1 / 47

พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. หลักการและสาระสำคัญพระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔. หลักการของกฎหมาย เป็นการรับรองผลทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์

Download Presentation

พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

  2. หลักการและสาระสำคัญพระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ • หลักการของกฎหมาย เป็นการรับรองผลทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • ขอบเขตการใช้บังคับกฎหมาย          พระราชบัญญัติใช้บังคับแก่ธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชย์ เว้นแต่ธุรกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดมิให้มีการนำพระราชบัญญัตินี้ทั้งหมดหรือบางส่วนมาใช้บังคับ และให้ใช้บังคับแก่ธุรกรรมในการดำเนินงานของรัฐด้วย (มาตรา 3)

  3. หมวด 1 ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ • บทบัญญัติหมวดนี้ส่วนใหญ่นำหลักการมาจากกฎหมายแม่แบบ • ว่าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของ • คณะกรรมาธิการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ • บัญญัติตั้งแต่มาตรา 7 ถึงมาตรา 12 • คู่กรณีไม่อาจตกลงเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้

  4. บทบัญญัติตั้งแต่มาตรา 7 ถึงมาตรา 12 • เป็นบทบัญญัติซึ่งคู่กรณีไม่อาจตกลงเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้ • เพราะเป็นบทบัญญัติที่รองรับหลักการสำคัญ • รับรองผลทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (มาตรา 7) • บัญญัติเกี่ยวกับลายมือชื่ออันเป็นการใช้วิธีการใดก็ได้ในการระบุตัวบุคคล • แสดงว่าเจ้าของลายมือชื่อรับรองข้อความในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ว่าเป็นของตน (มาตรา 9 )

  5. บทบัญญัติตั้งแต่มาตรา 7 ถึงมาตรา 12 • ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้การใดก็ตามต้องทำเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีเอกสารมาแสดง (มาตรา 8) • จะถือว่าข้อความนั้นได้มีการทำเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีเอกสารมาแสดง ก็ต่อเมื่อข้อความซึ่งแต่เดิมอาจปรากฏอยู่บนกระดาษนั้นได้มีการจัดทำให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

  6. บทบัญญัติตั้งแต่มาตรา 7 ถึงมาตรา 12 • บัญญัติกฎเกณฑ์เพิ่มเติมด้วยว่าข้อความที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ • ต้องสามารถเข้าถึงและนำกลับมาใช้ได้ • ความหมายไม่เปลี่ยน • กรณีการนำเสนอหรือเก็บรักษาข้อความอย่างเอกสารต้นฉบับ • ใช้วิธีการที่เชื่อถือได้ในการรักษาความถูกต้องของข้อความ • สามารถแสดงข้อความนั้นในภายหลังได้แล้ว

  7. บทบัญญัติตั้งแต่มาตรา 7 ถึงมาตรา 12 • กำหนดให้ศาลรับฟังข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นพยานหลักฐาน • ห้ามมิให้ปฏิเสธการรับฟังข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายเพียงเพราะเหตุว่าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

  8. บทบัญญัติตั้งแต่มาตรา 13 ถึงมาตรา 24 • ว่าด้วยเรื่องการทำคำเสนอหรือคำสนองในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ วิธีการส่งและรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การตอบแจ้งการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เวลาและสถานที่ซึ่งถือว่าได้มีการส่งหรือรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ • เป็นบทบัญญัติซึ่งคู่กรณีสามารถตกลงเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้

  9. หมวด 2 ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • บทบัญญัติในหมวด 2 เป็นอีกส่วนหนึ่งที่นำหลักการมาจากกฎหมายแม่แบบว่าด้วยลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • คณะกรรมาธิการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ • กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับลักษณะของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ (มาตรา 26)

  10. หมวด 2 ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • หน้าที่ของเจ้าของลายมือชื่อ (มาตรา 27) • หน้าที่ของผู้ให้บริการออกใบรับรองเพื่อสนับสนุนลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์(มาตรา28)  • ระบบวิธีการและบุคลากรที่เชื่อถือได้ในการให้บริการของผู้ให้บริการออกใบรับรอง (มาตรา 29) • รวมทั้งหน้าที่ของคู่กรณีที่เกี่ยวข้องซึ่งประสงค์จะทำการใดๆ เพราะเชื่อถือใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์

  11. หมวด 2 ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • กฎหมายกำหนดหน้าที่ให้ต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • ตรวจสอบความสมบูรณ์ของใบรับรองและข้อจำกัดต่างๆ เกี่ยวกับใบรับรองเสียก่อน (มาตรา 30) • ตลอดจนกำหนดเกี่ยวกับผลทางกฎหมายของใบรับรองต่างประเทศหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (มาตรา 31)

