1 / 36

คำแนะนำการออกกำลังกาย ในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ

คำแนะนำการออกกำลังกาย ในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ. ผศ. นพ. วิศาล คันธารัตนกุล แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ อาจารย์พิเศษ คณะแพทยศาสตร์ รพ. รามาธิบดี ม.มหิดล. หัวข้อ. ปัญหาสุขภาพก่อนออกกำลังกาย การออกกำลังกายในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ. ก่อนเป็นโรค. เจ็บป่วย/เป็นโรค. ภาวะสุขภาพ.

aldan
Download Presentation

คำแนะนำการออกกำลังกาย ในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. คำแนะนำการออกกำลังกายในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพคำแนะนำการออกกำลังกายในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ผศ. นพ. วิศาล คันธารัตนกุล แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ อาจารย์พิเศษ คณะแพทยศาสตร์ รพ. รามาธิบดี ม.มหิดล

  2. หัวข้อ • ปัญหาสุขภาพก่อนออกกำลังกาย • การออกกำลังกายในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ

  3. ก่อนเป็นโรค เจ็บป่วย/เป็นโรค ภาวะสุขภาพ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกายเพื่อการรักษา ความรู้ด้านการออกกำลังกาย + โรค ความรู้ด้านการออกกำลังกาย การตรวจประเมินที่เหมาะสม ความแนะนำที่เหมาะสม

  4. แนวคิด สอบถามสุขภาพ และปัจจัยเสี่ยง พิจารณาอายุ และสมรรถภาพร่างกาย อายุมาก, สมรรถภาพต่ำมีปัจจัยเสี่ยง อายุน้อย, ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ระวัง/ประเมินละเอียดหรือพบแพทย์ แนะนำการออกกำลังกายตามสมรรถภาพ

  5. รายบุคคล มีปัญหา แนะนำการออกกำลังกาย เมื่อมีปัญหาสุขภาพ ประเมินสุขภาพ:PAR-Q ไม่มีปัญหา ประเมินสมรรถภาพ:ด้วยตนเอง/จนท. สร้างพฤติกรรม การออกกำลังกาย แนะนำการออกกำลังกายตามสมรรถภาพ ให้ความรู้ที่เหมาะสม - การบาดเจ็บ - รูปแบบการออกกำลังกาย(ทางเลือก)

  6. กลุ่มที่ 1 การประเมินความเสี่ยงในผู้ที่เสมือนสุขภาพดี เด็ก ผู้ใหญ่เพศชายอายุ < 45 ปี และ เพศหญิงอายุ < 55 ปี ไม่มีอาการของโรคหัวใจหรือปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ผู้ใหญ่เพศชายอายุ > 45 ปี และ เพศหญิงอายุ > 55 ปี ไม่มีอาการของโรคหัวใจหรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ < 2 ข้อ คำแนะนำ: ใช้ PARQ

  7. ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว • ปัจจัยต้นเหตุ • การสูบบุหรี่ • ภาวะความดันโลหิตสูง • ภาวะไขมันในเลือดสูง • ภาวะไขมันในเลือดชนิด HDL ต่ำ • โรคเบาหวาน

  8. ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ปัจจัยหนุน • ภาวะน้ำหนักเกินและความอ้วน • การไม่ค่อยเคลื่อนไหว/ออกกำลังกาย • เพศชาย • ประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจในครอบครัว • ภาวะเศรษฐานะ • ภาวะทางสังคมและจิตใจ • ความผิดปกติของอินซูลิน

  9. กลุ่มที่ 2: มีความเสี่ยง/เป็นโรคหัวใจ ทราบว่าเป็นโรคหัวใจ ผู้ใหญ่เพศชายอายุ > 45 ปี และ เพศหญิงอายุ > 55 ปี ไม่มีอาการของโรคหัวใจหรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ < 2 ข้อ คำแนะนำ: หากออกกำลังกายอย่างหนัก ควรจะได้ทำการทดสอบสมรรถภาพหรือเริ่มการออกกำลังกายเบา ๆ

