160 likes | 807 Views
เมทริกซ์ประชิด. ค 33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6. บทนิยาม ให้ A เป็น n n เมทริกซ์. A เป็นเมทริกซ์เอกฐาน (singular matrix) เมื่อ det(A) = 0 A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน (non - singular matrix) เมื่อ det(A) 0.
E N D
เมทริกซ์ประชิด ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
บทนิยาม ให้ A เป็น n n เมทริกซ์ A เป็นเมทริกซ์เอกฐาน (singular matrix) เมื่อ det(A) = 0 A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน (non - singular matrix) เมื่อ det(A) 0 บทนิยาม ให้ A เป็น n n เมทริกซ์ เมื่อ n > 2 เมทริกซ์ผูกพัน (adjoint matrix) ของ A คือ เมทริกซ์ [Cij(A)]t เขียนแทนเมทริกซ์ผูกพันของ A ด้วย adj(A)
ตัวอย่างจงหา det(A), adj(A) , Aadj(A) , adj(A)A เมื่อกำหนด วิธีทำ = (6+1) - 2(- 4 - 3) + 3(- 2 + 9) = 7 + 14 + 21 = 42
จากตัวอย่าง จะเห็นว่า Aadj(A) = adj(A)A=det(A)I3 ดังนั้น ถ้า A เป็น n n เมทริกซ์ แล้ว Aadj(A) = adj(A)A=det(A)In
ทฤษฎีบท ให้ A เป็น n n เมทริกซ์ เมื่อ n > 2 ดังนั้น จะได้ว่า 1. Aadj(A) = adj(A)A=det(A)In 2. A มีตัวผกผันการคูณก็ต่อเมื่อ A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน ในกรณี det(A) 0 ได้ว่า ทฤษฎีบท ให้ A และ B เป็น n n เมทริกซ์ ดังนั้น det(AB) = det(A)det(B)
ถ้า A = [aij]n x n ,B = [bij]n x nและ AB = Inแล้ว det(AB) = det(In) = 1 จาก AB = Inและ det(A) 0 ทำให้ได้ว่า A มีตัวผกผันการคูณดังนั้น AB = In A-1AB = A-1In B = A-1 นั่นคือ
ตัวอย่างที่ 1 จงหา det(A) และ det(A-1) เมื่อกำหนด วิธีทำ นำแถวที่ 1 ไปบวกกับแถวที่ 4 จะได้
คูณแถวที่ 1 ด้วย – 2 แล้วนำไปบวกกับแถวที่ 3 จะได้ คูณแถวที่ 1 ด้วย – 1 แล้วนำไปบวกกับแถวที่ 2 จะได้
= (1)(2)(1)(3) = 6 จาก จะได้
ตัวอย่างที่ 2 จงหา A-1 เมื่อกำหนด 32 0 6 วิธีทำ เนื่องจาก -8 0 -24 det(A) = (-8 + 0 – 24) – (32 + 0 + 6) = - 70 0 ดังนั้น A มีตัวผกผัน
ถ้า A เป็น n n เมทริกซ์ เมื่อ n > 2 และ det(A) 0 แล้วdet(adj(A)) = (det(A))n – 1 ตัวอย่างที่ 3 กำหนด A , B และ C เป็น n n เมทริกซ์ เมื่อ n > 2และdet(A) = 3 , det(B) = 2 และ det(C) = - 3 จงหา det(A2BCtB-1) และ det(BC-1AB-1C-1) วิธีทำ det(A2BCtB-1) = det(A2)det(B)det(Ct)det(B-1) det(BC-1AB-1C-1) = det(B)det(C-1)det(A)det(B-1)det(C-1)