  12. หมวด 3 ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ • "ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ • การให้บริการเกี่ยวกับใบรับรอง (Certificate Service Provider) • ยังหมายความรวมถึงบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด • การให้บริการเกี่ยวกับระบบการรักษาความปลอดภัย • ให้บริการเกี่ยวกับการรับฝากข้อมูล • ให้บริการเกี่ยวกับการชำระเงิน เป็นต้น

  13. หมวด 3 ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ • กฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้ประชาชนสามารถประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยอิสระ • เว้นแต่การประกอบธุรกิจนั้นอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ • หรืออาจสร้างความเสียหายต่อสาธารณะ ก็จะมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้กิจการเหล่านั้นต้องมีการแจ้งให้ทราบ ขึ้นทะเบียน หรือได้รับใบอนุญาต ก่อนประกอบกิจการ ทั้งนี้ โดยเปิดให้มีการรับฟังความเห็นจากประชาชนก่อนที่จะมีการตราพระราชกฤษฎีกาออกมาติดตามดูแลการให้บริการดังกล่าว (มาตรา 32 ถึงมาตรา 34)

  14. หมวด 4 ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ • เพื่อส่งเสริมการอำนวยความสะดวกในการให้บริการกับประชาชนอันเป็นการรองรับกับหลายๆ นโยบายของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ • รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) • การผ่านพิธีการศุลกากรด้วยระบบ EDI ของกรมศุลกากร • การค้นหาและจองชื่อนิติบุคคลออนไลน์ของกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ • การให้บริการยื่นแบบและชำระภาษีผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของกรมสรรพากร เป็นต้น (มาตรา 35)

  15. กฎหมายและนโยบาย • กฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์คืออะไร • หลักการสำคัญของ UNCITRAL Model Law on Electronic Commerce (1996) มีอะไรบ้าง • สาระสำคัญของ พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มีอะไรบ้าง • ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์คืออะไร สามารถใช้แทนลายมือชื่อในสัญญาได้หรือไม่ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544

  16. กฎหมายและนโยบาย • การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งเป็นกี่ประเภท • ผู้ให้บริการออกใบรับรอง (Certification Authority – CA) สำหรับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่อย่างไรตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 • พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มีบทบัญญัติที่ยอมรับผลทางกฎหมายเรื่องการยื่นคำขอ การขออนุญาต การจดทะเบียน หรือการดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายของประชาชน ที่ต้องการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือไม่

  17. กฎหมายและนโยบาย • ถ้าซื้อสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต แต่ไม่ได้รับสินค้าหรือบริการ หรือสินค้าไม่ ถูกต้องหรือชำรุดเสียหาย ผู้ซื้อควรจะทำอย่างไร • ผู้ถือบัตรเครดิตต้องรับผิดชอบหรือไม่ ถ้ามีผู้อื่นนำบัตรไปใช้ชำระค่าสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต และมีข้อพึงปฏิบัติเพื่อป้องกันอย่างไร

  18. กฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์คืออะไรกฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์คืออะไร • 1. การริเริ่มระหว่างประเทศ    คณะกรรมาธิการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (United Nations Commission on International Trade Law – UNCITRAL) ได้ให้ความเห็นชอบต่อ ‘Model Law on Electronic Commerce’ ใน16 ธันวาคม ค.ศ.1996 เพื่อเสนอกรอบทางกฎหมายที่ยอมรับผลทางกฎหมายของการติดต่อสื่อสารด้วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Data Message) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต, อีดีไอ (EDI), โทรศัพท์, โทรสาร ฯลฯ

  19. กฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์คืออะไรกฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์คืออะไร • เพื่อให้สมาชิกแต่ละประเทศนำไปปรับปรุงกฎหมายภายในประเทศตามความเหมาะสม และมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” • กฎหมายต้นแบบ (Model Law) ไม่เป็นกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เป็นข้อเสนอแนะทางกฎหมายที่มีลักษณะกว้าง เพื่อให้แต่ละประเทศสามารถกำหนดรายละเอียดของกฎเกณฑ์ของตน

  20. การริเริ่มในประเทศ • คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบดำเนินการในเรื่องกฎหมายว่าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (UNCITRAL Model Law on Electronic Commerce) • อนุมัติโครงการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศของไทยเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2540 • ดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ. การพาณิชย์ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …

