1 / 24

การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ Computer Application for Business

การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ Computer Application for Business. สำราญ วานนท์ samranwanon@gmail.com Samrantim.blogspot.com. การนำอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้กับธุรกิจ.

sukey
Download Presentation

การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ Computer Application for Business

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ Computer Application for Business สำราญ วานนท์ samranwanon@gmail.com Samrantim.blogspot.com

  2. การนำอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้กับธุรกิจการนำอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้กับธุรกิจ • เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจมีการแข่งขันสูงมากดังนั้นผู้บริหารจะต้องตะหนักและเข้าใจเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ • เลือกเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับงานและบุคลากรในองค์กร • จะต้องทราบก่อนที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้คือ คุณสมบัติ ความสามารถ ความเหมาะสมของเทคโนโลยีเหล่านั้นกับการดำเนินธุรกิจและองค์กร รวมถึงเงินลงทุนและแนวโน้มในอนาคตด้วย

  3. เหตุผลของการนำอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้กับธุรกิจเหตุผลของการนำอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้กับธุรกิจ • 1. เพื่อให้ธุรกิจของตนเองพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทางอินเทอร์เน็ต • 2. เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเครือข่ายของธุรกิจ • 3. เพื่อให้ข้อมูลของบริษัทพร้อมให้ลูกค้าเข้ามาค้นหาได้ • 4. เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า • 5. ขยายผลและขอบเขตการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น • 6. ขจัดปัญหาด้านเวลาดำเนินการของธุรกิจ • 7. การขายสินค้าหรือบริการ • 8. การนำเสนอข้อมูลของธุรกิจแบบ Multi-media • 9. การตอบคำถามของลูกค้าที่เกิดขึ้นบ่อยๆ (Frequently Asked Questions)

  4. การนำ Web Services เข้ามาใช้กับธุรกิจ • ปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่ต้องการสินค้าหลากหลายและหลายๆ อย่างพร้อมกัน • เราสามารถประยุกต์ Web Services เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาดังกล่าวได้ (One Stop Service) • ตัว Web Service สามารถส่งผ่าน Firewall ได้เนื่องจาก SOAP ถูกส่งโดยผ่านโปรโตคอล HTTP • มีระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานของ PKI (Public Key Infrastructure) • ทําให้มั่นใจได้ว่าการใช้ Web Services เป็นเครื่องมือธุรกิจมีมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยรองรับ

  5. ชุดเครื่องมือที่สนับสนุนการพัฒนา Web Services แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ • 1. ชุดเครื่องมือที่สนับสนุนโดย Microsoft ตาม Platform ของ Microsoft .NET Framework • 2. ชุดเครื่องมือที่สนับสนุนโดย Sun Microsystems ตาม Platform ของ Sun ONE (Sun Open Net Environment) • 3. ชุดเครื่องมือที่สนับสนุนโดย IBM เช่น Web Services Toolkit • 4. ชุดเครื่องมืออื่นๆที่สนับสนุน SOAP, XMLทั้งที่เป็น Commercial Product และ Open Source

  6. ตัวอย่าง

  7. ตัวอย่าง

  8. การสร้าง Web Site ขององค์กรธุรกิจ • การที่จะสร้าง Web Site มีเครื่องมือมากมายตัวอย่างเช่น • 1. Java • 2. PHP • 3. ASP • 4. Groovy & Grails • 5. Ruby & Rails • 6. CMS ต่างๆ • อื่นๆ

  9. การสร้าง Web Site ขององค์กรธุรกิจ (ต่อ) • สิ่งที่จะต้องเตรียมหรือคำนึงในการที่จะมี Web Site • 1. การเช่าโฮสติ้ง พื้นที่เก็บข้อมูลของเว็บไซต์เรา • 2. การจดโดเมนแนะนำให้ใช้คำที่มันสอดคล้องกับธุรกิจเราหรือองค์กรเรา • 3. การดูแลบำรุงรักษา ให้ทันสมัยหรือเป็นข้อมูลปัจจุบัน • 4. ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่การเช่า การจดโดเมน การดูแล • 5. ความปลอดภัยของข้อมูล ความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์องค์กร • 6. การเลือกใช้เทคโนโลยี หรือเครื่องไม้เครื่องมือในการสร้าง

  10. Web 2.0 • มีลักษณะส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันข้อมูล การพัฒนาในด้านแนวความคิดการออกแบบที่เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง • ทำให้กลุ่มผู้ใช้งานสามารถปฏิสัมพันธ์และร่วมมือกันในลักษณะของสื่อสังคมออนไลน์ • ตัวอย่าง • บล็อก เครือข่ายสังคมออนไลน์ สารานุกรมเสรี วิดีโอแชริง โปรแกรมประยุกต์บนเว็บ

  11. Web 2.0

  12. ลักษณะและเทคโนโลยีที่แสดงถึงเว็บ 2.0 • Search หาข้อมูลจากคีย์เวิร์ด • Links โยงข้อมูลไปยังเว็บไซต์อื่น • Authoring สามารถสร้างหรือแก้ไขข้อมูลร่วมกันได้ ในวิกิผู้ใช้สามารถ เพิ่ม แก้ไข หรือลบข้อมูล ในบล็อกผู้ใช้สามารถโพสต์คอมเมนต์ได้ • Tags จัดหมวดหมู่ให้กับข้อมูลโดยใช้แท็ก - คำสั้นๆ ใช้อธิบายว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร • Extension ส่วนเสริมสำหรับเว็บแอปพลิเคชั่น รวมถึงซอฟต์แวร์จำพวก อะโดบี จาวา ซิลเวอร์ และอื่นๆ • Signals เทคโนโลยีที่แจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา เช่น RSS Atomเป็นต้น

  13. ตารางเปรียบเทียบ Web 1.0 กับ Web 2.0

  14. สร้าง Blog ด้วย Blogger

  15. สร้าง Blog ด้วย Blogger (cont.)

