1 / 27

เทคนิคการประเมินประสิทธิภาพขององค์กร

เทคนิคการประเมินประสิทธิภาพขององค์กร. Balanced Scorecard (BSC). ศึกษาศาสตร์ การบริหารการศึกษา กลุ่มที่ 8 มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขา วิทย บริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดศรีสะ เกษ. ความหมายของ Balanced Scorecard (BSC).

lana
Download Presentation

เทคนิคการประเมินประสิทธิภาพขององค์กร

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. เทคนิคการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรเทคนิคการประเมินประสิทธิภาพขององค์กร Balanced Scorecard (BSC) ศึกษาศาสตร์ การบริหารการศึกษา กลุ่มที่ 8 มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดศรีสะเกษ

  2. ความหมายของ Balanced Scorecard (BSC) Balanced Scorecard (BSC) Kaplan และ Norton ได้ให้นิยามล่าสุดของ Balanced Scorecard ไว้ว่า “เป็นเครื่องมือทางด้านการจัดการที่ช่วยในการนำกลยุทธ์ ไปสู่การปฏิบัติ (Strategic Implementation) โดยอาศัย การวัดหรือประเมิน (Measurement) ที่จะช่วยทำให้องค์กรเกิดความสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และมุ่งเน้นในสิ่งที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร (Alignment and focused) ”  

  3. ความหมายของ Balanced Scorecard (BSC) • บัณฑูร ล่ำซำ ให้ความหมายไว้ว่า “Balance scorecard คือเครื่องมือการบริหารจัดการในเชิงสมดุล” • สุวัฒน์ศิรินิรันดร์ กล่าวว่า “Balance scorecard เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารจัดการในการแปลงวิสัยทัศน์ แผนกลยุทธ์ขององค์กรไปสู่การปฏิบัติ เป็นเครื่องมือในการปรับปรุง พัฒนากลไกภายในองค์กร

  4. สรุปความหมายของ Balanced Scorecard (BSC) • คือระบบหรือกระบวนการในการบริหารงานชนิดหนึ่งที่อาศัยการกำหนดตัวชี้วัด (Key Performance Indicators : KPI) เป็นกลไกลสำคัญ เพื่อเป็นตัวชี้วัดถึงเป้าหมายและใช้วัดผลการดำเนินงาน BSC เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการแปลงวิสัยทัศน์ แผนกลยุทธ์ขององค์กรไปสู่การปฏิบัติ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จ

  5. ความเป็นมา Balanced Scorecard (BSC) • แนวคิดแบบ Balanced Scorecard เกิดจาก Professor Robert Kaplan อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย Harvard และ Dr. David Norton ที่ปรึกษาทางด้านการจัดการ Robert David

  6. โดยทั้งสองได้ศึกษาและสำรวจถึงสาเหตุของการที่ตลาดหุ้นของอเมริกาประสบปัญหาในปี 1987 และพบว่าองค์กรส่วนใหญ่ในอเมริกานิยมใช้แต่ตัวชี้วัดด้านการเงินเป็นหลัก  ทั้งสองจึงได้เสนอแนวคิดในเรื่องของการประเมินผลองค์กร โดยพิจารณาตัวชี้วัดในสี่มุมมอง (Perspectives) แทนการพิจารณาเฉพาะ มุมมองด้านการเงินเพียงอย่างเดียว

  7. มุมมองทั้ง 4 ด้านของ Balanced Scorecard ด้านการเงิน (Financial Perspective) ลูกค้า/ผู้รับบริการ(Customer Perspective) Balanced Scorecard ด้านการเรียนรู้และการเจริญเติบโต (Learning and Growth Perspective) ด้านกระบวนการภายใน (Internal Process Perspective)

  8. มุมมองทุกด้านจะมีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์กรเป็นศูนย์กลางในแต่ละด้านประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ 1. วัตถุประสงค์ (Objective) คือสิ่งที่องค์กรมุ่งหวังหรือต้องการที่จะบรรลุในแต่ละด้าน 2. ตัวชี้วัด (Measures หรือ Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดของวัตถุประสงค์ในแต่ละด้าน และตัวชี้วัดเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดว่าองค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ในแต่ละด้านหรือไม่