  21. การริเริ่มในประเทศ • คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในการจัดทำ • “โครงการพัฒนากฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ” • ดำเนินการโดยคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ • เห็นชอบให้คณะกรรมการเทคโนโลยีฯ เป็นศูนย์กลางดำเนินการและประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่กำลังดำเนินการจัดทำกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง • เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2541 ซึ่งประกอบด้วยกฎหมาย 6 ฉบับ

  22. กฎหมาย 6 ฉบับ • ได้แก่ • 1. กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (เดิมเรียกว่า กฎหมายแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์) • 2. กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • 3. กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน • 4. กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล • 5. กฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ • 6. กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

  23. รวมร่าง พ.ร.บ. • ต่อมามีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2542 เพื่อพิจารณารวมร่าง พ.ร.บ. การพาณิชย์ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. … ที่กระทรวงยุติธรรมจัดทำขึ้น และร่าง พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. … • เพราะมีเนื้อหาสำคัญหลายส่วนที่คล้ายคลึงกัน จึงได้ข้อสรุปในการรวมร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ • ให้ใช้ชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …

  24. คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ และร่าง พ.ร.บ. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. … เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2543 • คณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานฯ ได้เสนอให้รวมหลักกฎหมายของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ๆ • กฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา • ประกาศเป็นกฎหมายชื่อว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544” เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2544 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2545

  25. UNCITRAL Model Law on Electronic Commerce (1996) • หลักเรื่อง ‘Functional-Equivalent Approach’ • การรับรองผลทางกฎหมายของข้อความเอกสาร, • การลงลายมือชื่อที่จัดทำในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่นเดียวกับเอกสาร หนังสือหรือการลงลายมือชื่อที่ทำบนกระดาษ โดยพบใน มาตรา 6 (Writing), มาตรา 7 (Signature) และมาตรา 8 (Original) • สาเหตุที่ทำให้หลักการข้างต้นเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับแบบพิธีหรือเงื่อนไขของกฎหมายต่างๆ คือ • หลักฐานการฟ้องร้องบังคับคดี การลงลายมือชื่อ • และการนำเสนอและเก็บรักษาข้อความอย่างต้นฉบับ “พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544” ได้นำหลักการดังกล่าวมาบัญญัติไว้ในหลายมาตรา คือ มาตรา 8, 9, 10 ตามลำดับ

  26. พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 • เพื่อรับรองสถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการทำธุรกรรมหรือสัญญา ให้มีผลเช่นเดียวกับการทำสัญญาตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายปัจจุบัน (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) กำหนดไว้ • ได้แก่ การทำเป็นหนังสือ • หลักฐานเป็นหนังสือ • การลงลายมือชื่อ • กล่าวคือถ้ามีการทำสัญญาระหว่างบุคคลที่ใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามความหมายของกฎหมายแล้ว กฎหมายนี้ถือว่าการทำสัญญานั้นได้ทำตามหลักเกณฑ์ข้างต้นของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กำหนด

  27. หมวด 1 ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (มาตรา 7 - 25) • การรับรองรองสถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการรับ การส่งผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้เป็นหนังสือ หรือหลักฐานเป็นหนังสือ (มาตรา 8) • การยอมรับผลทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์) ให้ถือว่าเป็นการลงลายมือชื่อตามกฎหมาย หากใช้วิธีการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ (มาตรา 9)

  28. หมวด 1 ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (มาตรา 7 - 25) • การนำเสนอและเก็บรักษาข้อความที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อย่างต้นฉบับเอกสาร (มาตรา 10, 12) • การรับ การส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (มาตรา 15-24) • ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำตามวิธีการที่น่าเชื่อถือ (มาตรา 25)

  29. หมวดอื่น • หมวด 2 ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (มาตรา 26 - 31) (กรุณาดู หัวข้อ 6.4 และ 6.6) • หมวด 3 ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (มาตรา 32 - มาตรา 34) (กรุณาดู หัวข้อ 6.5) • หมวด 4 ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (มาตรา 35) (กรุณาดู หัวข้อ 6.7) • หมวด 5 คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (มาตรา 36 - 43)หมวด 6 บทกำหนดโทษ (มาตรา 44 - 46)

  30. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • คำว่า “ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์” ตามพระราชบัญญัติ นี้หมายถึง “ อักษร อักขระ ตัวเลข เสียงหรือสัญลักษณ์อื่นใดที่สร้างขึ้นให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งนำมาใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น และเพื่อแสดงว่าบุคคลดังกล่าวยอมรับในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น ” (มาตรา 4)

