1 / 29

Lecture 8 TCP/IP

Lecture 8 TCP/IP. TCP / IP คืออะไร ??.

oscar-walsh
Download Presentation

Lecture 8 TCP/IP

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Lecture 8TCP/IP

  2. TCP / IP คืออะไร?? การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น จำเป็นจะต้องมีภาษาสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol)เช่นเดียวกับคนเราที่ต้องมีภาษาพูดเพื่อให้สื่อสารเข้าใจกันได้ ในระบบอินเทอร์เน็ต จะใช้ภาษาสื่อสารมาตรฐานที่ชื่อว่า TCP/IP TCP ย่อมาจากคำว่า Transmission Control Protocol IP ย่อมาจากคำว่า Internet Protocol

  3. TCP / IP คืออะไร?? เป็นชุดของโปรโตคอลที่ถูกใช้ในการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันแพร่หลายมากในปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถใช้สื่อสารจากต้นทางข้ามเครือข่ายไป ยังปลายทางได้ และสามารถหาเส้นทางที่จะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมัติ ถึงแม้ว่าในระหว่าง ทางอาจจะผ่านเครือข่ายที่มีปัญหา โปรโตคอลก็ยังคงหาเส้นทางอื่นในการส่งผ่านข้อมูลไปให้ถึง ปลายทางได้ ภาษาสื่อสารมาตรฐานที่ชื่อว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เป็นภาษาหลักดังนั้นหากเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นเครื่องระดับไมโครคอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ หรือเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ก็สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้

  4. การทำงาน ในการส่งข้อมูลผ่านทางTCP/IPนั้น TCP/IPจะทำการแบ่งข้อมูลนั้นๆ ออกเป็นส่วนย่อยๆ ซึ่งเรียกว่า แพ็กเกต (Packet)โดยแต่ละส่วนจะถูกเพิ่มข้อมูลบอกตำแหน่งต้นทาง และปลายทางที่จะส่งไว้ให้ จากนั้น แพ็กเก็ตเหล่านี้จะถูกส่งกระจายผ่านไปยังเส้นทางต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันใน ระบบตามเส้นทางที่สามารถส่งถึงปลายทางได้ โดยแต่ละแพ็คเก็ตไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับหรือ ไปตามเส้นทางเดียวกัน ซึ่งในระบบจะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า เร้าเตอร์ (Router) จะเป็นตัวคอยจัดหาเส้นทางที่ดีที่สุดให้กับทุกแพ็คเก็ต เมื่อไปถึงผู้รับที่ปลายทางแล้ว แพ็กเกตจะมารวมกันเป็นข้อความยาว ๆ เหมือนเดิม แต่ถ้าแพ็กเกตใดขาดหายหรือตกหล่น คอมพิวเตอร์ก็จะตรวจสอบ และส่งแพ็กเกตมาใหม่จนข้อมูลครบเหมือนเดิม

  5. โครงสร้างของTCP/IP

  6. ประโยชน์ ประโยชน์ของโปรโตรคอล TCP/IP หรือ ระบบอินเทอร์เน็ตนั้น ปัจจุบันมีประโยชน์อย่างมากมายเช่น 1 การนำระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้ในงานสถาปานิก เพื่อในการอ่านข้อมูลการแปลงไฟล์ข้อมูล และโปรแกรมต่างๆที่สามารถให้มองเห็นรูปร่างหรือโครงสร้างอาคารต่างๆในรูปแบบ 3 มิติได้ 2 การนำระบบอินเทอร์เน็ต มาใช้ในระบบการเรียนการสอน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาตลอดจนผู้ที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการ และเป็นการเปิดโลกกว้างทางความคิดให้กับเด็กๆอีกทาง 3 การนำระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้ในหน่วยงานต่างๆ เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างองค์กร เป็นต้น

  7. TCP/IP เป็นโปรโตคอลหลักในอินเตอร์เน็ต ทำให้มาตรฐานของ TCP/IP เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง และมีผู้ใช้รับส่งข้อมูลมากที่สุดในปัจจุบัน

