจัดเก็บเป็นองค์ความรู้ใหม่ ที่ได้จากการแลกเปลี่ยน แบบบันทึกพัฒนาการทางด้านการสื่อสารด้วยภาพ การบันทึกภาพและเสียงขณะผู้ดูแลฝึกด้วยเทคนิคPECS

  28. ที่มา http://www.bb.go.th/BBKM/public/aboutKM/Article/startkm.pdf

  29. การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยใช้สถิติร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร่วมกับวิธีการอุปนัย(Analytic Induction) โดยการตีความ เพื่อทำการวิเคราะห์ผลการเกิดการสร้างความรู้และการนำความรู้ไปหมุนเกรียว นำเสนอผลในรูปแบบของการบรรยาย และแผนภูมิแสดงการเปรียบเทียบก่อนและหลังการแลกเปลี่ยนความรู้ ดูว่าผู้ดูแลสามารถที่จะฝึกทักษะการสื่อสารด้วยภาพให้แก่เด็กออทิสติกได้หรือไม่ หรือเกิดองค์ความรู้ที่สามารถนำไปปฏิบัติและหมุนเกรียวความรู้ได้ด้วยตัวเองหรือไม่

  30. การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล ระหว่างการประเมินความสามารถในการฝึกผู้วิจัยได้บันทึกวีดีโอเทปเพื่อยืนยันถึงความสามารถของผู้ดูแลในการฝึก และเห็นผลสำเร็จกับเด็กออทิสติกจริง • ระยะเวลาในการศึกษา สิงหาคม – ธันวาคม 2555

  31. ประโยชน์ที่จะได้รับจากการวิจัยประโยชน์ที่จะได้รับจากการวิจัย ผู้ดูแลสามารถฝึกการใช้ภาพเพื่อการสื่อสารกับเด็กออทิสติกได้ถูกต้อง เด็กออทิสติกมีพัฒนาการตามแผนการรักษา ได้องค์ความรู้ที่เป็นระบบที่สามารถเผยแพร่ให้กับผู้ที่ต้องการใช้PECS ในการฝึกเด็กออทิสติก

  32. อ้างอิง • คนึงนิจ ไชยลังการณ์.รายงานการวิจัยเรื่อง การใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารต่อความสามารถทางภาษาบุคคลออทิสติกที่สามารถสื่อสารเป็นคำหรือวลี.โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่,2547. • คนึงนิจ ไชยลังการณ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยจิตเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่(เก็บข้อมูลช่วงการวิเคราะห์สภาพปัญญาของงานวิจัย,ธันวาคม 2554 การค้นคว้าแบบอิสระ). • จงจิต ไชยวงค์.การพัฒนาทักษะการสื่อสารของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาโดยระบบแลกเปลี่ยนรูปภาพเพื่อการสื่อสาร.วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่,2550. • ชูศักดิ์ จันทยานนท์. (ม.ป.ป.).เด็กออทิสติกคือใคร.[ระบบออนไลน์].แหล่งที่มาhttp://www.thaiparents.com/ tot_autism.html#label1. (2 ธันวาคม 2554).

  33. ณพศิษฎ์ จักรพิทักษ์. ทฤษฎีการจัดการความรู้. กรุงเทพฯ :ธนาเพลส, 2552. • เดือนฉาย แสงรัตนายนต์.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการฝึกพูด. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภา, 2545 • ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา.2549.ออทิสติกAutistic Disorder. [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มาhttp://www.happyhomeclinic.com/au02-autism.htm. (2 ธันวาคม 2554). • ทิพวรรณปิโยปกรณ์.การใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารในการพัฒนาการสื่อสารของเด็กออทสิติก ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำ จังหวัดจันทบุรี.วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่,2549. • นุชนาถ แก้วมาตร.คู่มือเบื้องต้นการใช้ระบบแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร(The Picture Exchange Communication System : PECS) เชียงใหม่ : หอผู้ป่วยจิตเวชเด็ก โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, 2548.

  34. นุชนาถ แก้วมาตร.การใช้ภาพเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการสื่อสารของเด็กออทิสติก.วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่,2547. • ผดุง อารยะวิญญู. วิธีสอนเด็กออทิสติก. กรุงเทพฯ : รำไทย เพลส, 2546. • ภัทราภรณ์ ทุ่งปันคำ และคะนึงนิจ ไชยลังการณ์. รายงานการวิจัยเรื่องอุปสรรค และ ความต้องการการช่วยเหลือในการดูแลเด็กออทิสติก. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,2546 • พฤษภ์ ไชยลังการณ์.การแสวงหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเด็กออทิสติกของผู้ปกครองเพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กออทิสติก.วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,2552. • วิจารณ์ พานิช.2554. การจัดการความรู้. [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มาhttp://www.kmi.or.th/kmi-articles/prof-vicharn-panich/28-0001-intro-to-km.html. (2 ธันวาคม 2554). • วิลาสินี แก้ววรา.การใช้เพ็คส์เพื่อส่งเสริมความรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษและความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของเด็กออทิสติก.วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่,2550. • วันทนีย์ เรียงไรสวัสดิ์.2552.ผลการใช้ระบบการแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารในการพัฒนาทักษะการสื่อสารสำหรับนักเรียนออทิสติกระดับปฐมวัย โรงเรียนกาวิละอนุกูล จ.เชียงใหม่.(ระบบออนไลน์).แหล่งที่มา www.kroobannok.com/board_view.php?b_id=29490(24พฤศจิกายน 2554)

  35. ศูนย์ฝึกอาชีพออทิสติกไทย.การอบรมเรื่อง ทางเลือกการพัฒนาทักษะทางภาษาโดยการแลกเปลี่ยนรูปภาพ Picture Exchange Communication System. (ม.ป.ป.).[ระบบออนไลน์].แหล่งที่มาhttp://www.autisticthai.org/newaus/training%20pecs.htm. (1 ธันวาคม 2554). • สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี. (ม.ป.ป.).คู่มือฝึกและดูแลเด็กออทิสติก กลุ่มงานจิตเวชเด็กและวัยรุ่นสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี. [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มาhttp://www.goodhealth.in.th/web/node/431.(2 ธันวาคม 2554). • สุประภาดา โชติมณี. Modern KM applications in business management จัดการความรู้อย่างไรให้ได้ผลกับทุกระบบ. กรุงเทพฯ : สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ, 2551 • สุวัชรา จุ่นพิจารณ์.(ม.ป.ป.).การบริหารจัดการความรู้ (Knowledge Management). [ระบบออนไลน์].แหล่งที่มาhttp://www.pharmacy.cmu.ac.th/admin/files_team/knowledge.pdf. (2 ธันวาคม 2554). • อุมาพร ตรังคสมบัติ. ช่วยลูกออทิสติก. กรุงเทพฯ :ซันต้าการพิมพ์, 2545.

More Related