1 / 30

การมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชน: แนวคิด และประสบการณ์วิจัย

การมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชน: แนวคิด และประสบการณ์วิจัย. ดร . พีรธร บุณยรัตพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รองผู้อำนวยการ สถาบันเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน มหาวิทยาลัยนเรศวร. แนวคิดการมีส่วนร่วม. การมีส่วนร่วม (Participation).

Olivia
Download Presentation

การมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชน: แนวคิด และประสบการณ์วิจัย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชน:แนวคิด และประสบการณ์วิจัย ดร. พีรธรบุณยรัตพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร รองผู้อำนวยการสถาบันเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร

  2. แนวคิดการมีส่วนร่วม

  3. การมีส่วนร่วม (Participation) • การสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียและผู้ที่เกี่ยวข้อง • โดยเปลี่ยนแปลงจากการใช้อำนาจครอบมาใช้อำนาจร่วมกัน • ในการตัดสินใจหรือดำเนินกิจการหรือกิจกรรมต่างๆ • เพื่อแสวงหาทางออกหรือขับเคลื่อนการณ์เหล่านั้นด้วยกัน • ในลักษณะของภาคีหรือรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม

  4. คำสำคัญ (Key Words) • Value + Stakeholder • Power Over  Power With • Decision Making + Performing Activity • Collaboration + Drive • Partner + Sense of Belonging

  5. แนวคิดสำคัญที่เกี่ยวข้อง (Key Concept) • การเสริมสร้างประชาธิปไตย (Democracy) • การสร้างธรรมาภิบาล (Good Governance) • การควบคุมการบริหารจัดการ (Controlling) • นโยบายสาธารณะและการวางแผน (Public Policy and Planning) • การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน (Community Empowerment)

  6. ประเด็นชวนคิด • การมีส่วนร่วมจึงประกอบด้วยอย่างน้อย 2 ฝ่าย “ผู้มีส่วน” และ “ผู้ร่วม” Key Actor & Co Actor Power Over VS Power With • “ผู้มีส่วน” คือใคร ? ทำอย่างไรให้เขาเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าร่วมในกิจกรรม ? • “ผู้ร่วม” คือใคร ? ทำอย่างไรให้เขาเข้ามามีส่วนในกิจกรรมต่างๆ ?

  7. ความคาดหวังจากการมีส่วนร่วมความคาดหวังจากการมีส่วนร่วม • ประชาชนและชุมชนเป็นอิสระ ลดการพึ่งพิงและสามารถดูแลตนเองได้ • ประชาชนและชุมชนมีโอกาสที่จะได้ใช้และพัฒนาความสามารถของตนเอง • เป็นการระดมทรัพยากรที่ต่างคนต่างถือครองมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด • สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ ทำให้การพัฒนามีความมั่นคงถาวรและต่อเนื่อง • สร้างความรับผิดชอบ และแสดงถึงอำนาจในการตัดสินใจเลือกที่มีอยู่ในตนเอง • เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนและประชาชน

  8. องค์ประกอบของการมีส่วนร่วมองค์ประกอบของการมีส่วนร่วม • มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน สิ่งที่ต้องการจากการมีส่วนร่วมคืออะไร ? • มีกลุ่มเป้าหมายที่แน่นอน ผู้ที่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมคือใคร ? • มีรูปแบบกิจกรรมที่ครอบคลุม จะดำเนินการให้เกิดการมีส่วนร่วมด้วยวิธีการอย่างไร ? • มีความจำเป็นที่เด่นชัด เหตุผลความจำเป็นที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมคืออะไร ?

