450 likes | 610 Views
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1. ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 255 2. เม็กซิโก เริ่มมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบสูงขึ้นผิดปกติ ตั้งแต่ 18 มีนาคม 2552 และมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.
E N D
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1 ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552
เม็กซิโก เริ่มมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบสูงขึ้นผิดปกติ ตั้งแต่ 18 มีนาคม 2552 และมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปลายเดือนเมษายน 2552 สหรัฐอเมริการายงานผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดสุกร (swine flu) ใน 2 มลรัฐที่มีชายแดนติดกับประเทศเม็กซิโก (แคลิฟอร์เนียและเท็กซัส)
ประกาศเตือนขององค์การอนามัยโลก (1) เมื่อวันที่ 25 เมษายน 52 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเม็กซิโก เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern : PHEIC )
วันที่ 27 เมษายน 52 ได้ประกาศปรับเตือนการระบาดจากเดิม ระดับ 3 เป็นระดับ 4 (มีการระบาดอย่างต่อเนื่องในระดับชุมชน) จากความรุนแรง 6 ระดับ แนะนำมาตรการว่า ไม่ควรจำกัดการเดินทางหรือปิดพรมแดน หากประชาชนมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ ควรเลื่อนการเดินทางระหว่างประเทศและหากเริ่มป่วยหลังจากการเดินทางระหว่างประเทศ ควรไปพบแพทย์ทันที การบริโภคเนื้อหมูหรือผลิตภัณฑ์จากหมูที่ปรุงสุก ไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ประชาชนทั่วไปควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำ บ่อยๆ และหากเริ่มมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ ควรไปพบแพทย์ ประกาศเตือนขององค์การอนามัยโลก (2)
วันที่ 29 เมษายน 2552 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศยกระดับการเตือนการระบาดเป็นระดับ 5 (มีการระบาดอย่างน้อย 2 ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน) เน้นย้ำให้ทุกประเทศเริ่มปฏิบัติการตามแผนเตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้น การค้นหาโรคได้รวดเร็ว การรักษาพยาบาล และการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลในสถานบริการสาธารณสุข 29 เมษายน 2552 WHO ประกาศเปลี่ยนชื่อจากเดิม Swine Influenza หรือไข้หวัดสุกร เป็น Influenza A (H1N1)เนื่องจากพบว่า เชื้อไวรัสที่พบเป็นสายพันธุ์ใหม่ ไม่เคยพบมาก่อนในโลก และการระบาดครั้งนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อนี้จากสุกร ประกาศเตือนขององค์การอนามัยโลก (3)
การตอบสนองต่อสถานการณ์ทั่วโลกการตอบสนองต่อสถานการณ์ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกเร่งประสานการผลิตวัคซีนป้องกันโรค ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ H1N1 ทั่วโลกมีการเตรียมพร้อม/ปฏิบัติตามแผนงานสำหรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ หลายประเทศออกประกาศแนะนำหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในประเทศที่เป็นแหล่งโรค และมีมาตรการคัดกรองผู้เดินทางระหว่างประเทศ มีการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางเข้าประเทศอย่างใกล้ชิด บางแห่งมีการกักกันผู้เดินทางจากพื้นที่ระบาดไว้ที่โรงแรม ประกาศหยุดราชการ/ห้ามการชุมนุม ในพื้นที่ระบาด อพยพคนจากพื้นที่ระบาด ลดเที่ยวบินไปยังพื้นที่ระบาด สำรองยาต้านไวรัส (โอเซลทามิเวียร์) แจกจ่ายยา/อุปกรณ์ป้องกันให้ประชาชน จำกัดการนำเข้าสุกร/ผลิตภัณฑ์จากสุกร รวมทั้งบางแห่งทำลายสุกร
สถานการณ์การรายงานขององค์การอนามัยโลกสถานการณ์การรายงานขององค์การอนามัยโลก ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2552 พบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1 จำนวน73 ประเทศ ผู้ป่วยยืนยันรวม 25,288 ราย เสียชีวิต 139 ราย (คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 0.55) สถานการณ์รายวัน ติดตามได้จากเว็บไซต์ กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.thหรือ องค์การอนามัยโลก www.who.int