  8. TCP/IP TCP/IP ถูกสร้างขึ้นโดยการอ้างอิงจาก มาตรฐานของ OSI Model (Open System Interconnection) TCP/IP มีการแบ่งโปรโตคอลสื่อสารออกเป็น 4 ชั้น ทำให้สามารถเปรียบเทียบกับ OSI Model ได้ง่าย เรียกลำดับชั้นของ TCP/IP ว่า “ TCP/IP Stack ” แต่ละชั้นมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน

  9. Process Layer (FTP, Telnet, SNMP) Host – to - Host Layer (TCP) Internet Layer (IP) Network Interface (IEEE 802.3, 802.5) โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP

  10. Process Layer (FTP, Telnet, SNMP) Host – to - Host Layer (TCP) Internet Layer (IP) Network Interface (IEEE 802.3, 802.5) โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP ชั้นบน เรียกว่าProcess Layer เป็น ApplicationProtocol ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับผู้ใช้ และให้บริการต่าง ๆ เช่น FTP, Telnet, SNMP ฯลฯ

  11. Process Layer (FTP, Telnet, SNMP) Host – to - Host Layer (TCP) Internet Layer (IP) Network Interface (IEEE 802.3, 802.5) โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP ชั้นถัดมา เรียกว่า Host-to-Host Layerจะเป็น TCP หรือ UDP ทำหน้าที่คล้ายกับ Layer ที่ 4 ของ OSI Model คือ ควบคุมการรับ-ส่งข้อมูลจากปลายด้านส่งถึงปลายด้านรับข้อมูล และตัดข้อมูลออกเป็นส่วนย่อยให้เหมาะกับเครือข่ายที่ใช้รับส่งข้อมูลรวมทั้งประกอบข้อมูลส่วนย่อย ๆ นี้เข้าด้วยกันเมื่อถึงปลายทาง

  12. Process Layer (FTP, Telnet, SNMP) Host – to - Host Layer (TCP) Internet Layer (IP) Network Interface (IEEE 802.3, 802.5) โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP ชั้นถัดลงมา เรียกว่าInternet Layer ได้แก่ ส่วนของโปรโตคอล IP ทำหน้าที่คล้ายกับ Layer ที่ 3 ของ OSI Model คือ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบเครือข่ายที่อยู่ชั้นล่างลงไป และทำหน้าที่เลือกเส้นทางการรับส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์เครือข่ายต่าง ๆ จนไปถึงผู้รับข้อมูล ในชั้นนี้จะจัดการกับกลุ่มข้อมูลในลักษณะที่เรียกว่า Frame ในรูปแบบของ TCP/IP ที่เรารู้จักกันนั่นเอง

  13. Process Layer (FTP, Telnet, SNMP) Host – to - Host Layer (TCP) Internetwork Layer (IP) Network Interface (IEEE 802.3, 802.5) โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP ชั้นสุดท้ายที่อยู่ล่างสุด เรียกว่าNetwork Interface คือ ชั้นที่ควบคุมฮาร์ดแวร์การรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย ซึ่งเทียบได้กับ Layer ที่ 1 และ 2 ของ OSI Model ในชั้นนี้จะทำหน้าที่เชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ และควบคุมการรับส่งข้อมูลในระดับฮาร์ดแวร์ของเครือข่าย ซึ่งที่ใช้กันอยู่จะเป็นตามมาตรฐานของ IEEE เช่น IEEE 802.3 จะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน LAN แบบ Ethernet LAN หรือ IEEE 802.5 จะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน LAN แบบ Token Ring

  14. TCP/IP Stack OSI 7-Layer Model Process Layer (FTP, Telnet, SNMP) Application Layer Presentation Layer Session Layer Host – to - Host Layer (TCP) Transport Layer InternetLayer (IP) Network Layer DataLink Layer Network Interface (IEEE 802.3, 802.5) Physical Layer TCP/IP โปรโตคอล เทียบกับ OSI 7-Layer Reference Model

  15. โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP จริง ๆ แล้ว TCP/IP โปรโตคอลนั้นแบ่งออกเป็น 2 โปรโตคอลซ้อนกันอยู่ คือ TCP อยู่ชั้นบน IP อยู่ชั้นถัดลงมา TCP/IP จึงไม่ได้เป็นโปรโตคอลชนิดเดียวกันทั้งหมด และไม่ได้เชื่อมติดเป็นชิ้นเดียวกัน