  9. รูปแบบของการมีส่วนร่วมรูปแบบของการมีส่วนร่วม • การมีส่วนร่วมแบบเป็นไปเอง - เกิดจากการรวมตัวกันโดยสมัครใจ หรือรวมกลุ่มกันเอง โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากภายนอก • การมีส่วนร่วมแบบชักนำ - เกิดจากการที่ผู้มีอำนาจชี้นำ หรือสนับสนุน ผลักดันให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามามีโอกาส และบทบาท • การมีส่วนร่วมแบบบังคับ – เกิดจาการที่ผู้มีอำนาจจัดการ และดึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาจัดวาง และแสดงบทบาทอย่างไม่เต็มใจ

  10. เงื่อนไขของการมีส่วนร่วมเงื่อนไขของการมีส่วนร่วม • ต้องมีอิสรภาพที่จะมีส่วนร่วม (freedom to participation) • ต้องสามารถที่จะมีส่วนร่วม (ability to participation) • ต้องเต็มใจที่จะมีส่วนร่วม (willingness to participation) • ต้องอยู่บนพื้นฐานความเสมอภาค (fairness to participation)

  11. การมีส่วนร่วมของประชาชน (Public Participation) • การเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย • เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจและ • รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมส่วนรวม • ตามสิทธิของการเป็นพลเมือง • ในฐานะหุ้นส่วนของการพัฒนา

  12. ระดับของการมีส่วนร่วมของประชาชนระดับของการมีส่วนร่วมของประชาชน ระดับการมอบอำนาจ (to empower) ระดับการร่วมมือ (to collaborate) ระดับการเข้าไปเกี่ยวข้อง (to involve) ระดับการให้คำปรึกษาหารือ (to consult) ระดับการให้ข้อมูลข่าวสาร (to inform) 5 4 3 2 1

  13. การมีส่วนร่วมของชุมชน (Community Participation) • การที่สมาชิกของชุมชนหรือกลุ่มคนที่พำนักและมีวิถีชีวิตในถิ่นหนึ่ง • เข้ามาร่วมมือร่วมใจและร่วมทุนกันโดยสมัครใจ • ในการตัดสินใจและขับเคลื่อนกิจกรรม • ที่เกี่ยวข้องกับตนและถิ่นที่อยู่หรือชุมชนของตน • เพื่อการบรรลุผลและได้รับการสนองประโยชน์ร่วมกัน

  14. ขั้นตอนการมีส่วนร่วมของชุมชนขั้นตอนการมีส่วนร่วมของชุมชน • ร่วมคิดวิเคราะห์ • ร่วมวางแผน • ร่วมตัดสินใจ • ร่วมลงทรัพยากร • ร่วมดำเนินการ • ร่วมรับผลการดำเนินงาน • ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ • ร่วมติดตามประเมินผล • ร่วมธำรงรักษาให้ยั่งยืน คิด P-Plan ทำ D-Do ทวน C-Check A-Act

  15. เสนอเอกสาร Position Papers รายงานสรุป Written Briefs สำรวจความเห็น Opinion Surveys เปิดเวทีอภิปราย Discussion Forums ประชาพิจารณ์ Public Hearing ประชุมปฏิบัติการ Workshop ใช้กลุ่มงาน Task Groups คณะกรรมการที่ปรึกษา Advisory Committees กระบวนการร่วมมือ Joint Processes เพิ่มความคาดหวัง เพิ่มการยอมรับ ตัวอย่างเทคนิคการสร้างการมีส่วนร่วม

  16. ตัวอย่างประสบการณ์วิจัยด้านการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชนตัวอย่างประสบการณ์วิจัยด้านการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชน

  17. ภาวะเสพติดและภาวะปฏิเสธนโยบายกระตุ้นการพัฒนาที่เน้นการอุดหนุนเงินสู่ชุมชน :สองขั้วปรากฏการณ์ชุมชนไทยจากประสบการณ์วิจัยในระดับชุมชน • ดร. พีรธรบุณยรัตพันธุ์ • มหาวิทยาลัยนเรศวร 17

