140 likes | 376 Views
รถยนต์คันแรก. ความเป็นมา. ดำเนินการตามแนวคิด นโยบายสาธารณะของ รัฐบาล ซึ่งแบ่งเป็นนโยบาย ระยะสั้นและระยะยาว
E N D
ความเป็นมา • ดำเนินการตามแนวคิดนโยบายสาธารณะของรัฐบาล ซึ่งแบ่งเป็นนโยบายระยะสั้นและระยะยาว นโยบายระยะสั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจและให้มีการฟื้นตัวได้เต็มที่ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความเปราะบาง และเพื่อให้เศรษฐกิจมีความสมดุลระหว่างอุปสงค์ภายในประเทศและนอกประเทศ นโยบายระยะยาว คือ นโยบายโครงสร้างพื้นฐาน เช่น งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท • สำหรับนโยบายรถยนต์คันแรก มีกำหนดการดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 16 กันยายน 2554 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนที่ไม่เคยมีรถยนต์เป็นของตนเองได้มีโอกาสซื้อรถยนต์ใหม่คันแรก อันเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้น ขณะเดียวกัน เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ให้มีการขยายตัวได้ดี ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็จะส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศมีความมั่นคงยิ่งขึ้นด้วย
หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง • มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที 13 กันยายน 2554 เรื่อง การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก • มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที 30 กรกฎาคม 2555 เรื่อง ขยายเวลาการส่งมอบรถยนต์และยื่นเอกสารสาหรับโครงการรถยนต์ใหม่คันแรก • ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 5 ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรกและมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
บทสรุปโครงการ • จำนวนผู้ขอใช้สิทธิ์ทั้งหมด 1,259,057 ราย ประมาณการเงินงบประมาณทั้งหมด 92,173 ลบ. • จำนวนผู้ขอใช้สิทธิ์ที่รับมอบรถยนต์แล้ว 1,114,166 ราย ยังไม่ได้รับมอบ 144,891 ราย • มีผู้ได้รับเงินตามสิทธิ์แล้ว 615,835 ราย คิดเป็นเงิน 43,5047 ลบ. • ปัจจุบันมีผู้ขอยกเลิกสิทธิ์ 7,752 ราย ผิดเงื่อนไข 2,827 ราย อยู่ในสถานะได้รับสิทธิ์ 1,248,478 ราย • มีการขอปลดล๊อคและแจ้งอายัดรถยนต์จากบริษัทลิสซิ่ง จำนวน 901 ราย โดยเป็นผู้ขอใช้สิทธิ์ที่ได้รับเงินคืนแล้ว 422 ราย และยังไม่ได้จ่ายเงินคืน 479 ราย
นโยบายรถคันแรกทำให้เกิดภาระทางการคลังสุทธิเป็นลบหรือไม่นโยบายรถคันแรกทำให้เกิดภาระทางการคลังสุทธิเป็นลบหรือไม่ เงินประมาณการที่ต้องทำการคืนในโครงการรถยนต์คันแรก รวมทั้งสิ้น 91,801.46ล้านบาท เงินที่ภาครัฐคาดว่าจะได้รับรวม69,305.15ล้านบาท แบ่งเป็น 1. เงินภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์นั่งที่เกินกว่าที่รัฐจ่ายคืน 11,676.44 ล้านบาท 2. เงินภาษีมูลค่าเพิ่ม** 55,730.39 ล้านบาท 3. เงินภาษีจดทะเบียน 1,898.32 ล้านบาท 4. อื่นๆ (ภาษีจากธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจฟิล์มรถยนต์ ประกันภัย เป็นต้น)**** N/A ล้านบาท ยอดสุทธิทั้งโครงการ-22,496.31ล้านบาท ทั้งนี้ คาดการณ์ผลสุทธิทั้งโครงการคาดว่าน่าจะยังเป็นบวก เนื่องจาก ยังไม่รวมถึงค่าภาษีอื่นๆ ตามข้อ 4 โดยคาดการณ์ว่าน่าจะทำให้ยอดเงินที่ภาครัฐได้รับสูงถึง 135,000 ล้านบาท
ผลการศึกษาผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรกผลการศึกษาผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรก • นโยบายรถยนต์คันแรกทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องมีการขยายตัวโดยข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรม พบว่า ความต้องการแรงงานในอีก 5 ปีข้างหน้ามีจำนวน 118,200 คน จากในปัจจุบันมีจำนวน 457,000 คน
ผลการศึกษาผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรกผลการศึกษาผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรก • โครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในหมวดผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักรและอุปกรณ์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในปี 2553 จำนวนเงินลงทุน 56,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 204,700 ล้านบาท ในปี 2555 และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2556 มีการอนุมัติปริมาณเงินลงทุน 67,800 ล้านบาท
ผลการศึกษาผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรกผลการศึกษาผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรก • หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 77 (คิดเป็นเงิน 3.8 ล้านล้านบาท) ยังคงต่ำกว่ามาตรฐานสากลที่ไม่เคยเกินร้อยละ 85 โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่าส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลมาค้ำประกันจึงยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก นอกจากนี้ มาตรฐานคำนิยามหนี้ครัวเรือนของแต่ละประเทศยังมีความแตกต่างกันอีกด้วย
ผลการศึกษาผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรกผลการศึกษาผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรก • จำนวนสินเชื่อเช่าซื้อทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 900,000 ล้านบาท เป็น 1,200,000 ล้านบาท โดยมีการคาดการณ์หนี้ NPL ที่ร้อยละ 1.5 โดยคิดเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์คันแรก 200,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 40 โดยมีการคาดการณ์หนี้ NPL ที่ร้อยละ 0.12)
ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในโครงการปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในโครงการ • ปัญหาการจองรถ (จองก่อนอายุครบ 21 ปี, ชื่อผู้จองกับผู้รับรถไม่ตรงกัน) 1. หากผู้ขอใช้สิทธิ์ยื่นเอกสารครบถ้วนภายในวันที่ 31 ธ.ค. 55 ไม่ต้องใช้ใบจองเป็นหลักฐาน เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 ไม่ได้กำหนดให้ต้องใช้ใบจองเป็นหลักฐานในการขอใช้สิทธิ์ แต่หากข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีการจองหรือซื้อรถยนต์ก่อนวันที่ 16 กันยายน2554 (ก่อนเริ่มโครงการ)หรืออายุไม่ครบ 21 ปีบริบูรณ์นับจากวันจองหรือซื้อ ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์ • การรับรถ (เกิน 90 วัน, รับรถไม่ตรงรุ่น) ไม่ได้รับสิทธิ์ ยกเว้นกรณีเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ให้สรรพสามิตพื้นที่สามารถพิจารณาปรับปรุงแก้ไขข้อมูลและคืนสถานะให้แก่ผู้ขอใช้สิทธิ์ในระบบสารสนเทศรถยนต์คันแรกได้
ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในโครงการปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในโครงการ • การครอบครองรถยนต์ 1. ปรากฏในระบบของกรมการขนส่งทางบกว่าเคยครอบครองมาก่อน หากตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดพลาดของระบบ ให้ทำการปรับปรุงสถานะของผู้ขอใช้สิทธิ์ในระบบ และ สามารถอนุมัติสิทธิ์ได้ 2. กรมการขนส่งจดทะเบียนผิดพลาด ให้ประสานศูนย์สารสนเทศเพื่อทำการปรับปรุงข้อมูล 3. กรณีรถยนต์คันแรกของผู้ขอใช้สิทธิ์มีปัญหา จึงต้องทำการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ทำให้เลขเครื่องยนต์ในใบส่งมอบรถยนต์กับคู่มือจดทะเบียนไม่ตรงกัน กรณีนี้ผู้ขอใช้สิทธิ์ยังคงได้รับสิทธิ์ เนื่องจากไม่ได้เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขรถยนต์คันแรกฯ โดยให้ส่งเรื่องมายังกรมสรรพสามิตเพื่อขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นรายกรณีไป
ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในโครงการปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในโครงการ • การบันทึกข้อมูลในระบบ (ไม่ได้บันทึก, บันทึกผิดพลาด, การคืนสถานะผู้ขอใช้สิทธิ์ฯ) กรณีเจ้าหน้าที่ดำเนินการไม่ครบตามขั้นตอนของระบบสารสนเทศรถยนต์คันแรกจนเป็นเหตุให้ผู้ขอใช้สิทธิ์ไม่ได้รับสิทธิ์ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พื้นที่สาขา สามารถพิจารณาปรับปรุงแก้ไขข้อมูลและคืนสถานะให้แก่ผู้ขอใช้สิทธิ์ในระบบสารสนเทศรถยนต์คันแรกได้ โดยต้องอยู่ในกำกับดูแลของสรรพสามิตพื้นที่ และให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่รายงานสำนักงานสรรพสามิตภาคและกรมสรรพสามิตต่อไป (อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ) • กรณีผู้ขอใช้สิทธิ์เสียชีวิต หากเสียชีวิตก่อนครอบครองรถยนต์ครบ 1 ปี จะไม่ได้รับสิทธิ์คืนเงิน โดยให้นำเอกสารใบมรณบัตรมายื่นเพื่อทำการยกเลิกสิทธิ์ต่อไป
ความคืบหน้าของโครงการฯความคืบหน้าของโครงการฯ • กรมสรรพสามิตส่ง SMS ให้แก่ผู้ขอใช้สิทธิ์ให้แจ้งความจำนงขอใช้สิทธิ์เพื่อ กรมสรรพสามิตจะได้ทำการประเมินงบประมาณและสถานะล่าสุดของโครงการได้ • พัฒนาระบบงานให้รองรับปัญหาต่างๆในโครงการรถยนต์คันแรก • การดำเนินการพัฒนาระบบงานรถยนต์คันแรกให้สามารถเชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเก็บรวมรวมเป็นฐานข้อมูลด้านรถยนต์ในประเทศที่มีข้อมูลครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดเก็บภาษีรถยนต์ (ปีงบประมาณ 2557)