1 / 32

สื่อและอุปกรณ์รับส่งข้อมูล

สื่อและอุปกรณ์รับส่งข้อมูล. Types of Media. สื่อกลาง ( Media ). หมายถึง สื่อกลางหรือตัวกลางที่ทำหน้าที่ส่งผ่าน ของข้อมูลข่าวสารจากฝั่งผู้ส่งไปยังผู้รับ. สื่อกลางประเภทเหนี่ยวนำ ( Guided media) หรือ ระบบใช้สาย ( Wired System ).

arden
Download Presentation

สื่อและอุปกรณ์รับส่งข้อมูล

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สื่อและอุปกรณ์รับส่งข้อมูลสื่อและอุปกรณ์รับส่งข้อมูล Types of Media

  2. สื่อกลาง ( Media ) หมายถึง สื่อกลางหรือตัวกลางที่ทำหน้าที่ส่งผ่าน ของข้อมูลข่าวสารจากฝั่งผู้ส่งไปยังผู้รับ

  3. สื่อกลางประเภทเหนี่ยวนำ (Guided media) หรือ ระบบใช้สาย (Wired System ) • สื่อกลางที่กำหนดเส้นทางไม่ได้ (Unaided media) หรือระบบไร้สาย (Wireless System) ประเภทของสื่อนำสัญญาณ สามารถแบ่งสื่อกลางได้เป็น 2 ประเภท คือ

  4. สื่อกลางประเภทเหนี่ยวนำ (Guided media) หรือระบบใช้สาย (Wired System ) 1.1 สายคู่พันเกลียว (Twisted-Pair Cable) • เป็นสายที่มีราคาถูกที่สุด • ประกอบด้วยสายทองแดงขนาดบาง (1 มิลลิเมตร) • มีฉนวนหุ้ม 2 เส้น นำมาพันกันเป็นเกลียว • ใช้กันแพร่หลายในระบบโทรศัพท์

  5. สายคู่พันเกลียว มี 2 ประเภท คือ 1. สายคู่พันเกลียวแบบไม่มีสิ่งห่อหุ้ม (Unshielded Twisted Pair – UTP) • ใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ไปยังอุปกรณ์สื่อสาร • มีความยาวไม่เกิน 100 เมตร • มีจำนวนสายบิดเกลียวภายใน 4 คู่ 2. สายคู่พันเกลียวแบบมีสิ่งห่อหุ้ม (Shielded Twisted Pair – STP) • มีการนำสายคู่พันเกลียวมารวมอยู่ • มีการเพิ่มฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน • ป้องกันสัญญาณรบกวนต่างๆ • ใช้ในระยะทางไกลกว่าสาย UTP

  6. 1.2 สายโคแอกเซียล ( Coaxial Cable) • เป็นสายชีลด์ที่หุ้มส่วนของตัวนำไว้ • มีภูมิต้านทานต่อสัญญาณรบกวน • เหมาะที่จะใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม • ที่มีสัญญาณรบกวนมาก สายที่รู้จักกันดีที่สุดคือสายเคเบิลที่ใช้สำหรับระบบเครือข่าย Thin Ethernet และ Thick Ethernet

  7. 1.3 สายใยแก้วนำแสง (Fiber optic cable) • วัสดุที่ใช้ทำเส้นใยแก้วนำแสงมักเป็นสารประกอบประเภท ซิลิกา หรือ ซิลิกอนไดออกไซด์ ( SIO2 ) ซึ่งก็คือ แก้วบริสุทธิ์นั่นเอง

  8. เส้นใยแก้วนำแสงมี 2 แบบ 1. ซิงเกิลโหมด • เป็นการใช้ตัวนำแสงที่บีบลำแสง • ให้พุ่งตรงไปตามท่อแก้ว 2. มัลติโหมด • เป็นเส้นใยแก้วนำแสงที่มีลักษณะ • การกระจายแสงออกด้านข้างได้

  9. ตัวส่งแสงและรับแสง • การใช้เส้นใยแก้วนำแสงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับและส่งสัญญาณแสง • อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการส่งสัญญาณแสงหรือเป็นแหล่งกำเนิดแสงคือ LED หรือเลเซอร์ไดโอด • อุปกรณ์ส่งแสงนี้ทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นไฟฟ้าให้เป็นคลื่นแสง • อุปกรณ์รับแสงและเปลี่ยนกลับมาเป็นสัญญาณไฟฟ้า คือโฟโต้ไดโอด

