1 / 44

การประเมินความสามารถในการจัดการ การป้องกันและควบคุม โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

การประเมินความสามารถในการจัดการ การป้องกันและควบคุม โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง. ทีมการประเมินผลกรมควบคุมโรคฯ เสนอโดย แพทย์หญิงฉายศรี สุพรศิลป์ชัย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการเสนอผลการประเมินโครงสร้างความสามารถในการจัดการป้องกันและควบคุมปัญหาโรคเรื้อรัง

annona
Download Presentation

การประเมินความสามารถในการจัดการ การป้องกันและควบคุม โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การประเมินความสามารถในการจัดการการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังการประเมินความสามารถในการจัดการการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทีมการประเมินผลกรมควบคุมโรคฯ เสนอโดย แพทย์หญิงฉายศรี สุพรศิลป์ชัย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการเสนอผลการประเมินโครงสร้างความสามารถในการจัดการป้องกันและควบคุมปัญหาโรคเรื้อรัง วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา ๙.๑๕-๑๐.๐๐ น.

  2.  Affordable solutions exist to prevent 40 to 50% of premature deaths from noncommunicable diseases These solutions can prevent an estimated 14 million premature deaths each year in developing countries

  3. ~ 52,200 People Die Too Young From NCDs (Before The Age of 60) or 29 % Total Death from NCDs

  4. Figure 3: No. of Deaths(2002-2006) and Projected global deaths (millions) for major chronic disease groups and other causes of death in Thai population and 23 selected countries, 2005–15 (CHD = coronary heart disease;COPD = Chronic lower respiratory diseases)

  5. Population with Specific Important Risk Factors 2005 แหล่งข้อมูล: สำนักโรคไม่ติดต่อ (ฉ.2549) คาดประมาณจาก ‘*’ TBRFSS2548 ‘**’ TNHEXAM2546

  6. Burden of Major Thai Chronic NCDs in 2005 Source: BNCD (ฉ.2006) esttimated from ‘*’ TBRFSS2548 ‘*

  7. ความชุกของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน พ.ศ.2534-2552 แหล่งข้อมูล: การสำรวจสภาวะสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 1, 2, 3

  8. not allowed to reference yet Hypertension Prevalence * in NHEXAMIII(2004) 1991 = 5.4%; 1996 = 11%, 2004 = 22% * Notice that this figure included persons who told by health personnel have hypertension or have BP level systolic >= 140ordiastolic >= 90 mmHg. Analysed by Bureau of Noncommunicable Diseases; Dept. Of CDC; MOPH.

  9. not allowed to reference yet Diabetes Prevalence * in NHEXAMIII (2004) 1991 = 2.3%, 1996 = 4.6%, 2004 = 6.9% * Notice that this figure included only persons who told by health personnel have diabetes or have Blood sugar level >= 126 mg% Analysed by Bureau of Noncommunicable Diseases; Dept. Of CDC; MOPH.

  10. แผนภาพ แสดงสามเหลี่ยมทางระบาดวิทยาประยุกต์สำหรับโรคเรื้อรังและความผิดปกติทางพฤติกรรม (Advanced epidemiology triangle for chronic diseases and behavioral disorders) ปัจจัยสาเหตุ Causative Factors เวลา สิ่งแวดล้อมกายภาพ พฤติกรรมสังคม วัฒนธรรม องค์ประกอบสภาวะแวดล้อม กลุ่มต่างๆ หรือ ประชากรและคุณลักษณะของกลุ่มหรือประชากร เช่น เพศ การศึกษา อาชีพ บุคลิกภาพบุคคล ฯลฯ

  11. ตาราง ตัวอย่างแสดงการแบ่งหมวดหมู่ของ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กับโซ่สาเหตุของปัจจัยเสี่ยง และปัจจัยกำหนด เพื่อการควบคุมป้องกันและจัดการ

  12. ตัวอย่างการดำเนินการ:ประเทศมอริเชียส (MAURITIUS) โครงการ ๕ ปีวิถีชีวิตสุขภาพ  การสำรวจตัดขวางเป็นกลุ่ม ในช่วงอายุ ๒๕–๗๔ ปี พ.ศ. ๒๕๓๐–๒๕๓๕ (CROSS-SECTIONAL CLUSTER SURVEYS) Dowse et al; BMJ, 1995