  18. บทนำ : การทับซ้อนกันของปรากฏการณ์ในต่างเวลา • อดีตเมื่อนานมาแล้ว “คึกฤทธิ์เป็นคนคิดลึกกลางคืนดื่นดึกนั่งนึกนอนคิด คิดช่วยคนยากคนจนให้สภาตำบลสร้างถนนเชื่อมติด พวกเราก็ไปรับจ้างพวกเราก็ไปรับจ้าง ขุดคลองสร้างทางเอาสตางค์คึกฤทธิ์...” (คึกลิด-คิดลึก : เพลินพรหมแดน) • ปัจจุบันเมื่อเร็วๆนี้ “เชิญสิเชิญมาเชิญเอาปัญญามาแลกเงินรัฐไป…” (โฆษณาชุมชนพอเพียง) 18

  19. บทนำ: คำถามที่ต้องการคำตอบ • นโยบายกระตุ้นการพัฒนาที่เน้นการอุดหนุนเงินสู่ชุมชนถูกใช้ในประเทศไทยมานานแต่ผลที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง • ดังนั้นจึงต้องหันกลับมาทบทวนถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว ? นโยบายในลักษณะดังกล่าวหยั่งรากลึกในกระบวนการพัฒนาประเทศมากน้อยเพียงใด ? นโยบายในลักษณะดังกล่าวก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบต่อชุมชนอย่างไรบ้าง 19

  20. ปรากฏการณ์นโยบายกระตุ้นการพัฒนาที่เน้นการอุดหนุนเงินสู่ชุมชนปรากฏการณ์นโยบายกระตุ้นการพัฒนาที่เน้นการอุดหนุนเงินสู่ชุมชน • การจัดวางนโยบาย และนำนโยบายไปปฏิบัติ • เพื่อสอดแทรกการเปลี่ยนแปลงโดยอัดฉีดเงินทุนจากภายนอกเข้าสู่ชุมชน • เพื่อเร่งกระบวนการพัฒนา (Accelerated) ให้ขับเคลื่อนหรือดำเนินไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น • โดยนโยบายดังกล่าวสามารถสร้างผลประโยชน์ให้แก่ทั้งผู้รับผลจากนโยบาย และผู้กำหนดนโยบายไปพร้อมๆ กัน 20

  21. การเปลี่ยนสภาพของนโยบายจากเงินผันสู่ชุมชนพอเพียงการเปลี่ยนสภาพของนโยบายจากเงินผันสู่ชุมชนพอเพียง • โครงการเงินผัน • โครงการการสร้างงานในชนบท • โครงการการสร้างงานในฤดูแล้ง • โครงการมิยาซาว่า แพลน • โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน หรือเอสเอ็มแอล (SML) • ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข • โครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือ พพพ. • โครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง • โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน หรือ ชุมชนพอเพียง 21

  22. ข้อสังเกตและนัยจากการทบทวนปรากฏการณ์:ความเหมือนและความต่างของวิธีคิดและวิธีทำข้อสังเกตและนัยจากการทบทวนปรากฏการณ์:ความเหมือนและความต่างของวิธีคิดและวิธีทำ ความคล้ายคลึง คือ • ส่งผ่านงบประมาณไปสู่ชุมชนให้ตรง หรือใกล้มือเพื่อเชื่อมโยงรัฐบาลกับชุมชน • แสดงถึงเจตนารมณ์การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาในระดับรากหญ้า ความแตกต่าง คือ • เปลี่ยนแปลงจากอุดหนุนเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงระดับบุคคล เป็นการใช้เงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาชุมชน • ชุมชนให้เป็นรากฐานการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต 22

