1.25k likes | 1.83k Views
โรคยางพารา. จัดทำโดย ผศ. อดิศักดิ์ บ้วนกียาพันธุ์. โรคพืชที่เกิดจากสภาวะ แวดล้อม. อาการเปลือกแห้ง Tapping panel dryness. ลักษณะอาการ หลังจากกรีดยางแล้วน้ำยางแห้งเป็นจุด อยู่ตามรอยกรีดยาง น้ำยางจางลง เปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน แยกจากกันเป็นชั้นๆ. ลักษณะอาการ(ต่อ)
E N D
โรคยางพารา จัดทำโดย ผศ. อดิศักดิ์ บ้วนกียาพันธุ์
โรคพืชที่เกิดจากสภาวะโรคพืชที่เกิดจากสภาวะ แวดล้อม
อาการเปลือกแห้งTapping panel dryness ลักษณะอาการ • หลังจากกรีดยางแล้วน้ำยางแห้งเป็นจุด อยู่ตามรอยกรีดยาง • น้ำยางจางลง • เปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน แยกจากกันเป็นชั้นๆ
ลักษณะอาการ(ต่อ) • ถ้ายังกรีดยางต่อเปลือกยางจะแห้งสนิทเปลือกใต้รอยกรีดแตก ขยายบริเวณจนถึงพื้นดินและหลุดออก
สาเหตุ • ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน • มีรายงานว่าเป็นความผิดปกติทางสรีรวิทยาของต้นยาง เช่น - การใช้ระบบกรีดหักโหม - การใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง - ความผิดปกติของพันธุ์ยาง และสภาพแวดล้อม
การป้องกันกำจัด • ถ้าเริ่มแสดงอาการเปลือกแห้งให้หยุดกรีดทันที อย่างน้อย 6-12 เดือน หรือจนกว่าน้ำยางจะไหลเป็นปกติ • ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นยาง • ใช้ระบบกรีดให้เหมาะสมกับพันธุ์ยางและไม่กรีดหักโหมติดต่อกันเป็นเวลานาน • ไม่ควรใช้สารเคมีเร่งน้ำยางสำหรับสวนที่พบต้นยางเริ่มแสดงอาการเปลือกแห้ง
อาการตายจากยอดDie back ลักษณะอาการ • ใบอ่อนเริ่มเหี่ยวและแห้งจากปลายกิ่งหรือปลายยอด ลุกลามเข้ามาหาส่วนโคนทีละน้อย • กรณีอาการเป็นอย่างช้าๆ กิ่งและลำต้นที่ยังไม่ตายจะแตกแขนงใหม่เพื่อเจริญต่อไป
ลักษณะอาการ(ต่อ) • ถ้าอาการแห้งตายเป็นไปอย่างรวดเร็ว จะแห้งตายตลอดต้นในระยะเวลาอ้นสั้น • เปลือกล่อนออกจากเนื้อไม้ มองเห็นเชื้อราสีดำหรือขาวเกิดขึ้นบริเวณด้านในของเปลือก
สาเหตุ • อากาศแห้งแล้งจัดเป็นเวลานานติดต่อกัน ทำให้ดินบริเวณรอบๆ รากขาดน้ำ หรือในดินทรายจัดซึ่งมีลักษณะไม่อุ้มน้ำ • การมีแผ่นหินดาน หรือโครงสร้างคล้ายดินดาน อยู่ใต้พื้นดินระดับสูงกว่า 1 เมตร ขึ้นมา • เชื้อสาเหตุโรคบางชนิดเข้าทำลาย เช่น โรคใบจุดนูน โรคราแป้ง โรคใบจุดก้างปลา • สารเคมีตกค้างในดิน เช่น สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช • การใส่ปุ๋ยมากเกินไป
การป้องกันกำจัด • ตัดกิ่งหรือยอดส่วนที่แห้งออก โดยตัดให้ต่ำลงมา 1-2 นิ้วแล้วใช้สารเคมีป้องกันกำเชื้อราทาบริเวณรอยแผล • บำรุงรักษาต้นยางให้สมบูรณ์อยู่เสมอ • แก้ไขสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ความแห้งแล้งให้รดน้ำตามความจำเป็น หรือใช้วัสดุคลุมดินรอบโคนต้น • ถ้าเกิดโรคระบาด ให้ทำการรักษาตามคำแนะนำ • การใช้ปุ๋ยและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
อาการที่เกิดจากฟ้าผ่าLightning strike ลักษณะอาการ • พบทุกระยะการเจริญเติบโต ต้นที่ถูกทำลายจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม อาจเป็น 5-6 ต้น อาการจะปรากฏทันที • ใบที่มีสีเขียวร่วงหล่นเหลือแต่ ก้านใบติดอยู่
ลักษณะอาการ(ต่อ) • ลำต้นอาจปริ เปลือกแตก น้ำยางไหล • เมื่อเฉือนเปลือกออก พบว่าเนื้อเยื่อ ส่วนที่เป็นท่อน้ำท่ออาหารเป็นสีน้ำตาล • ต่อมาจะเป็นสีม่วงอย่างรวดเร็ว และ กลายเป็นสีดำในที่สุด • ลำต้นของต้นยางที่ถูกฟ้าผ่า อาจพบแผล เน่าเป็นแผ่น ๆ ซึ่งทำให้เข้าวใจว่าเกิดจาก เชื้อรา ท่อน้ำท่ออาหารเป็นสีน้ำตาล