  13. กลุ่มมาตรการที่กำลังศึกษาทบทวน ประเมินความคุ้ม และคาดประมาณค่าใช้จ่าย การศึกษาทบทวนยังพบว่า นอกจากการมีนโยบายและมาตรการโครงการที่ชัดเจนมีประสิทธิผลคุ้มค่าแล้ว ประเด็นที่มีความสำคัญและเป็นปัจจัยนำสู่ความสำเร็จพอๆ กันกับการมีนโยบายที่ดีได้แก่ “กระบวนการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ อย่างมีประสิทธิผลและคุ้มค่า”

  14. อะไร (๑) ที่เป็นปัจจัยฝืนความก้าวหน้าการลดปัญหาโรคไม่ติดต่อ? • ภาระของโรคเป็นทวีคูณ การแข่งขันให้ได้มาซึ่งทรัพยากร • ความสับสน • พฤติกรรมบุคคล หรือ ปัญหาสุขภาพของสาธารณะ • การรักษา หรือ การป้องกัน • ประชากรที่อายุมากขึ้นตามธรรมชาติ หรือ ประชากรอายุน้อย • ความทันสมัย โลกาภิวัฒน์ (ความร่ำรวย) หรือ ปัญหาท้องถิ่น (ความยากจน) • ปัญหาอนาคต หรือ ปัญหาปัจจุบัน

  15. อะไร (๒) ที่เป็นปัจจัยฝืนความก้าวหน้าการลดปัญหาโรคไม่ติดต่อ? • การวัดผลของโรคไม่ติดต่อหรือโรคติดต่อ • เป็นเพียงนิยายเกี่ยวกับผลกระทบ • การคาดประมาณที่ต่ำกว่าเป็นจริงของประสิทธิผลการดำเนินการ • ภาวะกดดันทางการค้า • ความเฉื่อยชาขององค์กรหรือสถาบัน • ผลกระทบ หลัง ๑๑ กันยายน

  16. ปัญหาสถานการณ์ความสามารถของประเทศสำหรับการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อปัญหาสถานการณ์ความสามารถของประเทศสำหรับการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ • นโยบายและกลยุทธ์ที่ชัดเจนมีน้อย • ทรัพยากรจำกัด • การดูแลที่เป็นชิ้นๆ แยกส่วน และไม่ประสานดำเนินการ • ข้อผูกมัดหรือพันธะต่อการป้องกันในระดับต่ำ • ขาดระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา • แนวทางการดูแลรักษาที่ไม่เพียงพอ • ความสามารถในการดูแลสุขภาพพื้นฐานในการจัดการโรคไม่ติดต่อไม่เพียงพอ • ขาดการลงทุนอย่างมากในการทำวิจัย

  17. กระบวนการดูแลรักษาป้องกันโรคกระบวนการดูแลรักษาป้องกันโรค กระบวนการควบคุมป้องกันโรค ปกติ...เสี่ยง...ป่วย มุ่งที่ประชากรโดยเฉลี่ย ปกติ...ป่วย มุ่งที่บุคคล ขับเคลื่อนกระบวนทัศน์ เฉียบพลัน เรื้อรัง กึ่งเฉียบพลัน และเฉียบพลัน กิจกรรมหรือกลุ่ม- กิจกรรมบริการเป็นครั้ง เครือข่ายกลุ่ม กิจกรรมบริการ ต่อเนื่องสัมพันธ์กัน โครงการแนวดิ่ง โครงการผสมผสาน หรือบูรณาการ ควบคุมกำกับ กำกับช่วยเหลือ

  18. ปัญหาในชุมชนนำร่องตัวอย่างปัญหาในชุมชนนำร่องตัวอย่าง • อสม.ไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวาน • ยังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่จริงจังทุกกลุ่ม .....รู้แต่ไม่ทำ • ผู้ดูแลใกล้ชิดขาดความรู้ • กลัวเป็นโรค ......ปฏิเสธ • ชุมชนขาดข้อมูลสถานการณ์ในชุมชน • สิ่งแวดล้อมไม่เอื้อในการปฏิบัติ • ขาดสื่อการสอนไม่เหมาะสม .....การเชื่อมโยงความรู้ที่เหมาะสมกับท้องถิ่น • ประชาชนโดยรวมยังไม่เข้าใจถึงปัญหาหรือพิษภัยของโรคเบาหวานที่ตามมา • กลุ่มด้อยโอกาสทางการเรียนรู้และควบคุม .....ไม่รู้หนังสือ ขาดคนดูแล ภาระพึ่งพิงสูง • ปัญหาวิถีชีวิตความเชื่อ • ขาดความรู้จริงและหลักฐานในกดารรักษา สื่อในวงกว้าง .....ความปลอดภัย .....ข่าวสาร คุ้มครอง • ต้องการความเข้าใจที่เชื่อมโยงระหว่างแบบแผนชีวิตกับปัจจัยเสี่ยงและข้อเสนอแนะการป้องกันและการดูแลควบคุมโรค • ปัญหาการสื่อสาร ........ในระดับบุคคล ข้อมูลข่าวสารผิดๆ • สัดส่วนของภาวะโรคแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น การประชุมกรมควบคุมโรค 15.01.51