  31. ลักษณะของ “ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์” • จากความหมายข้างต้นสามารถสรุปลักษณะของ “ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์” ตามกฎหมายฉบับนี้ ได้ดังนี้ • เป็นอักษร อักขระ • ตัวเลข เสียงหรือสัญลักษณ์อื่นใดในรูปของอิเล็กทรอนิกส์ • มีความหมายต่างจากลายมือชื่อตามกฎหมายเดิมคือ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9

  32. หน้าที่ของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์หน้าที่ของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • วัตถุประสงค์หรือหน้าที่ของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์คือ • เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น • เพื่อแสดงว่าบุคคลดังกล่าวยอมรับในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น แม้ว่าจะมีการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ข้างต้นก็ตาม • ลายมือชื่อฯ ที่จะถือเป็นลายมือชื่อที่มีผลทางกฎหมาย จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสำคัญ 2 ประการ (มาตรา 9) คือ

  33. เงื่อนไขสำคัญ 2 ประการ • ใช้วิธีการที่สามารถระบุตัวเจ้าของลายมือชื่อ และสามารถแสดงได้ว่าเจ้าของลายมือชื่อรับรองข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นว่าเป็นของตน และ • วิธีการดังกล่าวเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้โดยเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการสร้างหรือส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยคำนึงถึงพฤติการณ์แวดล้อมหรือข้อตกลงของคู่กรณี ”

  34. ข้อสังเกตุ • ลักษณะของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่น่าเชื่อถือได้มีมาตราที่เกี่ยวข้องคือ มาตรา 25, มาตรา 26 และมาตรา 29 คู่กรณีที่เกี่ยวข้องยังสามารถใช้วิธีการใดๆ ที่เข้าลักษณะและเงื่อนไขของกฎหมายได้ แม้ว่ากฎหมายจะกำหนดลักษณะของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่น่าเชื่อถือได้ แต่ก็ไม่ควรจำกัดการใช้เทคโนโลยีใดโดยเฉพาะตามหลักการเรื่อง ‘Technology Neutrality’ คือการไม่ถือเอาเทคโนโลยีหนึ่งเทคโนโลยีใด เป็นเกณฑ์พิจารณาความน่าเชื่อถือว่าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งบทบัญญัติ มาตรา 26 ก็หาได้ระบุจำกัดวิธีการหนึ่งวิธีการใดไว้ไม่

  35. การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ • การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชบัญญัตินี้ แบ่งได้ 3 ประเภท คือ1. การประกอบธุรกิจประเภทที่ต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่2. การประกอบธุรกิจประเภทที่ต้องขึ้นทะเบียน 3. การประกอบธุรกิจประเภทที่ต้องได้รับใบอนุญาต

  36. การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ • อนึ่ง แม้ว่า พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะมีผลใช้บังคับแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการออกพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้แต่อย่างใด จึงยังไม่มีการกำหนดให้การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับ “ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์” ใดว่าเข้ากิจการประเภทใด (มาตรา 32)

  37. การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ • เกณฑ์ที่ใช้พิจารณาว่าการประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะเข้าประเภทใด กฎหมายฉบันนี้ให้พิจารณาจากความเหมาะสมในการป้องกันความเสียหายตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจนั้น (มาตรา 32 วรรค 2) และยังบัญญัติเงื่อนไขการตราพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวว่า ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และให้นำข้อมูลที่ได้รับมาใช้ประกอบการพิจารณา (มาตรา 32 วรรคท้าย)

  38. ผู้ให้บริการออกใบรับรอง (Certification Authority – CA) สำหรับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หน้าที่ปฏิบัติตามแนวนโยบายและแนวปฏิบัติของผู้ให้บริการที่แสดงไว้ (เนื่องจากผู้ให้บริการออกใบรับรองฯ จะต้องมีการออกแนวนโยบายและแนวปฏิบัติว่าด้วยลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตัวอย่างเช่น ‘Certification Practices Statement (CPS) หรือเอกสารใดๆ ทำนองเดียวกัน)

  39. ผู้ให้บริการออกใบรับรอง (Certification Authority – CA) สำหรับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • หน้าที่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเกี่ยวกับความถูกต้องและความสมบูรณ์ของใบรับรอง อายุใบรับรอง เป็นต้น • หน้าที่กำหนดวิธีการให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบเนื้อหาหรือสาระสำคัญของใบรับรอง เกี่ยวกับการระบุผู้ให้บริการออกใบรับรอง, เจ้าของลายมือชื่อที่ระบุไว้ในใบรับรอง และข้อมูลสำหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ได้ในขณะหรือก่อนที่มีการออกใบรับรอง