ลักษณะอาการ(ต่อ) • แผลเน่าจะเกิดทุกแห่งบนลำต้น ขนาดแผล 2-3 ตารางนิ้ว • มีของเหลวสีม่วงไหลออกมา • ถ้าตัดแผลเน่าออกดูจะเห็นชั้นใต้เปลือกแทนที่จะเป็นสีครีมกลับเป็นสีคล้ายเหล้าองุ่น ซึ่งจะมีสีม่วงแดงภายใน 2-3 วัน • บริเวณโคนต้นส่วนที่ติดกับพื้นดินจะยังสดอยู่ บริเวณโคนต้นยังสดอยู่
การป้องกันกำจัด • ต้นที่ตายควรขุดออก • ต้นที่ถูกทำลายเพียงบางส่วน ควรตัดส่วนที่แห้งออก แล้วทาบาดแผลด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา
อาการที่เกิดจากการขาดอาการที่เกิดจากการขาด ธาตุอาหาร
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุไนโตรเจน(N)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุไนโตรเจน(N) • ในต้นยางอ่อนที่ยังไม่แตกกิ่งก้าน ใบแก่หรือใบล่างมีสีซีด โดยทั่วไปมีสีสม่ำเสมอทั้งใบ
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุฟอสฟอรัส(P)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุฟอสฟอรัส(P) • อาการบนใบที่อยู่กลางลำต้นจนถึงปลายยอด ผิวใบด้านบน • มีสีเหลืองอมน้ำตาล ผิวใบด้านล่างมีสีเหลืองแดง
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุโปแตสเซียม(K)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุโปแตสเซียม(K) • เนื้อเยื่อของใบแก่หรือใบล่าง มีสีเหลือง และพบอาการไหม้ ที่ปลายใบ • ในต้นยางที่สร้างทรงพุ่มแล้ว ใบจะมีอาการเหลืองซีด แต่สีไม่ สม่ำเสมอ • อาการเหลืองผิดปกติ ไม่สามาแยกขอบเขตของเนื้อเยื่อระหว่างสีเหลือง • ซีดและเขียวได้ชัดเจน มักแสดงอาการมากๆ รอบขอบใบ
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุแมกนีเซียม(Mg)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุแมกนีเซียม(Mg) • อาการที่ใบแก่หรือใบล่าง มีสีเหลืองซีดแต่ไม่สม่ำเสมอ เนื้อเยื่อ • ระหว่างเส้นใบมีสีเหลืองไปจนถึงขอบใบ • อาการบนใบที่ได้รับแสงเต็มที่ ปกติพบที่ยอดใบมีอาการเหลืองซีด • แต่ไม่สม่ำเสมอ เนื้อเยื่อระหว่างเส้นใบมีสีเหลือง จนถึงขอบใบ
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุแคลเซียม(Ca)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุแคลเซียม(Ca) • อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตกใหม่ ในใบมีรูปร่างปกติปลายใบและขอบใบไหม้ สีน้ำตาลซีดโดยไม่มีอาการเหลืองซีดมาก่อน • ต้นยางแก่ที่สร้างทรงพุ่มแล้ว บนใบที่อยู่ในร่มเงาของทรงพุ่ม มีอาการไหม้แห้ง สีน้ำตาลซีด
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุกำมะถัน(S)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุกำมะถัน(S) • อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตกใหม่ ในใบรูปร่างปกติ เริ่มแรกใบมีอาการเหลืองซีดต่อมาเกิดอาการไหม้แห้งที่ปลายใบ
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก(Fe)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก(Fe) • อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตกใหม่ ในใบที่มีรูปร่างปกติ ใบจะมีขนาดเล็กมาก ไม่มีอาการไหม้ สีเขียวซีดถึงเหลืองอมเขียว • ในต้นยางแก่ที่สร้างทรงพุ่มแล้ว บนใบที่ได้รับแสงเต็มที่ ปกติพบที่ยอด ใบมีอาการเหลืองซีด สีเสมอกัน ใบมีสีเหลืองซีดหรือเหลืองอมเขียว