  19. ความเป็นมาการกำกับและประเมินผลการจัดการการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังประเทศไทยความเป็นมาการกำกับและประเมินผลการจัดการการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังประเทศไทย

  20. ปฏิสัมพันธ์ของการสนับสนุนการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อสำคัญปฏิสัมพันธ์ของการสนับสนุนการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อสำคัญ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด บริโภคยาสูบ บริโภคแอลกอฮอล์ในแบบแผนที่อันตราย เบาหวาน ขาดการเคลื่อนไหวออกกำลังกาย กลุ่มมะเร็ง กลุ่มโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง แผนปฏิบัติการปี ค.ศ. ๒๐๐๘ – ๒๐๑๓ ตอบสนองยุทธศาสตร์โลก แผนยุทธศาสตร์ สุขภาพดีวิถีไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ – ๒๕๕๙ แผนยุทธศาสตร์จังหวัดหรือแผน/กิจกรรมปฎิบัติการของจังหวัด บริโภคอาหารที่บั่นทอนสุขภาพ

  21. 2 Advocacy Research, Surveillance, Evaluation การตอนสนองจากภาคส่วนสุขภาพ • ภาคส่วนรัฐด้านสุขภาพ • ภาคส่วนผู้นำสุขภาพ • การบูรณาการของการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเข้าไปใน กลยุทธ์สุขภาพประเทศ การตอบสนอง“ภาครัฐทั้งหมด” • ความตั้งใจจากทางการเมือง • ความเป็นผู้นำจากการเมือง • นโยบายและกฎหมายสาธารณะสร้างสุขภาพ เพิ่มความเข้มแข็งของระบบสุขภาพ (Health Systems Strengthening) • การพัฒนาแรงงานสุขภาพ • องค์กรการบริการสุขภาพและการจัดบริการ • การเงิน (Financing) • ระบบของการดูแลยึดประชากรเป็นศูนย์กลาง • จุดเน้นบนการป้องกัน การตอบสนอง“ภาคสังคมทั้งหมด” • ความเป็นผู้นำชุมชน • การเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาคส่วน • การขับเคลื่อนชุมชน (Community mobilization) 3 กรอบการทำงานเพื่อการพัฒนาการเข้าถึงการควบคุมป้องกันโรค แนวคิด ๔ ความร่วมมือ 1 การพัฒนาสิ่งแวดล้อม (สังคม และ กายภาพ) การดำเนินการ ทางคลินิก ลดความเสี่ยง, สร้างเสริม วิถีชีวิตสุขภาพ 4 ผลักดันสนับสนุน สื่อสารในทุกระดับ 5 (เฝ้าระวังทางระบาดฯ ประเมินผล และวิจัย) 6 7

  22. สถานการณ์โครงสร้างสร้างเสริมความเข้มแข็ง การเฝ้าระวังสถานการณ์และธรรมชาติของโรค และการเตือนภัย องค์การอนามัยโลก แผนสุขภาพดีวิถีไทย ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาระบบเฝ้าระวัง และการจัดการโรค (Surveillance & Care System) (4.1) มีระบบเฝ้าระวังโรควิถีชีวิตที่มีคุณภาพมาตรฐาน ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างความเข้มแข็งของระบบสนับสนุนยุทธศาสตร์ (Capacity Building) (5.4) มีระบบคุณภาพและการประเมินผลภาพรวมอย่างบูรณาการ ‘1)To raise the priority accorded to NCDs in development work at global and national levels, and to integrate prevention and control of such diseases into policies across all government department ‘6.2)To monitor noncommunicable diseases and their determinants and evaluate progress at the national, regional and global levels

  23. การพัฒนาระบบการกำกับและประเมินผลการจัดการลดปัญหาโรคเรื้อรัง (๑) • เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการได้มาซึ่งข้อมูลป้อนกลับให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานข้างต้นให้เกิดทิศทางการดำเนินงานร่วมกันที่มีประสิทธิผลประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจากทุกภาคส่วน • เพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

