1 / 26

ปรัชญาและหลักการ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

ปรัชญาและหลักการ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. ดร. ทองอยู่ แก้วไทรฮะ. 1. การศึกษาในระบบกับการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย. การศึกษาในระบบ. 1. เป็นการจัดการศึกษาที่มีระบบ ระเบียบแบบแผนที่ชัดเจน อยู่ในกรอบและมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ตามนโยบาย และความต้องการของชาติเป็นหลัก

aidan-neal
Download Presentation

ปรัชญาและหลักการ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ปรัชญาและหลักการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยปรัชญาและหลักการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ดร. ทองอยู่ แก้วไทรฮะ

  2. 1 การศึกษาในระบบกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

  3. การศึกษาในระบบ 1. เป็นการจัดการศึกษาที่มีระบบ ระเบียบแบบแผนที่ชัดเจน อยู่ในกรอบและมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ตามนโยบาย และความต้องการของชาติเป็นหลัก 2. เน้นการจัดการศึกษาเพื่อถ่ายทอดหรือปลูกฝังเนื้อหา ความรู้ ความเข้าใจ ให้เด็กก่อนเรียนและเด็กในวัยเรียนมีความพร้อมในการเรียนรู้ เพื่อให้มีพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย สังคม อารมณ์ และสติปัญญา เพื่อการศึกษาในระดับสูงต่อไป

  4. การศึกษาในระบบ 3. มีหลักสูตร เวลาเรียน จุดมุ่งหมายที่สำคัญเพื่อเตรียม พื้นฐานความรู้เบื้องต้นสำหรับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นภายในช่วงเวลาที่กำหนดเป็นระยะไปตามพัฒนาการของวัย

  5. การศึกษานอกระบบ 1. เป็นการจัดการศึกษาที่มีระบบ ระเบียบยืดหยุ่นมาก เน้นไปที่สภาพปัญหาความต้องการของผู้เรียนเป็นสำคัญ มีมาตรฐานที่สอดคล้องกับชีวิตและสังคมของผู้ที่อยู่ใน วัยทำงาน ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชน และ เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ

  6. การศึกษานอกระบบ 2. เน้นการจัดหลักสูตรและระบบการเรียนรู้ที่เน้นเพื่อผู้ที่พ้นวัยเด็กเข้าสู่วัยแห่งการทำงาน สร้างครอบครัวและพัฒนาสมรรถนะที่เหมาะสมให้กับผู้ที่พลาดโอกาสที่จะเรียนในระบบโรงเรียน และผู้ที่ต้องการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 3. เน้นการศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนที่แตกต่างกันอย่างหลากหลาย โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ พื้นฐานความรู้ เวลา และสถานที่ รวมทั้งรูปแบบการเรียนรู้

  7. การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาที่เกิดขึ้นตามวิถีชีวิตที่ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ตามศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส จากประสบการณ์ การทำงาน บุคคล ครอบครัว สื่อมวลชน ชุมชน แหล่งความรู้ต่างๆ โดยมีลักษณะที่สำคัญคือ ไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียนที่แน่นอน ไม่มีการสอน ไม่มีใบประกาศนียบัตรหรือสถานศึกษาที่เป็นทางการ เรียนได้ตลอดเวลาทุกช่วงทุกวัยของชีวิต

  8. 2 พัฒนาการ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)

  9. พัฒนาการ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) 1. ยุคทองคำเปลว 2. ยุคทองโบราณ 3. ยุคทองไม่รู้ร้อน 4. ยุคทองเนื้อแท้

  10. 3 ปรัชญา กศน.

  11. ปรัชญา กศน. ดร. โกวิท วรพิพัฒน์ และคณะได้เริ่มนำแนวคิดเรื่อง “คิดเป็น” มาเป็นเป้าหมายสำคัญในการจัดการศึกษาผู้ใหญ่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 เป็นต้นมา เช่น โครงการศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จ โครงการรณรงค์เพื่อการรู้หนังสือแห่งชาติ โครงการการศึกษาประชาชนและการศึกษาต่อเนื่อง เป็นต้น จากนั้นจึงได้มีการประยุกต์มาเป็นปรัชญาของการจัดการศึกษานอกโรงเรียน การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยในปัจจุบัน

  12. ปรัชญา กศน. ปรัชญา “คิดเป็น” อยู่บนพื้นฐานความคิดที่ว่า ความต้องการ ของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนมีจุดรวมของความต้องการ ที่เหมือนกัน คือทุกคนต้องการความสุข คนเราจะมีความสุขเมื่อ ตัวเราและสังคมสิ่งแวดล้อมผสมกลมกลืนกันได้ โดยปรับตัวเราให้เข้ากับสังคมสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หรือโดยการปรับสังคมสิ่งแวดล้อมให้เข้ากับตัวเรา หรือปรับทั้งตัวเราและสังคมสิ่งแวดล้อมให้ผสมกลมกลืนกันได้ก็จะมีความสุข

  13. คนที่จะทำได้เช่นนี้ต้องรู้จักคิดรู้จักใช้ปัญญา รู้จักตนเองและธรรมชาติสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีจึงจะเรียกได้ว่าเป็น “คนคิดเป็น” นั่นก็คือเป็นผู้ที่รู้จักปัญหาเรื่องทุกข์ รู้จักสาเหตุแห่งทุกข์ซึ่งมีอยู่ในตนและสภาพแวดล้อม รู้จักการวิเคราะห์หาวิธีดับทุกข์จากวิชาการและประสบการณ์ และใช้กลวิธีที่เหมาะสมในการดับทุกข์จึงจะเกิดความสุข ถ้ายังไม่เกิดความสุขก็ต้องย้อนกลับไปพิจารณาข้อมูลทั้งสามด้านคือ วิชาการ ตนเอง และสังคมสิ่งแวดล้อมใหม่อีกครั้งจนกว่าจะพอใจ

  14. กระบวนการเรียนรู้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตามปรัชญา “คิดเป็น” นี้ ผู้เรียนถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผู้สอนจะเป็นผู้จัดโอกาส จัดกระบวนการ จัดระบบข้อมูลและแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งจัดบรรยากาศที่เหมาะสมในการเรียนรู้ขึ้น กิจกรรมในการเรียนรู้อาจมีแนวทางดังนี้ 1. กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์จากปัญหาและความต้องการ ของตนเองและชุมชน 2. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ 3. ผู้เรียนเรียนรู้จากการอภิปราย ถกเถียงในประเด็นที่เป็นปัญหา 4. ผู้เรียนเรียนรู้จากกระบวนการกลุ่ม มีการใช้ข้อมูลหลายๆด้าน

  15. 5. ผู้เรียนเรียนรู้จากวิถีชีวิต วิถีการทำงาน วิถีชุมชน และภูมิปัญญา 6. ผู้เรียนเรียนรู้จากการทำโครงงาน การเข้าค่าย การศึกษาดูงาน 7. ผู้เรียนเรียนรู้จากการศึกษาวิจัย ศึกษากรณีตัวอย่างที่หลากหลาย 8. ผู้เรียนได้ฝึกการตัดสินใจด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ลึกซึ้งเพียงพอ และเชื่อถือได้ 9. ผู้เรียนรู้จักการใช้เทคนิคกระบวนการต่างๆ เช่น การนำเวทีชาวบ้าน มาเป็นเครื่องมือสำคัญในการศึกษาปัญหาและการคิดแก้ปัญหาของ ตนเองและชุมชน 10. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รู้จักการตัดสินใจในการแก้ปัญหาบนพื้นฐานของ ข้อมูลที่เพียงพอ ทั้งข้อมูลตนเอง วิชาการ และสังคมสิ่งแวดล้อม และนำไปสู่การปฏิบัติได้

  16. 4 หลักการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

  17. หลักการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยหลักการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กลุ่มเป้าหมายของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยส่วนมากเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ มีความรับผิดชอบในการทำงานและการดูแลครอบครัว มีข้อจำกัดและมีประสบการณ์ในด้านลบกับการศึกษาในระบบโรงเรียน การจัดกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้จึงต้องสอดคล้องกับธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียนที่ต่างไปจากการจัดให้กับเด็กในวัยเรียน โดยมีหลักการและแนวคิดที่สำคัญดังต่อไปนี้

  18. หลักการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยหลักการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 1. ต้องคำนึงถึงลักษณะของผู้ใหญ่ที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายและจิตใจ เช่น สายตาไม่ดี การได้ยินบกพร่อง มีปมด้อยเรื่องความรู้ที่ต่ำ เป็นต้น การจัดการเรียนรู้ การจัดหลักสูตร ต้องเป็นไปเพื่อไม่ให้เกิดข้อจำกัด เหล่านี้ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้เรียนอย่างเต็มที่ 2. ต้องให้โอกาสที่เท่าเทียมกันในการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นในเขตชนบทหรือในเมือง ในเขตชุมชนหรือถิ่นทุรกันดาร ฐานะดีหรือยากจน หรือผู้พิการ โดยให้โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาเรียนรู้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

