1 / 28

ค่าเสื่อมราคาและภาษีรายได้

ค่าเสื่อมราคาและภาษีรายได้. อ. เฉลิมเกียรติ วงศ์วนิชทวี. วัตถุประสงค์การเรียน (Learning Objectives). 1. มีความรู้ความเข้าใจถึงแนวคิดและวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาแบบต่างๆ 2. มีความรู้ความเข้าใจถึงภาษีรายได้และ ความแตกต่างระหว่างการวิเคราะห์ก่อนเสียภาษีกับหลังเสียภาษีรายได้ .

Olivia
Download Presentation

ค่าเสื่อมราคาและภาษีรายได้

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ค่าเสื่อมราคาและภาษีรายได้ค่าเสื่อมราคาและภาษีรายได้ อ. เฉลิมเกียรติ วงศ์วนิชทวี 153-301 Engineering Economy

  2. วัตถุประสงค์การเรียน (Learning Objectives) 1. มีความรู้ความเข้าใจถึงแนวคิดและวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาแบบต่างๆ 2. มีความรู้ความเข้าใจถึงภาษีรายได้และ ความแตกต่างระหว่างการวิเคราะห์ก่อนเสียภาษีกับหลังเสียภาษีรายได้ 153-301 Engineering Economy

  3. เนื้อหาในบทนี้ (Chapter Contents) 9.1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคา 9.2. วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาแบบต่างๆ 9.4. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษี 9.5. การวิเคราะห์หลังเสียภาษีรายได้ 153-301 Engineering Economy

  4. 9.1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคา • ค่าเสื่อมราคา คือ อะไร 153-301 Engineering Economy

  5. 153-301 Engineering Economy

  6. การพิจารณาค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามพระราชกฤษฎีกาฯ ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145) พ.ศ.2527 ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา เป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้นจากการที่กิจการมีทรัพย์สิน หรือรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน (Capital Expenditure) ซึ่งกิจการสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการวางแผนภาษีอากรตามหลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาฯ ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145) พ.ศ.2527 และคำสั่งกรมสรรพกร ที่ ป.3/2527 ลงวันที่ 36 กรกฎาคม 2527 153-301 Engineering Economy

  7. 9.2. วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาแบบต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่าวิธีการคิดคำนวณค่าเสื่อมราคามีหลากหลายวิธี และสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 เป็นประเภทที่ใช้ช่วงระยะเวลาของช่วงเสื่อมราคาเป็นตัวหารเพื่อแบ่งส่วนของต้นทุนหักด้วยมูลค่าซากเป็นค่าเสื่อมราคาแต่ละปีโดยไม่รวมผลของดอกเบี้ย การคำนวณค่าเสื่อมราคาประเภทนี้ ได้แก่ วิธีเส้นตรง (Straight Line Method), วิธีผลบวกจำนวนปีอายุการใช้ทรัพย์สิน (Sum of the Year’s Digit Method), วิธียอดคงเหลือลดลง (Declining Balance Method / The Constant Percentage of Declining-Book-Value Method), วิธียอดลดลงคงเหลือลดลงทวีคูณ (Double Declining Balance Method) 153-301 Engineering Economy

  8. ประเภทที่ 2 เป็นประเภทที่ใช้ช่วงระยะเวลาของช่วงเสื่อมราคาเป็นตัวหารเพื่อแบ่งส่วนของต้นทุนหักด้วยมูลค่าซากเป็นค่าเสื่อมราคาแต่ละปีโดยรวมผลของดอกเบี้ย การคำนวณค่าเสื่อมราคาประเภทนี้ ได้แก่ วิธีทุนจม (Sunk cost) ซึ่งไม่มีการใช้กันในประเทศไทย ในตำราต่างประเทศก็กล่าวว่าวิธีนี้ได้ถูกยกเลิกแล้วจึงไม่เป็นที่นิยมใช้กัน ประเภทที่ 3 เป็นประเภทที่ใช้สัดส่วนของจำนวนต่างๆ เช่น จำนวนหน่วยผลิตแต่ละปี/จำนวนหน่วยผลิตตลอดช่วงการใช้งาน จำนวนวันที่ทำงานแต่ละปี/จำนวนวันที่ทำงานทั้งหมดตลอดช่วงการใช้งาน จำนวนเงินได้ต่อปี/จำนวนเงินที่ได้ตลอดช่วงอายุการใช้งาน โดยค่าเสื่อมราคาจะเท่ากับสัดส่วนนี้คูณกับต้นทุนหักด้วยมูลค่าซาก เงินได้หน่วยผลิตแต่ละปีหารด้วยช่วงระยะเวลาของช่วงเสื่อมราคาเป็นตัวหารเพื่อแบ่งส่วนของต้นทุนหักด้วยมูลค่าซากเป็นค่าเสื่อมราคาแต่ละปีโดยรวมผลของดอกเบี้ย 153-301 Engineering Economy