  24. วัตถุประสงค์โครงการการพัฒนาระบบการกำกับและประเมินผลฯ • เพื่อสร้างกรอบความคิดและเครื่องมือเบื้องต้นในการกำกับประเมินผล • เพื่อศึกษาและเสนอโครงสร้างการกำกับและประเมินผลการการเพิ่มคุณภาพการดำเนินการควบคุม • ป้องกันเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในระดับประเทศ เขต จังหวัด กลุ่มเครือข่ายบริการพื้นที่ • เพื่อศึกษาโครงสร้างระบบข้อมูลที่จำเป็นสำหรับใช้ในการกำกับและประเมินผล

  25. กรอบแนวคิดและกระบวนการประเมินผลในภาพรวมกรอบแนวคิดและกระบวนการประเมินผลในภาพรวม การประเมินผลจะช่วยให้ได้มาซึ่งข้อมูลเพื่อปรับทิศและคุณภาพการปฏิบัติร่วมกัน

  26. กรอบแนวคิดการดำเนินงานโครงการประเมินผลภาพรวมกรอบแนวคิดการดำเนินงานโครงการประเมินผลภาพรวม

  27. การพัฒนาเครื่องมือประเมินผลการพัฒนาเครื่องมือประเมินผล ประยุกต์มาจาก A Tool for Strengthening Chronic Disease Prevention and Management Through Dialogue, Planning and Assessment The Public Health Agency of Canada

  28. “กุญแจสู่ระบบดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน” ( A Sustainable Health Care System) ประกอบด้วยปัจจัย 8 ประการได้แก่ • เป้าประสงค์และคุณค่าร่วมกัน • เน้นที่ปัจจัยกำหนดสุขภาพ • ภาวะผู้นำ, หุ้นส่วน และการลงทุน • โครงสร้างภายในและความสามารถด้านสาธารณสุข • โครงสร้างภายในและความสามารถในการดูแลปฐมภูมิ • โครงสร้างภายในและความสามารถของชุมชน • การบูรณาการการป้องกันโรคเรื้อรังและการจัดการ • การกำกับติดตาม การประเมินผล และการเรียนรู้

  29. แผนภูมิ กงล้อความร่วมมือขับเคลื่อนการบูรณาการนโยบายและสมรรถนะสู่ความสำเร็จการพัฒนาระบบการป้องกันและจัดการโรคเรื้อรังไทย ตระหนัก จัดการ เอื้อสิ่งแวดล้อม/ทรัพยากรท้องถิ่น ชุมชนเข้มแข็งลดเสี่ยง ตระหนัก จัดการตนเอง ลดเสี่ยง ลดโรค เพิ่มคุณภาพชีวิต ตระหนัก ตอบสนอง สนับสนุนจัดการตนเอง สู่ระบบบริการสุขภาพที่ยั่งยืน ฉ.๐๕๐๑๕๓

  30. ทิศ การป้องกัน • มุ่งเน้นจัดการปัจจัยสาเหตุการเกิดและการดำเนินโรคต่อเนื่อง • การป้องกันปฐมภูมิเป็นพื้นฐานสำคัญ • การนำการป้องกันสู่ทุกระดับการบริการและการเข้าถึงการดูแล • การจัดการความเสี่ยงในระดับการดูแลปฐมภูมิ • การปฏิบัติตามแนวปฏิบัติทั้งโดยไม่ใช้ยาและใช้ยา • การสนับสนุนปรับวิถีชีวิต/การจัดการตนเอง • ความต่อเนื่อง ความครอบคลุมภาพรวม และการประสานการดูแลสุขภาพ • การขับเคลื่อนหน่วยบริการสาธารณสุขให้ตอบสนองโรคเรื้อรังอย่างมีคุณภาพ

  31. การประเมินความสามารถในการจัดการ ป้องกันและควบคุมปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของประเทศกรณีศึกษาโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมความดันโลหิตสูง และเบาหวาน วัตถุประสงค์ทั่วไป • เพื่อประเมินความสามารถในการจัดการ ป้องกันและควบคุมปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของประเทศไทย ปีงบประมาณ พ.ศ.2553

  32. วัตถุประสงค์เฉพาะ • เพื่อสะท้อนภาพการจัดการลดโรคและปัญหาที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์การป่วยที่แตกต่างกันของประเทศ • เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนายุทธศาสตร์ของประเทศ • ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทีมงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของส่วนกลางและพื้นที่ (กระบวนการทำงาน การลงพื้นที่ แนวทางการพัฒนาทีมงาน) การประเมินความสามารถในการจัดการ ป้องกันและควบคุมปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของประเทศกรณีศึกษาโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมความดันโลหิตสูง และเบาหวาน

