910 likes | 3.79k Views
บทเรียนช่วยสอน. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดย คุณครูมลิวัลย์ สินธุบุญ โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน. คำสมาส. คำสมาส ( อ่านว่า สะ-หมาด) คือคำที่เกิดจากคำบาลีและสันสกฤตตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปมารวมกันให้กลายเป็นคำเดียว เพื่อให้มีคำซ้ำในภาษาไทยมากขึ้น.
E N D
บทเรียนช่วยสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดย คุณครูมลิวัลย์ สินธุบุญ โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
คำสมาส(อ่านว่า สะ-หมาด) คือคำที่เกิดจากคำบาลีและสันสกฤตตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปมารวมกันให้กลายเป็นคำเดียว เพื่อให้มีคำซ้ำในภาษาไทยมากขึ้น
คำสมาสแบ่งออกเป็น ๒ ชนิดคือ • คำสมาสที่ไม่มีสนธิ • คำสมาสที่มีสนธิ
คำสมาสที่ไม่มีสนธิ คำสมาส เกิดจากการนำคำมาเรียงต่อกันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำแต่อย่างใดและคำที่สมาสนั้น จะต้องเป็นคำบาลีกับ คำบาลี สันสกฤตกับสันสกฤต หรือสันสกฤตกับบาลี บาลีกับสันสกฤตจะใช้ภาษาอื่นเข้ามาปะปนไม่ได้ เช่น
หลักสังเกตคำสมาสที่ไม่มีสนธิในภาษาไทยหลักสังเกตคำสมาสที่ไม่มีสนธิในภาษาไทย คำสมาสเมื่อเวลาอ่านออกเสียงจะต้องออกเสียงสระต่อเนื่องกัน คือถ้าพยางค์ท้ายของคำหน้ามีสระ อิ หรือ อุ กำกับให้อ่านออกเสียง อิ หรือ อุ ด้วยเช่น รัฐ + บาล = รัฐบาล อ่านว่า รัด - ถะ - บาน โบราณ + คดี = โบราณคดี อ่านว่า โบ - ราน - นะ- คะ- ดี ประวัติ + ศาสตร์ = ประวัติศาสตร์ อ่านว่า ประ - หวัด - ติ - สาด อุบัติ + เหตุ = อุบัติเหตุ อ่านว่า อุ - บัด - ติ - เหด ธาตุ + เจดีย์ = ธาตุเจดีย์ อ่านว่า ทา - ตุ - เจ - ดี
แต่มีคำสมาสบางคำไม่อ่านออกเสียงสระต่อเนื่อง เพราะอ่านตามความนิยมโดยมากเป็นชื่อเฉพาะ ชล + บุรี = ชลบุรี อ่านว่า ชน - บุ - รี สุพรรณ + บุรี = สุพรรณบุรี อ่านว่า สุ- พัน- บุ - รี ชาติ + นิยม = ชาตินิยม อ่านว่า ชาด - นิ - ยม
คำสมาสจะไม่ประวิสรรชนีย์ที่พยางค์สุดท้ายของคำหน้า แม้ว่าคำนั้นจะประวิสรรชนีย์เมื่อยังไม่สมาสก็ตาม เช่น ชีวะ + วิทยา = ชีววิทยา ธุระ + กิจ = ธุรกิจ ฯลฯ
คำสมาสจะไม่มีเครื่องหมายทัณฑฆาตกำกับอยู่ที่พยางค์สุดท้ายของคำหน้า แม้ว่าคำนั้นจะมีเครื่องหมายทัณฑฆาตกำกับอยู่เมื่อยังไม่ก็ตาม เช่น ทันต์ + กรรม = ทันตกรรม สัตว์ + แพทย์ = สัตวแพทย์ ฯลฯ
คำสมาสส่วนมากเรียงคำหลักไว้ข้างหลัง คำขยายไว้ข้างหน้า เวลาแปลความหมาย จะแปลจากข้างหลังมาข้างหน้า เช่น ยุทธ(รบ) + ภูมิ (สนาม แผ่นดิน) = ยุทธภูมิ (สนามรบ) เป็นต้น
