1 / 33

การ จัดการเรียนรู้โดยใช้ เพลง วิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

การ จัดการเรียนรู้โดยใช้ เพลง วิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา. เสนอ. อาจารย์ สุวิ สาข์ เหล่าเกิด. จัดทำโดย. 1. นางสาวขวัญชนก วิโย เลขที่ 3 ปี 3 กลุ่ม 3 2. นายเกษมสันต์ ตะดวงดี เลขที่ 30 ปี 3 กลุ่ม 3 สาขาวิชา การศึกษาปฐมวัย คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์

steel-rivas
Download Presentation

การ จัดการเรียนรู้โดยใช้ เพลง วิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การจัดการเรียนรู้โดยใช้เพลงวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาการจัดการเรียนรู้โดยใช้เพลงวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

  2. เสนอ อาจารย์สุวิสาข์ เหล่าเกิด

  3. จัดทำโดย 1.นางสาวขวัญชนก วิโย เลขที่ 3 ปี 3 กลุ่ม 3 2.นายเกษมสันต์ ตะดวงดี เลขที่ 30 ปี 3 กลุ่ม 3 สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม

  4. วีดีโอการจัดการเรียนรู้โดยใช้เพลงวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

  5. ความหมาย เพลง หมายถึง บทประพันธ์ที่มีทำนองใช้ขับร้องหรืออาจจะมีดรตรีประกอบด้วยซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของคนทุกชาติ เป็นสิ่งจรรโลงใจทำให้ทุกคนเกิดอารมณ์คล้อยตามได้ง่ายที่สุด (วิจิตรา เจือจันทร์, 2533: 28)ซึ่งผู้สอนสามารถนำมาเป็นสื่อหลักหรือสื่อเสริมในการจัดการเรียนการสอนได้

  6. ทฤษฎีแนวคิด/แนวคิด เพลงมีความสัมพันธ์กับมนุษย์มาตั้งแต่แรกเกิด เช่น เพลงกล่อมเด็กนอกจากนี้ยังมีเพลงที่แต่งไว้สำหรับเด็กๆ ร้องเกี่ยวกับสัตว์บ้าง เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยบ้าง เกี่ยวกับโอกาสและเทศกาลต่างๆ เช่น วันสงกรานต์ วันเกิด วันคริสต์มาส เป็นต้น

  7. ปัจจุบันได้นำเพลงมาใช้ในการเรียนการสอนเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากงานวิจัยเทปเพลงการศึกษาเกี่ยวกับเด็ก เพลงมีความสำคัญต่อจิตใจของผู้ฟัง ให้ความบันเทิงและลดความเครียด ผ่อนคลายอารมณ์ทำให้มนุษย์เกิดสุนทรียภาพทางอารมณ์ ทั้งเป็นสื่อหลักและสื่อเสริมพลังที่ครูนำมาใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งประโยชน์ของเพลงในด้านกิจกรรมการเรียนการสอนมีดังนี้

  8. 1.เพลงช่วยสร้างบรรยากาศในการเรียนให้สนุกสนาน ลดความตึงเครียดระหว่างครูกับนักเรียน หล่อหลอมลักษณะนิสัย จิตใจ ของนักเรียนให้อ่อนโยน 2.เพลงช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ บุคลิกภาพและด้านสังคมของนักเรียน

  9. 3.การเข้าสู่บทเรียน สรุปบทเรียนหรือทบทวนบทเรียน เพลงช่วยย้ำสิ่งที่เรียนไปแล้ว เช่น คำศัพท์ รูปประโยค กฎไวยากรณ์บางเรื่อง เช่น เกี่ยวกับกาล (tense) ต่างๆ 4.เพลงช่วยพัฒนาทางด้านภาษา ซึ่งเป็นการฝึกการฟังให้เข้าใจข้อความในเนื้อเพลงพร้อมทั้งเป็นการฝึกการออกเสียง เชื่อมคำ และจังหวะไปในตัว ทำให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจ ที่สามารถร้องเพลงได้ ซึ่งเป็นการปลูกฝังให้เด็กมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนและช่วยส่งเสริมให้การเรียนดีขึ้น

  10. 5.เพลงให้ความรู้หลากหลายแกนักเรียน เช่น วัฒนธรรม สถานที่สำคัญ วันสำคัญเป็นต้น โดยออาจใช้เพลงเป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนา หรืออภิปรายเนื้อหาที่บรรจุอยู่ในเพลง

  11. สรุปได้ว่าเพลงมีประโยชน์ทางด้านอารมณ์ บุคลิกภาพ สังคมและการเรียนการสอน ทำให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนการสอน นักเรียนได้รับความรู้จากเพลง และเรียนจากเพลงด้วยความสนุกสนานดังนั้นครูจึงนำเพลงไปสอดแทรกได้เกือบทุกวิชา