  10. Metabolic Syndrome

  11. Metabolic syndrome • เกณฑ์วินิจฉัย: WHO 1999, NCEP ATPIII 2001, IDF 2005, AHA&NHLBI 2005 • International Diabetes Federation (IDF): abdominal obesity + อย่างน้อย 2 ใน 4 ข้อ ( TG > 150 mg/dL, HDL-chol < 40 mg/dL in males or < 50 mg/dL in females, BP > 130/85 mmHg or on anti-HT drug, FBS > 100 mg/dL • Abdominal obesity: รอบเอว > 90, 80 cm ในชายและหญิง ตามลำดับ

  12. NCEP, ATP III JAMA 2001; 285 (19): 2486 - 2497

  13. Hypothetical Dose-Response for Exercise induced changes in selected CHD risk factors and CHD Response % Coronary Blood Flow 20 HDL-C 40 60 CHD Mortality 80 BP Insulin Resistance 100 1000 2000 3000 Dose (volume) of Exercise per Week (Kcal) Intensity x Duration x Frequency Source: Haskell (2001)

  14. NEngl JMed 349;5 july 31, 2003

  15. Value of EST in asymptomatic ind.

  16. NEngl JMed 349;5 july 31, 2003

  17. ผู้ที่มีความเสี่ยงปานกลาง (ความเสี่ยงอยู่ระหว่าง 6 – 20 % ต่อปี) นั้นจำเป็นต้องการการทดสอบเพิ่มเติมโดยแนะนำการตรวจ 4 ชนิดคือ • การทดสอบสมรรถภาพร่างกายพร้อมคลื่นไฟฟ้า • การตรวจคลื่นความถี่สูงของเส้นเลือดคาโรติด • การตรวจ coronary artery calcium score • การตรวจ Ankle-Brachial Indexes (ABI) NEngl JMed 349;5 july 31, 2003

  18. NEngl JMed 349;5 july 31, 2003

  19. NEngl JMed 349;5 july 31, 2003

  20. NEngl JMed 349;5 july 31, 2003

  21. Ann Intern Med. 2004;140:W9-W24.

  22. (Circulation. 2004;110:1920-1925.)

  23. Exercise purposes Physiology & Bl. chem FATNESS FITNESS

  24. FITNESS

  25. Predicted likelihood of improved survival per 1-MET higher maximal exercise capacity Study Percent Blair, et al. (1989) 8 Dorn, et al. (1999) 8-14 Myers, et al. (2002) 12 CVD 9 Normal 16

  26. Exercise to increase fitness เพิ่มความทนของระบบหัวใจหลอดเลือดและหายใจ (cardiorespiratory endurance) • = Aerobic exercise • F = ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละนานกว่า 20 นาที • I = ระดับชีพจรมากกว่าหรือเท่ากับ 50-75 % ของชีพจรสูงสุด กิจกรรมที่ทำต่อเนื่องและเหนื่อยจนพอคุยได้ (conversational dose) • T = เดิน วิ่ง กระโดดเชือก ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เล่นกีฬาที่หนักปานกลาง

  27. FATNESS • Weight & BMI • Body Fat

  28. CVD risk in Asia-Pacific: abdominal obesityInternational Obesity TaskForce, Gill TP. Asia Pacific J Clin Nutr 2001; 10: 85-89

  29. Treatment goal • Weight reduction10 % in 6 months • Rate 1-2 lb/wk • Energy def = 300-500 K/day a loss of between 26 and 52 pounds. However, the average weight loss actually observed over this time is between 20 and 25 pounds. A greater rate of weight loss does not yield a better result at the end of 1 year.

  30. Calorie needs to lose weight ลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม จะต้อง กำไรการใช้พลังงานเท่ากับ 8000 แคลอรี หากต้องการลด 0.5 กก. ใน 10 วัน เท่ากับต้องการกำไรพลังงาน 400 กิโลแคลอรี: ลดการรับประทาน 200 กิโลแคลอรี เพิ่มการใช้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี

  31. Caloric deficit 400 kcal/day Day 1 2 3 4 5 300 200 200 100 100 200 200 300 400 300 400 200 200 200 100 200 200 200

  32. การออกกำลังกายในผู้ป่วยภาวะกระดูกและกล้ามเนื้อการออกกำลังกายในผู้ป่วยภาวะกระดูกและกล้ามเนื้อ • การออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน • การออกกำลังกายในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง

More Related