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุแมงกานีส (Mn) • อาการบนใบแก่ หรือใบล่าง ใบมีสีเหลืองซีด แต่สีไม่สม่ำเสมอทั้งใบ เนื้อเยื่อระหว่างเส้นใบมีสีเหลืองไปจนถึงขอบใบ • อาการที่ใบกลางลำต้นจนถึงปลายยอดใบเหลืองซีด หรือสีเขียวอ่อน ส่วนบริเวณเส้นกลางใบและเส้นใบมีสีเขียวเข้ม • อาการบนใบที่อยู่ในร่มเงาของทรงพุ่ม ไม่มีอาการไหม้แห้ง ใบมีสีเขียวซีด เส้นกลางและเส้นใบยังมีสีเขียวเข้ม
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุโบรอน(B)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุโบรอน(B) • อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตกใหม่ ในใบผิดรูปผิดร่าง ใบมีขนาดเล็กลงเล็กน้อย มีสีเขียวเข้ม รูปร่างผิดปกติ
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุทองแดง(Cu)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุทองแดง(Cu) • อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตกใหม่ ในใบที่มีรูปร่างปกติ ใบเล็ก ปลายใบไหม้ มีการแตกตาข้างจำนวนมาก
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุสังกะสี(Zn)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุสังกะสี(Zn) • อาการบนฉัตรยอด หรือยอดที่แตกใหม่ ในใบผิดรูปผิดร่าง ใบจะเล็ก มีลักษณะเรียวยาว ขอบใบเป็นคลื่น
อาการที่เกิดจากการขาดธาตุโมลิบดินัม(Mo)อาการที่เกิดจากการขาดธาตุโมลิบดินัม(Mo) • อาการบนใบแก่ หรือใบล่าง ใบมีสีเขียวปกติ แต่มีอาการขอบใบไหม้ขยายวงกว้าง
การป้องกันและแก้ไข • ก่อนปลูกยางพารา ควรทำการวิเคราะห์ดินว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากสภาพของดินอยู่ในสภาวะที่ยากต่อการแก้ไขควรหลีกเลี่ยงการปลูกยางในพื้นที่นั้น ในกรณีที่สามารถปรับปรุงสภาพดินได้ ควรกระทำก่อนเริ่มลงมือปลูกยาง • การปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่ว จะช่วยลดอาการขาดธาตุไนโตรเจนได้ และการปลูกพืชแซมบางชนิดจะมีผลทำให้ต้นยางขาดธาตุอาหารได้ จึงควรพิจารณาชนิดของพืชแซมก่อนปลูกพืชอาจจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมกับพืชแซมเพื่อไม่ให้เกิดการแก่งแย่งธาตุอาหารในดิน
การป้องกันและแก้ไข(ต่อ)การป้องกันและแก้ไข(ต่อ) • รักษาความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม เพื่อความสมดุลย์ของธาตุอาหารต่างๆ ในดิน • การใส่ธาตุอาหารบางตัวมากเกินไป อาจชักนำให้เกิดอาการของธาตุอาหารอีกชนิดหนึ่ง เช่น การใส่โปแตสเซียมมากเกินไปอาจชักนำให้เกิดการขาดแมกนีเซียม • หากพบความผิดปกติหลังจากปลูกยางพารา ควรทำการตรวจวิเคราะห์ดินและปริมาณธาตุอาหารจากใบยาง เพราะในบางกรณีอาจจำเป็นต้องเพิ่มธาตุอาหารตัวใดตัวหนึ่งให้กับต้นยาง
โรคราแป้งPowdery mildew ลักษณะอาการ • ปลายใบยางพาราอ่อนบิดงอ เน่า มีสีดำจากปลาย แล้วร่วงหล่นจากต้น รอยแผลสีน้ำตาลที่มีขนาด รูปร่างไม่แน่นอนบนใบแก่ ลักษณะแผลเป็นรอยสีเหลืองซีดบนใบเพสลาด
ลักษณะอาการ(ต่อ) • เชื้อราทำให้ดอกร่วง เป็นปัญหาสำหรับการผสมพันธุ์ • ถ้าเชื้อเข้าทำลายใบที่แข็งแรงจะเห็นกลุ่มสปอร์และเส้นใยที่มีมีขาวเทา กลุ่มของเส้นใยและสปอร์ของเชื้อราสีขาวเทาบนด้านล่างของแผ่นใบ
ลักษณะอาการ(ต่อ) • จุดรอยแผลมีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีขอบเขตไม่แน่นอน • ถ้าใบเจริญต่อไปแผลที่เชื้อเข้าทำลายจะเป็นรอยสีเหลืองซีดและเปลี่ยนเป็นรอยไหม้สีน้ำตาลที่มีรูปร่างไม่แน่นอน
สาเหตุ เกิดจากเชื้อรา Oidium heveae Steinm.