  9. 3. เป้าหมาย (Target) คือ เป้าหมายหรือตัวเลขที่องค์กรต้องการจะบรรลุในตัวชี้วัดแต่ละประการ 4. แผนงาน โครงการ หรือ กิจกรรม (Initiatives) ที่องค์กรจะจัดทำเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดขึ้น โดยในขั้นนี้ยังไม่ใช่แผนปฏิบัติการที่จะทำ แต่เป็นเพียงแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม เบื้องต้นที่ต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ

  10. แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับBalanced Scorecard 1. Balanced Scorecard เป็นเครื่องมือทางด้านการจัดการที่ช่วยในการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ (Strategic Implementation) และเป็นเครื่องมือในการวัด และประเมินผลองค์กร โดยอาศัยการวัดหรือประเมิน (Measurement) ที่จะช่วยทำให้องค์กรเกิดความสอดคล้อง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และมุ่งเน้นในสิ่งที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร (Alignment and focused)

  11. 2. Balanced Scorecard ในฐานะเครื่องมือที่ช่วยในการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการนำกลยุทธ์ไปสู่ การปฏิบัติ ซึ่งในปัจจุบันพบว่าจุดอ่อนที่สำคัญของผู้บริหารส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่การวางแผน หรือการจัดทำกลยุทธ์ แต่อยู่ที่ความสามารถในการนำกลยุทธ์ที่ได้กำหนดขึ้นไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

  12. 3. Balanced Scorecard ในฐานะเครื่องมือในการประเมินผลองค์กร การประเมินผลองค์กรไม่สามารถใช้แต่ตัวชี้วัดทางการเงินได้เพียงอย่างเดียว ผู้บริหารต้องพิจารณามุมมองอื่น ๆ

  13. หลักการเกี่ยวกับ BSC หน้าที่ทางการบริหารของผู้บริหารองค์กรต้องประกอบด้วยหลักการ ดังนี้ 1. การวางแผน (Planning) 2. การจัดองค์กร (Organizing) 3. การจัดคนเข้าทำงาน (Staffing) 4. การสั่งการ (Directing) 5. การควบคุม (Controlling)

  14. การบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้ BSC มีกลยุทธ์หลักที่สำคัญ 5 ประการ 1. Mobilize ผู้นำสูงสุดขององค์กรจะต้องเป็นผู้นำในการจุดชนวนความคิด เคลื่อนพลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 2. Translate มีการถ่ายทอดแปลความหมาย ผ่านเครื่องมือสำคัญที่เรียกว่า แผนที่กลยุทธ์ เพื่อให้การบริหารจัดการในองค์กรมีการเชื่อมโยงกันได้

  15. 3. Alignment ทำให้หน่วยงานมีการผสมผสานกันเป็นหนึ่งเดียวหรือความรู้สึกความรักต่อองค์กร 4. Motivate มีแรงกระตุ้น ดลใจ ให้ทุกคนทำตามเป้าหมายขององค์กร

  16. 5. Govern ดูแลให้ทุกอย่างที่ทำมาแล้วมีการดำเนินอย่างต่อเนื่อง

  17. ขั้นตอนในการจัดทำ Balanced Scorecard 1. การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค (SwotAnalysis) ขององค์กรเพื่อให้ทราบถึงสถานะ พื้นฐานขององค์กร 2. การพัฒนาวิสัยทัศน์ (Vision) ขององค์กร ผู้บริหารจะมีวิสัยทัศน์แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้บริหาร

  18. 3. การกำหนดมุมมอง (Perspective) ด้านต่าง ๆ ที่จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการดำเนินกิจการมุมมองของแต่ละกิจการ จะแตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของการดำเนินกิจการ 4. การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy) และ วัตถุประสงค์ (Objective) ในมุมมองด้านต่าง ๆ โดยเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ขององค์กร