  23. ข้อสังเกตและนัยจากการทบทวนปรากฏการณ์:แนวความคิดดีแต่ท่าทีมีปัญหาข้อสังเกตและนัยจากการทบทวนปรากฏการณ์:แนวความคิดดีแต่ท่าทีมีปัญหา นับตั้งแต่โครงการเอสเอ็มแอลจนถึงโครงการชุมชนพอเพียง • เป็นนโยบายประชานิยม ทำให้ชุมชนยึดติดกับเจ้าของนโยบาย และถูกลดทอนการพึ่งตนเองลง ต้องพึ่งพาการอุปถัมภ์ทรัพยากรจากภายนอกชุมชน ซึ่งนำไปสู่ “ภาวะเสพติดนโยบาย” • มีการใช้เครื่องมือการตลาด คือ การสร้างแบรนด์ (Branding & Rebranding) เพื่อกระตุ้นการตอบรับนโยบาย และทำให้เกิด ความต้องการเทียม (Pseudo Demand) ให้กับชุมชนมากเกินพอดี นำไปสู่ “ภาวะปฏิเสธนโยบายได้” 23

  24. สองขั้วปรากฏการณ์ชุมชนไทย: การเติมเต็มข้อสังเกตจากประสบการณ์วิจัยระดับชุมชน การถอดบทเรียนจากประสบการณ์ในการวิจัย 4 เรื่อง • การศึกษาผลลัพธ์และผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) (2548) • การศึกษาการปรับบทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการพัฒนาหมู่บ้าน/ ชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (2550) • การวิจัยและประเมินผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด อำเภอโนนสูงจังหวัด นครราชสีมา (2551) • การศึกษารูปแบบของความสำเร็จ “Best Practice Model” ในการบริหารจัดการหมู่บ้าน/ชุมชน ตามโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (2552) 24

  25. ภาวะเสพติดนโยบาย: ความอ่อนแอและอ่อนไหวของชุมชน ลักษณะอาการ • เกิดขึ้นกับชุมชนที่ประสบปัญหา หรือมีความต้องการเปลี่ยนแปลง มีปัญหาสะสมมาเป็นเวลานาน และมีความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ชุมชนจึงไวในการเปิดรับ และตอบสนองนโยบายอย่างไม่มีเงื่อนไข • เมื่อชุมชนดำเนินโครงการตามนโยบายแล้วจะเกิดความรู้สึกพึงใจ และอิ่มเอมกับนโยบายที่ได้รับ • ต้องการให้มีการสนับสนุนหรืออุดหนุนงบประมาณจากรัฐบาลในการดำเนินนโยบายดังกล่าวเพิ่มมากยิ่งขึ้น 25

  26. ภาวะเสพติดนโยบาย: ความอ่อนแอและอ่อนไหวของชุมชน สาเหตุของอาการ • “ชุมชนอ่อนแอ” ไม่สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาโดยใช้ทรัพยากร และความร่วมมือจากสมาชิกจากภายในชุมชนได้ • รัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง ต้องการเข้าไปมีส่วนในทุกภารกิจ และทุกพื้นที่ โดยการกำหนดนโยบายจากบนลงล่าง (Top-Down) ซึ่งกลไกของรัฐมักแสดงบทบาท “คุณพ่อรู้ดี” ทำให้ประชาชนมีบทบาทเป็น “คุณลูกจำเป็น” ที่ต้องพึ่งพา รอคอยรับการอุปถัมภ์จากรัฐ • การใช้เงินเป็นปัจจัยหลัก นำการพัฒนา ซ้ำๆ ทำให้ประชาชนในชุมชนฝังใจ และคิดถึงความพึงใจที่เกิดจากผลของการดำเนินโครงการตามนโยบาย และเพิ่มทวีเป็น “ความกระหายไม่รู้ดับ” 26

  27. ภาวะเสพติดนโยบาย: ความอ่อนแอและอ่อนไหวของชุมชน ผลของอาการ • ชุมชนอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลง • ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ • รอคอยการสนับสนุนทรัพยากรจากภายนอก • เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 27

