1 / 9

Grain

Grain. of. sand. เม็ดทราย. เกรน ออฟ แซน. สมาชิกในกลุ่ม. น.ส. บุญฑ ริกา แสนหนองชาติ (ประธานกลุ่ม). น.ส.จริยา ทองแผ่น (รองประธานกลุ่ม). น.ส. ณัฐริกา สีแก้วน้ำใส (เลขา). นาย อภิสิทธิ์ ปะสาวะเท (เลขา). สู่. เจาะชั้นหิน. สุสานฟาโรห์ตุตันคามุน. ประวัติของ ตุตันคามุน.

nowles
Download Presentation

Grain

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Grain • of • sand • เม็ดทราย • เกรน ออฟ แซน

  2. สมาชิกในกลุ่ม น.ส. บุญฑริกา แสนหนองชาติ (ประธานกลุ่ม) น.ส.จริยา ทองแผ่น (รองประธานกลุ่ม) น.ส. ณัฐริกา สีแก้วน้ำใส (เลขา) นาย อภิสิทธิ์ ปะสาวะเท (เลขา)

  3. สู่ เจาะชั้นหิน • สุสานฟาโรห์ตุตันคามุน

  4. ประวัติของ ตุตันคามุน ตุตันคามุนเป็นฟาโรห์ในราชวงศ์ที่ 18 ยุคราชธานีใหม่ของอียิปต์ ครองบัลลังก์ ประมาณระหว่างปีที่ 1336-1327 ก่อน ค.ศ. เข้าใจว่าพระองค์เป็นโอรสของอเคนาเตนฟาโรห์ผู้ปฏิวัติศาสนาจากการนับถือเทพหลายองค์ โดยมีอามุน-เรเป็นเทพสูงสุดนั้นมานับถือเทพองค์เดียวคืออาเตนผู้มีสัญลักษณ์ เป็นวงกลมดวงอาทิตย์ที่มีรัศมีเป็นสายยาว และมีพระมารดาซึ่งเป็นมเหสีรองที่ชื่อคียาพระนามเดิมของตุตันคามุนคือตุตันคาเตน (แปลว่า รูปอันมีชีวิตแห่งเทพอาเตน) เนื่องจากประสูติในสมัยที่พระบิดา หันมานับถือเทพอาเตนแล้ว ในวัยเยาว์ ตุตันคามุนทรงใช้ชีวิตที่เมืองอเคตาเตน (เทล เออลอมาร์นา ปัจจุบัน)เมืองหลวงใหม่ที่พระบิดาสร้างอุทิศแด่ เทพองค์ใหม่ ตุตันคาเตนขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ ยังทรงพระเยาว์มาก คือในราว 9-10 ชันษา และต่อมาก็อภิเษกกับอังเคเซนปาอาเตนพระเชษฐภคินีร่วมพระบิดาผู้เป็นพระธิดาของเนเฟอร์ติตีไม่นานนักตุตันคาเตนก็ทรงย้ายเมืองหลวง กลับมายังเมมฟิส เมืองหลวงดั้งเดิม เปลี่ยนศาสนากลับมานับถือเทพอามุน-เร และเทพอื่นๆ ดังเดิม รวมทั้งเปลี่ยนพระนามของพระองค์เองและของพระมเหสีเป็น ตุตันคามุน และอังเคเซนปาอามุนตามลำดับ เพื่อยืนยันการนับถือเทพอามุน ตุตันคามุนครองราชย์เพียงไม่กี่ปี ก็สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง 19-20 ชันษา พระศพถูกทำเป็นมัมมี่แล้วเก็บไว้ในสุสาน ณ หุบผากษัตริย์พร้อมข้าวของที่พระองค์ จะนำไปใช้ได้ในโลกหลังความตาย และของสักการะบูชาอื่นๆที่แล้วล้วนไปด้วยทองคำ รวมแล้วกว่า 3,000 ชิ้น

  5. ประวัติการขุดพบ ในปี ค.ศ1922 ณ บริเวณสุดท้ายที่ยังไม่เคยมีการขุดค้นใกล้ๆ สุสานของฟาโรห์ราเมซิสที่ 6 และในวันที่ 4 พฤศจิกายน 1922 นั่นเอง ขณะเด็กที่คอยแจกน้ำให้คนงาน โกยทรายกอบขึ้นมาตั้งเหยือกนั่นเอง เขาก็พบขั้นบันไดที่ทอดลงไปในชั้นหิน อันเป็นลักษณะเฉพาะของสุสานในราชวงศ์ที่ 18 คาร์เตอร์โกยดินหินออกไปจากขั้นบันได จนถึงประตูชั้นนอกที่ยังคงมีตราผนึกอยู่ อันหมายความว่าสุสานยังไม่เคยถูกเปิดเลย นับแต่การฝังพระศพเมื่อหลายพันปีก่อน ลอร์ดคาร์นาวอนบินด่วนจากอังกฤษมาร่วม ในการเปิดสุสาน แล้วคาร์เตอร์ก็สามารถเปิดประตูเข้าสู่ สุสานฟาโรห์ตุตันคามุน ที่ตระการตาไปด้วยข้าวของอันแล้ว ล้วนไปด้วยทองคำสุมแน่น โดยห้องชั้นในสุดมีเรือนทองคำ 4 ชั้นคลุมหีบศิลาที่บรรจุโลงทองคำอีก 3 ชั้นกว่าจะถึงมัมมี่พระศพฟาโรห์ที่มีหน้ากากทองคำ ฝังพลอยคลุมพระพักตร์อยู่อีกชั้นหนึ่ง