  12. แนวทางการจัดการเรียนรู้แนวทางการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมที่ใช้เพลงในการเรียนการสอน เจียรนัย พงษ์ศิวาภัย (2539: 52) ได้เสนอให้ผู้สอนว่าควรใช้เพลงเป็นเครื่องมือเพิ่มพูนประสบการณ์ โดยจัดกิจกรรมต่างๆดังนี้

  13. 1.เล่าเรื่อง หรือเล่าเรื่องที่สร้างขึ้นใหม่เกี่ยวกับเพลง • 2.เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเพลง • 3.ดัดแปลงเนื้อหาเป็นบทสนทนาสั้นๆ • 4.นำแบบประโยคในเพลง หรือนำประโยคดีๆ มาฝึกโครงสร้างทางไวยากรณ์

  14. 5.หาคำใหม่มาแทนในเพลง หรือประโยคดีๆ มาฝึกโครงสร้างทางไวยากรณ์ • 6.แสดงท่าทางประกอบจังหวะ • 7.สนทนาซักถามเกี่ยวกับเนื้อเพลงเหมือนกับ ถาม – ตอบ ในการอ่านเพื่อความเข้าใจ • 8.เขียนเนื้อเพลงลงสมุด

  15. ขั้นตอนการสอนเพลงประกอบการเรียนการสอนขั้นตอนการสอนเพลงประกอบการเรียนการสอน ขั้นตอนการสอนเพลงประพกอบการเรียนการสอนมีดังนี้ (วราภรณ์วราธิพร. 2543: 21) 1.ทบทวนหรือแนะนำโครงสร้างไวยากรณ์ที่ปรากฏอยู่ในเนื้อเพลง หรืออธิบายเนื้อหาของเพลง หรือใช้วัสดุอุปกรณ์ (visual Aids) หรือแสดงท่าทาง (action) และคำที่พ้องรูป หรือพ้องเสียง ตลอดจนคำที่สัมผัสกัน

  16. 2.เปิดเพลง 1 รอบครั้งแรก เพื่อให้นักเรียนคุ้นเคย • 3.ก่อนจะเปิดโอกาสให้นักเรียนเห็นเนื้อเพลงทั้งหมด ควรนำเนื้อเพลงทีละบรรทัดร้องแต่ละบรรทัดและให้นักเรียนร้องตาม ควรบันทึกเพลงทิ้งช่วงแต่ละบรรทัด

  17. 4. แจกเนื้อเพลงให้กับเด็กนักเรียน เปิดเพลงอีกครั้งตั้งแต่ต้น ในช่วงแรกให้นักเรียนอ่านเนื้อเพลงตาม เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับจังหวะ ทำนอง จากนั้นเปิดเพลงหลายๆครั้ง และชักชวนให้เด็กร้องเพลง • 5.หลังจากที่เด็กนักเรียนสามารถจับทำนองเนื้อร้องได้แล้ว นักเรียนก็สามารถร้องไปกับดนตรีที่ไม่มีเนื้อร้องหรือคาราโอเกะได้ ในช่วงแรกนักเรียนควรร้องเป็นกลุ่ม เมื่อมีความมั่นใจมากขึ้นจึงให้ร้องเป็นคู่หรือร้องเดี่ยว

  18. 6.นำเนื้อร้องมาสร้างกิจกรรม เปิดโอกาสให้นักเรียนทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับเพลง

  19. ขั้นตอนการร้องเพลงมีองค์ประกอบ 3 ประการ ดังนี้ • 1.การเลือกเพลงในการเลือกเพลงจะต้องคำนึงถึง • 1.1 ระดับชั้น วัย และความสามารถของผู้เรียน • 1.2 ความไพเราะ จังหวะของเพลง ไม่เร็วหรือช้าเกินไป • 1.3 ภาษาไม่ยาก คำที่อยู่ในเพลงชัดเจนและมีความหมาย • 1.4 เป็นเพลงที่ผู้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกและจินตนาการใกล้เคียงกัน สามารถร้องตามได้

  20. 2.การดำเนินการสอน การดำเนินการสอนมีหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เข้ากับบรรยากาศของชั้นเรียนได้ ดังนี้ • 2.1 แจกเนื้อเพลงแล้วอธิบายศัพท์ สำนวนหรือโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่จำเป็น • 2.2 เปิดเพลงให้ฟังเป็นครั้งที่ 2 ถ้าต้องการให้ผู้เรียนทำท่าประกอบหรือร้องตาม • 2.3 ถามคำถามทั่วๆไป เพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสฝึกทักษะ ฟัง พูด เช่น • 2.3.1 รู้สึกอย่างไรกับเพลงนี้? (มีความสุข โกรธ ว้าเหว่ เสียใจ) • 2.3.2 เพลงนำเสนอเกี่ยวกับอะไร? (ความรัก สงคราม ความเข้าใจผิด)