  16. โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP TCP มีมาตรฐานของเฟรมที่ใช้รับส่งข้อมูลของมตัวเอง และมีหน้าที่ในการรับส่งข้อมูลแตกต่างไปจาก IP ซึ่งในการรับส่งข้อมูลนั้น เฟรมของ TCP ที่อยู่ชั้นบนทั้งหมดจะถูกผนึกอยู่ในส่วนที่เป็นข้อมูลของ IP เหมือนกับที่แต่ละชั้นของ OSI Model ผนึกข้อมูลในชั้นถัดไปนั่นเอง

  17. โครงสร้างของโปรโตคอล TCP/IP OSI Model ออกแบบมาให้เปิดกว้าง สามารถอ้างอิงถึงกันได้เป็นอย่างดีกับ TCP/IP โดย TCP จะเทียบได้กับประมาณ Layer ที่ 4 ของ OSI และ IP จะเทียบได้กับประมาณ Layer ที่ 3 ของ OSI แม้ว่าจะไม่ลงตัวกันพอดีนัก

  18. OSI / Internet Layer

  19. หน้าที่การทำงานของแต่ละ Layer 1. Physical layer : เคลื่อนย้าย bit ทาง transmission medium 2. Data Link layer : ส่ง datagram ผ่านทาง single link เช่น Ethernet หรือPPP (Point to point protocol) 3. Network layer : route datagram จากผู้ส่ง(source) ไปหายังผู้รับ(destination)ใช้ IP (Internet Protocol) ในการกำหนดจุดหมายปลายทาง 4. Transport layer : ส่ง message ระหว่าง client และ server ประกอบด้วย 2 protocol คือ TCP และ UDP 5. Application layer : จัดการทางด้าน application program เช่น Web, mail

  20. FTP,WWW,Mail DNS,NFS traceroute TCP UDP IP ICMP ARP, Device Driver UTP, Fiber optics, Radio wave Protocol / Media ในแต่ละ Layer

  21. IP Address • เป็นเลข 32 บิต (IPv4) จัดเรียงแบบ Big endian • อุปกรณ์ทุกชิ้นบนเครือข่ายจะต้องมีเลข IP ที่ไม่ซ้ำกัน • ใช้บอกเครือข่าย และ Host • Net ID 127 จะเป็น Loop Back เสมอ • Ureliable (Connectionless)

  22. IPv4 Address formats

  23. Netmask (Subnet) • Network เดียวกัน ต้องมี Subnet เหมือนกันเสมอ • Host ID = 0 เป็นหมายเลขเครือข่าย • Host ID = -1 เป็น Broad Cast Address

  24. Broadcast Address ksh-2.04$ ping -b -c2 161.200.93.255 WARNING: pinging broadcast address PING 161.200.93.255 (161.200.93.255) from 161.200.93.37 : 56(84) bytes of data. Warning: time of day goes back, taking countermeasures. 64 bytes from 161.200.93.37: icmp_seq=0 ttl=255 time=138 usec 64 bytes from 161.200.93.38: icmp_seq=0 ttl=255 time=257 usec (DUP!) 64 bytes from 161.200.93.1: icmp_seq=0 ttl=255 time=277 usec (DUP!) --- 161.200.93.255 ping statistics --- 2 packets transmitted, 2 packets received, +22 duplicates, 0% packet loss round-trip min/avg/max/mdev = 0.043/1.469/10.402/2.705 ms

  25. Address Resolution Protocol (ARP) ksh-2.04$ /sbin/arp Address HWtype HWaddress Flags Mask Iface 161.200.93.254 ether 00:E0:1E:4D:2C:40 C eth0 cpu.cp.eng.chula.ac.th ether 00:03:47:1B:81:03 C eth0 atlantic.cp.eng.chula.a ether 00:10:B5:54:28:99 C eth0 dhcp0-210.cp.eng.chula. ether 00:00:E2:4F:0A:C3 C eth0 cpu200.cp.eng.chula.ac. ether 08:00:20:85:68:C6 C eth0 pacific.cp.eng.chula.ac ether 00:50:8B:E9:14:1D C eth0 420-2.cp.eng.chula.ac.t ether 08:00:20:E9:02:55 C eth0 ksh-2.04$

  26. Interface Addresses

  27. client server 1. Connection establish 2. Data Transfer 3. Connection termination TCP

  28. Thank You…

More Related