  9. วิธีเส้นตรง (Straight Line Method) วิธีเส้นตรง (Straight Line) (SL)นี้สมมติกำหนดให้ค่าเสื่อมราคาในแต่ละปีเท่ากัน หรือ มูลค่าสินทรัพย์ได้ถูกแบ่งเพื่อใช้งานเท่าๆ กันทุกปี ค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี(t = 1,2,…,n) ได้จากราคาเริ่มต้น(P) ลบด้วย มูลค่าซาก(SV) หารด้วย อายุการใช้งาน(n) สามารถสร้างเป็นสูตรคำนวณได้ดังนี้ มูลค่าตามบัญชีในแต่ละปี 153-301 Engineering Economy

  10. ตัวอย่างที่ 9.1 เครื่องจักรมีราคาเริ่มต้น 50,000 บาท อายุใช้งาน 5 ปี มูลค่าซากเท่ากับ 10,000 บาท จงหาค่าเสื่อมราคาและมูลค่าตามบัญชีในแต่ละปี ใช้วิธีเส้นตรง 153-301 Engineering Economy

  11. วิธีผลบวกจำนวนปีอายุการใช้ทรัพย์สิน(Sum of the Year’s Digit Method) การคิดค่าเสื่อมราคาแบบวิธีนี้(SYD) ค่าเสื่อมในแต่ละปีจะไม่เท่ากัน โดยปีแรกๆ จะมีค่าเสื่อมราคาสูงกว่าปีท้ายๆ โดยการคิดค่าเสื่อมนี้จะใช้การรวมของ เลขจำนวนปีของอายุการใช้งาน มาบวกรวมกัน ค่าเสื่อมในแต่ละปี มูลค่าตามบัญชีในแต่ละปี 153-301 Engineering Economy

  12. ตัวอย่างที่ 9.2 เครื่องจักรมีราคาเริ่มต้น 50,000 บาท อายุใช้งาน 5 ปี มูลค่าซากเท่ากับ 10,000 บาท จงหาค่าเสื่อมราคาและมูลค่าตามบัญชีในแต่ละปี ใช้วิธีผลบวกจำนวนปีอายุการใช้ทรัพย์สิน 153-301 Engineering Economy

  13. วิธียอดคงเหลือลดลง(Declining Balance Method / The Constant Percentage of Declining-Book-Value Method)และ วิธียอดลดลงคงเหลือลดลงทวีคูณ(Double Declining Balance Method) วิธีการคิดค่าเสื่อมราคานี้(DB,DDB)รู้จักกันในอีกชื่อว่า วิธีเปอร์เซ็นคงที่ของมูลค่าตามบัญชีลดลง ซึ่งมีค่าเสื่อมในปีแรกๆสูงและปีถัดไปก็จะลดลงเรื่อยๆ เป็นการคิดค่าเสื่อมราคาในอัตราเร่ง คือ คิดอัตราค่าเสื่อมราคาแต่ละปีเป็น R เท่าของวิธีเส้นตรง แต่คิดจากยอดที่ลดลงตามลำดับ หรือราคาตามบัญชี โดยที่ R มีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 1 ค่าคงที่นี้อาจกำหนดให้เป็นเปอร์เซ็นต์เช่น 150% ก็จะมีค่า R = 1.5/n ในวิธีนี้ใช้ R = 2/n เมื่อ 200% ของยอดคงเหลือลดลง ซึ่งจะเรียกวิธีนี้ว่า วิธียอดลดลงคงเหลือลดลงทวีคูณ (Double Declining Balance Method) (ซึ่งเป็นค่าสูงสุดที่ยอมให้ตามกฎหมายไทย) 153-301 Engineering Economy

  14. ค่าเสื่อมในแต่ละปี มูลค่าตามบัญชีในแต่ละปี จากความสัมพันธ์ของสูตรด้านบน เห็นได้ว่าไม่มีส่วนของมูลค่าซาก(SV) ซึ่งมีค่าเท่ากับ ซึ่งอาจจะใช้สูตรดังกล่าวในการหาค่า สัดส่วน R ในกรณีให้มูลค่าซากสำหรับวิธีDB 153-301 Engineering Economy

  15. ตัวอย่างที่ 9.3 เครื่องจักรมีราคาเริ่มต้น 50,000 บาท อายุใช้งาน 5 ปี มูลค่าซากเท่ากับ 10,000 บาท จงหาค่าเสื่อมราคาและมูลค่าตามบัญชีในแต่ละปี วิธียอดคงเหลือลดลงแบบที่มีมูลค่าซากเกี่ยวข้อง และสร้างตารางเปรียบเทียบโดยคอมพิวเตอร์พร้อมทั้งวาดกราฟเปรียบเทียบ 153-301 Engineering Economy