แผนที่การกระจายของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1 ข้อมูลองค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 8 มิ.ย.52 รวมผู้ป่วยทั้งสิ้น 25,288 ราย ใน 73 ประเทศ เสียชีวิต 139 ราย
สถานการณ์การรายงานของประเทศไทย • ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.52 - 8 มิ.ย. 52 สธ.ประกาศพบผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) ชาวไทยจำนวน 10 ราย ซึ่งติดเชื้อมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เริ่มมีไข้หลังจากเดินทางมาถึงไทยในจำนวนนี้ 1 ราย ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ • ผู้ป่วย มีอาการไม่รุนแรง ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสครบชุด รายล่าสุดอาการทุเลาแล้ว • ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ได้รับยาต้านไวรัสครบชุดและติดตามเฝ้าสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง พบว่ากลายเป็นผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย (รายที่ 7)
การติดต่อและอาการของโรคการติดต่อและอาการของโรค เชื้อไวรัสอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ระยะฟักตัว: 1-3 วัน (อาจยาวนานได้ถึง 7 วัน) ช่องทางติดต่อ - โดยการถูกผู้ป่วยไอจามรดโดยตรง - รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ ระยะแพร่เชื้อ: 1 วันก่อนปรากฏอาการ จนถึงวันที่ 7 หลังวันเริ่มป่วย อาการ ใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ อาจมีอาการอาเจียน ท้องเสีย และหากมีอาการรุนแรงจะมีอาการปอดอักเสบรุนแรง หอบ หายใจลำบาก
การรักษา ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที ซึ่งแพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส คือ ยาโอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) เป็นยาชนิดกิน หากผู้ป่วยได้รับยาภายใน 2 วันหลังเริ่มป่วย จะให้ผลการรักษาดี
6. การระบาดกระจาย หลายภูมิภาคของโลก (Pandemic) 5. การระบาดขยายตัว ภายในประเทศ หรือ หลายประเทศ ในภูมิภาคเดียว 4. เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ติดต่อจากคนสู่คน มีผู้ป่วย/ตาย แต่ยังอยู่ในวงจำกัด 3. คนติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ และป่วย/ตาย แต่ยังไม่ ติดต่อจากคนสู่คน 2.เชื้อสายพันธุ์ใหม่ มีความเสี่ยงที่จะติดต่อ มายังคนสูงขึ้น ขั้นตอนการเกิดการระบาดใหญ่ (WHO 2005) 1. พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ในสัตว์ ความเสี่ยงในคนต่ำ 10 Sep 06
ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ปรับปรุง โดยองค์การอนามัยโลก (2009) ระดับที่ 5-6 / การระบาดใหญ่ หลังการระบาดระลอกที่มีผู้ป่วยสูงสุด ระดับที่ 4 หลังการระบาดใหญ่ ระดับที่ 1-3 เวลา มีความเป็นไปได้ ที่จะมีการระบาดระลอกถัดไป มีการแพร่กระจายเชื้อ จากคนสู่คนเป็นวงกว้าง การระบาดอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล มีการติดเชื้อในสัตว์/พบคนติดเชื้อจำนวนน้อย พบการติดต่อจากคนสู่คนอย่างต่อเนื่อง
ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ปรับปรุง โดยองค์การอนามัยโลก (2009) ระดับ 1 ไม่พบรายงานเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ ที่จะเป็นสาเหตุการเกิดโรคในคน ระดับ 2 เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ ทำให้เกิดการ ติดเชื้อเกิดขึ้นในคน และมีโอกาสทำให้เกิด การแพร่ระบาดของโรค
ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ระดับ 3 เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่กลายพันธุ์ ทำให้พบ ผู้ป่วยเป็นกลุ่มเล็ก การติดต่อระหว่าง คนสู่คนอยู่ในวงจำกัด เช่น การสัมผัส ใกล้ชิดระหว่างผู้ติดเชื้อกับผู้ดูแลผู้ป่วยที่ ไม่ได้มีการป้องกันการติดเชื้อ ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ปรับปรุง โดยองค์การอนามัยโลก (2009)
ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ระดับ 4เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่กลายพันธุ์จากการผสม ข้ามสายพันธุ์ (reassortant) สามารถทำให้เกิด การระบาดในระดับชุมชน มีความเสี่ยงของการ เกิดการระบาดใหญ่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้น ของความเสี่ยงของการเกิดการระบาดใหญ่ ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ปรับปรุง โดยองค์การอนามัยโลก (2009)
ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ระดับ 5 มีการแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวจากคนสู่ คนอย่างน้อย 2 ประเทศในภูมิภาคเดียวกันของ WHO ประเทศส่วนใหญ่ยังไม่มีการติดเชื้อ ระดับ 6 มีการระบาดของโรคในประเทศอื่นอย่างน้อย 1 ประเทศในภูมิภาคอื่นขององค์การอนามัยโลก นอกเหนือจากเกณฑ์ในระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับการ ระบาดใหญ่ไปทั่วโลก ระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ปรับปรุง โดยองค์การอนามัยโลก (2009)
การแพร่โรคจากผู้เดินทางระหว่างประเทศการแพร่โรคจากผู้เดินทางระหว่างประเทศ 21 Feb 08
โอกาสทองของ การควบคุมโรค ; Early phase Ro = 2 Later stage Ro = 4 16 Nov 05
นอกประเทศ ในประเทศ Phase 4 Phase 5 ; ;
นอกประเทศ ในประเทศ Phase 4 Phase 5 ; ; ยุทธศาสตร์ ป้องกัน สกัดกั้น โรคเข้าประเทศ เฝ้าระวังโรคเข้มข้น ค้นหาไว ควบคุมไม่ให้แพร่กระจาย ชะลอการระบาด ช่วยเหลือ บรรเทาความเสียหายและผลกระทบ
ครม. เห็นชอบ 10 กค. 2550 คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ไข้หวัดนกและ การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่ (รองนายกฯ) แผนยุทธศาสตร์ป้องกัน แก้ไข และเตรียมพร้อมรับปัญหาโรคไข้หวัดนก และการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2551-2553)
โครงสร้างคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ในปัจจุบัน (รองนรม.พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ เป็นประธาน) นายกรัฐมนตรี ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน คณะกรรมการอำนวยการฯ (รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน) ประสานกับองค์กรระหว่างประเทศ/ นานาชาติ WHO US CDC ….… กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
การเตรียมความพร้อมโดย ความร่วมมือพหุภาคี Multi-sector cooperation ภาคเอกชน Private ภาครัฐ Public ภาคบริการพื้นฐาน (Essential services) พลังงาน ไฟฟ้า น้ำประปา ขนส่ง คมนาคม สื่อสาร / IT การเงิน / ธนาคาร รักษาความปลอดภัย 22 Aug 07
การเตรียมพร้อม รับการระบาดใหญ่ ใช้หลายยุทธศาสตร์ ยาต้านไวรัส วัคซีน การดูแลผู้ป่วย อุปกรณ์ป้องกันตัว ด้านการ แพทย์/เวชภัณฑ์ (Medical/Pharma.) ส่งเสริมอนามัยบุคคล จำกัดการเดินทาง แยกกักผู้สัมผัสโรค จำกัดกิจกรรมทางสังคม ให้สุขศึกษา ประชาสัมพันธ์ ด้านสาธารณสุข/สังคม (Non-Pharmaceutical) ด้านเศรษฐกิจและสังคม (Social and economic systems - to keep the society running) รักษาความมั่นคง / กฎหมาย จัดหาอาหารและน้ำดื่ม จ่ายพลังงาน เชื้อเพลิง บริการคมนาคมขนส่ง บริการสื่อสารโทรคมนาคม จัดระบบการเงิน ธนาคาร Source: David Nabarro at APEC-HMM, Sydney 8 June 2007
นโยบาย นำนโยบายและแผน สู่การปฏิบัติ แผน ยุทธศาสตร์ ของประเทศ แผนปฎิบัติการ ของหน่วยงานต่างๆ ในภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ โครงการ / กิจกรรม แนวทางปฏิบัติ (Guidelines) มาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติ (SOPs) รองรับแผนปฏิบัติการ ในทุกภาคส่วน การซ้อมแผนความพร้อมทุกระดับ ซ้อมบนโต๊ะ (Tabletop) / ซ้อมปฏิบัติ (Drills)
แผนภูมิขั้นตอนการดำเนินงานเตรียมความพร้อมป้องกันแก้ไขและเตรียมความพร้อมรับปัญหาการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ สำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรี • เผยแพร่ • สู่ทุกภาคส่วน แผนยุทธศาสตร์ฯ ป้องกันแก้ไขและเตรียมพร้อมรับปัญหาไข้หวัดนก และการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2551-2553) • จัดทำแผน • โดยคณะทำงาน แผนปฏิบัติการแม่บท (Master Operation Plan) • ขอความเห็นชอบจาก ครม. • เผยแพร่สู่ทุกภาคส่วน • ทุกระดับ • ส่วนกลาง • ส่วนภูมิภาค • ท้องถิ่น/ชุมชน • แผนปฏิบัติการ • ภาครัฐ (ทุกกระทรวง) • ภาคเอกชน • ภาครัฐวิสาหกิจ • สนับสนุน • การจัดทำแผน • ในทุกภาคส่วน ดำเนินการเตรียม ความพร้อมตามแผน • อำนวยการ • ประสาน / สนับสนุน • กำกับติดตาม ทุกระดับ ทุกภาคส่วน วงจร การเตรียม ความพร้อม ซ้อมแผน ความพร้อม เป็นระยะ ปรับแผน เป็นระยะ