  33. ศึกษาจากจังหวัดตัวแทนที่สุ่มมาจากกลุ่มจังหวัดที่แบ่งกลุ่มตามอัตราผู้ป่วยในที่มีศึกษาจากจังหวัดตัวแทนที่สุ่มมาจากกลุ่มจังหวัดที่แบ่งกลุ่มตามอัตราผู้ป่วยในที่มี • อัตราผู้ป่วยในสูงร่วมกับแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นเร็ว • อัตราผู้ป่วยในที่สูงปานกลาง • อัตราผู้ป่วยในที่ต่ำร่วมกับการเพิ่มสูงขึ้นลดลง กลุ่มละ 2 จังหวัด รวม 6 จังหวัด ในแต่ละจังหวัดเลือกศึกษา 2 อำเภอ โดยเน้นอำเภอที่มีลักษณะเมืองและชนบท การสุ่มตัวอย่างเพื่อเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ

  34. ฐานข้อมูลทุติยภูมิ มาจากการรวบรวมข้อมูลด้านระบาดวิทยาที่เกี่ยวข้องกับตัวแปรพื้นฐานของสถานการณ์โรคไม่ติดต่อทั้งในระดับประเทศและในจังหวัดรวมทั้งข้อมูลแผนงานโครงการและผลการดำเนินงานจากรายงานที่เกี่ยวข้อง • ฐานข้อมูลปฐมภูมิ เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพได้จากการสัมภาษณ์เชิงลึกจากแหล่งผู้ให้สัมภาษณ์ที่เป็นกุญแจหลักของจังหวัด องค์ประกอบหลักของปัจจัยความสำเร็จในการจัดการ ป้องกันและควบคุมปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 8 ประเด็น 40 ข้อคำถาม ที่สอดคล้องกับทิศการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กรณีศึกษาโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมความดันโลหิตสูง และเบาหวาน แหล่งข้อมูล ๒ แหล่ง

  35. กลุ่ม1 ระดับจังหวัด ได้แก่ ผู้บริหาร หัวหน้าและผู้ปฏิบัติงานรับผิดชอบงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของจังหวัด จากสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และหัวหน้าผู้บริหารหรือผู้แทนจากภาคปกครองของจังหวัด • กลุ่ม 2 ระดับอำเภอลักษณะเมือง ได้แก่ ผู้บริหาร หัวหน้าและผู้ปฏิบัติงานรับผิดชอบงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของอำเภอลักษณะเมือง จากโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สถานีอนามัย สาธารณสุข-อำเภอ และหัวหน้าผู้บริหารหรือผู้แทนจากภาคปกครองและท้องถิ่นของอำเภอ (เทศบาล หรือ ตำบล ) • กลุ่ม3 ระดับอำเภอลักษณะชนบท ได้แก่ ผู้บริหาร หัวหน้าและผู้ปฏิบัติงานรับผิดชอบงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของอำเภอลักษณะชนบทจากโรงพยาบาลชุมชน สถานีอนามัย สาธารณสุขอำเภอ และหัวหน้าผู้บริหารหรือผู้แทนจากภาคปกครองและท้องถิ่นของอำเภอ (เทศบาล หรือ ตำบล ) ผู้ให้ข้อมูล

  36. หนึ่งทีมจะประกอบด้วย • ผู้สัมภาษณ์หลัก • ผู้ช่วยผู้สัมภาษณ์ • ผู้จดบันทึก ทีมผู้สัมภาษณ์

  37. ข้อมูลดิบที่ได้จากแต่ละฐานนำมาตรวจสอบความครบถ้วนและถูกต้องในแต่ละวันข้อมูลดิบที่ได้จากแต่ละฐานนำมาตรวจสอบความครบถ้วนและถูกต้องในแต่ละวัน กระบวนการวิเคราะห์ ฐานข้อมูลปฐมภูมิฐานข้อมูลทุติยภูมิ การวิเคราะห์ข้อมูล (๑)

  38. กระบวนการวิเคราะห์ ฐานข้อมูลทุติยภูมิ นำมาวิเคราะห์เพื่อประเมินสถานการณ์ผลการดำเนินการที่ผ่านมาโดยการเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายฐานลงตารางวิเคราะห์ การวิเคราะห์ข้อมูล (๒)

