1 / 59

Systems Analysis and Design

Systems Analysis and Design. การวิเคราะห์และออกแบบ. SYSTEM ANALYSIS. Chapter 3. เนื้อหา. System Analysis - Analysis Process - Requirement Gathering Techniques. SYSTEM ANALYSIS. Key Definition. The As-Is system is the current system and may or may not be computerized

Download Presentation

Systems Analysis and Design

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Systems Analysis and Design การวิเคราะห์และออกแบบ

  2. SYSTEM ANALYSIS Chapter 3

  3. เนื้อหา • System Analysis - Analysis Process - Requirement Gathering Techniques

  4. SYSTEM ANALYSIS

  5. Key Definition • The As-Is system is the current system and may or may not be computerized • The To-Be-system is the new system that is base on update requirements

  6. Key Ideas • เป้าหมายของขั้นตอนวิเคราะห์คือ เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของระบบใหม่ และตัดสินใจว่าจะพัฒนาระบบตามความต้องการ หรือไม่

  7. The Analysis Process

  8. Analysis Across Area • วิเคราะห์ความต้องการทั้งทางธุรกิจ และเทคโนโลยีสารสนเทศ • เข้าใจกระบวนการทำงานของผู้ใช้ และเทคนิค

  9. The SDLC Process AS-IS System Planning Analysis Design Implement To-Be System Understand As-is system Identify improvements Develop Concept for The to-be system แสดงขั้นตอนการพัฒนาระบบตามแบบแผน SDLC โดยในระยะการวิเคราะห์ จะต้องทำความเข้าใจกับระบบงานเดิม การเพิ่มเติมความต้องการ เพื่อพัฒนาแนวคิดสำหรับระบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น

  10. การศึกษาระบบงานเดิม ประกอบด้วย 3 ระยะ คือ 1. ทำความเข้าใจกับระบบงานเดิม (Understand AS-IS System) คือ การศึกษา ขั้นตอนการทำงานของระบบงานเดิมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีจุดอ่อนหรือจุดแข็ง อย่างไร 2. กำหนดสิ่งที่ต้องการปรับปรุงเพิ่มเติม (Identity Improvements) กำหนดแนวทางในการปรับปรุงระบบให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น 3. พัฒนาแนวความคิดสำหรับระบบงานใหม่ (Develop Concept for the To-Be System) สร้างแบบจำลองกระบวนการและแบบจำลองข้อมูล ทำให้ทราบถึง รายละเอียดของสารสนเทศ Three Steps of the Analysis Phase

  11. Proposal Outline for New System • Table of contents • Executive summary • System request • Work plan • Analysis strategy • Recommended system • Feasibility analysis • Process model • Data model • Appendices

  12. Requirement Gathering

  13. Requirement Gathering • เป้าหมายของขั้นตอนการวิเคราะห์คือ การเข้าใจความต้องการระบบใหม่อย่างแท้จริงและพัฒนาระบบไปให้สำเร็จ • สิ่งที่ท้าทายการทำงาน - การค้นหาบุคคลที่ถูกต้องเข้ามามีส่วนร่วม - วิธีการที่จะใช้ในการเก็บรวบรวม

  14. Requirement Gathering Techniques • Interviews • JAD • Questionnaires • Documents Analysis • Observation

  15. Sampling • การสุ่มตัวอย่างเป็นการเลือกตัวแทนของประชากร • เกี่ยวข้องกับสองหลักในการตัดสินใจ - Document หรือ Website ที่สมควรจะเป็นตัวอย่าง - บุคคลที่สมควรจะถูกสัมภาษณ์หรือส่งแบบสอบถาม

  16. Need for Sampling • เหตุผลของการสุ่มตัวอย่างในการวิคราะห์ระบบ - ลดค่าใช้จ่าย - เพื่อความรวดเร็วในการเก็บรวบรวมข้อมูล - เพิ่มพูนประสิทธิผล - ลดความโน้มเองในการเก็บรวบรวมข้อมูล

  17. Sampling Design Steps • การออกแบบการสุ่มตัวอย่างที่ดี นักวิเคราะห์ระบบต้องดำเนินการตามสี่ขั้นตอนดังนี้ - กำหนดข้อมูลที่ต้องการเก็บรวบรวม - กำหนดประชากรที่ต้องการสุ่ม - เลือกแบบการสุ่ม - ตัดสินใจเลือกขนาดของการสุ่ม

  18. Interviews

  19. Interviews • การสัมภาษณ์ช่วยให้ได้ข้อมูล - ความคิดเห็นและความรู้สึกของผู้ถูกสัมภาษณ์ - เป้าหมายขององค์กรและส่วนตัว - กระบวนการทำงานอย่างไม่เป็นทางการ