ระดับกรม เมื่อรัฐบาลพร้อม ปฏิทินการ ซ้อมแผนบนโต๊ะ ระดับประเทศ 8 มีค. 50 ระดับกระทรวง เริ่ม กค.. 49 เริ่ม มีนาคม 49 ทำแล้วทุกจังหวัด ระดับจังหวัด
แนวทางการป้องกัน และควบคุมโรค
มาตรการหลักตามแผนปฏิบัติการแม่บทการเตรียมความพร้อม สำหรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ การประสานสั่งการ การเตรียมพร้อมด้านปศุสัตว์ การเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข การสื่อสารประชาสัมพันธ์ การคมนาคม ขนส่ง เดินทางและการข้ามแดน การรักษาความสงบเรียบร้อยและการบรรเทาทุกข์ การร่วมมือพหุภาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศ การจัดทำแผนประคองกิจการภายในองค์กร
การดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุขการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุข เปิดศูนย์ปฏิบัติการ ทำการทุกวัน ตั้งแต่ 25 เม.ย. 2552 เร่งรัดและเพิ่มระดับความเข้มข้นการเฝ้าระวังโรค โดยสถานบริการสธ., ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วทั่วประเทศและอาสาสมัครสาธารณสุขทั่วประเทศเกือบ 1 ล้านคน เตรียมพร้อมด้านการตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการ ทราบผลตรวจใน 48 ชม. ด้วยเครือข่าย 14 แห่ง และรถตรวจเคลื่อนที่ 6 คัน พร้อมทั้งพันธมิตรทางห้องปฏิบัติการ เตรียมความพร้อมด้านการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ฝึกอบรมบุคลากรและเตรียมห้องแยกผู้ป่วยในรพ.ทุกแห่ง
สำรองเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ เตรียมพร้อมด้วยยาต้านไวรัสสำหรับผู้ป่วยกว่า 3 แสนคนแลพร้อมเพิ่มปริมาณการผลิต ในกรณีจำเป็นฉุกเฉิน ให้สุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อต่างๆ เช่น สื่อมวลชน เว็บไซต์ call center ตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินนานาชาติและมีแพทย์ประจำจุดตรวจ พร้อมส่งผู้ป่วยทันทีหากพบผู้ป่วยสงสัยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ เช่น เฝ้าระวังโรคในสถานศึกษา สายการบิน บริษัททัวร์ โรงแรม การซ้อมแผนทุกภาคส่วนระดับจังหวัด ร่วมกับก.การต่างประเทศชี้แจงข้อมูลและสร้างความมั่นใจให้กับสถานทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ประสานความร่วมมือกับ WHO และ ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข การดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุข
ภารกิจของสาธารณสุข สธ. ถือว่าการป้องกันไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ เป็นนโยบายสำคัญที่มีผลกระทบสูงเช่นเดียวกับ การดำเนินงานไข้หวัดนกและการเตรียมความพร้อมรับไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่ที่ผ่านมา ผู้บริหาร สธ. ให้ความสำคัญ และ ดูแลอย่างเต็มที่ สาธารณสุขจังหวัด ตรวจสอบสถานการณ์โรค ความพร้อมของระบบงาน และการสำรองเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้ออย่างเพียงพอ
ภารกิจของสาธารณสุข (ต่อ) ทบทวนและส่งเสริมทีม SRRT ทั้งด้านบุคลากรและทรัพยากร ให้เพียงพอ สื่อสารกับอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อช่วยค้นหาโรคในชุมชน ส่งเสริมความตระหนัก และบทบาทของประชาชน ในการป้องกันตนเอง ประสานงานอย่างใกล้ชิด ระหว่างสาธารณสุข ปศุสัตว์ และ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ผู้ที่เดินทางจากประเทศที่มีการระบาดผู้ที่เดินทางจากประเทศที่มีการระบาด นักท่องเที่ยว ประชาชนที่เดินทาง กลุ่มเสี่ยง • ผู้สัมผัสโรค • ครอบครัว ชุมชน • ผู้ให้บริการ : โรงแรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร
คำแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่มีการระบาดของโรค (1) หากมีอาการไข้ ขอให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สายการบินหรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพื่อให้การดูแลท่าน และประกันความปลอดภัยของผู้โดยสารคนอื่นในสนามบินและบนเครื่องบิน ประเทศไทย มีการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (Thermo Scanner)ที่สนามบินนานาชาติทุกแห่ง
คำแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่มีการระบาดของโรค (2) ผู้ที่ไม่มีไข้และไม่มีอาการป่วยควรสังเกตอาการตนเอง 7 วัน ระหว่างสังเกตอาการ หากท่านมีไข้ร่วมกับอาการใดอาการหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ไอ เจ็บคอ อาเจียน ถ่ายเหลว ให้หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น รีบสวมหน้ากากอนามัย หรือปิดปากและจมูกด้วยกระดาษ ทิชชูทุกครั้งที่ไอหรือจาม และล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ และไปพบแพทย์ พร้อมแสดงบัตรเตือนเรื่องสุขภาพที่ได้รับจากด่านควบคุมโรคที่สนามบิน เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียดต่อไป
คำแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่มีการระบาดของโรค (3) • หากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ควรหยุดงานหรือหยุดเรียน พักอยู่ที่บ้านหรือที่พัก และสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 7 วัน • ควรปิดปากปิดจมูกทุกครั้งด้วยผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชูทุกครั้งเมื่อท่านไอจาม และทิ้งลงในถังขยะ หรือสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กับผู้อื่น
บทบาทของสถานศึกษา (1) ขอให้ทางโรงเรียนและสถานศึกษาทุกแห่ง ตรวจสอบว่ามีนักเรียนหรือนักศึกษาที่มีประวัติเดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ หากพบ ขอให้สังเกตอาการตนเอง จนครบ 7 วันนับจากเดินทางกลับ ถึงประเทศไทย หากมีไข้ร่วมกับ อาการทางเดินหายใจ เช่น เจ็บคอ ไอ น้ำมูก ฯลฯ ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อรักษา และหยุดเรียนจนกว่าจะหายดี
บทบาทของสถานศึกษา (2) ตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่ขาดเรียนและสอบถามอาการนักเรียนในแต่ละวัน พบนักเรียนมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีนักเรียนขาดเรียนมากผิดปกติ (ตั้งแต่ 3 คน ในห้องเรียนเดียวกัน) หากสงสัยว่าขาดเรียนจากการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเขตรับผิดชอบ • เขตกรุงเทพมหานคร โทร. 0 2246 0358, 0 2245 8106 • นอกกรุงเทพมหานคร แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อสอบสวนและควบคุมโรคได้ทันการณ์
คำแนะนำสำหรับสถานศึกษา (2) ให้โรงเรียนจัดหาอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกในการล้างมือ เช่น อ่างล้างมือ สบู่ ฯลฯ และรณรงค์ส่งเสริม ให้นักเรียนล้างมืออย่างถูกต้อง กระทรวงสาธารณสุขจะสนับสนุนหน้ากากอนามัยจำนวนหนึ่ง เพื่อสำรองไว้ที่ห้องปฐมพยาบาล สำหรับให้นักเรียนที่ป่วยสวมป้องกันการแพร่เชื้อ
หากไม่มีความจำเป็น ควรชะลอการเดินทางไปยังประเทศที่เป็นพื้นที่เกิดการระบาดจนกว่าสถานการณ์จะยุติลง ถ้าจำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่เกิดการระบาด ให้หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ ติดตามข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางการในพื้นที่นั้นๆ อย่างเคร่งครัด คำแนะนำสำหรับประชาชน (1)
รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดย - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ดื่มน้ำ สะอาดและนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายอย่าง สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และสุรา - หมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการไอ จาม - หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ภายในบ้าน หรือสถานที่ทำงานเดียวกัน ต้องรีบแจ้งสำนักงาน สาธารณสุขหรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเพื่อเข้า ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดทันที คำแนะนำสำหรับประชาชน (2)
ติดตามประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดติดตามประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด ค้นหาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ -เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th - เว็บไซต์สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ http://beid.ddc.moph.go.th - เว็บไซต์กรมควบคุมโรค www.ddc.moph.go.th และหากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค หมายเลขโทรศัพท์ 0 2590 3333 และ สถาบันศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ โทร 025901994 ตลอด 24 ชั่วโมง คำแนะนำสำหรับประชาชน (3)