1 / 19

บทที่ 2 การใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการองค์กร

บทที่ 2 การใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการองค์กร. ผู้บริหารกับความต้องการทางสารสนเทศ. องค์กรแบบดั้งเดิมแบ่งผู้บริหารออกเป็น 3 ระดับคือ ผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับกลาง และผู้บริหารระดับล่างแสดงเป็น 3 เหลียมดังภาพ. บทบาท. รูปแบบการตัดสินใจ. ไม่มีรูปแบบแน่นอน. กำหนดนโยบาย.

abby
Download Presentation

บทที่ 2 การใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการองค์กร

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 2 การใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการองค์กร

  2. ผู้บริหารกับความต้องการทางสารสนเทศผู้บริหารกับความต้องการทางสารสนเทศ • องค์กรแบบดั้งเดิมแบ่งผู้บริหารออกเป็น 3 ระดับคือ ผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับกลาง และผู้บริหารระดับล่างแสดงเป็น 3 เหลียมดังภาพ บทบาท รูปแบบการตัดสินใจ ไม่มีรูปแบบแน่นอน กำหนดนโยบาย ผู้บริหารระดับสูง กึ่งแน่นอน-ไม่แน่นอน ควบคุมให้เป็นไปตามแผน ผู้บริหารระดับกลาง ควบคุมจัดการ การทำงานประจำวัน แน่นอน ผู้บริหารระดับล่าง

  3. ผู้บริหารกับความต้องการทางสารสนเทศ (ต่อ) • ผู้บริหารแต่ละระดับมีบทบาทและลักษณะของการตัดสินใจทางธุรกิจต่างกัน จึงมีความต้องการใช้สารสนเทศที่ต่างกัน • ผู้บริหารระดับสูงมักมีตำแหน่งเป็นประธาน ผู้จัดการใหญ่ การตัดสินใจมักก่อให้เกิดผลลัพธ์ในระยะยาว เช่น การเพิ่ม ยุบรวม สาขา เป็นต้น • ผู้บริหารระดับกลาง มีหน้าที่ควบคุมงานให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตัดสินในหาแนวทางเพื่อนำไปสู่วัตถุประสงค์หลัก และควบคุมผู้บริหารระดับล่าง • ผู้บริหารระดับล่างมักเป็น หัวหน้าที่ควบคุมงานประจำวันให้ดำเนินไปได้ด้วยดี

  4. ตัวอย่างบทบาทของผู้บริหารระดับต่างๆตัวอย่างบทบาทของผู้บริหารระดับต่างๆ • ผู้บริหารระดับสูง ออกนโยบายว่า Website ในอนาคตจะขายได้ล้ายๆกับธุรกิจทำบ้านจัดสรร คือ ออกแบบพัฒนาระบบทิ้งไว้ แล้วขาย (ไม่รับจ้างทำตาม Order ลูกค้า เพราะคุ้ม) • ผู้บริหารระดับกลาง จึงคิด Project ว่าเราจะทำ Website สำหรับให้ข้อมูลการท่องเที่ยว ผู้ที่ซื้อระบบเราไปจะให้ลูกค้าเค้าเอาข้อมูลธุรกิจที่ต้องการประชาสัมพันธ์มาลงโฆษณาเงินรายเดือน • ผู้บริหารระดับล่างจะควบคุมโปรแกรมเมอร์ในการเขียนโปรแกรมพัฒนาระบบให้ได้ตาม Project ที่ผู้บริหารระดับกลางวางไว้

  5. การตัดสินใจที่มีรูปแบบไม่แน่นอนการตัดสินใจที่มีรูปแบบไม่แน่นอน • เป็นรูปแบบการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูง เกี่ยวกับนโยบายการวางแผนระยะยาวในองค์กร เช่น อีก 5-10 ปีข้างหน้า ควรมีโรงงานผลิตเพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้าควรจะเพิ่มที่ไร เมื่อไหร่ จะต้องใช้เงินทุนเท่าไร ดังนั้น สารสนเทศที่นำมาประกอบการตัดสินใจต้องมีขอบเขตที่กว้างขวาง ทั้งข้อมูลภายในและภายนอกองค์กร