  16. 153-301 Engineering Economy

  17. 153-301 Engineering Economy

  18. ตัวอย่างที่ 9.4 เครื่องจักรมีราคาเริ่มต้น 50,000 บาท อายุใช้งาน 5 ปี มูลค่าซากเท่ากับ 10,000 บาท จงหาค่าเสื่อมราคาและมูลค่าตามบัญชีในแต่ละปี วิธียอดคงเหลือลดลงแบบ DDB (ที่ไม่มีมูลค่าซากเกี่ยวข้อง) 153-301 Engineering Economy

  19. วิธีการเร่งคืนทุนแบบปรับปรุง (Modified Accelerated Cost Recovery System) (MACRS) วิธีการคิดค่าเสื่อมราคานี้ได้มีการนำเสนอในช่วงปี คศ. 1980 ที่สหรัฐอเมริกา ที่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่เกี่ยวกับระบบการจัดเก็บภาษีเงินได้และการคิดค่าเสื่อมราคาแบบใหม่ 153-301 Engineering Economy

  20. 9.4. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษี ภาษีอากรสามารถแบ่งใหญ่ได้เป็น 2 ประเภทคือ ภาษีทางตรง และภาษีทางอ้อม ภาษีทางตรง (Direct Tax) หมายถึง ภาษีที่ผู้มีรายได้ต้องมีหน้าที่เสียภาษีต้องแบกรับภาระไว้เองไม่อาจจะผลักภาระดังกล่าวไปยังบุคคลอื่นได้ เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีทรัพย์สิน เป็นต้น ภาษีทางอ้อม (Indirect Tax) หมายถึง ภาษีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ต้องแบกรับภาระการจ่ายภาษีไว้เอง โดยผลักภาระดังกล่าวไปให้แก่บุคคลอื่น เช่น การซื้อรถยนต์ สินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ ผู้ขายได้มีการบวกภาษีไปแล้วในราคาสินค้า ที่เห็นชัดๆภาษีประเภทนี้ได้แก่ ภาษีการค้า ภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นต้น 153-301 Engineering Economy

  21. 153-301 Engineering Economy

  22. 9.5. การวิเคราะห์หลังเสียภาษีรายได้ 153-301 Engineering Economy

  23. ตัวอย่างที่ 9.5 ร้าน SMEด่วนการส่ง บริการ รับส่งเอกสารตามบริษัทต่างๆ มีผลประกอบการในหนึ่งปีดังต่อไปนี้ รายได้ของธุรกิจ 65,000 บาท ค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน 8,000 บาท ค่าใช้จ่าย 18,500 บาท อัตราภาษีที่ต้องเสียสำหรับธุรกิจนี้ 20 % อัตราผลตอบแทนของการลงทุนก่อนการเสียภาษีเท่ากับ 11% จงหา กระแสเงินสดก่อนการเสียภาษี(CFBT) และ กระแสเงินสดหลังการเสียภาษี(CFAT) 153-301 Engineering Economy

  24. ตัวอย่างที่ 9.6 (ปรับปรุงจากตัวอย่างข้อที่ 9.1) เครื่องจักรอุตสาหกรรมมีราคาเริ่มต้น 50,000 บาท อายุใช้งาน 5 ปี มูลค่าซากเท่ากับ 10,000 บาท ให้ผลตอบแทนเป็นเงินก่อนการหักภาษี(CFBT) เป็นเงินปีละ 30,000 บาท จงเปรียบเทียบผลกระทบของการคำนวณค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรง วิธีผลบวกจำนวนปีอายุการใช้ทรัพย์สิน และ วิธียอดคงเหลือลดลงแบบที่มีมูลค่าซากเกี่ยวข้อง โดยสมมติใช้อัตราภาษีเงินได้เท่ากับ 37% 153-301 Engineering Economy

  25. 153-301 Engineering Economy

  26. 153-301 Engineering Economy

  27. 153-301 Engineering Economy

  28. จากตารางทั้งสามให้อัตราผลตอบแทนแตกต่างกันออกไปคือจากตารางทั้งสามให้อัตราผลตอบแทนแตกต่างกันออกไปคือ ทั้งสามวิธีจะมีจำนวนของค่าค่าเสื่อมราคา กำไรสุทธิ ภาษีเงินได้ เท่ากัน แต่จะให้อัตราผลตอบแทนต่างกันเนื่องจากการจ่ายภาษีนั้นเป็นการกระจายจ่ายมากหรือน้อย แต่ความเป็นจริงแล้วถ้ามีรายได้ที่แปรผันอาจทำให้ค่าของอัตราผลตอบแทนเปลี่ยนแปลงไปได้เช่นกัน 153-301 Engineering Economy

More Related