1 / 21

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดนครนายก

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดนครนายก. ประวัติความเป็นมาของจังหวัดนครนายก.

Download Presentation

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดนครนายก

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดนครนายก

  2. ประวัติความเป็นมาของจังหวัดนครนายกประวัติความเป็นมาของจังหวัดนครนายก นครนายกเป็นจังหวัดในภาคกลางสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองสมัยทวาราวดีมีหลักฐานแนวกำแพงเนินดินและสันคูอยู่ที่ตำบลดงละครแต่นครนายกนั้นปรากฏหลักฐานในสมัยอยุธยาเป็นเมืองหน้าด่าน ทางทิศตะวันออกในสมัยพระเจ้าอู่ทองในปีพ.ศ.2437รัชกาลที่5ทรงจัดลักษณะการปกครองโดยแบ่งเป็น มณฑลนครนายกได้เข้าไปอยู่ในเขตมณฑลปราจีนบุรีจนเมื่อพ.ศ.2445ทรงเลิกธรรมเนียมการมีเจ้าครองเมือง และให้มีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นแทนและในช่วงพ.ศ.2486-2489นครนายกได้โอนไปรวมกับจังหวัดปราจีนบุรีและสระบุรีหลังจากนั้นจึงแยกเป็นจังหวัดอิสระ   จังหวัดนครนายกเดิมชื่อบ้านนาเล่ากันว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยาดินแดนของนครนายกเป็นป่ารกชัฏ เป็นที่ดอนทำนาหรือทำการเพาะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ผลมีไข้ป่าชุกชุมผู้คนจึงพากันอพยพไปอยู่ที่อื่น จนกลายเป็นเมืองล้างต่อมาพระมหากษัตริย์ทรงทราบความเดือดร้อนของชาวเมืองจึงโปรดให้ยกเลิกภาษีค่านา เพื่อจูงใจให้ชาวเมืองอยู่ที่เดิมทำให้มีผู้คนอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้นจนเป็นชุมชนใหญ่และเรียก และเรียกเมืองนี้จนติดปากว่าเมืองนา-ยกภายหลังจึงกลายเป็นนครนายกจนทุกวันนี้

  3. สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนครนายกสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนครนายก

  4. โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (โรงเรียนนายร้อย จปร.) ตั้งอยู่ที่ตำบลพรหมณี ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 14 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ ตามเส้นทางองครักษ์ประมาณ 75 กิโลเมตร บริเวณโรงเรียนติดกับเขาชะโงก มีพื้นที่ ประมาณ 19,290 ไร่ เป็นสถานที่ให้การศึกษาแก่ผู้ที่จะรับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตรแห่งกองทัพไทย ภายในมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง และมีกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินและสนุกสนานเหมาะแก่การมาเที่ยวกันแบบครอบครัว นักท่องเที่ยวควรติดต่อศูนย์บริการท่องเที่ยว โรงเรียนนายร้อย จปร. ก่อนเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมท่องเที่ยวภายในบริเวณโรงเรียน 

  5. อุทยานพระพิฆเณศ  พระพิฆเณศปางประทานพร ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลขที่ 24/4 หมู่ที่ 11 ถ.นครนายก-น้ำตกสาริกา (สี่แยกประชาเกษม)ต.สาริกา อ.เมือง จากตัวเมืองนครนายกไปทางถนนสาริกา-นางรอง ถึงสี่แยกประชาเกษม เลี้ยวซ้ายไปทางน้ำตกลานรัก ประมาณ 200 เมตร อุทยานพระิพิฆเณศตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ ภายในบริเวณอุทยาน สักการะองค์พระพิฆเณศ และอาคารพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมองค์พระพิฆเณศจำนวน 108 ปาง ที่สมบูรณ์อีกแห่งของเมืองไทย

  6. เขื่อนขุนด่านปราการชลเขื่อนขุนด่านปราการชล ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชนชาวนครนายก และจังหวัดใกล้เคียง ตัวเขื่อน ประกอบด้วยเขื่อนหลักและเขื่อนรองสร้างด้วยคอนกรีตบดอัด ปัจจุบันเป็น เขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาว ที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความสูง ( สูงสุด ) 93 เมตร รับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำมีความจุ 224 ล้าน ลบม.

