130 likes | 363 Views
ทรัพยากรพลังงานและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี. เศรษฐกิจไทยยืนหยัดสู้ต่อไปได้ เพราะเรามีความมั่นคงด้านพลังงาน พ.ศ. 2541 ไทยผลิตปิโตรเลียม (ก๊าซ + น้ำมัน) ได้เท่ากับ 40% ของ Demand 76% ของกระแสไฟฟ้าผลิตมาจากแหล่งพลังงาน ภายในประเทศ (ได้แก่ ก๊าซ ถ่านหินลิกไนท์ พลังน้ำ).
E N D
ทรัพยากรพลังงานและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทรัพยากรพลังงานและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี • เศรษฐกิจไทยยืนหยัดสู้ต่อไปได้เพราะเรามีความมั่นคงด้านพลังงาน • พ.ศ. 2541 ไทยผลิตปิโตรเลียม (ก๊าซ + น้ำมัน)ได้เท่ากับ 40% ของ Demand • 76% ของกระแสไฟฟ้าผลิตมาจากแหล่งพลังงานภายในประเทศ (ได้แก่ ก๊าซ ถ่านหินลิกไนท์ พลังน้ำ)
ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบช่วยกระตุ้นและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่เศรษฐกิจของชาติก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบช่วยกระตุ้นและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่เศรษฐกิจของชาติ • โรงแยกก๊าซ โรงกลั่นน้ำมัน อุตสาหกรรมปิโตรเคมี • Eastern Seaboard Development • Southern Seaboard Development • Western Border Development • Indonesia – Malaysia – Thailand Growth Triangle (IMT – GT)
วิวัฒนาการปิโตรเลียมของไทย (1) • 2514 ประกาศใช้กฎหมายปิโตรเลียม กรมทรัพยากรธรณีกำหนดเขตแปลงสำรวจ เชิญชวนเอกชนขอสัมปทาน • 2517 พบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย • 2521 สัญญาซื้อขายก๊าซฉบับแรก วางท่อก๊าซยาวที่สุดในทะเล อก. ก่อตั้ง ปตท. (อชพ. + อกธ.) • 2524 ยุคโชติช่วงชัชวาล เริ่มผลิตก๊าซเป็นครั้งแรก โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมแห่งแรกที่บางปะกง
วิวัฒนาการปิโตรเลียมของไทย (2) • 2526 ผลิตน้ำมันดิบบนบกจากแหล่งสิริกิติ์ จ. กำแพงเพชร • 2527 โรงแยกก๊าซ LPG โรงแรกเดินเครื่อง ที่มาบตาพุด • 2528 แผนแม่บทพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก • 2529 กำเนิดโครงการปิโตรเคมี (NPC – I) • 2533 เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในภาคอีสาน จากแหล่งน้ำพอง จ. ขอนแก่น • 2536 ปตท.สผ. นำหุ้นเข้าจำหน่ายใน ตลาดหลักทรัพย์
วิวัฒนาการปิโตรเลียมของไทย (3) • 2538 โรงแยกก๊าซโรงที่สี่ เปิดเดินเครื่องในภาคใต้ ที่ขนอม จ. นครศรีธรรมราช เปิดประตูสู่ Southern Seaboard • 2539 - ท่อก๊าซคู่ขนานในทะเลเส้นที่สองสร้างเสร็จ เพิ่มกำลังส่งเป็น 2000 MMCFD - พบก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วม ไทย–มาเลเซีย (JDA) • 2541 นำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่า เชื่อมโยงโครงข่ายท่อก๊าซถึงกันระหว่าง ตะวันออก – ตะวันตกของประเทศไทย
พ.ศ. 2542 (1) • ไทยผลิต - ก๊าซธรรมชาติ 1,800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน - น้ำมันดิบ/ก๊าซธรรมชาติเหลว 80,000 บาเรล/วัน • ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ปีละ 8,516 ล้านบาท • ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ปีละ 5,300 ล้านบาท • ปตท. เป็นรัฐวิสาหกิจชั้นดีเยี่ยม & นำกำไรส่งคืนรัฐ ปีละ 4,986 ล้านบาท
พ.ศ. 2542 (2) • อบต. ในเขตสัมปทานที่ผลิตปิโตรเลียมบนบกได้ส่วนแบ่ง 20% ของค่าภาคหลวง • อบจ. ของจังหวัดที่มีเขตสัมปทานที่ผลิตปิโตรเลียมบนบก ได้ส่วนแบ่ง 30% ของค่าภาคหลวง • ปริมาณสำรองก๊าซของไทยมีพอใช้ ณ ระดับการผลิตปัจจุบัน ไปอีกนานกว่า 37 ปี
ปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติไทยปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติไทย Proved + Probable Reserves(ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต) • แหล่งก๊าซภายในประเทศ 13.30 • แหล่งก๊าซที่มีสัญญานำเข้าจากพม่า 6.49 • แหล่งก๊าซ JDA ไทย – มาเลเซีย 4.77(เฉพาะส่วนครึ่งหนึ่งของไทย) รวม 24.56
ผลิตก๊าซ 1,800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จะใช้ได้นาน 37 ปี ถ้าผลิต 2,400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จะใช้ได้นาน 28 ปี ถ้าผลิต 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จะใช้ได้นาน 22 ปี • แหล่งก๊าซและน้ำมันในอนาคตที่อาจพบเพิ่มเติม : • พื้นที่ 4,100 ตร.กม. ที่กลับมาเป็นของไทยจากการแบ่งเขตทางทะเลไทย - เวียดนาม(ปตท.สผ. เริ่มสำรวจแล้วตั้งแต่ปี 2541) • พื้นที่ไหล่ทวีปทับซ้อนในทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา(ยังไม่ได้เริ่มเจรจาหาข้อยุติ)
ข้อมูล รายได้ของรัฐจากทรัพยากรธรณีอื่น ๆ ที่มิใช่ปิโตรเลียม • ค่าภาคหลวงแร่ทุกชนิด = 810 ล้านบาท/ปี • ค่าธรรมเนียมการใช้ = 700 ล้านบาท/ปีน้ำบาดาล ในเขตควบคุมฯ
อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (1) • เป็น Synergy เกื้อกูลกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม • ใช้วัตถุดิบมาจากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติหรือการกลั่นน้ำมัน • สร้างมูลค่าเพิ่ม/ทดแทนการนำเข้า/สร้างรายได้ส่งออก/นำ High Technology มาใช้ • ไทยเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียน ที่มีอุตสาหกรรมปิโตรเคมีครบวงจร ทั้งขั้นต้น/ขั้นกลาง/ขั้นปลาย • เป็นฐานสนับสนุนอุตสาหกรรมพลาสติกและอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ ในประเทศ เช่น บรรจุภัณฑ์ อาหาร วัสดุก่อสร้าง รถยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้าและอีเลคทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม และปุ๋ย
พ.ศ. 2539 มี :มูลค่า Export มูลค่า Import • (42,500 ล้านบาท) (50,000 ล้านบาท) < อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (2) • มูลค่าการผลิตและยอดขายรวมของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในไทยมีมากกว่า 115,000 ล้านบาทต่อปี • มีโรงงานขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) กว่า 5,000 โรง • มีการจ้างแรงงานทางตรงกว่า 130,000 คน • ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างภาษีอากรขาเข้าระหว่างวัตถุดิบต้นทางกับผลิตภัณฑ์ปลายทาง • ต้องการแรงงานที่มีทักษะและฝีมือ