  6. การตัดสินใจที่มรรูปแบบกึ่งแน่นอน-กึ่งไม่แน่นอนการตัดสินใจที่มรรูปแบบกึ่งแน่นอน-กึ่งไม่แน่นอน • มักเป็นการตัดสินใจเพื่อควบคุมเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นให้เป็นไปตามแผนในระยะเวลา 1-3 ปี ข้างหน้า เช่น องค์กรมีนโยบายจะนำสินค้าออกสู่ตลาดโลกต้นปีหน้าโดยเริ่มจากการเปิด Website ผู้จัดการฝ่ายผลิตสินค้าจะต้องพิจารณาทรัพยากรที่มีอยู่ว่าจะสามารถผลิตสินค้าที่ประมาณการจะขายได้หรือไม่ ถ้าได้จะผลิตอะไร เมื่อไร ต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง โดยใช้ต้นทุนต่ำสุด ข้อมูลที่ใช้มักเป็นข้อมูลภายใน เกี่ยวข้องกับเงินทุนน้อยกว่าการเปิดโรงงาน

  7. การตัดสินใจที่มีรูปแบบแน่นอนการตัดสินใจที่มีรูปแบบแน่นอน • มักเป็นการตัดสินใจเพื่อให้การดำเนินงานในองค์กรประจำวันเป็นไปอย่างราบรื่น มักเป็นหัวหน้างานต่างๆ เช่น เครื่องจักรเครื่องหนึ่งขัดข้อง หัวหน้างานต้องแจ้งฝ่ายซ่อมบำรุงและจัดสรรพนักงานประจำเครื่องนั้นไปทำอย่างอื่นก่อน จนกว่าจะซ่อมเครื่องเสร็จ เป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นประจำวัน เป็นช่วงสัปดาห์หรือเดือน

  8. ลักษณะของผู้บริหาร • การวางแผน • ผู้ริหารจะต้องมีข้อมูลที่ดีก่อน ยิ่งข้อมูลชัดเจนมากเท่าไหร่ ผู้บริหารก็จะมองเห็นสภาพปัจจุบันแล้วเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภายหน้าได้ดียิ่งขึ้น • การควบคุม • ควบคุมให้เป็นไปตามแผน โดยติดตามผลของการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงอย่างต่อเนื่อง และนำมาเปรียบเทียบกับที่ประมาณการไว้อย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนแผนเพื่อรับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา • การตัดสินใจ • ผู้บริหารต้องตัดสินใจเลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่งจากหลายแนวทางที่มีอยู่ ผู้บริหารระดับสูงมักตัดสินใจเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ผู้บริหารระดับล่างมักตัดสินใจเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

  9. ระบบสารสนเทศใหม่กับการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรระบบสารสนเทศใหม่กับการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร • การทำให้เป็นอัตโนมัติหรือการออโตเมต (automation) • การจัดขึ้นตอนงานให้เหมาะสม (Rationalization) • การปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ (Reengineering or Business Process Reengineering-BPR ) • การแปรสภาพของธุรกิจ (Paradigm Shift)

  10. ระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กรระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กร เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อองค์กรอย่างมาก ลอนดอน ได้จัดอันดับการเปลี่ยนแปลงต่อองค์กรนี้ออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ 1. การทำให้เป็นอัตโนมัติหรือการออโต้เมต 2. การจัดการขั้นตอนงานให้เหมาะสม 3. การปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ 4. การแปรสภาพของธุรกิจ

  11. ระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กรระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กร 1. การทำให้เป็นอัตโนมัติหรือการออโตเมต การออโตเมตเป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้แก่การทำงานของบุคลากร เช่น การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการคำนวณค่าแรงประจำในแต่ละเดือน หรือการที่พนักงานธนาคารสามารถปรับยอดบัญชีลูกค้าเมื่อมีการฝากหรือถอนเงินโดยอัตโนมัติ 11

  12. ระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กรระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กร 2. การจัดการขั้นตอนงานให้เหมาะสม เมื่อเกิดการออโตเมตขั้นตอนงานต่าง ๆ สิ่งที่ตามมาก็คือขั้นตอนงานเดิม ๆ ที่อาจไม่เหมาะสม ไม่สามารถตอบรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการออโตเมตได้ จึงจำเป็นจะต้องมีการจัดการกับขั้นตอนงานเหล่านี้เสียใหม่ มีการกำหนดมาตรฐาน กฎเกณฑ์ และข้อบังคับในขั้นตอนงานใหม่ ๆ เช่น เมื่อกิจการตัดสินใจให้มีการกรอกข้อมูลการสั่งซื้อแบบออนไลน์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แทนการกรอกข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อลงบนกระดาษ กิจการจำเป็นจะต้องมีการเพิ่มขั้นตอนงานใหม่เพื่อให้สอดรับกับการคีย์ข้อมูลเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง ผู้กรอกข้อมูลจากต้องถูกกำหนดให้ใส่รหัสผู้ขายที่ได้รับการอนุมัติแล้วเท่านั้นจึงสามารถคีย์ข้อมูลเข้าสู่ระบบได้ 12