  20. Interview Steps • กำหนดจุดประสงค์ของการสัมภาษณ์ • เลือกผู้ถูกสัมภาษณ์ (SelectingInterviewees) • ออกแบบคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์ (Designing questions) • เตรียมการสัมภาษณ์ (Interview Preparation) • การนำเข้าสู่การสัมภาษณ์ (Conducting the interview) • การบันทึก, รายงานสรุป, ให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ตรวจสอบความถูกต้องและเพิ่มเติมข้อมูล (Interview Follow-up)

  21. Selecting Interviewees • ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ต้องการ • เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนควรเลือกผู้ถูกสัมภาษณ์หลายระดับ -Manager - Users - Ideally, all key stakeholders • ทำตารางเวลาการสัมภาษณ์ ใคร, สถาที่ และเวลา สัมภาษณ์

  22. Designing Questions • คำถามแบบปลายปิด (Closed-ended questions) - ต้องการคำตอบแบบเจาะจง - ได้รับคำสั่งซื้อทางโทรศัพท์วันละกี่ครั้ง ? - ลูกค้าสามารถวางคำสั่งซื้อได้อย่างไร • คำถามแบบปลายเปิด (Open-ended questions) - ให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ได้ขยายความ - คุณคิดอย่างไรกับระบบปัจจุบัน ? • คำถามต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม (Probing questions) -คุณอธิบายเพิ่มเติมอีกนิดได้ไหม ? - คุณยกตัวอย่างได้ไหม

  23. Closed-ended Questions • จำกัดจำนวนการตอบสนอง • ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง, เชื่อถือได้ ง่ายต่อการนำไปวิเคราะห์ • ผู้สัมภาษณ์ไม่ต้องมีความชำนาญมาก

  24. Advantages of Closed-end Questions • ประหยัดเวลา • สามารถควบคุมผู้ถูกสัมภาษณ์ได้ • ได้ข้อมูลที่ตรงประด็น • ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมเร็ว

  25. Disadvantages of Closed-end Questions • ผู้ถูกสัมภาษณ์อาจมีความรู้สึกเบื่อ • ไม่ได้ข้อมูลที่เป็นรายละเอียด • ขาดแนวคิดหลัก • ไม่ได้สร้างบรรยากาศความคุ้นเคยระหว่างผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์

  26. Open-ended Questions • อนุญาตให้ผู้ถูกสัมภาษณ์อธิบายรายละเอียดได้ • เหมาะสำหรับเมื่อนักวิเคราะห์ระบบ ต้องการคำตอบในเชิงกว้างและลึก

  27. Advantages of Open-end Questions • ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์และละเอียด • ทำให้เห็นประเด็นที่ไม่เคยทราบมาก่อน • ผู้ถูกสัมภาษณ์มีความสนใจมากกว่า

  28. Disadvantages of Open-end Questions • อาจจะได้ข้อมูลที่ออกนอกประเด็น • เป็นไปได้ที่จะควบคุมผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่ได้ • อาจจะต้องเสียเวลามากกว่า ที่จะได้ข้อมูลที่ต้องการ

  29. Probing Questions • ต้องการรายละเอียดมากขึ้นจากคำถามก่อนหน้า • วัตถุประสงค์ - ต้องการความหมายที่มากขึ้น - เพื่อความชัดเจน - ต้องการขยายความเห็นของผู้ถูกสัมภาษณ์

  30. Questions Pitfalls • หลีกเลี่ยงคำถามชี้นำ ที่นำไปสู่คำตอบ - เพื่อลดความโน้มเอียง และเพิ่มความหน้าเชื่อถือและถูกต้อง • หลีกเลี่ยงคำถาม 2 คำถาม ในคำถามเดียว - ผู้ถูกสัมภาษณ์อาจจะตอบแค่เพียงคำถามเดียว

  31. Questioning Sequence • Top Down - เริ่มต้นด้วยคำถามปลายเปิดและตามด้วยคำถามปลายปิด - เพื่อให้ผู้ถูกสัมภาษณ์เข้าใจหัวของของการสัมภาษณ์ก่อนเข้าสู่รายละเอียด

  32. Questioning Sequence • Bottom up - เริ่มต้นด้วยคำถามปลายปิดและตามด้วยคำถามปลายเปิด - เพื่อเป็นการวอร์มอัพให้กับผู้ถูกสัมภาษณ์ ในกรณีผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่ค่อย เต็มใจที่จะตอบคำถามในระดับสูง

  33. Questioning Sequence • Mix - เริ่มต้นด้วยคำถามปลายปิดและตามด้วยคำถามปลายเปิดและจบด้วย คำถามปิด - เพื่อให้ผู้ถูกสัมภาษณ์มีความสนใจและตั้งใจในคำถาม

  34. Interview Strategies • การสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง(Unstructured Interview) - เป็นลักษณะการสัมภาษณ์หัวข้อทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับองค์กร ไม่เจาะจงหัวข้อของการสัมภาษณ์ • การสัมภาษณ์แบบโครงสร้าง(structured Interview) - ผู้สัมภาษณ์จะต้องมีการเตรียมข้อมูล และคำถามเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงต่าง ๆ จากผู้ให้สัมภาษณ์ โดยสามารถสอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ เพิ่มเติมได้เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของผู้สัมภาษณ์ว่าถูกต้องหรือไม่