  7. ศาลหลักเมือง ศาลหลักมืองเดิมเป็นเสาหลักยาวประมาณ 1 เมตรเศษปลายเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวตั้งอยู่บริเวณกำแพงเมืองเก่าต่อมาประมาณ พ.ศ. 2453ทางราชการเห็นว่าศาลหลักเมือง เดิมชำรุดมากจึงได้ย้ายหลักเมือง ไปประดิษฐานที่ตึกแดงในโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด คือ โรงเรียนศรีนครนายก ภายหลังได้ย้ายมาสร้างใหม่ริมแม่น้ำนครนายก ภายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 โดยสร้างเป็นศาลาจตุรมุข เพื่อความสง่างาม และเป็นมงคลคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครนายกจนทุกวันนี้ 

  8. พระแก้วมรกตองค์จำลอง พระแก้วมรกตองค์จำลอง  ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารบนยอดเขา ณ วัดคีรีวัน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี อยู่บนถนนสายนครนายก – ท่าด่านอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร พระแก้วองค์จำลองนี้มีเนื้อเป็นเรซิ่น ขนาดหน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 32.9 นิ้ว หนัก 1 ตัน และมีเครื่องทรงครบทั้ง 3 ฤดู ประดับตกแต่งด้วยเพชรแท้ 7 กะรัตพลอยแท้2,000กว่าเม็ดและทับทิมอีกนับไม่ถ้วน 

  9. อนุสรณ์สถานกองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 อยู่ที่วัดพราหมณี ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก ตรง กม .5 ถนนไปน้ำตกสาริกา–นางรองจัดสร้างโดย สมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 เมื่อปี พ . ศ .2535เพื่อเป็นที่ระลึก ถึงดวงวิญญาณของบรรดาทหาร ซึ่งสังกัดในอดีตกองพลญี่ปุ่นที่ 37 จำนวน 7,920 นาย ซึ่งสูญเสียชีวิตในระหว่างสงคราม เอเชียบูรพา เมื่อปี พ.ศ. 24822488โดยทำการนำอัฐิที่ฝังอยู่ในบริเวณวัดมาบรรจุในแท่นที่จัดสร้างขึ้น นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีสวนสัตว์จำลอง ทำจากปูนปั้นมากมายเช่น ช้าง โค กระบือ กระทิงเก้ง กวาง และยังมีพระพุทธ รูปเก่าแก่ (หลวงพ่อปากแดง)ที่ชาวลาวอพยพ ได้อัญเชิญมาสมัย เวียงจันทน์แตก ขณะนี้ได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดนี้

  10. รอยพระพุทธบาทจำลองเขานางบวชรอยพระพุทธบาทจำลองเขานางบวช อยู่ในมณฑปบนยอดเขานางบวช ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9 กิโลเมตร เขานางบวชสูงประมาณ 100 เมตรมีบันไดคอนกรีตจากเชิงเขาถึงมณฑป 227 ขั้น รอยพระพุทธบาทนี้สร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2401 แรม 8 ค่ำ เดือน 12 ปีระกาจะมีงานเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทในกลางเดือน 5 ของทุกปี

  11. อุทยานวังตะไคร้ อุทยานวังตะไคร้ เป็นอุทยานที่ ได้รับการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ประดับนานาพันธุ์ ในเนื้อที่ 1,500 ไร่ มีถนนให้รถยนต์วิ่งเข้าชมในบริเวณได้ เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งประเภทเช้าไปเย็นกลับ และประเภทค้างแรมค่าผ่านประตู (ตั้งแต่ 1 ก.ย.46) นักท่องเที่ยวเดินเท้าคนละ10บาทรถยนต์รถกระบะรถตู้ รถสองแถวคันละ 100 บาท

  12. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 2,168 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ของ 4 จังหวัด คือ นครนายก นครราชสีมาปราจีนบุรี และสระบุรี มีภูมิประเทศสวยงาม ประกอบด้วยป่าดิบ ป่าโปร่ง ธารน้ำ น้ำตก สัตว์ป่าและพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด ยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาใหญ่ คือ ยอดเขาแหลม มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,292 เมตร ถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และถูกประกาศเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2548 ฃ สถานที่ท่องเที่ยวบนเขาใหญ่เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ต่าง ๆ ได้แก่ จุดชมวิว กม.ที่ 30 ถนนธนะรัชต์( จากปากช่อง ) จุดชมวิวเขาเขียว ( ผาตรอมใจ ) และจุดชมวิว กม.ที่ 9 บนทางขึ้นเขาเขียว 

  13. อ่างเก็บน้ำทรายทอง อยู่ที่ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก แยกซ้ายมือจากถนนไปน้ำตกสาริกา – นางรอง ตรง หลัก กิโลเมตรที่ 1 ไปตามถนนเขาทุเรียน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร อ่างเก็บน้ำทรายทอง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ภูมิประเทศอ่างเก็บน้ำเป็นภูเขา มีความสวยงาม คงความเป็นธรรมชาติ เหนืออ่างเก็บน้ำขึ้นไปประมาณ 2 กิโลเมตร มีน้ำตกชื่อ น้ำตกทรายทอง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก แต่มีน้ำเกือบตลอดปี การ เดิน ทาง ไปยังน้ำตก ทรายทองต้องเดิน เท้าเข้าไปโดยเริ่มจากตัวเขื่อนอ่าง เก็บน้ำใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที 