คำบาลีสันสกฤตที่มี “พระ” นำหน้า (พระ แผลงมาจาก วร แปลว่า ยอด ประเสริฐ ดี ) จัดเป็นคำสมาสด้วย พึงสังเกตคำประเภทนี้โดยมากเป็น คำราชาศัพท์ เช่น พระบาท พระมัสสุ พระขรรค์ พระธิดา พระมารดา พระบิดา พระเศียร พระกรรณ พระหัตถ์ พระอนุชา พระเชษฐา
แต่มีคำราชาศัพท์บางคำมีลักษณะคล้ายคำสมาสแต่ไม่ใช้คำสมาส เพราะไม่ใช่คำในภาษาบาลีและสันสกฤต เช่น พระอู่ พระแท่น พระเจ้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคำที่สังเกตได้ชัดว่าเป็นคำสมาสได้แก่คำลงท้ายด้วย ศึกษา , วิทยา , กรรม , ภาพ , ศิลป์ , ภัย , ศาสตร์ , การ , คดี , ธรรม , ภัณฑ์ , ลักษณ์
ตัวอย่างคำที่ไม่ใช้คำสมาสตัวอย่างคำที่ไม่ใช้คำสมาส โรงเรียน เพราะ โรง เป็นคำไทย เรียน เป็นคำไทย บายศรี เพราะ บาย เป็นคำ เขมร ศรี เป็นคำสันสกฤต ผลไม้ เพราะ ผล เป็นบาลี/สันฯ ไม้ เป็นคำ ไทย เทพเจ้า เพราะ เทพ เป็นบาลี เจ้า เป็นคำไทย ราชวัง เพราะ ราช เป็นคำบาลี/สันฯ วัง เป็นคำไทย
คำสมาสที่มีสนธิ คำสมาสที่มีสนธิ หมายถึง คำสมาสที่พยางค์แรกของคำหลังเป็นสระ และมีการกลมกลืนเสียงระหว่างพยางค์หลังของคำแรกกับพยางค์แรกของคำหลัง การกลมกลืนเสียงหรือการเชื่อมเสียงเช่นนี้เราเรียกว่า การสนธิ เพื่อให้คำนั้น มีเสียงสั้นเข้าจะได้สะดวกในการออกเสียงและถอยคำสละสลวย
ลักษณะคำสนธิมีสนธิ คำที่นำมาสนธิจะต้องเป็นคำที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต สุข (บาลี) + อภิบาล (บาลี) = สุขาภิบาล ศิลป (สันสกฤต) + อาชีพ (บาลี) = ศิลปาชีพ คำที่นำมาสนธิกันอย่างน้อยจะต้องมี ๒ คำอย่างมากไม่จำกัด เช่น ประชา + อากร = ประชากร เหตุ + อน + เอก + อรรถ = เหตวาเนกรรถ
เรียงลำดับกลับกับคำไทยทั่วไป คือเรียงต้นศัพท์ไว้หลัง ศัพท์ประกอบไว้หน้าเวลาแปลความหมายก็ต้องจากศัพท์หลังย้อนไปข้างหน้าอย่างคำสมาส เช่นจุล (เล็ก,น้อย) + อินทรีย์ (ร่างกายและจิตใจ) = จุลินทรีย์ ( สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมาก ) เป็นต้น
คำที่นำมาสนธิกันต้องมี สระ หลัง สระหลัง สระหน้า คือ สระที่อยู่สุดท้ายคำหน้าหรือเรียกว่า พยางค์ท้าย ของคำหน้า เช่น มหา ได้แก่ สระ อา ที่ตัว ห พุทธ ได้แก่ สระ อะ ที่ตัว ธ มติ ได้แก่ สระ อิ ที่ตัว ต
สระหลัง คือ สระที่เป็นพยางค์หน้าของคำหลัง สระหลังนี้ จะต้องเป็นสระล้วนๆไม่มีพยัญชนะประสมอยู่ เช่น อาภรณ์ ได้แก่ สระ อา อุบาย ได้แก่ สระ อุ เป็นต้น
ถ้าเป็นสระสนธิพยางค์หน้าของคำหลังหรือเรียกว่าสระหลัง จะต้องเป็นสระ คือขึ้นต้นด้วยตัว อ เช่น อภิรมณ์ อินทร์ อาคม เป็นต้น
ชนิดของคำสนธิ มี ๓ ชนิด คือ ๑. สระสนธิ ๒. พยัญชนะสนธิ ๓. นฤคหิตสนธิ
ตัวอย่างคำสนธิ เทพเจ้า เทพบุตร เทพไท พระแท่น พระขนง พระมารดา พลากร พลศึกษา พลานามัย ธรรมมาสน์ ธรรมศาสตร์ ธรรมนุภาพ อิสรภาพ อนาทร สารคดี ราชสำนัก มหรรณพ มหาบุรุษ สังกร
คำสมาสก็มีแค่นี้ ขอบคุณครับ/ค่ะ