  10. อุปกรณ์ตัวรับและตัวส่งแสงนี้มักทำมาสำเร็จเป็นโมดูล โดยเฉพาะเชื่อมต่อเข้ากับสัญญาณข้อมูลที่เป็นไฟฟ้าได้โดยตรง และทำให้สะดวกต่อการใช้งาน โครงสร้างของเส้นใยแก้วนำแสง

  11. ข้อดี ของเส้นใยแก้วนำแสง - ความสามารถในการรับส่งข้อมูลข่าวสาร - กำลังสูญเสียต่ำ - คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่สามารถรบกวนได้ -น้ำหนักเบา -ขนาดเล็ก - มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน - มีความปลอดภัยในเรื่องข้อมูลสูงกว่า

  12. ข้อเสีย ของเส้นใยแก้วนำแสง - ความเข้าใจผิดบางประการ - แตกหักได้ง่าย - เส้นใยแก้วนำแสงมีราคาแพง - เส้นใยแก้วนำแสงยังไม่สามารถใช้กับเครื่อง ที่ตั้งโต๊ะได้

  13. 2. สื่อกลางที่กำหนดเส้นทางไม่ได้ (Unaided media) หรือระบบไร้สาย (Wireless System) • เป็นระบบที่ไม่ใช้สายสัญญาณเป็นตัวนำข้อมูล เช่น ระบบไมโครเวฟ ระบบดาวเทียม ระบบอินฟราเรด ระบบวิทยุ • ความพิเศษของการใช้สื่อประเภทกระจายคลื่น คือ ความสะดวกสบายในเรื่องสถานที่ตั้งและสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว

  14. สื่อประเภทกระจายคลื่น (Unguided Media) สามารถแบ่งการใช้สื่อประเภทกระจายคลื่นเป็น 3 กลุ่มตามการใช้งาน คือ 1. ระบบเครือข่ายไร้สายแบบท้องถิ่น (Wireless LAN) 2. ระบบเครือข่ายไร้สายแบบขยาย (Extended Local Networks) 3. ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Computing)

  15. 2.1 ระบบไมโครเวฟ ( Microwave ) • ใช้วิธีส่งสัญญาณที่มีความถี่สูงกว่าคลื่นวิทยุเป็นทอด ๆ จากสถานีหนึ่งไปยังอีกสถานีหนึ่ง • อาจเรียกสัญญาณของไมโครเวฟว่า สัญญาณแบบเส้นสายตา ( Line of Sight ) • สัญญาณของไมโครเวฟ จะเดินทางเป็นเส้นตรง • การตั้งสถานีทวนสัญญาณนั้น ส่วนใหญ่จะนิยมตั้งในพื้นที่สูง ๆ

  16. การทำงานของไมโครเวฟภาคพื้นดินการทำงานของไมโครเวฟภาคพื้นดิน

  17. การทำงานของไมโครเวฟเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมการทำงานของไมโครเวฟเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม

  18. 2.2 ระบบดาวเทียม ( Satellite System ) เครือข่ายสื่อสารภาคพื้นดินส่วนประกอบหลักของระบบสื่อสารดาวเทียม ได้แก่ • ดาวเทียม (Satellite หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Spacecraft) • สถานีควบคุมภาคพื้นดิน (Telemetry Tracking and Command หรือ TT&C) • สถานีเชื่อมต่อเครือข่ายสื่อสารภาคพื้นดิน (Earth Station หรือ Gateway)

  19. ข้อดีของระบบดาวเทียม • ใช้เวลาในการติดตั้งน้อย • สามารถติดต่อได้กับทุกตำแหน่งที่อยู่ในพื้นที่ ให้บริการของดาวเทียม • ไม่มีสัญญาณรบกวน (Noise) เนื่องจากเป็นการส่งที่ความถี่สูงมาก • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งต่อจุดคงที่

  20. ข้อเสียของระบบดาวเทียมข้อเสียของระบบดาวเทียม • ความปลอดภัยของข้อมูลต่ำ • สัญญาณที่รับ-ส่ง มี Propagation Delay • ราคาลงทุนเริ่มต้นค่อนข้างสูง • ความแปรปรวนของอากาศมีผลทำให้สัญญาณผิดเพื้ยนจากปกติได้

  21. เปรียบเทียบการทำงานของดาวเทียมกับไมโครเวฟเปรียบเทียบการทำงานของดาวเทียมกับไมโครเวฟ