  39. ฐานข้อมูลปฐมภูมิ จากการสังภาษณ์นำมาจัดกลุ่มข้อมูล ตีความ วิเคราะห์น้ำหนักของคุณภาพการแสดงออกของการป้องกัน และจัดการปัญหาของจังวัดในพื้นที่ตัวแทน โดยทีมผู้สัมภาษณ์ร่วมกันวิเคราะห์ กระบวนการวิเคราะห์ การวิเคราะห์ข้อมูล (๓)

  40. นำสู่การสังเคราะห์ สรุปเบื้องต้นของสถานการณ์ภาพรวม ประเด็นปัจจัยความสำเร็จและทิศการป้องกัน นำเสนอกับตัวแทนจังหวัดเพื่อตรวจทานเป็นครั้งสุดท้าย นำมาวิเคราะห์รายละเอียดรวมทั้งวิเคราะห์เปรียบเทียบ สังคราะห์สรุปเป็นภาพประเทศ การวิเคราะห์สรุป

  41. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย  เพิ่มคุณภาพระบบการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา การประเมินสถานการณ์ และข้อมูลเพื่อการบริหารนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง  เสนอให้มีการเตือนภัยและแผนการสื่อสารผลักดันความเข้าใจที่ถูกต้องและมีประสิทธิผลในการลดเสี่ยงลดโรค และขยายชุมชนลดเสี่ยงลดโรค โดยเฉพาะชุมชนที่ใกล้ป่วยหรือป่วยแล้ว  การพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางสังคมและกายภาพ ควรมีประเมินและพัฒนาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต นอกเหนือจากการทำตามนโยบาย  มีการประเมินคุณภาพและประสิทธิผลความครอบคลุมเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งเชื่อมโยงระบบที่ชัดเจนระหว่างกลุ่มเสี่ยงสูงและการดูแลต่อเนื่องเมื่อเป็นโรคเฉียบพลันได้อย่างทันท่วงที  ทบทวนการให้ความสนใจต่อปัญหาการเข้าถึงของผู้เป็นความดันโลหิตสูงให้พอๆกับเบาหวานและการบริการป้องกัน และลดปัจจัยเสี่ยงในคนเป็นโรค เพิ่มการให้บริการการสนับสนุนการจัดการตนเองของผู้เป็นโรค รวมทั้งประเมินคุณภาพการรักษาเชิงระบบเป็นระยะ  เพิ่มความเข้มแข็งของการสร้างภาคีนอกภาคสาธารณสุข และการทำเป้าประสงค์และแผนยุทธศาสตร์สุขภาพร่วมกันในการลดปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

  42. % 0f DALYSand Major Risk Factors Attributed in 2004 Ref.: Report of Burden of Diseases 2004; printed in process. Bureau of Policy and Plan, Ministry of Public Health Thailand.

  43. แผนภูมิที่ Continuous Risks of Blood Pressure, Cholesterol, and BodyMass Index and Coronary Heart Disease Risk a. Blood pressure b. Cholesterol c. Body mass index Relative risk of CHD Relative risk of CHD Relative risk of CHD Systolic blood pressure (mmHg) Total cholesterol (mmol/l) Body mass index (kg/m2) Source: Disease Control Priorities in Developing Countries Anthony Rodgers, Carlene M. M. Lawes, Thomas Gaziano, and others

  44. แผนภาพ ตัวอย่างแสดงการกระจายของความเสี่ยงสำหรับกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดและกลยุทธ์การจัดการลดโรคบนพื้นฐานประชากรและกลุ่มบุคคลเสี่ยงสูง(Population & High-risk Based Management Strategies) ร้อยละ 5 ของบุคคลที่เป็นโรคมีค่าปัจจัยเสี่ยงระดับต่ำ ~ ร้อยละ 70 ของบุคคลที่เป็นโรคมีค่าปัจจัยเสี่ยงระดับปานกลาง ~ ร้อยละ 25 ของบุคคลที่เป็นโรค มีค่าปัจจัยเสี่ยงระดับสูง การเข้าถึงทางประชากรโดยขับเคลื่อนการกระจายของประชากรทั้งหมด ความเสี่ยงระดับบุคคลของโรคหัวใจขาดเลือด การเข้าถึงทางกลุ่มบุคคลเสี่ยงสูงโดยระบุบุคคลเสี่ยงสูงและลดเสี่ยงในบุคคลหรือกลุ่มบุคคล การกระจายของจำนวนผู้มีปัจจัยเสี่ยงระดับต่างๆ

More Related