  16. สร้าง Blog ด้วย Blogger (cont.)

  17. สร้าง Blog ด้วย Blogger (cont.)

  18. หลักการทำ SEO ให้กับ Blogspot • Title, Description ในส่วนของ Title สำคัญมากๆในการติดอันดับ เพราะ Botของ Google มันจะรู้ว่าเนื้อหาของบล๊อกเรามันเกี่ยวกับอะไร เช่นเกี่ยวกับ internet Marketing อาจจะตั้ง Title ว่า “Internet Marketing in Thailand” ส่วน Description เป็นการบอกว่า Title ของเรานั้นเกี่ยวข้องกับอะไร เป็นการใส่รายละเอียดให้กับ Title ของเราครับ แต่ส่วนนี้ไม่ค่อยสำคัญมากเท่าไร

  19. หลักการทำ SEO ให้กับ Blogspot (cont.) • เนื้อหา (Content) “Content is King, Link is Queen” เนื้อหาย่อมสำคัญกว่า Links ถ้าอยากให้อันดับดีๆ ก็อย่า Copy บทความหรือเนื้อหาเขามา จะเอามาก็ดัดแปลงนิดนึงก็ยังดี เพราะสิ่งที่ Google รู้แล้ว มันก็จะไม่สนใจมากนัก เขียนเนื้อหาเองทั้งหมดจะถูกใจ Google มากๆ ให้พยายามเขียนเนื้อหาที่กำลังเป็นที่นิยม หรือกำลังมีคน Search มากๆอยู่ ใส่ Keyword ลงไปพอประมาณ ไม่ต้องยัด Keyword มากเดียวซวย เพราะ Botมันฉลาดกว่าที่คิด พยายามเขียนเนื้อหาที่เกี่ยวกับ Title ให้มากที่สุด อย่านอกเรื่องมากนักน้อง Botจะงงเอา ที่สำคัญอย่าสร้างเนื้อหาให้ Botงง เขียนเรื่องนึง หมายถึงอีกเรื่องนึง มันไม่ดีนะครับ มันจะทำให้ Botเก็บข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับ Keyword หรือ Title ของเราไปเยอะกว่าเนื้อหาหลักของเราครับ

  20. หลักการทำ SEO ให้กับ Blogspot (cont.) • ใส่ Tagต่างๆเพื่อให้ Botเข้าใจง่ายขึ้น ใส่ Tag ต่างๆที่สำคัญเพื่อเน้น Keyword ให้ Botสนใจมากขึ้น เช่น <strong> ทำตัวหนาให้ Keyword, Tag <p> ทำพารากราฟให้กับเนื้อหา ใส่ <ul>,<li> ให้ Botมันไต่ง่ายๆ

  21. หลักการทำ SEO ให้กับ Blogspot (cont.) • ทำ Text Link ไปยังเว็บที่น่าเชื่อถือหรือที่เกี่ยวข้องกับ Keyword เหมือนกับเราอ้างอิงเนื้อหาของเว็บเราไปยังเว็บที่น่าเชื่อถือ เช่น “หลังจากที่ทดลองขายสินค้าใน Amazon ก็พบว่าจากแบรนของ Amazon นั้นสามารถขายสินค้าได้ง่ายๆ” ในการใส่ Text Link นั้นให้เราพยายามอย่า Link ไปยังเว็บอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและ Keyword ของเรา เช่น กำลังเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับการทำ SEO ก็ควรจะทำ Links คำว่า SEO ไม่ใช่ Link ไปที่อื่นและไม่ควรจะใส่มากเกินไป มันจะเหมือน Spam

  22. หลักการทำ SEO ให้กับ Blogspot (cont.) • จัดระเบียบเนื้อหาหมวดหมู่ให้ดี นับวันๆ Google ยิ่งจะทำให้ Botของตนเองนั้น สามารถเข้าใจความคิดความรู้สึกของคนดูเว็บให้มากที่สุด ดังนั้นการทำให้เว็บดูสะอาดตา จัดหมวดหมู่ชัดเจน คนเข้ามาแล้วรู้ทันทีว่าเว็บเราเกี่ยวข้องกับอะไร นั้นแหละครับ เป็นสิ่งที่ดีและสำคัญที่สุดของการทำ SEO เอาใจคนดูให้มากที่สุดครับ

  23. ปรับแต่ง Title ของ Blogger ให้ถูกหลัก SEO • ในการทำ Blogger ให้ถูกหลัก SEO ในส่วนของ Title ซึ่งจะต้องเป็นส่วนที่แสดงก่อนตามชื่อของแต่ละหัวข้อบทความ เมื่อคุณเข้า Edit Html ของ Template ของคุณจะพบกับ Code นี้ครับ ซึ่งจะอยู่ใสส่วนแรกดังรูปครับ

  24. ปรับแต่ง Title ของ Blogger ให้ถูกหลัก SEO (cont.) • ให้เราใส่โค้ดด้านล่างนี้แทนโค้ดที่ผมตีกรอบสีแดงด้านบน <b:if cond='data:blog.pageType == &quot;index&quot;'> <title><data:blog.title/></title> <b:else/> <title><data:blog.pageName/></title> </b:if>

More Related