  6. การตรวจสอบร่างของพระองค์การตรวจสอบร่างของพระองค์ ตรวจสอบครั้งแรก คาร์เตอร์ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางกายวิภาค มาตรวจมัมมี่ตุตันคามุนในปี 1925 ผลการตรวจพระศพได้ข้อสรุปว่า ตุตันคามุน สิ้นพระชนม์ระหว่างพระชนมายุ 18-22 ชันษา พระองค์สูงประมาณ 5 ฟุต 6 นิ้ว ตรวจสอบครั้งที่สอง มัมมี่ตุตันคามุนถูกนำออกมาตรวจวิเคราะห์ อีก 2 ครั้งในปี 1968 และ 1978 ซึ่งผลที่พบเพิ่มเติมก็คือ เศษกระดูกแตก 2 ชิ้นในกะโหลกพระเศียร และพบว่า กระดูกพระอุระรวมทั้งซี่โครงด้านหน้าทั้งหมดหายไปทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่า ตุตันคามุนอาจสิ้นพระชนม์ด้วยการถูกตีเข้าที่ด้านหลังพระเศียร หรืออาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอันทำให้มีบาดแผลฉกรรจ์ ทางด้านหน้าพระอุระ ช่างทำมัมมี่จึงเอากระดูก ตรงนั้นออกไปเสีย

  7. ตรวจสอบครั้งล่าสุด ตรวจสอบครั้งล่าสุดเมื่อ 5 มกราคม 2005 โดยนําเครื่อง CT SCANNER ใส่รถบรรทุกไปจอดหน้าหุบผากษัตริย์ แล้วเชิญเสด็จตุตันคามุนออกมานอกสุสานอันนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3,300 ปี เพื่อเข้าเครื่องสแกนบนรถ (ครั้งแรก คาร์เตอร์เชิญเสด็จออกมาพร้อมโลงเพื่อผึ่งแดด โดยหวังว่าจะทําให้นํ้ามันยางละลาย) ภาพจากการสแกนที่ได้มาถูกนํามาศึกษาวิเคราะห์ และสรุปผล โดยผู้เชี่ยวชาญ สารพัดแขนง ทำให้เราทราบว่า พระองค์หาได้สิ้นพระชนม์จากการถูกตีหรือถูกของแข็งกระแทกที่พระเศียรอย่างที่หลายคนเชื่อกัน ผลการวิเคราะห์ทำให้เราทราบว่า รูที่ด้านหลังกะโหลกพระเศียรเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการทำมัมมี่ และสาเหตุที่อ้างอิงจากการพบร่องรอยดีเอ็นเอของปรสิตพลาสโมเดียม ฟาลซิพารัม (Plasmodium falciparum) หลายสายพันธุ์ทำให้เรารู้แน่ชัดว่าตุตันคามุนทรงติดเชื้อไข้มาลาเรีย และที่สำคัญคือทรงติดเชื้อชนิดร้ายแรงที่สุดหลายต่อหลายครั้งเสียด้วยอาจเป็นไปได้ว่า มาลาเรียคร่าชีวิตยุวกษัตริย์พระองค์นี้ เพราะโรคอาจไปกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ทำให้เกิดการช็อกของระบบไหลเวียนโลหิต (circulatory shock) อันนำไปสู่ภาวะตกเลือด ชัก โคม่า และสิ้นพระชนม์ในที่สุด อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์บางคนแย้งว่า มาลาเรียอาจเป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในยุคนั้นและตุตันคามุนน่าจะทรงมีภูมิคุ้มกันบ้างแล้ว

  8. เรื่องราวของกษัตริย์พระองค์นี้ยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกมากมายที่รอพวกเราไปพิสูจน์ “คลิกเลย” เอกสารอ้างอิง http://tik19143.wordpress.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99/ http://www.superjeew.com/webboard/viewtopic.php?p=48538&sid=f771b257d4009b9823369140b867894d http://www.oceansmile.com/Egypt/TutanKing.htm http://www.thairath.co.th/content/life/66188 http://www.artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=4755

  9. แล้วเจอกับกลุ่ม Grain • of • sand ใหม่อีกครั้ง bye

More Related