  13. ระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กรระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กร 3. การปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ การปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการโดยสิ้นเชิงไม่ใช่เพียงแค่ออโตเมต หรือเพิ่มเติม ยกเลิก หรือแก้ไขกระบวนการเดิม ๆ ให้สอดคล้องกับการออโตเมตเท่านั้น แต่เป็นการปรับการทำงานทั้งระบบ 13

  14. ระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กรระบบสารสนเทศใหม่กับการแลกเปลี่ยนภายในองค์กร 4. การแปรสภาพของธุรกิจ การแปรสภาพของธุรกิจเป็นการเปลี่ยนแปลงองค์กรในระดับสูง เป็นวิธีในการดำเนินธุรกิจแบบใหม่และการสรรหาแบบจำลองธุรกิจที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งเป็นแนวทางที่แตกต่างจากการทำธุรกิจแบบเดิมโดยสิ้นเชิง เช่น ธุรกิจที่เคยมีรายได้จากการขายหน้าร้าน เปลี่ยนมาเป็นธุรกิจที่มีรายได้จากการขายแบบออนไลน์เป็นต้น แบบจำลองธุรกิจได้แก่ 4.1 การประมูลแบบกลับ 4.2 ตลาดแบบร่วม 4.3 การซื้อแบบรวมกลุ่ม 4.4 ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ 14

  15. 4.1 การประมูลแบบกลับ • ในกระบวนการจัดซื้อของกิจการขนาดใหญ่ มักเริ่มต้นด้วยใบเสนอราคา โดยส่วนมากผู้เสนอราคาต่ำสุดจะได้รับงานไป แต่ปัจจุบันการต่อรองราคาเพื่อสินค้าและบริการสามารถทำได้แบบออนไลน์ ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายมาก • ประมูลการติดตั้งผ้าม่าน • ประมูลการติดตั้งระบบเครือข่าย เป็นต้น

  16. 4.2 ตลาดแบบร่วม เป็นวิธีการจัดการที่คู่ค้าตกลงกันเพื่อจะทำรายได้แก่ธุรกิจร่วมกัน เช่น http://www.amazon.com เป็นเว็บซื้อที่ขายของออนไลน์ และจะเก็บเงินค่าคอมมิชชั่น จากรายได้การขายของลูกค้าแต่ละรายที่วาง Banner ในเว็บ Amazon

  17. 4.3 การซื้อแบบรวมกลุ่ม โดยปกติแล้ว ถ้าผู้ซื้อสินค้าเป็นจำนวนเงินสูง ผู้ซื้อมักมีกำลังในการต่อรองสูงด้วย ผู้ค้ารายย่อยสามารถรวมตัวกันสั่งซื้อสินค้าก็สามารถได้รับส่วนลดและบริการที่ดีขึ้นได้

  18. 4.4 การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ คือตลาดที่ไม่มีตัวตน ไม่มีสถานที่จริง ผู้ขายและผู้ซื้อมารวมกัน ยิ่งผู้ซื้อขายมีจำนวนมาก ตลาดก็จะยิ่งคึกคัก

  19. การใช้สารสนเทศเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจการใช้สารสนเทศเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ 1. ลดต้นทุน 2. สร้างกำแพงเพื่อกีดกันผู้เข้าสู่ธุรกิจเดียวกัน 3. สร้างค่าใช้จ่ายที่สูงในการเปลี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการจากผู้ค้ารายอื่น 4. การสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ 5. การสร้างความแตกต่างให้แก่สินค้าหรือบริการ 6. การปรับปรุงสินค้าและบริการเดิมให้ดียิ่งขึ้น 7. การจับมือร่วมกับคู่ค้าหรือคู่แข่งขัน 8. การดึงหรือยึดผู้ขายเดิมไว้ให้ได้

More Related