  14. อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ อยู่ที่ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก แยกซ้ายมือจากถนนไปน้ำตกสาริกา – นางรอง ตรงหลักกิโลเมตรที่ 1 ไปตามถนนเขาทุเรียน ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตรเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก แต่มีผิวน้ำกว้าง มีน้ำตลอดปี มีถนนดินรอบอ่าง ภูมิประเทศรอบอ่างเก็บน้ำ มีความสวยงามตามธรรมชาติ ได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ของประชาชนทั่วไป 

  15. น้ำตกนางรอง เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ไม่สูงนัก บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีห้องอาบน้ำและห้องสุขาบริการ เสียค่าบำรุงรถยนต์โดยสาร ( รวมบุคคล ) 150 บาท รถยนต์เล็ก ( รวมบุคคล ) 50 บาท รถตู้ ( รวมบุคคล ) 100 บาท รถจักรยานยนต์ 10 บาท บุคคลคนละ 5 บาท 

  16. วัดถ้ำสาริกา ตั้งอยู่ใกล้กล้เคียงกับน้ำตกสาริกา เป็นสถานที่ที่อาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เคยมาบำเพ็ญศาสนธรรมระหว่างปี พ.ศ. 2460-2463 สภาพบริเวณเป็นเชิงเขา ภายในบริเวณประกอบด้วยกุฏิสงฆ์ เรือนบูชาหลวงปู่มั่น พร้อมด้วยโบสถ์ซึ่งอยู่ตอนสุดทางเดินเท้าขึ้นเขา

  17. วัดพระพุทธฉาย ตั้งอยู่ที่เขาชะโงกในบริเวณโรงเรียนนายร้อยจปร. ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก เป็นภาพเขียน ติดอยู่กัชะโงกผาบนภูเขาเตี้ยๆ พระพุทธฉายนี้ประวัติเดิมไม่เคยปรากฏ เล่าต่อกันมาว่าสภาพเดิมเป็นภาพพระพุทธรูปราง ๆ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2485 กรมแผนที่ทหารบกได้เข้าไป ตั้งโรงงานหินอ่อน ที่เชิงเขานี้และ ได้เขียนตามรอยพระพุทธรูปเดิมให้ชัดเจนยิ่งขึ้นราษฎรบริเวณนั้น นับถือว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายกทุกกลาง เดือน 3 จะมีงานนมัสการเป็นประจำทุกปี

  18. แหล่งโบรารคดีบ้านดงละครแหล่งโบรารคดีบ้านดงละคร แหล่งโบรารคดีบ้านดงละครหรือเมืองดงละคร กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานแห่งชาติเมื่อวันที่8 มีนาคม พ.ศ.2478 ตั้งอยู่ที่ตำบลดงละคร ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศใต้ประมาณ 9 กิโลเมตร แต่เดิมเรียกกันว่า “ เมืองลับแล ” เป็นสถานที่ตั้งเมืองโบราณสมัยขอมมีอำนาจ มีแนวกำแพงเป็นเนินดินและคูเมืองปรากฏอยู่ ชาวบ้านเรียกกันว่า“ สันคูเมือง ” มีคูน้ำล้อมรอบ ซึ่งเป็นแบบเมืองทวารวดีทางภาคกลางของไทย

  19. ความรุ่งเรืองที่เด่นชัดแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกเริ่มในราวพุทธศตวรรษที่ 14-16 เป็นวัฒนธรรมแบบทวารวดี ช่วงที่สองราวพุทธศตวรรษที่ 17-19 เป็นวัฒนธรรมเขมร และวัฒนธรรมก่อนกรุงศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าน่าจะมีความสำคัญเกี่ยวข้อง กับเมืองศรีมโหสถ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 55 กิโลเมตร โบราณวัตถุที่ค้นพบ เช่น เศียรพระพุทธรูปกะไหล่ทองขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ตราประทับหัวแหวนรูปปู ช้าง แหวนสำริด ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน ตุ้มหูสำริด ตำนานเมืองลับแลนั้นยังเล่ากันว่า เมืองนี้เคยเป็นเมืองของราชินีขอม ซึ่งเป็นที่รโหฐาน ผู้อื่นไม่สามารถเข้าออกได้ ประกอบกับลักษณะของบริเวณเมือง มีไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ทั่วไป ใครเข้าไปแล้วอาจหาทางออกไม่ได้ จะต้องวนเวียนอยู่ในดงนั้นเอง และในวันโกนวันพระจะได้ยินเสียงกระจับปี่ ซอ ปี่พาทย์ มโหรีขับกล่อม คล้าย ๆ กับมีการเล่นละครในวัง ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “ดงละคร ” หรืออีกนัยหนึ่ง คำว่า “ดงละคร ” นั้นอาจเพี้ยนมาจาก “ ดงนคร 

  20. อ้างอิง http://www.tat8.com/thai/ny/ny_place%20index.html http://www.tat.or.th/travelplacedet.asp?prov_id=26&id=3602

  21. จัดทำโดย นางสาวเยาวลักษณ์ ศรีไวทย์ รหัสนิสิต56670160กลุ่ม 3305 คณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

More Related