  40. ผู้ให้บริการออกใบรับรอง (Certification Authority – CA) สำหรับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หน้าที่กำหนดวิธีการให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจดูใบรับรองได้ เพื่อตรวจสอบวิธีการที่ใช้ในการระบุตัวเจ้าของลายมือชื่อ, วัตถุประสงค์และคุณค่าที่มีการนำข้อมูลสำหรับใช้สร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับรอง, ขอบเขตความรับผิดของผู้ให้บริการออกใบรับรอง, วิธีการให้เจ้าของลายมือชื่อส่งคำบอกกล่าวเมื่อมีเหตุตามบางประการ ตามมาตรา 27 (2), บริการเกี่ยวกับการเพิกถอนใบรับรอง เป็นต้น

  41. ผู้ให้บริการออกใบรับรอง (Certification Authority – CA) สำหรับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ • หน้าที่จัดให้มีบริการที่เจ้าของลายมือชื่อสามารถติดต่อกับผู้ให้บริการออกใบรับรองในกรณี ตามมาตรา 27 (2) และกรณีการขอเพิกถอนใบรับรองที่ทันการ • หน้าที่ใช้ระบบ วิธีการและบุคลากรที่เชื่อถือได้ในการให้บริการ ฯลฯ

  42. ติดต่อกับหน่วยงานของรัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้หรือไม่ติดต่อกับหน่วยงานของรัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้หรือไม่ • แต่เดิมนั้นการยื่นคำขอ การอนุญาต การจดทะเบียน หรือการดำเนินการใดๆ ตามกฎหมาย ผู้ร้องขอจะต้องเดินทางมาติดต่อกับหน่วยงานของรัฐด้วยตนเอง หรือบางกรณีอาจมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนโดยมีเอกสารของผู้มอบอำนาจ พระราชบัญญัติฉบับนี้ให้การรับรองให้หน่วยงานของรัฐสามารถรับคำขอ การอนุญาต การจดทะเบียน หรือการดำเนินการใดๆ ของประชาชนทั่วไปหรือผู้ประกอบธุรกิจ โดยผู้ยื่นคำร้องหรือคำขอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

  43. ติดต่อกับหน่วยงานของรัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้หรือไม่ติดต่อกับหน่วยงานของรัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้หรือไม่ • กล่าวอีกนัยหนึ่งคือยื่นคำขอในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ผลที่สำคัญคือการกระทำข้างต้นนี้ถือว่ามีผลโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่นเดียวกับการกระทำในรูปแบบเดิม กฎหมายยังระบุให้การออกคำสั่งทางปกครอง การประกาศ หรือการดำเนินการใดๆ โดยหน่วยงานของรัฐ สามารถกระทำในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ กระนั้นก็ดี พระราชบัญญัตินี้กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา จึงจะถือว่ามีผลโดยชอบด้วยกฎหมาย

  44. ความคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตความคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต • การใช้งานของอินเทอร์เน็ตมิได้จำกัดอยู่เพียงการติดต่อสื่อสารระหว่างกันเท่านั้น แต่เริ่มมีการทำธุรกรรม ระหว่างกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเกิดการค้าขายรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “พาณิชย์ทางอินเทอร์เน็ต ” (Internet Commerce) มีการคาดการณ์กันว่าภายในปี พ.ศ. 2543 มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกสูงราว 304 ล้านคน (Nua Internet Survey, มีนาคม 2543) ส่วนจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยประมาณการณ์ว่ามีอยู่ถึง 3.5 ล้านคน

  45. ความคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตความคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต • จากการสำรวจของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ (มกราคม 2544) จะเห็นได้ว่าช่องทางดังกล่าวเปิดกว้างแก่คนกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใช้อินเทอร์เน็ตซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้บริโภค การซื้อขายสินค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ตจะให้ความสะดวกและมีประโยชน์หลายประการ แต่ก็อาจก่อให้เกิดความ เสียหายแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้บริโภคทำนองเดียวกับการซื้อสินค้าหรือใช้บริการในรูปแบบเดิม

  46. ความคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตความคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต • ไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา และสถานที่ • ให้ความสะดวก รวดเร็วในการโฆษณา (ผู้ประกอบธุรกิจ) การซื้อขาย (ผู้บริโภค) • เป็นการติดต่อแบบ 2 ทาง (Interactivity) ในรูปแบบมัลติมีเดีย (Multimedia) • ประหยัดต้นทุนทางธุรกิจ • ไม่ทราบตัวบุคคลที่ติดต่อซื้อขาย • ต้องอาศัยความเชื่อมั่นและไว้วางใจ • อาจมีการหลอกลวงเช่นเดียวกันธุรกิจในรูปแบบเดิม

  47. กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค

More Related