  22. 2.3 ระบบอินฟราเรด (Infrared Transmission) • ใช้เทคโนโลยีเช่นเดียวกับ Remote control • ต้องใช้งานเป็นเส้นตรงระหว่างเครื่องรับและเครื่องส่ง • มีระยะทางรับส่งที่ไม่ไกล • ปัจจุบันมีการนำมาใช้เป็นระบบเครือข่ายระยะใกล้ๆ

  23. วิธีการสื่อสารด้วยอินฟราเรดวิธีการสื่อสารด้วยอินฟราเรด แบ่งเป็น 4 แบบ ดังนี้ 1. Broadband Optical Telepoint 2. Line-of-Sight Infrared 3. Reflective Infrared 4. Scatter Infrared

  24. 2.4 โทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cellular Transmission) • โทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cellular Transmission) จะอาศัยการส่งสัญญาณของโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการส่งผ่านข้อมูล • อุปกรณชนิดนี้เปนการสื่อสารสัญญาณเลียง ขอมูล โดยใชคลื่นวิทยุในการสื่อสารกับเสาอากาศวิทยุในขอบเขตของพื้นที่ที่กํ าหนดเรียกวา เซล สัญญาณcellular จะเดินทางจากเซลหนึ่งไปยังอีกเซลหนึ่ง

  25. ส่วนประกอบของโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนประกอบของโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีส่วนประกอบ 3 ส่วนคือ • ชุมสายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Electronic Mobile Exchange) หรือ EMX • สถานีเครือข่าย (Cell Site) • เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Telephone)

  26. การกำหนดความถี่ช่องสัญญาณการกำหนดความถี่ช่องสัญญาณ - ย่านความถี่ A ให้บริการโดยการสื่อสารแห่งประเทศไทย แบ่งเป็น          1.1) ความถี่ในการส่งของสถานีเครือข่าย (Base Tx) 870.30 - 879.990 MHz                - ช่องสัญญาณเสียง (Voice Channel) หมายเลข 1-312                - ช่องสัญญาณควบคุม (Signaling Channel) หมายเลข 313-333           1.2) ความถี่ในการส่งของ เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Tx) 825.30-834.990 MHz - ย่านความถี่ B ให้บริการโดย บริษัท โทเทิ่ลแอคเซสคอมมิวนิเคชั่น จำกัด แบ่งเป็น           2.1) ความถี่ในการส่งของสถานีเครือข่าย (Base-Tx) 880.20-889.980 MHz                      - ช่องสัญญาณเสียง (Voice Channel) หมายเลข 355-666                      - ช่องสัญญาณควบคุม (Signaling Channel) หมายเลข 334 - 354            2.2) ความถี่ในการส่งของโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Tx) 835.020 - 844.980 MHz

  27. การติดต่อระหว่างสถานีเครือข่ายกับโทรศัพท์เคลื่อนที่การติดต่อระหว่างสถานีเครือข่ายกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ • สัญญาณควบคุม (SIGNALING CHANNEL) ใช้ในการส่งข้อมูล                    - มอดูเลตแบบ FSK                     - อัตราการส่ง 10 kbps                     - Peak deviation + 8.0 KHz                     - ชนิดการเข้ารหัส Manchester • สัญญาณเสียง (VOICE CHANNEL) ใช้ในการสนทนา                    - ชนิดการมอดูเลต FM                     - Peak - deviation + 12.0 KHz

  28. สัญญาณรบกวนที่เกิดกับระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่เซลลูล่าร์สัญญาณรบกวนที่เกิดกับระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่เซลลูล่าร์ การเกิดสัญญาณรบกวนหรือInterference มี 2 แบบคือ • Cochannel interference ซึ่งเกิดจากการแทรกสอดของสัญญาณที่ความถี่เดียวกันนำมา reuse • Adjacent interference เกิดจากการแทรกสอดของสัญญาณที่มีอยู่ติดกัน

  29. หลักเกณฑ์ในการเลือกสื่อกลางหลักเกณฑ์ในการเลือกสื่อกลาง • อัตราเร็วในการส่งผ่านข้อมูล (Transmission rate) • ระยะทาง (Distance) • ค่าใช้จ่าย (Cost) • ความสะดวกในการติดตั้ง (Easy of install) • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม (Resistance to environmental conditions)

More Related