  19. 5. การจัดทำแผนกลยุทธ์เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ด้านต่าง ๆ ในลักษณะของเหตุและผล เพื่อสร้างเป็นแผนที่ทาง กลยุทธ์ (Strategy Map) 6. การกำหนดตัวชี้วัด (Key Performance Indicators : KPIs) และเป้าหมาย (Target) สำหรับแต่ละมุมมองพร้อมทั้งเรียงลำดับความสำคัญ 7. การจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan)

  20. แนวทางการนำ Balanced Scorecard มาใช้ให้เกิดผลสำเร็จ • ผู้บริหารระดับสูงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการนำ BSC มาใช้ให้เกิดผลสำเร็จ ผู้บริหารต้องมีความเข้าใจและมีทัศนคติทีดี • การบริหารการเปลี่ยนแปลง การนำ BSC มาใช้เกิดผลจะต้องนำแนวคิดในเรื่องการเปลี่ยนแปลงเข้ามาใช้ร่วมด้วย • การนำ BSC มาใช้ต้องเน้นที่ความเร็ว เรียบง่าย ต่อเนื่อง • การผูกผลของ BSC กับสิ่งที่จูงใจบุคลากร • BSC ถือเป็นเครื่องมือทางกลยุทธ์

  21. ประโยชน์ที่ได้จากการนำ Balanced Scorecard ไปใช้ 1.ช่วยให้ผลการดำเนินงานขององค์กรดีขึ้น 2.ทำให้ทั้งองค์กรมุ่งเน้น และ ให้ความสำคัญต่อกลยุทธ์ขององค์กร โดยต้องให้เจ้าหน้าที่ทั้งองค์กรให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ขององค์กรมากขึ้น และเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ

  22. 3.ช่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และวัฒนธรรมขององค์กรโดยอาศัยการกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายเป็นเครื่องมือในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ 4. ทำให้พนักงานเกิดการรับรู้และเข้าใจว่างานแต่ละอย่างมีที่มาที่ไปอีกทั้งผลของงาน

  23. BSC กับระบบราชการ ตัวแบบประยุกต์ของ BSC ที่ปรับใช้กับส่วนราชการไทย

  24. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แบ่งมุมมอง (Perspective) ด้านการจัดการศึกษา ออกเป็น 4 มุมมอง คือ 1. มุมมองด้านนักเรียน ( Student ) โดยเน้นที่โอกาสการได้รับบริการการศึกษาจบหลักสูตร คุณภาพตามหลักสูตร การเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ 2. มุมมองด้านกระบวนการภายใน ( Internal Process ) โดยเน้นด้านรูปแบบการจัดการศึกษา เครือข่ายที่เข้าร่วม การพัฒนาหลักสูตร การเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้

  25. 3. มุมมองด้านการเรียนรู้และเจริญเติบโต ( Learning and Growth ) โดยเน้นความสามารถของบุคลากรตามมาตรฐานวิชาชีพ ระบบ ICT เพื่อการบริหาร วัฒนธรรม ค่านิยม 4. มุมมองด้านงบประมาณและทรัพยากร ( Budget and Resource ) โดยเน้นด้านความเพียงพอของทรัพยากรและเหมาะสม การบริหารทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ

  26. การใช้แนวคิด BSC ในการประเมินองค์กรสถานศึกษา • มุมมองด้านนักเรียน (Student) โดยเน้นที่โอกาสการได้รับการบริการการศึกษาจบหลักสูตร • มุมมองด้านกระบวนการภายใน (Internal Process) โดยเน้นด้านรูปแบบการจัดการศึกษา • มุมมองด้านการเรียนรู้และเจริญเติบโต (Learning and Growth) โดยเน้นความสามารถของบุคลากรตามมาตรฐานวิชาชีพ • มุมมองด้านงบประมาณและทรัพยากร (Budget and Resource) โดยเน้นด้านความพอเพียงของทรัพยากรและเหมาะสม

  27. จบการนำเสนอ

More Related