  35. Interview Preparation • เตรียมแผนการสัมภาษณ์ทั่วไป - แสดงรายการคำถาม • ยืนยันหัวข้อที่จะรู้จากผู้ถูกสัมภาษณ์ • จัดลำดับความสำคัญของคำถามในกรณีที่เวลาไม่พอ • แจ้งผู้ถูกสัมภาษณ์ล่วงหน้า - เวลาสัมภาษณ์ - เหตุผลในการสัมภาษณ์ -หัวข้อในการสัมภาษณ์

  36. Conducting the Interview • เริ่มต้นสร้างความคุ้นเคย • แต่งตัวให้มีบุคลิกภาพและไม่แสดงความมีอคติ • อธิบายเหตุผลของการสัมภาษณ์ • บันทึกทุกข้อความที่สัมภาษณ์ • แน่ใจว่าเข้าใจทุกคำตอบ • แยกแยะระหว่างข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น • ให้เวลาผู้ถูกสัมภาษณ์ในการตอบคำถามและให้ข้อมูลเพิ่มเติม • หมดเวลา

  37. Interview Follow-up • จัดทำรายงานการสัมภาษณ์ให้เร็วที่สุด (ภายใน 48 ช.ม.) - จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์ - สรุปผลของการสัมภาษณ์ - ประเด็นที่ยังสรุปไม่ได้ - Note • ให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ตรวจสอบความถูกต้องและเพิ่มเติมข้อมูล

  38. Joint Application Design (JAD)

  39. JAD Key Ideas • จัดให้ Project manager, user และ developers ทำงานร่วมกัน • อาจช่วยลด scope creep ได้ 50 % • ช่วยลดการเกิดความต้องการที่เฉพาะเจาะจงหรือคลุมเคลือมากเกินไป อันจะทำให้เกิดปัญหาในขั้นตอนต่อไปของ SDLC

  40. JAD Personnel • Facilitator • Scribe • Analysts • Users • Executives • Observers

  41. JAD Setting • U-Shaped seating • Away from distractions • Whiteboard/flip chart • Prototyping tools • e-JAD

  42. JAD Meeting Room

  43. The JAD Session • ช่วงระยะเวลาประมาณ 5 – 10 วัน ไปถึง 3 สัปดาห์ • คัดเลือกผู้เข้าร่วม • จัดเตรียมคำถามเหมือนกับการสัมภาษณ์ • จัดหัวข้อการประชุมและกฏการประชุม • หน้าที่ของ Facilitator - ควบคุมให้อยู่หัวข้อการประชุม - ช่วยอธิบายคำศัพท์ทางด้านเทคนิค - ช่วยแก้ปัญหา • ทำรายงาน

  44. Managing Problems in JAD Sessions • ลดการแสดงความโดดเด่นคนเดียว • กระตุ้นให้ออกความคิดเห็น • มีการคุยกันนอกเรื่องหรือคุยกันในกลุ่มเล็กๆ • ไม่สามารถแก้ความขัดแย้ง • ใช้อารมณ์ขัน

  45. Advantages of JAD • ประหยัดเวลาเมื่อเทียบกับวิธีอื่น • พัฒนาระบบได้รวดเร็ว • ทำให้ยูสเซอร์รู้สึกเป็นเจ้าของระบบ • สร้างสรรความคิดในการพัฒนาระบบ

  46. Disadvantages of JAD • ต้องหาเวลาเพื่อให้ทุกคนมีเวลาว่างพร้อมกัน • ถ้ามีการเตรียมการที่ไม่สมบูรณ์ การประชุมอาจดำเนินไปได้ไม่ดี • ถ้ารายงานไม่สมบูรณ์ การทำ JAD อาจจะไม่สำเร็จ

  47. Questionnaires

  48. When to Use Questionnaires • แบบสอบถามจะใช้ในกรณี - องค์กรมีหลายสาขากระจายอยู่ในหลายภูมิภาค - มีพนักงานจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับโครงการ

  49. Questionnaire Steps • เลือกผู้ตอบแบบสอบถาม - ใช้วิธีสุ่มตัวอย่าง - ไม่ทุกคนที่จะส่งแบบสอบถามกลับ • ออกแบบสอบถาม - ออกแบบสอบถามอย่างชัดเจนไม่คลุมเคลือ - นักวิเคราะห์ระบบสามารถแยกระหว่างข้อเท็จจริงและความคิดเห็นได้ • บริหารงานให้มีการตอบกลับแบบสอบถาม - อธิบายเหตุผลที่ได้รับแบบสอบถาม • ทำรายงาน - ส่งให้ผู้ตอบแบบสอบถามตรวจสอบ

  50. Question Types • ชนิดของคำถาม - แบบปลายปิด - แบบปลายเปิด

More Related