  21. 3.การประเมินผล • 3.1 เก็บเนื้อเพลงที่แจกไปครั้งแรกคืนมา แล้วแจกเนื้อเพลงที่ผู้สอนเตรียมเว้นคำที่เหมาะสมว่างไว้ เพื่อให้นักเรียนเติมขณะที่เปิดเพลงให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง • 3.2 ถามคำถามจากเนื้อหาของเพลง คำถามนี้อาจเป็นคำถามปากเปล่าหรือแบบให้เลือกตอบ (multiple choices) หรือแบบเติมคำหรือข้อความให้สมบูรณ์ (completion) • 3.3 อาจเป็นคำถามปลายเปิด (open-ended questions) เพื่อให้ผู้เรียนได้อภิปรายความคิดเห็น นักเรียนทุกคนต้องพยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนความคิดเห็นของตนเอง โดยไม่มีการตัดสินใจความคิดเห็นของนักเรียนคนใดผิดหรือของคนใดถูกและผู้สอนเป็นเพียงผู้ควบคุมชั้นเรียนเท่านั้น

  22. ข้อค้นพบจากการวิจัย จากการจัดการเรียนรู้โดยใช้เพลง มีข้อค้นพบจากการวิจัยดังนี้

  23. 1.การฟังและการออกเสียงSumie(2001) ได้นำเพลงไปใช้กับนักเรียนอาชีวะที่ต้องการสอบภาษาอังกฤษเพื่อรับใบประกาศทางภาษา เช่น TOEIC พบว่า การฟังเพลงเป็นวิธีการที่ดีในการฝึกฟัง เพื่อการออกเสียงที่ถูกต้อง นอกจากนี้เพลงยังเป็นสื่อที่กระตุ้นให้นักเรียนต้องการเรียนภาษาอังกฤษจากการฟังเพลงและเรียนด้วยความสนุกสนาน ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้าที่ไม่ได้ใช้เพลง

  24. 2.ผลสัมฤทธ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการสอน พันธ์ศรี สิทธิชัย (2529: 46) ได้วิจัยกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้เพลงประกอบการสอนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สูงกว่าการสอนตามคู่มือครู สุปราณี กัลปนารถ (2533: 40) ได้ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนที่เรียนวิชาภาษาไทยโดยไม่ใช้เพลงประกอบการสอน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนวิชาภาษาไทยโดยไม่ใช้เพลงประกอบการสอน รองเนือง ศุขสมิติ (2537: 47) ได้ศึกษาผลของการใช้เพลงเสริมบทเรียนวิชาภาษาอังกฤษกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร พบว่า นักเรียนที่สอนโดยใช้เพลงเสริม มีผลสัมฤทธิ์สูงกว่านักเรียนที่สอนตามคู่มือครู

  25. 3.แรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษและความสามารถด้านการฟังและการพูดวราภรณ์วราธิพร (2543: 47) ได้ศึกษาการใช้เพลงประกอบการสอนกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โปรแกรมสอนภาษา พบ่า นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษโดยการใช้เพลงประกอบการสอนเพิ่มขึ้นร้อยล่ะ 18.6 ความสามารถด้านการฟังและพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 24

  26. คำถามท้ายเรื่อง

  27. 1.ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการนำเพลงมาใช้ในด้านกิจกรรมการเรียนการสอน1.ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการนำเพลงมาใช้ในด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ก.เพลงช่วยสร้างบรรยากาศในการเรียนให้สนุกสนาน ข.เพลงช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ค.ช่วยให้เด็กเล่นและอยู่ร่วมกับสังคมในหมู่เพื่อนได้มากขึ้น ง.ช่วยให้เด็กพัฒนาทางด้านภาษา

  28. 2. ขั้นตอนการร้องเพลงมีองค์ประกอบกี่ประการ • 3 ประการ • 5 ประการ • 2 ประการ • 4 ประการ

  29. 3.ใครเป็นผู้บอกขั้นตอนการสอนเพลงประพกอบการเรียนการสอน • Sumie(2001) • สุปราณี กัลปนารถ (2533: 40) • รองเนือง ศุขสมิติ (2537: 47) • วราภรณ์วราธิพร(2543: 21)

  30. 4.ใครเป็นผู้นำเพลงไปใช้กับนักเรียนอาชีวะที่ต้องการสอบภาษาอังกฤษเพื่อรับใบประกาศทางภาษา • Sumie(2001) • สุปราณี กัลปนารถ (2533: 40) • รองเนือง ศุขสมิติ (2537: 47) • วราภรณ์วราธิพร(2543: 21)

  31. 5.ข้อใดไม่ใช่ข้อค้นพบจากการวิจัย5.ข้อใดไม่ใช่ข้อค้นพบจากการวิจัย • การฟังและการออกเสียง • ผลสัมฤทธ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการสอน • แรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษและความสามารถด้านการฟังและการพูด • การดำเนินการสอน

  32. สิ้นสุดการนำเสนอ

More Related