  28. ภาวะปฏิเสธนโยบาย: ความเข้มแข็งของชุมชนที่เลือกได้ ลักษณะอาการชุมชนไม่สนใจ ไม่ตอบรับ และไม่ต้องการเข้าร่วมดำเนินโครงการตามนโยบาย สาเหตุของอาการ • ชุมชนมีแนวทางการพัฒนาเป็นของตนเอง มีศักยภาพที่สามารถระดมความร่วมมือ และทรัพยากรจากสมาชิกของชุมชนได้ ซึ่งเกิดจากการมีการมีผู้นำชุมชนที่เป็นปราชญ์ มีความสามารถ และสร้างศรัทธานำพาชุมชนได้ • ชุมชนที่อุดมไปด้วยสินทรัพย์ทั้งที่มองเห็น (Tangible Asset) และสินทรัพย์ที่มองไม่เห็น (Intangible Asset) ซึ่งถือเป็นทุนสาธารณะ (Public Capital) ที่สำคัญในการขับเคลื่อนชุมชน • ระบบความสัมพันธ์ของคนในชุมชนที่นำไปสู่ความร่วมมือกันคนในชุมชน ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของกลุ่มและเครือข่าย ผลของอาการชุมชนพึ่งพาตนเองได้ ไม่มีความจำเป็นที่จะรับการอุดหนุนเงิน หรือสนับสนุนจากภายนอกชุมชน 28

  29. ภาวะปฏิเสธนโยบาย: ความสั่นคลอนของชุมชนที่ไม่ได้ตั้งใจ ลักษณะอาการ เกิดขึ้นกับชุมชนที่เสพนโยบาย หรือดำเนินโครงการตามนโยบายแล้วได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากนโยบาย จึงไม่ต้องการนโยบายลักษณะเดิมอีก สาเหตุของอาการ • ชุมชนให้ความสนใจกับการพึ่งพาทรัพยากรจากภายนอกมากกว่าการพึ่งพาตนเอง และเข้าร่วมโครงการตามนโยบายโดยขาดความรู้ ความเข้าใจ • ชุมชนดำเนินโครงการตามนโยบายโดยขาดการวางแผน และขาดทักษะในการจัดการที่คำนึงถึงผลสำเร็จของงาน ภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด • ชุมชนดำเนินโครงการตามนโยบายโดยมีความร่วมมือจากสมาชิกแบบเทียม และนำไปสู่การขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างสมาชิกในชุมชน ผลของอาการ ชุมชนเกิดการเรียนรู้ ไม่ต้องการให้มีการดำเนินโครงการตามนโยบายในลักษณะเช่นนี้อีก เพราะเล็งเห็นถึงปัญหาจากการพึ่งพาปัจจัยภายนอก และหันมาให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในชุมชนยิ่งขึ้น 29

  30. บทส่งท้าย: ข้อคิดจากการวิเคราะห์ปรากฏการณ์ • นโยบายเป็นเพียง “เครื่องมือของรัฐ” (State Instrument) ในการขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุตามเจตนารมณ์ (State Philosophy) • ดังนั้นเครื่องมือจึงต้องนำไปใช้ (Implement) และควบคุมการใช้ (Control) อย่างรอบคอบโดย “ผู้ใช้” กับ “ผู้มีส่วนได้เสีย” จากเครื่องมือนั้น • ผู้รับผลจากนโยบาย ต้องแสดงบทบาทเป็น “หุ้นส่วนสำคัญในการพัฒนา” โดยตัดสินใจเลือกที่จะรับนโยบาย หรือปฏิเสธนโยบายบนพื้นฐานของเหตุผล • พร้อมตอบรับนโยบาย โดยเป็นผู้ร่วมทุน (Matching Fund) ทำงานกับรัฐในชุมชน • พร้อมปฏิเสธนโยบาย โดยสามารถเป็นผู้ระดมทุนร่วมกันเองภายในชุมชน • ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย คือ “ความพอเพียงบนพื้นฐานการมีส่วนร่วม” และ “การสร้างกระบวนเรียนรู้ร่วมกัน” ระหว่างผู้ใช้นโยบายและผู้รับผลนโยบาย 30

More Related