  19. 3. การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องจัดให้สอดคล้องกับความถนัดและความต้องการของผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพและนำประสบการณ์ของตนมาเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเล่าเรียน เพื่อให้สามารถนำการเรียนรู้เหล่านั้นไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนได้ 4. การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องเป็นการจัดการศึกษาที่บูรณาการเข้ากับวิถีชีวิตของผู้เรียน สัมพันธ์สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม วิถีชุมชน และท้องถิ่น การจัดกระบวนการเรียนรู้จึงต้องเป็นไปในลักษณะของการบูรณาการสาระการเรียนรู้ บูรณาการการเรียนการสอน เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้

  20. 5. การเรียนรู้จากการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มิได้เกิดขึ้นเฉพาะในห้องเรียนหรือสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกแห่ง ในบ้าน ที่ทำงาน ไร่นา ตลาด ศาสนสถาน แหล่งท่องเที่ยว โบราณสถาน สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สถานประกอบการ ฯลฯ ครู กศน. จึงต้องสำรวจข้อมูล แหล่งความรู้ในท้องถิ่นที่สามารถให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ได้มากที่สุด ส่งเสริมและสนับสนุนให้แหล่งเรียนรู้เหล่านี้มีศักยภาพและบรรยากาศที่เหมาะสมในการเรียนรู้ของผู้เรียน 6. ครูหรือผู้อำนวยการจัดการเรียนรู้ มิได้จำกัดอยู่ที่ที่ตัวครูในสถาน ศึกษาเท่านั้น การแลกเปลี่ยนความรู้ การถ่ายทอดวิชาความรู้อาจเป็นพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำชุมชน ภูมิปัญญาปราชญ์ชาวบ้าน พระ หรือผู้นำศาสนาก็สามารถเป็นครูได้ ทั้งนี้รวมถึงครูที่พูดไม่ได้เช่น อุทยานการศึกษา พืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร เป็นต้น

  21. 7. การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องจัดกระบวน การเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้พัฒนาคุณภาพชีวิตโดยการพึ่งพาตนเอง หรือพึ่งพากันเอง มากกว่าที่จะรอรับความช่วยเหลือหรือการสอนสั่งจากบุคคล ภายนอก หรือลอกเลียนแบบจากต่างประเทศโดยไม่คำนึงถึงสภาพปัญหาของตนเองและชุมชน โดยต้องให้ผู้เรียน”คิดเป็น” สามารถดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้อย่างเป็นปกติสุข 8. หลักการมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดการศึกษานอกระบบและการเรียนรู้ตามอัธยาศัยเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ต้องให้ชุมชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมกำหนดนโยบาย ร่วมวาง แผน ปฏิบัติ ส่งเสริมสนับสนุน ติดตามและตรวจสอบเพื่อให้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นของขุมชน โดยชุมชนอย่างแท้จริง นอกจากนั้นยังต้องส่งเสริมให้ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน

  22. ชุมชน องค์กรประชาชน สถานประกอบการ ฯลฯ เข้ามามีบทบาทในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ เพื่อให้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเข้าถึงประชาชนอย่างกว้างขวางและครอบคลุมทุกกลุ่ม เป้าหมาย การจัดตั้งกรรมการสถานศึกษาเป็นตัวอย่างที่ดีของการมีส่วนร่วมของชุมชนที่เห็นได้ชัด

  23. 5 ปัญหาและอุปสรรคบางประการในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

  24. ปัญหาและอุปสรรคบางประการในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยปัญหาและอุปสรรคบางประการในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 1. แนวคิดในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้เปลี่ยนแปลงไปตาม ความคิดของผู้มีอำนาจโดยไม่สนับสนุนต่อหลักการของการศึกษา นอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2. มีความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรทรัพยากรและการส่งเสริมสนับสนุน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 3. ครูและผู้บริหารขาดการฝึกอบรมเสริมสร้างจิตสำนึกและวิญญาณของ คนทำงาน กศน.

  25. 4. ความยืดหยุ่นสูง และความไม่ชัดเจนของคนทำงาน และธรรมชาติของ งาน ถ้าไม่ระมัดระวังอาจจะทำให้คุณภาพของงานและของคนทำงาน ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ 5. ขาดเอกภาพในการทำงานแบบเครือข่าย 6. กลุ่มเป้าหมายผู้ด้อยโอกาสและผู้ยากไร้ ผู้พิการ ผู้คนในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร เสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานขาดขวัญและ กำลังใจ ไม่มุมานะอุทิศเวลาให้อย่างเต็มที่

  26. สวัสดี

More Related