การแพร่ระบาด • ระบาดในช่วงยางผลิใบใหม่ • มักแพร่ระบาดในสภาพอากาศกลางวันค่อนข้างร้อน • กลางคืนอากาศเย็น มีหมอกในตอนเช้า มีความชื้นสูง • มีฝนตกปรอยๆ ในบางวัน • เชื้อแพร่ระบาดโดยลมและแมลง พืชอาศัย หญ้ายาง เงาะ
การป้องกันกำจัด • ใช้วิธีการเขตกรรม เช่นการใส่ปุ๋ยในอัตราที่สูงกว่าปกติก่อนสิ้นฤดูกาลผลัดใบ เพื่อให้ต้นยางสมบูรณ์ยิ่งขึ้นในขณะที่เริ่มผลิใบ • ใช้สารกำจัดเชื้อรา เบโนมิล (benomyl), คาร์เบนดาซิม(carbendazim), ซัลเฟอร์(sulfur), ไตรดีมาร์ฟ*(tridemorph), กำมะถันผง *ห้ามใช้ในอัตราสูงกว่าคำแนะนำเพราะจะทำให้ใบยางไหม้
โรคใบจุดนูนColletotrichum leaf spot ลักษณะอาการ • ปลายใบยางอ่อนที่เชื้อเข้าทำลาย บิดงอ เหี่ยวเน่าดำ หลุดร่วง • ระยะใบเพสลาด ใบบางส่วนบิดงอ • พบจุดแผลสีน้ำตาล • ขอบแผลสีเหลือง ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร
ลักษณะอาการ(ต่อ) • เมื่อใบยางมีอายุมากขึ้น จุดเหล่านี้จะนูน • เนื้อเยื่อตรงกลางแผลอาจทะลุเป็นรู • ถ้าระบาดรุนแรงอาจพบแผลบนกิ่งอ่อนหรือยอดอ่อนทำให้เกิดอาการตายจากยอดได้
ลักษณะอาการ(ต่อ) แผลบนใบมีสีน้ำตาล ขอบแผลสีเหลือง ในใบแก่จุดแผล มีลักษณะนูนขึ้น
ลักษณะอาการ(ต่อ) ใบอ่อนที่เป็นโรคมีลักษณะเน่าดำ และร่วง เหลือแต่ก้านใบ แผลบนกิ่งอ่อนรูปร่างยาวรี
สาเหตุ เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides (Penz.) Sacc.
การแพร่ระบาด • ระบาดรุนแรงกับยางที่แตกใบอ่อน • ในช่วงที่มีฝนตกชุก • ความชื้นสูง • เชื้อแพร่ระบาดโดยน้ำฝน ลม และแมลง พืชอาศัยอาโวกาโด โกโก้ กาแฟ ชา ส้ม กล้วย มะละกอ
การป้องกันกำจัด • ต้นยางที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ใช้สารเคมีพ่นบนใบยางเมื่อเริ่มพบการระบาด เช่น ไซเนบ(zineb), คลอโรธาโลนิล(chlorothalonil), เบโนมิล(benomyl), โพรพิเนบ(propineb)
โรคใบจุดก้างปลาCorynespora leaf disease ลักษณะอาการ • เป็นจุดแผลขนาดใหญ่ที่ใบ ถ้าเป็นขณะที่ใบยังอ่อน ปลายใบจะไหม้เนื่องจากมีแผลลุกลามติดต่อกัน • เริ่มแรกเป็นแผลที่เนื้อเยื่อใบและลุกลามออกไปตามเส้นใบ • เห็นใบช้ำเป็นลายสีน้ำตาลหรือดำ ลักษณะคล้ายลานก้างปลา
ลักษณะอาการ (ต่อ) • เมื่อแผลแห้งจะทำให้ใบร่วง • ในพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรค ใบจะร่วงและพบกิ่งตายจากยอด • กรณีเกิดโรครุนแรง ต้นยางที่อ่อนแอจะยืนต้นตายเป็นจำนวนมาก
สาเหตุ เชื้อราCorynespora cassicola (Burk. &Curt.) Wei.
การแพร่ระบาด • เชื้อระบาดโดยลม ฝน • โรคระบาดในสภาพอากาศร้อน ความชื้นสูง พืชอาศัย • มีมากกว่า 80 ชนิด เช่น งา ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ฝ้าย ป่านรามี ยาสูบ มะละกอ แตงโม มะเขือเทศ ผักกาดหอม สะระแหน่ ฟักเขียว หญ้ายาง พืชคลุมตระกูลถั่ว เป็นต้น