1 / 21

วิวัฒนาการของเทคโนโลยี

วิวัฒนาการของเทคโนโลยี. ความหมายของวิวัฒนาการ วิวัฒนาการ (Evolution) หมายถึง การพัฒนาอย่างมีระบบตามธรรมชาติ และตามผลการทบของสิ่งแวดล้อมในสภาวะนั้นๆ วิวัฒนาการต้องใช้เวลา ไม่มีทางลัด ตัวแปรของวิวัฒนาการ คือ สิ่งแวดล้อม

Download Presentation

วิวัฒนาการของเทคโนโลยี

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. วิวัฒนาการของเทคโนโลยีวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ความหมายของวิวัฒนาการ • วิวัฒนาการ (Evolution) หมายถึง การพัฒนาอย่างมีระบบตามธรรมชาติ และตามผลการทบของสิ่งแวดล้อมในสภาวะนั้นๆ วิวัฒนาการต้องใช้เวลา ไม่มีทางลัด ตัวแปรของวิวัฒนาการ คือ สิ่งแวดล้อม • วิวัฒนาการ (Evolution) เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงหรือคลี่คลายไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นหรือเจริญขึ้น เป็นเปลี่ยนแปลงในทางชีววิทยาจากสิ่งที่ง่าย ๆ ไปสู่สิ่งที่ยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้จะต้องเปลี่ยน ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และต้องใช้เวลานาน

  2. สรุปได้ว่าวิวัฒนาการ เป็นการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเผชิญกับสภาวะวิกฤต ทำให้ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพื่อทำได้ดีขึ้น ซึ่งมีด้วยกันหลายด้านเช่น วิวัฒนาการของเทคโนโลยี วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต • เทคโนโลยี เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จัดระบบของความรู้นำไปสู่การปฏิบัติและนำไปสู่การแก้ไขปัญหา • วิวัฒนาการของเทคโนโลยี ก็คือการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบไปในทางที่ดีขึ้น

  3. วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี 1.วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีด้านการแพทย์ 2.วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีเกษตรกรรม 3.วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีวิศวกรรม

  4. 1.วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีด้านการแพทย์1.วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีด้านการแพทย์ ทุกสังคมของมนุษย์ความรู้เกี่ยวกับการรักษาโรคเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ การรักษาโรคเริ่มแรกตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์พบในประเทศอียิปต์ สมัยอาณาจักรเก่าของอียิปต์ บันทึกที่เขียนลงบนกระดาษพาไพรัส (เป็นกระดาษที่เก่าแก่ที่สุดของอียิปต์) ที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุประมาณ 2000 ปีก่อนศริสศักราชที่ได้กล่าวถึงการรักษาโรคสตรี และโรคเด็ก สมัยโบราณ คือ ฮิปโปรเครตีส (hippocretes) เอมพรีโดคริส(Empedocles 490-430 ก่อนศริสศักราช มีการตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้นที่เกาะคอส (Cos)

  5. ฮิปโปรเครตีส (460-377 ก่อนศริสศักราช : ตำราชุดเกี่ยวกับการรักษาและงานวิจัยทางการแพทย์ (hippocretes collection) • อริสโตเติล ( 384-322 ก่อนคริสศักราช) ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเจริญ สุงสุดของโรมัน • ประมาณ ค.ศ. 20 มีตำราทางการแพทย์ชื่อ De Medicine เกิดขึ้นที่โรม เขียนโดย เซลซัส (Celsus) • กาเลน (Galen) แพทย์ชาวกรีกผู้โด่งดังในกรุงโรมได้ทดลองทางสรีระศาสตร์ เขายอมรับวิธีการสอนทางการแพทย์ของฮิปโปรเครตีสและเอมพิโดครีส ในช่วงสมัยกลางจนถึงยุค Renaissance • สู่ยุโรป ต่อมายุโรปได้กลายเป็นศูนย์กลางของความรู้ปละการค้นพบของเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข

  6. จากการวางรากฐานโดยการนำเอาวิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาในการศึกษาทางการแพทย์ของแพทย์ในอดีต ได้นำไปสู่การศึกษาค้นคว้าที่ลงลึก และซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ประจวบเหมาะกับเทคโนโลยีด้านอื่นๆ ได้ช่วยสร้างเครื่องมือและสิ่งประดิษฐ์ที่เข้ามาช่วยในการอธิบายสิ่งที่ค้นพบมีน้ำหนักหน้าเชื่อถืออันเนื่องจากหลักฐาน ที่เห็นชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อเกือบ 300 ปีที่ผ่านมา

  7. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุขเกิดขึ้นจากการที่มนุษย์มีปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ การเจ็บป่วย และโรคระบาด เป็นแรงผลัดดันให้มนุษย์ต้องพยายามต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ยิ่งปัญหามากขึ้นเท่าไรแรงผลักดันที่จะต่อสู้ค้นหาวิธีการก็มากขึ้นเท่านั้น เราจะเห็นได้ว่ามนุษย์ได้มีความพยายามมาเรื่อยๆ

  8. ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อเสื่อม *การให้ยา *การทำกายภาพบำบัด *การฉีดยาเข้าไขสันหลัง *การฉีดน้ำไขข้อเทียม *การผ่าตัดโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี การผ่าตัดกระดูก และข้อด้วยวิธีการส่องกล้อง *การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเทียมด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี

  9. เลสิก ความก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์ ในสมัยก่อน เมื่อเราพบว่ามีสายตาผิดปกติ *สวมแว่นสายตาเพื่อแก้ไขความผิดปกติของสายตา *คิดค้นและผลิต คอนแทคเลนส์ ขึ้นมา *นำแสงเลเซอร์มาใช้แก้ไขความผิดปกติของสายตาได้ ทั้งสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง

  10. 2.วิวัฒนาการเทคโนโลยีเกษตรกรรม2.วิวัฒนาการเทคโนโลยีเกษตรกรรม • เทคโนโลยีกับการพัฒนาด้านการเกษตร ใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงพันธุ์ เป็นต้น เทคโนโลยีมีบทบาทในการพัฒนาอย่างมาก แต่ทั้งนี้การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาจะต้องศึกษาปัจจัยแวดล้อมหลายด้าน เช่น ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ความเสมอภาคในโอกาสและการแข่งขันทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เกิดความ ผสมกลมกลืนต่อการพัฒนาประเทศชาติและส่วนอื่นๆอีกมาก

  11. 1.ก่อนสมัยสุโขทัย วิวัฒนาการด้านการปลูกข้าวนั้น มีการค้นพบข้าวป่าที่เจียงสี ประเทศจีนและขยายสู่เอเชียอาคเนย์ ส่วนในประเทศไทยพบแกลบข้าวที่โนนนกทา 2.เทคโนโลยีการเกษตรสมัยสุโขทัย เทคโนโลยีการเกษตรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นเทคโนโลยีที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้แก่ ระบบเหมืองฝาย ซึ่งมีแก่ฝาย (นายฝาย) เป็นหัวหน้าดูแลระบบเหมืองฝายทั้งหมด

  12. 3. เทคโนโลยีการเกษตรสมัยอยุธยา ภาคกลางเป็นที่ราบลุ่มใช้ในการเพาะปลูกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศขณะนั้น ในทุกปีเกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่งและชาวนาจึงคิดค้นพันธุ์ข้าวลอยที่โตตามน้ำ 4. เทคโนโลยีการเกษตรสมัยกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พ.ศ.2310-2397) ลักษณะเด่นของการผลิตทางการเกษตรในช่วงนี้คือ มีการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น อ้อย ยาสูบ พริกไทย กาแฟ และผัก โดยมีการใช้ปุ๋ยชีวภาพในการปลูกพืช

  13. 5. เทคโนโลยีการเกษตรหลังสนธิสัญญาเบาริ่ง ถึงสิ้นรัชกาลที่ 5 การเปลี่ยนแปลงทางการเกษตรคือมีการทดลองใช้เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ประเภทเครื่องจักรกลการเกษตรในประเทศไทยครั้งแรก ในสมัย ร.5 สามารถสรุปได้ดังนี้ - กรรมสิทธิ์ในที่ดิน - ชาวนาถูกขูดรีดมากเกินไป - ปัจจัยด้านประชากรและโรคระบาด - ปัจจัยด้านการขนส่ง - ปัจจัยด้านการค้า - นโยบายของรัฐ

  14. กล่าวคือ ใน พ.ศ. 2423 กัปตันฮิก ชาวอังกฤษได้นำเอา รถไถมาใช้ไถไร่อ้อยมาใช้ในเมืองไทยครั้งแรก • พ.ศ. 2448 หมอฮันส์ อดัมเซน ได้ใช้เครื่องจักรไอน้ำไถ นา ในช่วงเดียวกันบริษัทกสิกรสยามได้นำเครื่องยนต์ที่ใช้ น้ำมันเบนซินและปิโตรเลียมมาไถนา • พ.ศ. 2450 นายยัวเกนเซน นำรถไถนามาทดลองใช้ แต่มี น้ำหนักมากเกินไปจึงไม่เป็นที่นิยม

  15. 3.วิวัฒนาทางเทคโนโลยีวิศวกรรม3.วิวัฒนาทางเทคโนโลยีวิศวกรรม พัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางด้าน คอมพิวเตอร์ เมื่อ 50 ปีที่แล้วมา มีคอมพิวเตอร์ขึ้นใช้งาน ต่อมาเกิดระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่เกิดขึ้นมากมาย และมีแนวโน้มการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราสามารถแบ่งพัฒนาการคอมพิวเตอร์จากอดีตสู่ปัจจุบัน สามารถแบ่งเป็นยุคก่อนการใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิคส์ และยุคที่เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิคส์

  16. คอมพิวเตอร์ยุคแรก • อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูง เช่น มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC มาร์ค วัน

  17. อีนิแอค ยูนิแวค

  18. คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง • คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความจำ มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คนสามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดับสูงนี้ได้มีการพัฒนาและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน

  19. คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม • คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในมากมายทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะออกแบบซับซ้อนมากขึ้น และสามารถสร้างเป็นโปรแกรมย่อย ๆ ในการกำหนดชุดคำสั่งต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบควบคุมที่มีความสามารถสูงทั้งในรูประบบแบ่งเวลาการทำงานให้กับงานหลาย ๆ อย่าง

  20. คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ • คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับหมื่นนับแสนตัว ทำให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงสามารถตั้งบนโต๊ะในสำนักงานหรือพกพาเหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกันระบบซอฟต์แวร์ก็ได้พัฒนาขีดความสามารถสูงขึ้นมาก มีโปรแกรมสำเร็จให้เลือกใช้กันมากทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานอย่างกว้างขวาง

  21. คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า • คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยายามนำมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความรอบรู้ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง สามารถเรียกค้นและดึงความรู้ที่สะสมไว้มาใช้งานให้เป็นประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นผลจากวิชาการด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรปกำลังสนใจค้นคว้าและพัฒนาทางด้านนี้กันอย่างจริงจัง

More Related